Home > ธนาคารยูโอบี

ยูโอบี ประเมินจีดีพีไทยปี 67 ขยายตัวได้ 3.6% จากภาคส่งออกและท่องเที่ยวฟื้นตัว ดันเงินบาทแข็งแกร่ง

ยูโอบี ประเมินจีดีพีไทยปี 67 ขยายตัวได้ 3.6% จากภาคส่งออกและท่องเที่ยวฟื้นตัว ดันเงินบาทแข็งแกร่ง ขณะที่แรงกดดันเงินเฟ้อแผ่วลง ธนาคารยูโอบี ประเทศไทย เปิดเผยรายงานวิเคราะห์สถานการณ์เศรษฐกิจของไทยในปี 2567 โดยประเมินว่าเศรษฐกิจไทยจะฟื้นตัวช้าในช่วงครึ่งปีแรก ก่อนที่จะขยายตัวได้แข็งแกร่งขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง ด้วยปัจจัยสนับสนุนจากมาตราการกระตุ้นทางการคลังของรัฐบาล ควบคู่ไปกับการฟื้นตัวของภาคท่องเที่ยวและส่งออก ธนาคารประเมินว่าอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจ หรือ จีดีพี (GDP) ของประเทศไทยมีแนวโน้มเติบโตได้ร้อยละ 3.6 ในปีนี้ นายเอ็นริโก้ ทานูวิดจายา นักเศรษฐศาสตร์ Global Economics and Market Research ธนาคารยูโอบี กล่าวว่า “ปัจจัยหลักที่ช่วยส่งเสริมการเติบโตของเศรษฐกิจไทยคือ ภาคส่งออกสินค้าและภาคท่องเที่ยวที่มีแนวโน้มปรับดีขึ้น ซึ่งจะส่งผลดีต่อการจ้างงานและสร้างรายได้ให้แก่แรงงาน โดยเฉพาะในภาคบริการ ควบคู่ไปกับการบริโภคภาคครัวเรือนที่จะยังคงแข็งแกร่งและได้รับอานิสงส์เพิ่มเติมจากมาตรการกระตุ้นการใช้จ่ายของภาครัฐ ทำให้การเติบโตของเศรษฐกิจไทยที่ปรับดีขึ้นพร้อมกับการฟื้นตัวของอุปสงค์จากต่างประเทศจะเป็นปัจจัยพื้นฐานเชิงบวกส่งผลให้ค่าเงินบาทแข็งแกร่งขึ้น” นอกจากนี้ ประเทศไทยจะได้รับอานิสงส์เพิ่มเติมจากเม็ดเงินลงทุนโดยตรงจากต่างชาติ (FDI) ที่เพิ่มขึ้นจากบริษัทต่างชาติที่เดินหน้าย้ายฐานการผลิตเข้ามาในประเทศเพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงจากผลกระทบจากความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ โดยส่วนหนึ่งสะท้อนจากสถิติคำขอรับการส่งเสริมการลงทุนจากต่างประเทศของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ที่เติบโตอย่างต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา ส่งผลต่อเนื่องให้เกิดการลงทุนของภาคเอกชน และสนับสนุนให้สภาวะเศรษฐกิจโดยรวมฟื้นตัว “ดังนั้น ยูโอบีประเมินว่าอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจของไทยในปีนี้จะขยายตัวได้ร้อยละ 3.6 จากการฟื้นตัวของภาคท่องเที่ยว ส่งออกสินค้า และการบริโภคภาคเอกชน

