Content

ททท. จับมือ บางกอกแอร์เวย์ส ดึงนักท่องเที่ยวเดินทางระยะใกล้บินเที่ยวไทยช่วงกรีนซีซั่น

นายกฤษฎา รัตนพฤกษ์ ผู้อำนวยการภูมิภาคอาเซียน เอเชียใต้และแปซิฟิกใต้ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) และนายคมกริช งามวงศ์วิโรจน์ ผู้อำนวยการส่วนขาย - ยุโรป แอฟริกา เอเชียตะวันออกเฉียงใต้และออนไลน์ สายการบินบางกอกแอร์เวย์ส ร่วมกันแถลงข่าวโครงการ Fly me to Thailand ดึงนักท่องเที่ยวกลุ่มประเทศ CLMV มาเลเซีย สิงคโปร์และอินเดีย เข้าประเทศไทยหวังกระตุ้นรายได้ช่วงกรีนซีซั่น ซึ่งตรงกับช่วงปิดเทอมของนักท่องเที่ยวในกลุ่มประเทศอาเซียน และเพื่อเป็นการต้อนรับฤดูกาลท่องเที่ยวในช่วงปลายปี ณ ห้องสมุด อาคาร ททท. นายกฤษฎา รัตนพฤกษ์ ผู้อำนวยการภูมิภาคอาเซียน เอเชียใต้ และแปซิฟิกใต้ ททท. กล่าวว่า ททท. ได้ร่วมกับสายการบินบางกอกแอร์เวย์ส ดำเนินโครงการ Fly me to Thailand มุ่งเป้าหมายนักท่องเที่ยวกลุ่มประเทศ CLMV (กัมพูชา ลาว เมียนมา และเวียดนาม) ประเทศมาเลเซีย

Read More

จับตาอนาคตเศรษฐกิจไทย แข่งขันดุเดือด-โอกาสลดลง?

การเดินทางเข้าสู่ไตรมาสสุดท้ายของปี 2562 ด้วยสถานการณ์ที่เรียกได้ว่าหืดจับ เมื่อเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของไทยต้องแขวนและฝากความหวังไว้กับความเป็นไปของเศรษฐกิจโลก และประเทศคู่ค้า รวมไปถึงต้องพึ่งพาอาศัยนักลงทุนจากต่างชาติ ที่จะช่วยให้ฟันเฟืองในระบบหมุนไปได้ตามครรลองที่พึงจะเป็น ตลอดระยะเวลาที่ไทยถูกนำพาและบริหารประเทศด้วยรัฐบาลทหาร กระทั่งการเลือกตั้งเกิดขึ้น เราไม่อาจหลีกหนีข้อเท็จจริงที่ว่า การเข้ามาบริหารประเทศของรัฐบาลทหารในช่วงที่การเมืองกำลังระอุนั้น นำมาซึ่งความสงบเรียบร้อย ทว่า อีกความจริงที่ไม่อาจหลีกหนีได้เช่นกัน คือความง่อนแง่นของเสถียรภาพทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง กระนั้นหากจะโยนความผิดไปที่การบริหารประเทศของรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เพียงอย่างเดียวดูจะไม่ยุติธรรมนัก เมื่อความเป็นจริงคือ เศรษฐกิจของประเทศไทยจะขับเคลื่อนไปข้างหน้าได้ จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องพึ่งพาอาศัยแรงขับจากปัจจัยภายนอกเป็นส่วนใหญ่ ทั้งด้านการท่องเที่ยว ที่ต้องอาศัยตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติ ภาคการส่งออกที่ปัจจุบันได้รับผลกระทบจากสงครามการค้าที่ยังยืดเยื้อ แม้จะไม่ร้อนแรงดุเดือดเท่าในระยะแรก แต่ก็สร้างบาดแผลลึกให้กับอุตสาหกรรมการส่งออกของไทยไม่น้อย หรือด้านการลงทุน ที่นักลงทุนส่วนใหญ่เฝ้ารอสัญญาณความมั่นคงของรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง รวมไปถึงนโยบายสำคัญที่จะมีส่วนในการตัดสินใจ ที่จะเลือกและย้ายฐานการผลิตมายังประเทศไทย คล้ายกับว่าในห้วงยามนี้ ไทยยังต้องเผชิญคลื่นลมพายุที่ถาโถมเข้ามาอย่างต่อเนื่อง เพราะนอกจากต้องแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นภายในประเทศ ที่พร้อมใจกันดาหน้าเข้ามาอย่างไม่หยุดหย่อนแล้ว ยังต้องระดมสรรพกำลังเพื่อหาทางออกบนเวทีโลก เมื่อมีการแข่งขันนัดสำคัญรออยู่ ประเด็นที่น่าขบคิดในเวลานี้คือ ทิศทางและอนาคตของอุตสาหกรรมไทยจะดำเนินไปอย่างไร เมื่อไทยเริ่มมีคู่แข่งที่หลายคนให้คำจำกัดความว่า “โตเงียบ” อย่างประเทศเวียดนาม ข่าวคราวจากหลากหลายช่องทางให้ข้อมูลไปในทิศทางเดียวกันว่า เวลานี้ เวียดนามกำลังเนื้อหอม และเป็นที่หมายตาของนักลงทุน ทั้งนักลงทุนหน้าใหม่รวมไปถึงนักลงทุนที่ต้องการย้ายฐานการผลิตออกจากประเทศคู่ค้าสงคราม เพื่อหลีกหนีผลกระทบจากการปรับขึ้นภาษีของทั้งจีนและสหรัฐฯ เหตุผลหลักๆ ที่เวียดนามสามารถก้าวขึ้นมายืนบนเวทีโลกและพร้อมจะแข่งขันกับประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคอาเซียน ในฐานะประเทศอุตสาหกรรมเกิดใหม่ คือเรื่องอัตราค่าแรงขั้นต่ำ ปัจจุบันอัตราค่าแรงขั้นต่ำในประเทศเวียดนามคือ 160,000 ดอง ถึง 230,000 ดอง

