Home > Cover Story (Page 140)

สงครามยักษ์ฟาสต์ฟู้ด จาก “ป๊อปอายส์” ถึง “เท็กซัสชิคเก้น”

  สมรภูมิฟาสต์ฟู้ดร้อนฉ่าขึ้นทันควัน เมื่อแบรนด์ไก่ทอดยักษ์ใหญ่ระดับท็อปทรีของโลก “เท็กซัสชิคเก้น (Texas Chicken)” ประกาศจับมือกับบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) บุกตลาดเมืองไทยตามนโยบายบริษัทแม่ที่กำลังรุกขยายแนวรบสู่อาเซียนและเอเชีย โดยเตรียมกลยุทธ์เปิดสงครามแย่งชิงส่วนแบ่ง 2 คู่แข่งเจ้าตลาด “เคเอฟซี” และ “แมคโดนัลด์” มูลค่าเม็ดเงินมากกว่า 30,000 ล้านบาท  ตามแผนเบื้องต้น ปตท. ในฐานะมาสเตอร์แฟรนไชส์ จะนำร่องร้านเท็กซัสชิคเก้น  2 สาขาแรกในศูนย์การค้าใจกลางเมือง ช่วงปลายปี 2558 หลังจากนั้น เดินหน้าผุดร้านไม่ต่ำกว่า 70 สาขา ภายในระยะเวลา 5-10 ปี ในห้างสรรพสินค้า คอมมูนิตี้มอลล์ และสถานีบริการน้ำมัน ปตท. ทั่วประเทศ ขณะเดียวกัน เมื่อแบรนด์ติดตลาด ปตท. จะเปิดขายแฟรนไชส์ “เท็กซัสชิคเก้น” เพื่อปูพรมสาขาใหม่ๆ ครอบคลุมกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย  ทั้งนี้ เท็กซัสชิคเก้น ถือเป็นแบรนด์ไก่ทอดเก่าแก่ โดย George W. Church

Read More

NDB และ AIIB สองพลังขับเคลื่อน “พญามังกร”?

 ข่าวสารว่าด้วยความเป็นไปของสังคมไทยในช่วงเดือนกรกฎาคมดูเหมือนจะให้น้ำหนักกับปัจจัยทางเศรษฐกิจมากขึ้นทุกขณะ และมีแนวโน้มที่จะก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในคณะรัฐมนตรีอยู่เป็นระยะ ขึ้นอยู่กับจังหวะและโอกาสที่จะเกิดขึ้นเท่านั้น ขณะที่ในระบบเศรษฐกิจภาพใหญ่ในระดับนานาชาติ ความเป็นไปในช่วงเดือนกรกฎาคมที่กำลังจะผ่านไปนี้ กลับปรากฏแรงกระเพื่อมที่ส่งผลต่อดุลยอำนาจของโลกมากพอสมควร และอาจเป็นจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงภูมิทัศน์ในระบบเศรษฐกิจการเมืองของโลกอย่างที่ไม่เคยมีใครคาดคิดว่าจะเกิดขึ้นได้มาก่อน ต้องยอมรับว่า การประชุมสุดยอดผู้นำกลุ่มประเทศ BRICS ครั้งที่ 7 (7th BRICS Summit) ซึ่งประกอบด้วย บราซิล รัสเซีย อินเดีย จีน และแอฟริกาใต้ ในช่วงระหว่างวันที่ 8-9 กรกฎาคม อาจจะถูกบดบังด้วยข่าวการทรุดตัวลงของราคาหุ้นในตลาดหลักทรัพย์จีน จนทำให้นักวิเคราะห์และผู้ลงทุนจำนวนไม่น้อยต่างหวั่นวิตกว่าเศรษฐกิจจีนอาจกำลังเผชิญกับภาวะฟองสบู่แตก หากแต่ผลของการประชุมและการผสานเสียงของกลุ่มผู้นำประเทศทั้ง 5 ในกรอบความร่วมมือของ BRICS กลับดังกังวานและเริ่มปรากฏรูปธรรมชัดเจนด้วยการเปิดสำนักงานของ NDB (New Development Bank) ในนครเซี่ยงไฮ้ ของจีนเมื่อวันที่ 21 กรกฎาคมที่ผ่านมา และกำลังจะก้าวขึ้นมาเป็นจักรกลในการท้าทายขั้วอำนาจในระบบเศรษฐกิจการเงินของโลกรายเดิม ไม่ว่าจะเป็น ธนาคารโลก (World Bank) และกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF)  แม้สถาบันการเงินแห่งใหม่นี้ จะมีโครงสร้างการถือหุ้นและสิทธิในการออกเสียงระหว่าง 5 ประเทศผู้ก่อตั้ง ที่ร้อยละ 20 อย่างเท่าเทียมกัน หากแต่ภายใต้การจัดตั้งกองทุนเงินสำรองเผื่อกรณีฉุกเฉิน

