Home > 2022 > ตุลาคม

ศุภาลัย รับบท “พี่เลี้ยง” หนุนผู้ประกอบการอสังหาฯ รายเล็ก

ตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทยนับว่าเป็นตลาดที่มีการแข่งขันที่สูงมาก แม้ว่าปีนี้ที่ภาพรวมเศรษฐกิจดูจะไม่ค่อยสดใสนัก ทว่ามีการคาดการณ์มูลค่าตลาดเปิดตัวใหม่อาจจะมากกว่า 380,857 ล้านบาท หากเทียบกับปี 2564 ที่มีมูลค่าตลาดเปิดตัวใหม่อยู่ที่ 277,626 ล้านบาท หากดูในภาพรวมโครงการเปิดใหม่ในช่วง 7 เดือนแรก (มกราคม-กรกฎาคม) ของปีนี้ มีจำนวน 210 โครงการ เมื่อเทียบกับสถิติ 7 เดือนแรกของปี 2564 มีการเปิดตัวโครงการใหม่เพียง 152 โครงการ การแข่งขันของตลาดอสังหาฯ ยังคงน่าจับตามองเสมอ เมื่อเจ้าตลาดรายใหญ่ต่างพากันระดมสรรพกำลังสร้างแรงขับเคลื่อนในธุรกิจนี้อย่างต่อเนื่อง ความคึกคักของตลาดไม่ได้ถูกจำกัดอยู่แต่ในเมืองใหญ่เท่านั้น หากแต่ค่ายใหญ่เริ่มสยายปีกไกลออกไปยังพื้นที่ต่างจังหวัดที่พอจะมองเห็นศักยภาพของตลาด ที่มีปัจจัยมาจากการขยายตัวของเมืองในจังหวัดนั้นๆ อันนำมาซึ่งความต้องการที่อยู่อาศัยในต่างจังหวัดที่เพิ่มมากขึ้น แต่เดิมตลาดอสังหาฯ ในต่างจังหวัดอาจจะเป็นการตลาดหลักของผู้ประกอบการอสังหาฯ รายย่อย ปัจจุบันอาจไม่เป็นเช่นนั้นอีกแล้ว เมื่อมองในมิติการแข่งขันหากในพื้นที่นั้นมีแต่ผู้ประกอบการรายใหญ่ เราคงได้เห็นการประชันกันด้วยโครงการใหญ่ๆ และการแข่งขันที่ดูสมน้ำสมเนื้อ ทว่า หากในพื้นที่นั้นผู้ประกอบการรายเล็กเป็นเจ้าตลาด และมีผู้เล่นรายใหญ่กระโดดเข้าร่วมวงด้วย อาจดูไม่ค่อยยุติธรรมนัก ปัจจัยหลักเรื่องการลดความเหลื่อมล้ำ การเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน ให้แก่ผู้ประกอบการรายย่อยอันเป็นที่มาของโครงการ Big Brother ที่หอการค้าไทยจัดขึ้นมาอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 5 ดูจะเป็นอีกหนึ่งโอกาสที่ดีสำหรับผู้ประกอบการรายย่อยในทุกแวดวงให้สามารถขับเคลื่อนธุรกิจไปได้ดีขึ้นท่ามกลางการแข่งขันอันดุเดือด บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน)

Read More

MI GROUP ประกาศวิสัยทัศน์เชิงรุกมุ่งสู่ “A Trusted Advisor” สร้างจุดแข็งด้วย Solution Providers ตอบโจทย์นักการตลาดดิจิทัลในยุค Post Pandemic