Read More

ลดน้ำหนักไม่ได้ผล เพราะความเข้าใจที่ผิดๆ

ความคิดที่ว่า “กินไปก่อน ค่อยไปออกก็ได้” “เล่นหนักๆ เข้าไว้ น้ำหนักจะได้ลงเร็ว” หรือ “เหงื่อออกเยอะ ไขมันยิ่งลด” เป็นความเข้าใจผิดอย่างยิ่งยวด ที่ทำให้การออกกำลังไม่ประสบความสำเร็จ น่าแปลกที่ความคิดเหล่านี้ยังคงมีอยู่ ทั้งที่โลกปัจจุบันความรู้เกี่ยวกับการออกกำลังกายที่ได้ผลสามารถหาอ่านได้เพียงแค่ปลายนิ้ว แต่หลายคนกลับปักใจเชื่อความคิดเดิมๆ ทว่า ความเข้าใจเหล่านี้หากเกิดขึ้นกับใครก็ตาม คงไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจแต่อย่างใด หากบุคคลคนนั้นออกกำลังกายแทบตาย แต่น้ำหนักไม่ลดลงเสียที มิหนำซ้ำอาจทำให้น้ำหนักเพิ่มขึ้นโดยไม่รู้ตัว โภชนาการสำคัญกว่าการออกกำลังกาย การออกกำลังกายที่มีประสิทธิภาพนั้น แท้จริงแล้ว ความสำคัญของโภชนาการมีความสำคัญถึง 70 เปอร์เซ็นต์ และอีก 30 เปอร์เซ็นต์ คือการออกกำลังกายที่ถูกต้อง ผู้เขียนออกกำลังกายอย่างจริงจังมาหลายปี และมักเจอกับคำถามเช่นว่า กินน้อยๆ ได้ไหม น้ำหนักจะได้ลด หรือซิตอัปอย่างเดียวได้ไหม หน้าท้องจะได้ยุบ หรือแม้แต่วิ่งอย่างเดียวได้ไหม น้ำหนักจะได้ลงเร็วๆ คำตอบที่ให้ไปคือ คุณสามารถทำได้ทั้งหมดทุกข้อ เพื่อให้น้ำหนักลด คำถามเหล่านั้นไม่ผิดแม้แต่น้อย เพราะทุกการกระทำล้วนให้ผลตามที่ต้องการ คือ “น้ำหนักลด หน้าท้องยุบ” ทว่า ประสิทธิภาพที่ได้นั้นจะดีพอให้น้ำหนักลดต่อเนื่องหรือไม่ คำตอบคือ “ไม่” ทำไมโภชนาการถึงมีความสำคัญกับการออกกำลังกายมากถึง 70 เปอร์เซ็นต์ หากเข้าใจคำนิยามนี้ “You are