Read More

เมื่อสาวมิสทิน สู่โลกดิจิตอล

  จากประโยคอมตะ นิ้ง…หน่อง “มิสทินมาแล้วค่ะ” ที่ดังฮิต เมื่อ 20 ปีก่อน และส่งต่อมาถึงปัจจุบัน ด้วยฝีมือ ของ ดร. อมรเทพ ดีโรจนวงศ์ ผู้พ่อ ก่อนที่จะส่งผ่านมายังซีอีโอหนุ่มไฟแรง ดนัย ดีโรจนวงศ์ ที่เข้ามาสานงานต่อ และสร้างความแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ ภายใต้มิสทินยุคใหม่ ที่มีความทันสมัยขึ้น    ล่าสุด เมื่อสองแบรนด์ยักษ์วงการธุรกิจชั้นแนวหน้าของประเทศไทย มิสทิน เครือข่ายเครื่องสำอางขายตรงอันดับหนึ่งของไทย จับมือกับ ทรูมูฟ เอช ผู้นำเครือข่ายเทคโนโลยีด้านการสื่อสาร ร่วมสร้างปรากฏการณ์ครั้งแรกของวงการธุรกิจความงามและเทคโนโลยีการสื่อสาร ภายใต้โครงการ "TRUE BEAUTY an unilimieted performance”       เป็นการผนึกกำลังที่อลังการไม่น้อย นับเป็นก้าวแรกและก้าวต่อไปของสองธุรกิจนี้ และถือว่าเป็นการปรับตัวและตอบรับเทคโนโลยีของธุรกิจขายตรง ธุรกิจความงาม อย่างมิสทิน ขณะที่ TRUE เองก็จะได้ฐานลูกค้า 1 ล้านราย หันมาใช้ซิมมิสทิน และได้รับส่วนแบ่งการตลาดของผู้ใช้โทรศัพท์มือถือเพิ่มขึ้น

Read More

อีโคเวสท์จับมือซาทาเรม โหนนโยบายรัฐ ผุดโรงไฟฟ้าขยะ

 ขยะมูลฝอยที่สะสมตกค้างอยู่ในหลายพื้นที่ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด ส่งผลกระทบตามมาในหลายด้าน ทั้งมลภาวะทางอากาศ ปิดกั้นช่องทางระบายน้ำ ซึ่งทำให้น้ำท่วมแทบจะทันทีที่ฝนตกต่อเนื่องเป็นเวลานาน กระทั่งรัฐบาลต้องประกาศให้การจัดการขยะเป็นวาระแห่งชาติ โดยหวังให้หลายฝ่ายร่วมมือในการหาหนทางแก้ปัญหาที่จีรังยั่งยืน แน่นอนว่าเมื่อภาครัฐมีนโยบาย ผู้ตอบสนองไม่ได้มีแค่หน่วยงานภายใต้การกำกับดูแลของรัฐบาลเท่านั้น หากแต่ภาคเอกชนที่พอจะมองเห็นช่องทางในการสร้างผลกำไรสายธุรกิจพลังงาน ต่างเข้าร่วมโหนกระแสนี้ด้วยการลงทุนสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานขยะ ทั้งกลุ่ม SAMART และล่าสุด อีโค เวสท์ และซาทาเรม จับมือกันเดินเข้าสู่ธุรกิจนี้เช่นกัน บริษัท อีโค เวสท์ แมนเนจเม้นท์ จำกัด ที่มี ธีรศักดิ์ สุวรรณยศ นั่งแท่นประธานกรรมการ ด้วยประสบการณ์ด้านการเงินและการวิเคราะห์โครงสร้างธุรกิจขนาดใหญ่ ร่วมทุนกับ บริษัท ซาทาเรม (ประเทศไทย) จำกัด บริษัทสัญชาติสวิส ที่เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีการบริหารจัดการของเสีย และการบริหารจัดการด้านพลังงานทางเลือก เทงบประมาณ 2.1 พันล้านบาท ในโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานขยะโดยประเดิมที่แรก ต.ท่าโรงช้าง อ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี ถือได้ว่าอีโค เวสท์เป็นบริษัทแรกที่มีการร่วมทุนกับเจ้าของเทคโนโลยีอย่างซาทาเรม โดยมีสัดส่วนการถือครองหุ้น 75% และซาทาเรม ถือหุ้น 25%  ทั้งนี้โรงไฟฟ้าขยะท่าโรงช้างจะใช้เทคโนโลยีระบบตะกรับเคลื่อนที่ (Mechanical Moving