Read More

ยูโอบีประกาศความก้าวหน้าตามคำมั่นสัญญา Net Zero

ยูโอบีเผยรายงานความก้าวหน้าการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ฉบับแรกตามคำมั่นสัญญาในการบรรลุเป้าหมายการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (net zero target) ภายในปี 2593 ตอกย้ำความมุ่งมั่นเดินหน้าสู่เป้าหมายตามที่ตั้งไว้ในภาคอุตสาหกรรมหลัก คำมั่นสัญญา Net Zero ของยูโอบีประกอบด้วยเป้าหมายการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิใน 5 ภาคอุตสาหกรรม ได้แก่ พลังงาน ยานยนต์ อสังหาริมทรัพย์ อุตสาหกรรมก่อสร้าง และเหล็กกล้า จากข้อมูลของธนาคาร ในปี 2565 ธนาคารยูโอบีสามารถลดความเข้มข้นการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ด้วยตัวชี้วัดที่แตกต่างกันในทั้ง 5 ภาคอุตสาหกรรมได้ต่ำกว่าแนวทางการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (net zero reference pathway) ร้อยละ 7 ถึง 14 นอกจากนี้ คำมั่นสัญญา Net Zero ที่ยูโอบีประกาศเมื่อปีที่แล้ว ยังครอบคลุมถึงการไม่อนุมัติสินเชื่อใหม่ให้กับโครงการอุตสาหกรรมน้ำมันและก๊าซธรรมชาติต้นน้ำที่ดำเนินการหลังปี 2565 โดยเมื่อพิจารณาทั้ง 6 ภาคอุตสาหกรรมรวมกัน คิดเป็นร้อยละ 60 ของพอร์ตโฟลิโอสินเชื่อลูกค้าธุรกิจของธนาคาร ยูโอบีนำแบบจำลองภูมิอากาศที่เป็นที่ยอมรับทั่วโลกมาใช้ในการกำหนดเป้าหมายสำหรับแต่ละอุตสาหกรรมตามเป้าหมายระดับภูมิภาค เพื่อให้สอดคล้องกับเป้าหมาย Net

Read More

ยูโอบีหนุนสินเชื่อกลุ่มบางจาก เดินหน้าขยายธุรกิจน้ำมันและพัฒนาเชื้อเพลิงทางเลือกคาร์บอนต่ำ

ธนาคารยูโอบี สนับสนุนสินเชื่อทางการเงินให้แก่ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชัน จำกัด (มหาชน) เดินหน้าขยายการดำเนินธุรกิจการกลั่นน้ำมัน และร่วมผลักดันวิสัยทัศน์การพัฒนาด้านพลังงานอย่างยั่งยืนจากการผลิตเชื้อเพลิงทางเลือกคาร์บอนต่ำ บางจาก คอร์ปอเรชัน เป็นบริษัทแรกในไทยที่ธนาคารได้สนับสนุนด้านการเงิน ภายใต้กรอบแนวคิดสินเชื่อเพื่อการเปลี่ยนผ่าน (UOB’s Transition Finance Framework) ซึ่งออกแบบมาเพื่อสนันสนุนการเปลี่ยนผ่านของบริษัทที่มีการใช้พลังงานสูงในการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอน ภายใต้กรอบแนวคิดนี้ธนาคารมุ่งสนับสนุนการดำเนินกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนผ่านเช่น การผลิตเชื้อเพลิงทางเลือกคาร์บอนต่ำ การเพิ่มประสิทธิภาพในกระบวนการผลิต การดักจับ ใช้ประโยชน์และกักเก็บคาร์บอน (CCUS) และการชดเชยคาร์บอนเครดิต โดยธนาคารมีโซลูชันทางการเงินที่ครอบคลุมให้แก่บริษัทและเครือข่ายในภาคอุตสาหกรรมที่ร่วมสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านการดำเนินธุรกิจ ปัจจุบัน ธนาคารยูโอบีปล่อยสินเชื่อด้านการค้าและการเปลี่ยนผ่านรวม 290 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ให้แก่กลุ่มบริษัทบางจากได้แก่ บริษัทบางจาก คอร์ปอเรชัน จำกัด (มหาชน) บริษัท BCP Trading Pte. Ltd. (BCPT) และบริษัทเอสโซ่ (ประเทศไทย) จำกัด ที่ทางกลุ่มฯได้มีการเข้าซื้อหุ้นเมื่อเร็วๆ นี้สำหรับขยายธุรกิจการกลั่นน้ำมัน ซึ่งประกอบด้วยวงเงินสำหรับนำเข้าน้ำมันดิบเพื่อเข้าสู่กระบวนการผลิต และเงินทุนหมุนเวียนจำนวน 30 ล้านดอลลาร์สหรัฐเพื่อดำเนินธุรกิจผลิตภัณฑ์ชีวภาพ นายตัน ชุน ฮิน