Read More

สุนทรพจน์ Greta Thunberg บนภาพตัดวิสัยทัศน์เหล่าผู้นำ

ข่าวการประชุม UN Climate Action Summit 2019 ซึ่งจัดขึ้นโดยสหประชาชาติในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา อาจไม่ได้รับการกล่าวถึงมากนัก หากไม่ปรากฏภาพและสุนทรพจน์ของนักเคลื่อนไหวด้านสิ่งแวดล้อมสาววัย 16 ปีนาม Greta Thunberg จากสวีเดน ที่สั่นคลอนท่าทีของเหล่าผู้นำโลก และปลุกเร้าความสนใจของผู้คนต่อการแก้ปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศให้จริงจังมากขึ้น ข้อเท็จจริงที่น่าสนใจก่อนการกล่าวสุนทรพจน์ของ Greta Thunberg เมื่อวันที่ 23 กันยายนที่ผ่านมา ในด้านหนึ่งอยู่ที่การปลุกเร้าให้เยาวชนทั่วโลกตระหนักถึงภัยร้ายจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของโลกและการมีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนกระแสสำนึกให้เกิดผลจริงในทางปฏิบัติ ผ่านการเคลื่อนไหวภายใต้ชื่อ School strike for Climate ซึ่งประกาศให้มีการชุมนุมโดยสงบเมื่อวันที่ 20 กันยายนในฐานะที่เป็น International Global Climate Strikes หรือก่อนหน้าการประชุม UN Climate Action Summit เพียง 3 วัน ควบคู่กับการปลุกสำนึก Earth Strike ที่จัดให้มีขึ้นตลอดช่วงสัปดาห์ระหว่างวันที่ 20-27 กันยายน 2019 หรือที่เรียกขานกันในนาม

Read More

โออาร์ เปิดคาเฟ่ อเมซอน สาขาแรกในจีน เป็นประเทศที่ 10 ตั้งเป้าแบรนด์ไทยชั้นนำระดับโลก

นายชัยรัตน์ พรทิพย์วรเวทย์ กงสุลใหญ่ ณ นครหนานหนิง พร้อมด้วยนางสาวจิราพร ขาวสวัสดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ โออาร์ นายอิสระ ว่องกุศลกิจ ประธานกรรมการกลุ่มมิตรผล และนายหลี่ จี้ ฉง (Li Jicong) กรรมการผู้จัดการบริษัท ซิโนเปค เซลส์ สาขา กว่างซี (Sinopec Sales Guangxi Branch Company) ร่วมพิธีเปิดร้าน คาเฟ่ อเมซอน สาขาจู๋ซี (Zhuxi) ซึ่งเป็นสาขาแรกของประเทศจีน ในสถานีบริการน้ำมัน ซิโนเปค เมืองหนานหนิง (Nanning) มณฑลกว่างซี (Guangxi) นางสาวจิราพร กล่าวว่า โออาร์ ในฐานะบริษัทเรือธง (Flagship) ของกลุ่ม

Read More

เศรษฐกิจไทยปลายปี 62 ดำดิ่งสู่จุดต่ำสุดใหม่?