Media Intelligence Group (หรือ MI GROUP) เดินหน้าเปิดแผนเชิงรุก ประกาศวิสัยทัศน์ใหม่เพื่อมุ่งสู่การเป็น “A Trusted Advisor” เป็นเพื่อนคู่คิดและเป็นที่ปรึกษาที่คุณไว้ใจ ด้วย “Solution Providers” ที่พร้อมจะขับเคลื่อนอุตสาหกรรมสื่อโฆษณา ด้วยเครื่องมือสื่อสารทางการตลาดที่จะเพิ่มมูลค่าการตลาดให้กับลูกค้า ท่ามกลางความท้าทายใหม่ๆ ในโลกธุรกิจยุคดิจิทัล ชี้เทรนด์อุตสาหกรรมสื่อโฆษณากำลังจะกลับมา จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกรวมถึงประเทศไทย ซึ่งส่งสัญญาณดีในหลากหลายอุตสาหกรรม และยังมองเห็นกระแสการเติบโตด้านกำลังซื้อของผู้บริโภคที่เริ่มขยับตัวสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยคาดว่าเม็ดเงินสื่อโฆษณาปีนี้จะเติบโตได้ถึง 7.4% คิดเป็นมูลค่ารวมที่ 81,813 ล้านบาท เมื่อสัญญาณของเศรษฐกิจไทยในหลายอุตสาหกรรมมีแนวโน้มฟื้นตัวดีขึ้น จากสถานการณ์การระบาดใหญ่ทั่วโลกของ COVID-19 ที่ค่อยๆลดระดับความรุนแรงและผลกระทบลง ถือเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่า ถึงเวลาที่ธุรกิจจะกลับมาแข่งขันกันอีกครั้ง ขณะเดียวกันสถานการณ์ของโลกธุรกิจในปัจจุบันเต็มไปด้วยการ Disruption ในหลากหลายมิติ และส่งผลต่อพฤติกรรมการบริโภคสื่อของคนไทยเปลี่ยนแปลงและซับซ้อนมากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะวิกฤต COVID-19 ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ได้สร้างความเปลี่ยนแปลงในโลกธุรกิจอย่างมากมาย จึงเป็นเรื่องสำคัญที่ธุรกิจต้องปรับตัวและเตรียมพร้อมกับความเปลี่ยนแปลงต่างๆ ที่เกิดขึ้น A Trusted Advisor เป็นมากกว่า Solution Providers MI

Read More

CMO ชูไตรมาส 3-4 โดดเด่น คว้าเมกะโปรเจกต์เพียบ รายได้ทั้งปี Turnaround พลิกทำกำไรรอบ 3 ปี

“ซีเอ็มโอ” ส่งซิกผลงานไตรมาส 3-4/2565 เติบโตต่อเนื่อง หลังภาพรวมธุรกิจของประเทศมีแนวโน้มฟื้นตัว ตลอดจนเปิดประเทศเต็มรูปแบบ ส่งผลให้ธุรกิจอีเวนต์คึกคัก มั่นใจรายได้ทั้งปี ทะลุพันล้านบาท กลับมาทำกำไรได้ครั้งแรกในรอบ 3 ปี ชี้ Q4 สดใส งานจ่อคิวเพียบ ทั้งกลุ่มงานอีเวนต์ – กลุ่มธุรกิจเอ็นเตอร์เทนเม้นท์ เสริมทัพด้วยธุรกิจซัพพลายอุปกรณ์ระบบภาพแสงเสียง รวมไปถึงงานออกแบบก่อสร้าง และบริหารจัดการศูนย์การเรียนรู้ พร้อมเตรียมรุกตลาด เซ้าท์ อีสต์ เอเชีย ประเดิม เวียดนาม และสิงค์โปร์ ล่าสุดเตรียมจับมือยักษ์ใหญ่ด้านเอ็นเตอร์เทนเม้นท์จากเกาหลี จัดงาน Music Festival ระดับโลกอีกหลายงาน นายกิติศักดิ์ จำปาทิพย์พงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซีเอ็มโอ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่าแนวโน้มธุรกิจในช่วงที่เหลือของปี 2565 จะมีการขยายตัวในทิศทางที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในกลุ่มธุรกิจอีเวนต์ ซึ่งจะเห็นได้ชัดจากปริมาณงานที่เพิ่มมากขึ้น เรียกได้ว่าสถานที่จัดงานถูกจองจัดงานแฟร์ใหญ่ระดับประเทศเต็มยาวถึงสิ้นปี ซึ่ง CMO ในไตรมาส 4