Read More

นายกรัฐมนตรีพบผู้บริหารกลุ่มธนาคารยูโอบีในการเยือนสิงคโปร์อย่างเป็นทางการครั้งแรก

นาย วี อี เชียง รองประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารยูโอบี  ให้การต้อนรับนายนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ที่อาคารยูโอบี พลาซา สำนักงานใหญ่ ประเทศสิงคโปร์ เมื่อวันที่ 12 ตุลาคม 2566 ที่ผ่านมาระหว่างการเยือนประเทศสิงคโปร์อย่างเป็นทางการ ธนาคารยูโอบี ให้การต้อนรับนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ณ สำนักงานใหญ่ อาคารยูโอบี พลาซา ระหว่างการเยือนประเทศสิงคโปร์อย่างเป็นทางการเป็นครั้งแรกหลังจากเข้ารับตำแหน่ง เพื่อเสริมสร้างความร่วมมือด้านการค้ากับคู่ค้าทางเศรษฐกิจหลักในภูมิภาค โดยยูโอบี เป็นธนาคารแห่งเดียวที่นายกรัฐมนตรีได้เข้าเยี่ยมชมระหว่างการเดินทางมาประเทศสิงคโปร์ นาย วี อี เชียง รองประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารยูโอบี พร้อมด้วย นายตัน ชุน ฮิน กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารยูโอบี ประเทศไทย และผู้บริหารระดับสูงของกลุ่มธนาคารยูโอบี ให้การต้อนรับนายกรัฐมนตรีในการเดินทางอย่างเป็นทางการในครั้งนี้ ในระหว่างการหารือ นายวี ได้ตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นระยะยาวของธนาคารยูโอบีในการดำเนินธุรกิจในประเทศไทย และรวมถึงแนวทางในการกระชับความสัมพันธ์เพื่อส่งเสริมการเชื่อมโยงในอาเซียนผ่านการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ นายวีกล่าวว่า “ยูโอบีดำเนินธุรกิจในประเทศไทยอย่างยาวนานกว่า 20 ปี

Read More

ยูโอบีรายงานผลการศึกษา ASEAN Consumer Sentiment Study 2023 เผยความเชื่อมั่นด้านเศรษฐกิจของผู้บริโภค และเทรนด์ธนาคารดิจิทัล

ธนาคารยูโอบี ประเทศไทย รายงานผลการศึกษาความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในอาเซียน หรือ ASEAN Consumer Sentiment Study 2023 พบทัศนคติโดยรวมของผู้บริโภคในประเทศไทยยังเป็นไปในทิศทางบวก แต่มีความระมัดระวังมากขึ้น พร้อมเตรียมปรับตัวให้เข้ากับสภาวะเศรษฐกิจที่อาจชะลอตัว ส่วนเทรนด์ด้านธนาคารดิจิทัลและช่องทางการชำระเงินผ่านแอปพลิเคชันธนาคารบนมือถือและอีวอลเล็ตมีการเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง ASEAN Consumer Sentiment Study (ACSS) คือรายงานศึกษาความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในอาเซียน ที่จัดทำโดยธนาคารยูโอบีเป็นประจำทุกปี โดยรายงานปีที่ 4 ฉบับล่าสุดนี้ ธนาคารยูโอบีได้ร่วมมือกับ บริษัท เดอะ บอสตัน คอนซัลติ้ง กรุ๊ป (ประเทศไทย) จำกัด หรือ BCG บริษัทที่ปรึกษาระดับโลก จัดทำขึ้นเมื่อเดือนมิถุนายน ปี 2566 เพื่อวิเคราะห์แนวโน้มและความเชื่อมั่นของผู้บริโภคจาก 5 ประเทศในอาเซียน ได้แก่ สิงคโปร์ มาเลเซีย อินโดนีเซีย ไทย และเวียดนาม ทำไมต้องโฟกัสที่อาเซียน? - อาเซียนเป็นหนึ่งในกลุ่มเศรษฐกิจที่เติบโตเร็วที่สุดในโลกและมีประชากรมากเป็นอันดับ 3 ของโลก - ภายในปี 2573