ความเป็นไปของภาวะเศรษฐกิจไทยในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2562 ยังคงดำเนินไปอย่างไร้สัญญาณบวกที่จะส่งผลให้เกิดการกลับตัวทะยานขึ้น หลังจากที่ต้องตกอยู่ในภาวะถดถอยและทรุดตัวต่ำลงอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ดัชนีชี้วัดทางเศรษฐกิจเกือบทุกชนิดที่ใช้อ้างอิงก็บ่งชี้ไปในทิศทางที่ไม่ได้เอื้ออำนวยให้เกิดความมั่นใจในการเผชิญหน้ากับอนาคตที่กำลังจะคืบคลานเข้ามา ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในช่วงที่ผ่านมา ได้ปรับตัวลดลงอย่างหนัก โดยในเดือนสิงหาคม 2562 พบว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคทุกรายการปรับตัวลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 6 แม้ว่ารัฐบาลจะพยายามเร่งเร้ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจภายใต้มูลค่าของงบประมาณกว่า 3.16 แสนล้านบาท เหตุที่เป็นดังนั้นก็เนื่องเพราะผู้บริโภคยังมีความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจไทยที่ยังฟื้นตัวช้าและกำลังซื้อของประชาชนยังไม่ฟื้นตัวขึ้นมากนัก ขณะเดียวกัน ผู้บริโภคยังมีความกังวลเกี่ยวกับเสถียรภาพทางการเมืองทั้งในปัจจุบันและในอนาคต ประกอบกับสถานการณ์ความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลกเนื่องจากข้อพิพาททางการค้าระหว่างสหรัฐอเมริกาและจีนที่มีความรุนแรงมากขึ้น ประเด็นที่น่าสนใจจากตัวเลขดัชนีความเชื่อมั่นที่สะท้อนออกมาครั้งล่าสุดอยู่ที่ดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับเศรษฐกิจโดยรวมซึ่งอยู่ในระดับ 60.9 ดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับโอกาสหางานทำโดยรวมที่ระดับ 69.7 และดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับรายได้ในอนาคตอยู่ที่ระดับ 90.4 ซึ่งถือเป็นการปรับตัวลดลงในทุกรายการ เมื่อเทียบกับดัชนีในเดือนกรกฎาคม ที่อยู่ในระดับ 62.2 70.9 และ 91.9 ตามลำดับ โดยดัชนีความเชื่อมั่นที่ยังอยู่ในระดับต่ำกว่าปกติ (ที่ระดับ 100) แสดงให้เห็นว่าผู้บริโภคยังไม่มีความมั่นใจเกี่ยวกับสถานการณ์ทางเศรษฐกิจ โอกาสในการหางานทำ และรายได้ในอนาคตมากนัก การปรับตัวลดลงของดัชนีในทุกรายการอย่างต่อเนื่องนี้ ส่งผลให้ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภค (Consumer Confidence Index: CCI) ปรับตัวลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 6 และอยู่ในระดับต่ำสุดในรอบ 33เดือน นับตั้งแต่เดือนธันวาคม 2559 เป็นต้นมา จากระดับ 75.0

Read More

แกร็บเปิดตัวโครงการ “Break The Silence – เพราะมันอยู่ที่ใจไม่ใช่เสียง” สร้างโอกาสให้กับผู้มีอุปสรรคทางการได้ยิน

แกร็บเปิดตัวโครงการ “Break The Silence – เพราะมันอยู่ที่ใจไม่ใช่เสียง” เพื่อส่งเสริมการสร้างโอกาสให้กับผู้มีอุปสรรคทางการได้ยิน เนื่องในโอกาสสัปดาห์หูหนวกโลกประจำปี 2562 แกร็บ ผู้นำซูเปอร์แอปแห่งภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ประกาศเปิดตัวโครงการ “Break The Silence – เพราะมันอยู่ที่ใจไม่ใช่เสียง” อย่างเป็นทางการในประเทศไทย เนื่องในโอกาสสัปดาห์หูหนวกโลกประจำปี พ.ศ. 2562 ระหว่างวันที่ 23 – 29 กันยายนนี้ เพื่อมุ่งให้การส่งเสริมและสนับสนุนคนหูหนวกและผู้ที่มีอุปสรรคทางการได้ยินให้สามารถเข้าถึงโอกาสในการสร้างรายได้ผ่านแพลตฟอร์มของแกร็บ ทั้งนี้ โครงการดังกล่าวตอกย้ำความเชื่อมั่นของแกร็บที่ว่า คนทุกกลุ่มสมควรได้รับโอกาสที่เท่าเทียมกันในการสร้างรายได้และอิสรภาพทางการเงินผ่านการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี แกร็บได้เปิดตัวโครงการ “Break The Silence” ครั้งแรกในประเทศมาเลเซียในปี 2561 และได้ขยายโครงการดังกล่าวไปยังประเทศต่างๆ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งรวมถึงประเทศไทย อินโดนีเซียและสิงคโปร์ ปัจจุบัน มีพาร์ทเนอร์ผู้ขับขี่ซึ่งเป็นคนหูหนวกจำนวนมากกว่า 600 คนที่สามารถสร้างรายได้ผ่านแพลตฟอร์มของแกร็บใน 4 ประเทศ โดยแกร็บมีแผนที่จะเพิ่มจำนวนพาร์ทเนอร์ผู้ขับขี่ในกลุ่มดังกล่าวเป็น 2 เท่าภายในปีหน้า นายธรินทร์ ธนียวัน กรรมการผู้จัดการใหญ่ แกร็บ