Read More

แรงกระเพื่อมว่ายข้ามโขง กระตุ้นค้าชายแดน ท่องเที่ยว นครพนม-คำม่วน

แม้ว่าภารกิจการระดมทุนจัดหาอุปกรณ์การแพทย์ให้โรงพยาบาลนครพนมและโรงพยาบาลแขวงคำม่วน จากกิจกรรม “ONE MAN AND THE RIVER หนึ่งคนว่าย หลายคนให้” จะจบลงไปแล้ว และมียอดบริจาคล่าสุด 68,143,636 บาท (วันที่ 25 ตุลาคม 2565) ท่ามกลางเสียงวิพากษ์วิจารณ์และกระแสดราม่านับตั้งแต่เริ่มต้น กระทั่งสิ้นสุดกิจกรรม โดยฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยแสดงความคิดเห็นไปในทางเดียวกันว่า กิจกรรมดังกล่าวเต็มไปด้วยความเสี่ยง สร้างภาระให้ทีมแพทย์ พยาบาล และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องมากกว่าจะเป็นการทำเพื่อช่วยเหลือ ในขณะที่ฝ่ายสนับสนุนมองว่า การจัดกิจกรรมในครั้งนี้น่าจะสร้างคุณประโยชน์ให้แก่แพทย์ พยาบาล โรงพยาบาลทั้งสองฝั่งโขง รวมไปถึงประชาชนผู้ใช้บริการในอนาคต แม้ว่าภาครัฐทั้งผู้อำนวยการโรงพยาบาลนครพนม หรือแม้แต่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข จะยืนยันว่าโรงพยาบาลไม่ได้ขาดแคลน และไม่ได้ร้องขอให้ผู้จัดกิจกรรมช่วยเหลือเพื่อระดมทุน แต่ก็ไม่ขัดศรัทธา หากพิจารณาจากยอดบริจาคในขณะนี้น่าจะทำให้หลายคนได้ประจักษ์แล้วว่า การกระทำของบุคคลกลุ่มหนึ่งได้สร้างแรงกระเพื่อมได้อย่างมากมาย ทั้งการมองมุมต่างที่ว่า การระดมทุนเพื่อช่วยเหลือโรงพยาบาลในการจัดซื้ออุปกรณ์การแพทย์ ไม่ใช่การแก้ปัญหาในเชิงโครงสร้าง และไม่ใช่หน้าที่หลักของพลเมือง หากแต่ควรเป็นหน้าที่หลักของฝ่ายบริหารบ้านเมือง แน่นอนว่าประเด็นนี้คงสร้างกระแสให้เกิดการขบคิดและแก้ปัญหาในอนาคต นอกจากนี้ แรงกระเพื่อมจากการว่ายข้ามโขงในครั้งนี้น่าจะส่งผลต่อสถานการณ์การท่องเที่ยวในพื้นที่จังหวัดนครพนมไม่มากก็น้อย รวมไปถึงการค้าชายแดนที่น่าจะมีความคึกคักขึ้น อีกทั้งยังช่วยกระชับความสัมพันธ์ระหว่างไทย-สปป.ลาว และประชาชนริมสองฝั่งโขงให้แน่นแฟ้นขึ้น จากภาพการต้อนรับอย่างอบอุ่นเมื่อ โตโน่ ภาคิน คำวิลัยศักดิ์ ว่ายไปขึ้นฝั่งที่ สปป.ลาว ในแง่ของการค้าชายแดน