Read More

ยูโอบีคว้ารางวัล Best ESG Solution – Trade Finance

ยูโอบีคว้ารางวัล Best ESG Solution - Trade Finance ประเทศไทย จาก The Asset Triple A Treasurise Awards ประจำปี 2566 ธนาคารยูโอบี ประเทศไทย คว้ารางวัล Best ESG Solution -Trade Finance จากเวที The Asset Triple A Treasurise Awards ประจำปี 2566 รวมถึงอีก 8 รางวัล จากเวที Triple A Best Solutions Awards ในงาน The Asset Triple A Awards 2023 ตอกย้ำความแข็งแกร่งของธนาคารในฐานะหนึ่งในผู้ให้บริการด้าน

Read More

ยูโอบีเดินหน้าผลักดันการเติบโตสีเขียวในภูมิภาคอาเซียน

ยูโอบีเดินหน้าผลักดันการเติบโตสีเขียวในภูมิภาคอาเซียน นำเสนอโซลูชันทางการเงินเพื่อสนับสนุนอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าและการเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานสะอาดทั่วภูมิภาค ธนาคารยูโอบี ประเทศไทย เดินหน้าสนับสนุนสินเชื่อทางการเงิน เพื่อขับเคลื่อนการเติบโตสีเขียวให้แก่ภูมิภาคอาเซียน ธนาคารพร้อมสนับสนุนสินเชื่อทางการเงินภายใต้กรอบแนวคิดเพื่อความยั่งยืนให้แก่ธุรกิจในทุกภาคอุตสาหกรรมในการบรรลุเป้าหมายลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Greenhouse Gas Emission) โดยเมื่อเร็วๆ นี้ ธนาคารยูโอบี ได้เข้าร่วมงาน ฟิวเจอร์ โมบิลิตี้ เอเชีย (Future Mobility Asia) และ “ฟิวเจอร์ เอนเนอร์จี เอเชีย” (Future Energy Asia) ประจำปี 2566 เพื่อแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นและนำเสนอโซลูชันทางการเงินของธนาคาร ที่ช่วยสร้างความเปลี่ยนแปลงด้านความยั่งยืนให้แก่ภูมิภาค ร่วมกับผู้บริหารระดับสูงในอุตสาหกรรม ผู้เชี่ยวชาญ ตลอดจนผู้กำหนดนโยบายที่เข้าร่วมงานในปีนี้ นายตัน ชุน ฮิน กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารยูโอบี ประเทศไทย กล่าวว่า “ธนาคารยูโอบียึดมั่นในแนวทางการดำเนินธุรกิจที่มีความรับผิดชอบต่อสังคม พร้อมผนึกความร่วมมือกับทุกภาคส่วนผ่านโครงการเพื่อความยั่งยืนที่หลากหลายเพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงไปสู่อนาคตที่ดีขึ้น ยูโอบีในฐานะธนาคารที่ตอบโจทย์ครบในหนึ่งเดียวเพื่อเข้าถึงโอกาสเติบโตทางธุรกิจทั่วอาเซียน ยืนยันจะทำหน้าที่เป็นตัวกลางทางการเงินที่พร้อมสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านที่เป็นธรรม ยั่งยืน และเพื่อสิ่งแวดล้อมให้แก่สังคม ปัจจุบันสภาวะโลกร้อนเป็นเรื่องเร่งด่วนสำหรับพวกเราทุกคน ธนาคารพร้อมนำเสนอกรอบแนวคิดและโซลูชันทางการเงินเพื่อความยั่งยืนที่ช่วยส่งเสริมและสร้างโอกาสให้แก่บริษัทในทุกภาคอุตสาหกรรมในการสร้างอนาคตที่ยั่งยืนร่วมกัน” รายงานการศึกษาขององค์การสหประชาชาติพบว่าภาคธุรกิจพลังงานเป็นอุตสาหกรรมที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกมากถึง 3 ใน