Read More

เหยื่อคนที่ 100 สร้างความตื่นตัวให้กับรัฐบาลฝรั่งเศส ในการแก้ไขปัญหาความรุนแรงในครอบครัว

Column: Women in wonderland ปัญหาความรุนแรงในครอบครัว เป็นปัญหาที่ไม่มีรัฐบาลไหนประสบความสำเร็จในการแก้ไข ทุกวันนี้มีผู้หญิงจำนวนมากที่ถูกทำร้ายทั้งร่างกายและจิตใจจากสามี อดีตสามี หรือสมาชิกในครอบครัว ความรุนแรงในครอบครัวไม่เหมือนปัญหาอื่นๆ เพราะสามารถเกิดขึ้นได้ในทุกสังคม ทุกชนชั้น และทุกศาสนา ดังนั้น แม้แต่ประเทศที่พัฒนาแล้วผู้หญิงก็ยังคงประสบกับความรุนแรงในครอบครัวเหมือนกัน องค์กร Organization for Security and Co-operation in Europe (OSCE) ได้เปิดเผยข้อมูลสถิติความรุนแรงในครอบครัว ในปี 2016 ว่า ผู้หญิงประมาณ 43,600 คนต่อปีจากทั่วโลกถูกฆาตกรรมโดยคนในครอบครัว 1 ใน 3 ของผู้หญิงทั่วโลกเคยถูกทำร้ายร่างกายหรือจิตใจจากคนในครอบครัวอย่างน้อย 1 ครั้งในชีวิต และมีเพียง 11% เท่านั้นที่มีการดำเนินคดีและแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ คำว่า “การฆาตกรรมผู้หญิง” ภาษาอังกฤษใช้คำว่า Femicide ในที่นี้หมายถึงการฆาตกรรมที่ผู้ชายฆ่าผู้หญิงหรือเด็กหญิง เพราะพวกเธอเป็นผู้หญิง การฆาตกรรมนี้มักจะเกิดที่บ้าน ซึ่งเป็นผลกระทบมาจากความรุนแรงในครอบครัว OSCE ยังได้เปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับการฆาตกรรมหญิงว่า เกิดขึ้นในทุกประเทศ ที่เกิดมากคือ ประเทศรัสเซีย เอลซัลวาดอร์

Read More

ผู้ป่วยโกเช่ร์ หนึ่งในโรคหายาก พบเพียง 30 ราย เฉลี่ยเปลี่ยนแพทย์ 7 คน และใช้เวลา 10 ปี จึงจะวินิจฉัยตรงโรค วิงวอนรัฐสนับสนุนการศึกษาวิจัยเพิ่มเติม

โรคโกเชร์นับเป็นหนึ่งในโรคหายาก จากอุบัติการณ์ผู้ป่วยโรคโกเชร์ในต่างประเทศ ระบุว่าโดยเฉลี่ยพบผู้ป่วยอยู่ที่ 1 รายต่อประชากร 100,000 คน ซึ่งหากเทียบกับอัตราส่วนประชากรในประเทศไทยแล้ว คาดการณ์มีผู้ป่วยประมาณ 600 คน แต่ในปัจจุบัน มีผู้ป่วยโรคโกเช่ร์ประมาณ 30 คนทั่วประเทศที่ได้รับการวินิจฉัยแล้ว ในขณะที่มีผู้ป่วยที่ได้รับการรักษาอยู่ในระบบสาธารณสุขไทยเพียง 20 ราย ซึ่งตัวเลขนี้ได้สะท้อนถึงความท้าทายในระบบสาธารณสุขของไทย รวมถึงส่งเสริมให้มีการศึกษาค้นคว้าวิจัยเพิ่มเติม และสร้างการรับรู้ให้กับวงการแพทย์และสังคมไทยในวงกว้างมากยิ่งขึ้น รศ. นพ. อดิศักดิ์ ตันติวรวิทย์ อายุรแพทย์ผู้เชี่ยวชาญสาขาโลหิตวิทยา โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เปิดเผยว่า “ด้วยปัญหาที่สำคัญที่สุดของโรคโกเชร์ ซึ่งหมายรวมถึงโรคหายากอื่นๆ นั่นคือ ‘ความหายาก’ จึงปฏิเสธไม่ได้ว่าคนส่วนใหญ่รวมถึงบุคลากรทางการแพทย์ยังไม่ได้ตระหนักถึงโรคหายาก เนื่องจากเป็นโรคที่ไม่ได้อยู่รอบตัวและมีโอกาสเป็นน้อยมาก รวมถึงสังคมไทยยังขาดความรู้ความเข้าใจ ขาดแคลนแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะโรค ทำให้ยากต่อการวินิจฉัยและการรักษาโรคได้อย่างตรงจุด ยิ่งไปกว่านั้นประเทศไทยมีแพทย์ประมาณ 15 ท่าน ซึ่งจะเป็นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญสาขาโลหิตวิทยา และแพทย์ผู้เชี่ยวชาญสาขาเวชพันธุศาสตร์เท่านั้นที่สามารถตรวจวินิจฉัยและเข้าถึงการรักษาโรคโกเชร์ได้” รศ. นพ. อดิศักดิ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า “ทุกวันที่ 1 ตุลาคมของทุกปี ซึ่งเป็นวันโรคโกเช่ร์โลก