Read More

มานะ มานี ปิติ ชูใจ แบบเรียนเก่าๆ สู่แบรนด์วินเทจโดนๆ

ตามข้อมูลประวัติศาสตร์ “จินดามณี” ถือเป็นแบบเรียนภาษาไทยเล่มแรก มีเนื้อหาครอบคลุมเรื่องการใช้สระ พยัญชนะ วรรณยุกต์ การผันอักษร อักษรศัพท์ อักษรเลข การสะกดการันต์ การแต่งคำประพันธ์ชนิดต่างๆ และกลบท จินดามณีเล่มแรกแต่งขึ้นในสมัยอยุธยาตอนกลาง โดยพระโหราธิบดีในรัชสมัยของสมเด็จพระนารายณ์มหาราช และการที่จินดามณีของพระโหราธิบดีเป็นเสมือนสัญลักษณ์ของแบบเรียนไทย ทำให้หนังสือแบบเรียนไทยในยุคต่อมามักใช้ชื่อ “จินดามณี” เช่นเดียวกัน ได้แก่ จินดามณีฉบับความแปลก จินดามณีครั้งแผ่นดินพระเจ้าบรมโกศ จินดามณีฉบับกรมหลวงวงษาธิราชสนิท จินดามณีฉบับพิมพ์ของหมอสมิท และจินดามณีฉบับพิมพ์ของหมอบรัดเลย์ กระทั่งพระยาศรีสุนทรโวหาร (น้อย อาจารยางกูร) แต่งหนังสือมูลบทบรรพกิจเป็นแบบเรียนหลวงสมัยรัชกาลที่ 5 ขึ้น จึงเลิกใช้หนังสือจินดามณีไป สำหรับ “มานะ มานี ปิติ ชูใจ” ถือเป็นชุดแบบเรียนภาษาไทยอีกยุคสมัย ช่วงปี 2521-2537 เขียนโดยรัชนี ศรีไพรวรรณ และรูปภาพประกอบ วาดโดย เตรียม ชาชุมพร นักเขียนการ์ตูนและนิยายภาพ จากชัยพฤกษ์การ์ตูน ที่มาที่ไปเริ่มจากกระทรวงศึกษาธิการเห็นว่าแบบเรียนภาษาไทยชุดเดิมมีเนื้อหาไม่ทันยุคสมัย จึงปรับปรุงหลักสูตรใหม่ เพื่อให้นักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1-6 อ่านอย่างสนุกสนานและอยากเรียนภาษาไทย ซึ่งรัชนีใช้เวลาเขียนนานกว่า 4

Read More

ออโต้แพร์ ก้าวสู่ปีที่ 5 ตอกย้ำความสำเร็จ พลิกโฉมอุตสาหกรรมชิ้นส่วนและอะไหล่ทดแทนยานยนต์ของไทย

ออโต้แพร์ ก้าวสู่ปีที่ 5 ตอกย้ำความสำเร็จ ระดมทุน Series A มูลค่ากว่า 70 ล้านบาท จาก มิตซูบิชิ คอร์ปอเรชั่น พลิกโฉมอุตสาหกรรมชิ้นส่วนและอะไหล่ทดแทนยานยนต์ของไทย ออโต้แพร์ (AUTOPAIR) บริษัทให้บริการโซลูชั่นซอฟต์แวร์ ด้านระบบสั่งซื้อชิ้นส่วนยานยนต์ออนไลน์ ระบบบริหารอู่ซ่อมรถยนต์แบบครบวงจร และระบบบริหารคลังสินค้าสำหรับผู้จำหน่ายชิ้นส่วนยานยนต์ เดินหน้าเตรียมก้าวเข้าสู่ปีที่ 5 เผยภาพรวมความสำเร็จการดำเนินธุรกิจในประเทศไทย พร้อมประกาศการระดมทุนมูลค่ากว่า 70 ล้านบาท จากบริษัทยักษ์ใหญ่สัญชาติญี่ปุ่น มิตซูบิชิ คอร์ปอเรชั่น เพื่อเพิ่มโอกาสในการขยายฐานลูกค้าใหม่และเสริมความแข็งแกร่งทางธุรกิจ เช่น UI/UX ของระบบ โดยในปี 2568 ออโต้แพร์ตั้งเป้าส่วนแบ่งตลาด 1% ของส่วนแบ่งการตลาดอุตสาหกรรมชิ้นส่วนและอะไหล่ทดแทนยานยนต์ทั้งหมด และสร้างรายได้ต่อปีสูงถึง 2,000 ล้านบาท พร้อมยกระดับกระบวนการทำงานของอุตสาหกรรมอะไหล่ทดแทนตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ และก้าวสู่การเป็นผู้นำตลาดด้านการให้บริการโซลูชั่นซอฟต์แวร์ของวงการชิ้นส่วนอะไหล่ยานยนต์แบบครบวงจรในประเทศไทย นายสันติ วจนพานิช ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ออโต้แพร์ จำกัด กล่าวว่า “ปัจจุบันประเทศไทยกำลังอยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่านสู่เศรษฐกิจดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ โดยเห็นได้ชัดจากการนำเทคโนโลยีและระบบดิจิทัลมาใช้เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันเชิงธุรกิจ

Read More

แอน – จักรพงษ์ นำ เจเคเอ็น ซื้อ Miss Universe คว้าลิขสิทธิ์ 100%

เจเคเอ็น โกลบอล กรุ๊ป บริษัทคอนเทนต์และคอมเมิร์ชชั้นนำระดับโลกสัญชาติไทย ประกาศเข้าถือครองธุรกิจองค์กรนางงามจักรวาลจากไอเอ็มจี องค์กรนางงามจักรวาลเป็นองค์กรระดับนานาชาติ ที่ให้ความสำคัญกับการเฉลิมฉลองสตรีที่มีความหลากหลายทั้งในด้านวัฒนธรรมและประเพณี รวมถึงการเปิดโอกาสให้สตรีเหล่านั้น ได้ค้นพบความฝัน ผ่านการสร้างความเชื่อมั่นให้กับตนเอง และการแสวงหาโอกาสอันดีงามเพื่อนำไปสู่ความสำเร็จ เนื่องในโอกาสครบรอบ 71 ปี การประกวดนางงามจักรวาล หรือ ‘มิสยูนิเวิร์ส’ ได้ก้าวขึ้นมาเป็นหนึ่งในเวทีการประกวดที่ยาวนานที่สุดและมีผู้ชมมากที่สุดในโลก โดยออกอากาศใน 165 ประเทศทั่วโลกและมีผู้รับชมกว่า 500 ล้านคนในแต่ละปี ภายใต้การบริหารของ เอมี่ เอมเมอร์ริช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารองค์กรนางงามจักรวาล และพอลล่า ชูการ์ต ประธานองค์กรนางงามจักรวาล การประกวดนางงามจักรวาลเป็นเวทีการแข่งขันนางงามระดับโลกที่ส่งผลกระทบในเชิงบวกให้กับผู้หญิงจากต่างสาขาอาชีพกว่า 10,000 คนต่อปี ตลอดจน เสริมสร้างสรรค์กิจกรรมการกุศลที่เป็นประโยชน์ผู้คนทั่วโลก ทั้งนี้ การประกาศเข้าถือครองกิจการ รวมไปถึงการปรับเปลี่ยนกติกาการเข้าประกวดที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ มีจุดมุ่งหมายหลักในการยกระดับคุณสมบัติของผู้เข้าประกวดให้มีความสอดคล้องกับเจตนารมณ์ขององค์กร ที่ต้องการส่งเสริมคุณค่าและความหลากหลายของสตรี โดย แอน - จักรพงษ์ จักราจุฑาธิบดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เจเคเอ็น โกลบอล กรุ๊ป ได้กลายเป็นสตรีคนแรกที่เป็นเจ้าขององค์กรนางงามจักรวาล การเปลี่ยนแปลงเจ้าของลิขสิทธิ์ในครั้งนี้ ส่งผลต่อพอร์ตโฟลิโอทางธุรกิจของเจเคเอ็น ในการด้านกิจการโทรทัศน์และการค้าคอนเทนต์เพื่อด้านความบันเทิง