Read More

วัดชีพจรธนาคารยูโอบี หลังซื้อกิจการลูกค้าบุคคลจากซิตี้กรุ๊ป

ปี 2564 มีข่าวออกมาว่า ซิตี้กรุ๊ป (Citigroup) มีแผนจะออกจากธุรกิจลูกค้าบุคคล (Consumer Banking) ใน 13 ตลาด ทั้งในออสเตรเลีย บาห์เรน จีน อินเดีย อินโดนีเซีย เกาหลีใต้ มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ โปแลนด์ รัสเซีย ไต้หวัน เวียดนาม รวมถึงประเทศไทย 14 มกราคม 2565 ซิตี้กรุ๊ปเคลื่อนไหวอีกครั้งด้วยการออกมาประกาศบรรลุดีลในการขายธุรกิจธนาคารกลุ่มลูกค้าบุคคล ใน 4 ประเทศ ได้แก่ ไทย, อินโดนีเซีย, มาเลเซีย และเวียดนาม ให้กับกลุ่มธนาคารยูโอบี (UOB) กลุ่มธนาคารยักษ์ใหญ่แห่งสิงคโปร์ ซึ่งดีลดังกล่าวรวมธุรกิจธนาคารลูกค้ารายย่อยและธุรกิจบัตรเครดิต แต่ไม่รวมธุรกิจลูกค้าสถาบันของธนาคาร โดยที่ดีลในการเข้าซื้อกิจการในครั้งนี้จะครอบคลุมพนักงานของซิตี้แบงก์ที่จะโอนไปยังธนาคารยูโอบีเมื่อเสร็จสิ้นการเข้าซื้อกิจการกว่า 5,000 คนอีกด้วย กระทั่งวันที่ 1 พฤศจิกายน 2565 อีกหนึ่งดีลประวัติศาสตร์สัมฤทธิผลไปอีกขั้น เมื่อธนาคารยูโอบี ประเทศไทย ออกมาประกาศว่ากลุ่มธนาคารยูโอบีได้ดำเนินการเข้าซื้อกิจการธนาคารลูกค้ารายย่อยของซิตี้กรุ๊ปในมาเลเซียและประเทศไทยเสร็จสมบูรณ์ตามกฎหมายแล้ว

Read More

ยูโอบีประกาศผลกำไรหลักสุทธิ ปี 2565 เพิ่มขึ้นร้อยละ 18 สูงเป็นประวัติการณ์ที่ 4.8 พันล้านดอลลาร์สิงคโปร์

ยูโอบีประกาศผลกำไรหลักสุทธิ ปี 2565 เพิ่มขึ้นร้อยละ 18 สูงเป็นประวัติการณ์ที่ 4.8 พันล้านดอลลาร์สิงคโปร์ จากการเพิ่มขึ้นของส่วนต่างระหว่างรายรับและรายจ่ายอย่างเห็นได้ชัด และคุณภาพของสินทรัพย์ที่ยืดหยุ่น การซื้อกิจการซิตี้กรุ๊ปแสดงผลลัพธ์เชิงบวก เงินปันผลประจำปีที่เสนอเพิ่มขึ้นร้อยละ 25 อยู่ที่ 75 เซ็นต์ต่อหุ้น กลุ่มธนาคารยูโอบีประกาศผลกำไรจากธุรกิจหลักสุทธิสูงเป็นประวัติการณ์ที่ 4.8 พันล้านดอลลาร์สิงคโปร์ เพิ่มขึ้นร้อยละ 18 สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2565 และหากรวมค่าใช้จ่ายครั้งเดียวที่เกิดจากการซื้อกิจการธุรกิจลูกค้ารายย่อยของซิตี้กรุ๊ปในมาเลเซียและไทย กำไรสุทธิจะสูงเป็นประวัติการณ์ที่ 4.6 พันล้านดอลลาร์สิงคโปร์ กำไรที่สูงและสถานะดำรงเงินทุนส่งผลให้คณะกรรมการเสนอจ่ายเงินปันผลประจำปีที่ 75 เซ็นต์ต่อหุ้นสามัญ เมื่อรวมกับเงินปันผลระหว่างกาลที่ 60 เซ็นต์ต่อหุ้นสามัญ จะทำให้เงินปันผลทั้งหมดสำหรับปี 2565 อยู่ที่ 1.35 เซ็นต์ต่อหุ้นสามัญหรือคิดเป็นอัตราการจ่ายเงินตอบแทนอยู่ที่ประมาณร้อยละ 49 การซื้อกิจการธุรกิจลูกค้ารายย่อยของซิตี้กรุ๊ปในมาเลเซียและไทยเสร็จสิ้นลงแล้วในเดือนพฤศจิกายน 2565 ส่วนอินโดนีเซียและเวียดนามคาดว่าจะเสร็จสิ้นลงในปี 2566 การซื้อกิจการครั้งสำคัญนี้ช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้ยุทธศาสตร์อาเซียนของกลุ่มธนาคารและช่วยขยายแฟรนไชส์ลูกค้ารายย่อยอย่างมีนัยสำคัญ พร้อมข้อเสนอผลิตภัณฑ์และโอกาสในการขายผลิตภัณฑ์หรือบริการที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์หลักที่เพิ่มขึ้น ฐานลูกค้ารายย่อยของกลุ่มธนาคารขยายตัวเพิ่มขึ้นจนเกือบแตะ 7 ล้านรายในภูมิภาค ในขณะที่รายได้ที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นจากการซื้อกิจการน่าจะเห็นผลในทางเชิงบวก ในปี 2565 กำไรจากการดำเนินงานหลักของกลุ่มธนาคารปรับตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ

Read More

ยูโอบีเผยกลยุทธ์การลงทุน ช่วยลูกค้ารับมือกับความผันผวนของตลาดในปี 2566

ยูโอบี ประเทศไทย จัดงานสัมมนาการลงทุนประจำปีเพื่อเผยกลยุทธ์และข้อมูลด้านการลงทุน เชิงลึกประจำปี 2566 ให้แก่ลูกค้า ซึ่งกลยุทธ์ที่ทางธนาคารแนะนำ ได้แก่ การลงทุนในธุรกิจการเงินของสหรัฐฯ แนวโน้มที่เพิ่มขึ้นของ ชนชั้นกลางในเอเชียส่งผลต่อการใช้จ่ายของผู้บริโภคทั่วโลก และโครงสร้างของ Global Healthcare เช่น เทคโนโลยีด้านสุขภาพในระยะยาว งานสัมมนายังกล่าวถึงการที่เศรษฐกินในภูมิภาคเอเชียเริ่มที่จะไม่ต้องพึ่งพาประเทศที่พัฒนาแล้ว ซึ่งนับเป็นโอกาสสำคัญสำหรับการลงทุน คุณยุทธชัย เตยะราชกุล รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ Head of Personal Financial Services ธนาคารยูโอบี ประเทศไทย กล่าวว่า "ในปี 2565 เราประสบกับการเปลี่ยนแปลงอย่างมากทั่วโลก เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่ตลาดจะต้องปรับฐาน และในปี 2566 นี้ เราคาดว่าความผันผวนจะยังคงดำเนินต่อไป ธนาคารยูโอบี มุ่งมั่นที่จะช่วยเหลือลูกค้าของเราให้ผ่านพ้นช่วงเวลาแห่งความไม่แน่นอนนี้ ด้วยการให้ข้อมูลและกลยุทธ์การลงทุนเพื่อประกอบการตัดสินใจในอนาคตทางการเงินอย่างชาญฉลาด" อุตสาหกรรมการเงินของสหรัฐยังคงเป็นทางเลือกในการลงทุนที่แข็งแกร่งแม้จะต้องเผชิญกับความท้าทายระยะสั้น อุตสาหกรรมการเงินของสหรัฐยังคงเป็นตัวเลือกการลงทุนที่แข็งแกร่ง เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นทำให้กลุ่มธนาคารได้เปรียบในส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิและรายได้โดยรวมของธนาคาร แม้ว่าจะมีโอกาสเติบโตในระยะยาว แต่ธนาคารยังคงเป็นธุรกิจหลักที่มีความท้าทาย เนื่องจากธนาคารดิจิทัลค่อยๆ เข้ามามีบทบาทในการแข่งขันกับสถาบันการเงินแบบดั้งเดิม สำหรับความท้าทายในระยะสั้น ได้แก่ การตั้งสำรองหนี้เสียเพิ่มขึ้นจากภาวะเศรษฐกิจถดถอย และค่าธรรมเนียมจากการซื้อขายกองทุนที่ลดลงจากความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ หากภาวะเศรษฐกิจถดถอยที่เกิดขึ้นเป็นเพียงแค่ช่วงเวลาสั้นๆ

Read More