Read More

บีเอเอสเอฟจับมือมูลนิธิศุภนิมิต ใช้ Eco Brick พัฒนาโรงเรียนในอำเภอปลวกแดง จังหวัดระยอง

บริษัท บีเอเอสเอฟ (ไทย) จำกัด และมูลนิธิศุภนิมิตแห่งประเทศไทย ร่วมกันดำเนินโครงการเพื่อพัฒนาโรงเรียนในจังหวัดระยองซึ่งเสร็จสิ้นสมบูรณ์เมื่อเร็ว ๆ นี้ โดยได้ทำการปรับปรุงสนามเด็กเล่นและติดตั้งระบบระบายน้ำรอบโรงเรียน พร้อมทั้งปรับปรุงภูมิทัศน์รอบบริเวณโรงเรียนนิคมสร้างตนเองจังหวัดระยอง 10 ด้วยการใช้ Eco Brick ซึ่งทำจากขวดพลาสติกมาใช้เป็นอิฐในการปรับปรุงพัฒนาโรงเรียนให้ถึงพร้อมด้วยสภาพแวดล้อมที่มีความปลอดภัยและสุขอนามัยที่ดี ควบคู่ไปกับการส่งเสริมเรื่องการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมในประเทศไทย “บีเอเอสเอฟมุ่งเน้นในการสนับสนุนเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนของสหประชาชาติข้อที่ 4 คือการศึกษา ดังนั้นเราจึงให้การสนับสนุนโรงเรียนต่าง ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในชนบทเพื่อยกระดับคุณภาพการศึกษาด้วยโครงการซีเอสอาร์อย่างต่อเนื่องทุกปี” กล่าวโดยนายเพทรูซ อึ้ง กรรมการผู้จัดการ บริษัท บีเอเอสเอฟ (ไทย) จำกัด “และการร่วมมือกันกับมูลนิธิศุภนิมิตแห่งประเทศไทยในครั้งนี้ ก็มีความโดดเด่นเป็นพิเศษเนื่องจากได้ช่วยจัดการกับปัญหามลพิษพลาสติกโดยการเปลี่ยนขยะพลาสติกเป็น Eco Brick และยังสามารถนำมาใช้ในการปรับปรุงโรงเรียนได้อีกด้วย” โรงเรียนนิคมสร้างตนเองจังหวัดระยอง 10 เป็นโรงเรียนขนาดเล็กที่เปิดทำการสอนตั้งแต่ระดับอนุบาลจนถึงประถมศึกษาปีที่ 6 มีนักเรียนตั้งแต่อายุ 4 ปีจนถึง 14 ปี จำนวนทั้งสิ้น 192 คน โดยเป็นโรงเรียนแห่งแรกในภาคตะวันออกของประเทศไทยที่นำแนวความคิด Eco Brick มาใช้ในการปรับปรุงและพัฒนาโรงเรียน ซึ่งก่อนหน้านั้น ทางโรงเรียนประสบกับปัญหาน้ำท่วมในช่วงฤดูฝนเนื่องด้วยขาดระบบการระบายน้ำ

Read More