Read More

ปลุกสังขยาโบราณ “มานีมีนม” คาเฟ่คลาสสิกยุค 90

วรรณกานต์ ทองคำ ใช้เวลากว่า 7 ปี ปลุกปั้นร้าน “มานีมีนม” สร้างอิมเมจคาเฟ่คลาสสิกยุค 90 กับเมนูซิกเนเจอร์ ขนมปังสังขยาโบราณ สูตร “อาป๊า” ย้อนยุคตั้งแต่สมัยรถเข็นขายบะหมี่เป็ดย่างที่พร้อมเสิร์ฟลูกค้าทั้ง “คาว-หวาน” จนขึ้นแท่นแฟรนไชส์ฮอตฮิต มีผู้คนแห่จองคิวยาวทุกเดือน ขณะเดียวกัน เมนูรุ่นใหม่ “ขนมปังไส้แตก” ของร้านไม่ได้ใช้วิธีปิ้งย่างเหมือนหลายเจ้า แต่เป็นขนมปังอบ หรือ Toast ซึ่งให้ความกรอบนอกนุ่มในได้นาน และล่าสุดมีให้เลือกถึง 25 ไส้ โดยเฉพาะ 5 ไส้ยอดนิยม คือ สังขยาใบเตยมะพร้าว สังขยาไข่เค็ม สังขยาอัญชันตาลโตนด โกโก้ครันชี่ และปังกระเทียมโคตรชีสX2 เป็นสูตรเด็ดบอกต่อถึงความอร่อย มัดใจลูกค้า ตั้งแต่กลุ่มเด็กๆ วัยรุ่น คนทำงาน และรุ่นปู่ย่าตายาย วรรณกานต์ หรือ “แนน” บอกว่า เดิมคิดเล่นๆ แค่อยากใช้พื้นที่ว่างในร้านบะหมี่เป็ดย่างของครอบครัวเปิดเคาน์เตอร์ขายขนม เครื่องดื่ม เพราะเป็นคนชอบรับประทานของหวาน แต่ปรากฏว่ากระแสตอบรับดีเกินคาด

Read More

เกรท วอลล์ มอเตอร์ ไขข้อสงสัย มีอะไรอยู่ภายในรถยนต์ไฟฟ้า?

ในปัจจุบัน รถยนต์ไฟฟ้ากำลังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องและได้กลายมาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของผู้บริโภคจำนวนมาก โดยมาพร้อมกับรูปลักษณ์ภายนอกที่สะดุดตา สมรรถนะที่โดดเด่น และเทคโนโลยีที่ทั้งล้ำสมัยและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เรียกได้ว่าตอบครบทุกโจทย์ความต้องการของคนรุ่นใหม่อย่างแท้จริง อย่างไรก็ตาม ผู้บริโภคหลายๆ คนอาจเคยสงสัยว่าภายในรถยนต์ไฟฟ้า 100% หนึ่งคันประกอบไปด้วยอะไรบ้าง แตกต่างจากรถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปภายในหรือไม่... วันนี้ เกรท วอลล์ มอเตอร์ ในฐานะผู้นำด้านยานยนต์พลังงานไฟฟ้าของไทย ขอพาทุกคนไปทำความรู้จักส่วนประกอบสำคัญของรถยนต์ไฟฟ้า 100% โดยรถยนต์ไฟฟ้ามีจำนวนส่วนประกอบและชิ้นส่วนต่างๆ น้อยกว่ารถยนต์สันดาปภายใน จึงทำให้ค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาต่ำกว่ารถยนต์โดยทั่วไปหลายเท่า ในด้านส่วนประกอบสำคัญของรถยนต์ไฟฟ้าจะคล้ายๆ กับรถบังคับที่หลายคนชอบเล่นในวัยเด็ก ไม่ว่าจะเป็นมอเตอร์ขับเคลื่อน ถ่านชาร์จที่เปรียบได้กับแบตเตอรี่แรงดันสูงที่ใช้เป็นแหล่งพลังงาน และตัวรับสัญญาณที่เปรียบเสมือนกับกล่องควบคุมอิเล็กทรอนิกส์ พร้อมกับส่วนประกอบอีกหลายอย่างที่เพิ่มเติมเข้ามา เพื่อช่วยเสริมให้ระบบการทำงานต่างๆ รองรับการทำงานที่มีความซับซ้อนมากยิ่งขึ้น โดยรถยนต์ไฟฟ้านั้นประกอบด้วยระบบสำคัญ 4 ระบบ ได้แก่ ระบบพลังงานไฟฟ้าแรงดันสูง ระบบขับเคลื่อน ระบบควบคุม และระบบพลังงานไฟฟ้าแรงดันต่ำ ซึ่งในแต่ละระบบนั้นมีอุปกรณ์สำคัญๆ อยู่ดังต่อไปนี้ 1. ระบบไฟฟ้าแรงดันสูง เป็นระบบหลักของรถยนต์ไฟฟ้าทุกคัน ประกอบไปด้วยอุปกรณ์หลักที่สำคัญๆ ดังต่อไปนี้ - แบตเตอรี่แรงดันสูง (High Voltage Battery): ตัวกักเก็บพลังงานไฟฟ้าทำหน้าที่เสมือนถังน้ำมันของเครื่องยนต์สันดาป ภายในแบตเตอรี่แรงดันสูงประกอบไปด้วยเซลล์แบตเตอรี่จำนวนหลายร้อยเซลล์มารวมเข้าด้วยกันเพื่อกักเก็บพลังงานไฟฟ้าในการขับเคลื่อน โดยรถยนต์พลังงานไฟฟ้าส่วนใหญ่จะเลือกใช้แบตเตอรี่ลิเธียมเป็นทางเลือกหลัก

Read More

เศรษฐา ทวีสิน อัศวินขี่ม้าขาว ไหวมั้ย?

เศรษฐา ทวีสิน กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) กลายเป็นหนึ่งในแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีที่ถูกปล่อยออกมาวัดกระแสความร้อนแรงและเพิ่มจุดโฟกัสให้พรรคเพื่อไทยมากขึ้น หลังพยายามปลุกปั้นทายาททางการเมือง “แพทองธาร ชินวัตร” เข้าสู่สมรภูมิเลือกตั้ง แน่นอนว่า หากเทียบชั้นตัวเก็งที่ผลัดกันช่วงชิงความนิยม ไม่ว่าจะเป็น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ อนุทิน ชาญวีรกูล สุดารัตน์ เกยุราพันธ์ หรือพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ นักธุรกิจหนุ่มวัยห้าสิบปลายๆ ผู้หาญกล้าวิพากษ์วิจารณ์นโยบายรัฐบาล สร้างความโดดเด่นและสามารถลบจุดอ่อนด้านประสบการณ์ของแพทองธารได้อย่างดี โดยเฉพาะในยุคที่ประเทศไทยต้องการผู้นำเข้ามาแก้ปัญหาเศรษฐกิจรูปแบบใหม่ ชื่อ “เศรษฐา ทวีสิน” ย่อมเป็นตัวเลือกน่าดึงดูดมาก เพราะเส้นทางเกือบ 4 ทศวรรษของบริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) ความสำเร็จและการสร้าง “แบรนด์” ติดอันดับหนึ่งในตลาดอสังหาริมทรัพย์ “เศรษฐา” คือ ส่วนสำคัญ การเป็นเจ้าของไอเดียแผนการตลาดแบบหวือหวา ใส่สีสัน และฉีกนอกกรอบ ทำในสิ่งที่คู่แข่งไม่คิดและไม่ทำ ทุกกลยุทธ์ของ “แสนสิริ” มีความต่างและสร้างเกมน่าตื่นเต้นตลอดเวลา ขยายโครงการที่สร้างไลฟ์สไตล์โดนใจกลุ่มลูกค้าและครอบคลุมทุกเซกเมนต์ รวมทั้งแสวงหาตลาดใหม่ๆ

Read More