Read More

“ขยะ” วาระแห่งชาติ จากมูลฝอยสู่พลังงานทดแทน

  เหตุการณ์น้ำท่วมขังบนพื้นผิวถนนหลังจากฝนตกได้ไม่นาน แม้จะเป็นเรื่องที่เห็นจนชินตาและคาดเดาได้ง่าย รวมไปถึงต้นสายปลายเหตุที่รับรู้โดยทั่วกันว่ามาจากการสะสมของปริมาณขยะมูลฝอยบริเวณท่อระบายน้ำ แต่ดูเหมือนว่าปัญหาดังกล่าวไม่ได้รับการแก้ไขอย่างยั่งยืนเสียที อีกทั้งระบบการกำจัดขยะที่ไม่ถูกต้องตามมาตรฐานและขาดประสิทธิภาพ จึงเป็นการซ้ำเติมปัญหามลพิษให้รุนแรงมากขึ้น ดังที่ปรากฏให้เห็นมาแล้วจากการเกิดเพลิงไหม้บ่อขยะหลายแห่ง  จึงไม่น่าแปลกใจเมื่อรัฐบาลผู้ชอบแก้ไขออกประกาศให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจัดทำโรดแมป เพื่อจัดการปัญหาขยะและของเสียอันตรายที่สั่งสมเป็นจำนวนมาก โดยทิศทางของรัฐบาลคือการแปรรูปขยะมาเป็นพลังงาน โดยมีเป้าหมายหลักอยู่ที่การสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานขยะจำนวน 53 โรงทั่วประเทศ แน่นอนว่าปัญหาในพื้นที่กรุงเทพมหานครน่าจะอยู่ภายใต้การดูแลของ กทม. หากแต่การหนีปัญหาด้วยการย้ายขึ้นไปอยู่บนดอยเพื่อที่จะไม่ต้องพบกับปัญหาน้ำท่วมขัง หรือการเชิญชวนให้ช่วยกันภาวนาให้ฝนตกเพื่อแก้ไขวิกฤตน้ำแล้ง ซึ่งปัญหาเหมือนจะรุนแรงมากกว่าปีที่ผ่านมา และนั่นไม่ใช่ทางออกที่ฉลาดนัก องค์กรความร่วมมือแห่งประเทศญี่ปุ่นหรือไจก้า ประมาณการว่าประเทศไทยผลิตขยะเฉลี่ย 13,000 ตันต่อวัน หรือประชากรหนึ่งคน ผลิตขยะประมาณ 1.2 กิโลกรัมต่อวัน ซึ่ง กทม. สามารถจัดเก็บขยะได้ประมาณ 9,000 ตันต่อวัน ซึ่งส่วนที่เหลือเป็นขยะตกค้างตามพื้นที่รกร้างว่างเปล่า ทั้งนี้สำนักสิ่งแวดล้อมจึงแก้ปัญหาการลักลอบทิ้งขยะบริเวณดังกล่าวโดยการจัดทำเป็นสวนหากพบว่าบริเวณนั้นมีการทิ้งขยะ  แนวทางดังกล่าวเป็นเพียงการแก้ปัญหาเพียงชั่วคราวเท่านั้น หากแต่การแก้ปัญหาขยะที่กำลังล้นเมืองอยู่ในขณะนี้นั้น หนทางที่อาจเรียกได้ว่าจีรังยั่งยืนคือการสร้างวินัยของคนไทย ให้รู้จักและเข้าใจแยกแยะขยะได้ ซึ่งจะนำไปสู่การคัดแยกก่อนทิ้งอย่างถูกต้อง ประเทศญี่ปุ่นนับเป็นแหล่งเรียนรู้ที่ดี นั่นเพราะญี่ปุ่นเคยประสบปัญหาวิกฤตขยะเมื่อ 30 ปีที่แล้ว ซึ่งญี่ปุ่นประกาศให้ปัญหาขยะเป็นวาระแห่งชาติไม่ต่างจากไทย  หากแต่การที่รัฐบาลญี่ปุ่นจัดทำ “คู่มือการอยู่อาศัย” ที่อธิบายถึงลักษณะของขยะแต่ละชิ้น และแยกแยะอย่างละเอียด ซึ่งประชาชนส่วนใหญ่ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี  ทั้งนี้ญี่ปุ่นแบ่งประเภทของขยะดังนี้ ขยะเผาได้ เป็นวัสดุที่เผาไฟได้ ขนาดไม่ใหญ่เกินไป ขยะเหล่านี้จะถูกนำไปเผาในเตาเผาขยะและนำพลังงานความร้อนมาผลิตกระแสไฟฟ้าส่งขายให้การไฟฟ้า ขยะเผาไม่ได้ เช่น บรรจุภัณฑ์ที่ผลิตจากแก้ว ยาง

Read More

จาก “เมกา” สู่ “เวสต์เกต” “อิเกีย” ลุยสูตรสำเร็จ

 “อิเกีย” ตัดสินใจล้มแผนทุ่มทุนผุดสาขา 2 ในโครงการ “เมกาบางใหญ่” หันมาเช่าพื้นที่บิ๊กโปรเจ็กต์ “เซ็นทรัลพลาซาเวสต์เกต” ซึ่งค่ายซีพีเอ็นประกาศจะเป็น “ซูเปอร์รีจินัลมอลล์” แห่งเซาท์อีสต์เอเชีย ในเนื้อที่ 100 ไร่ พื้นที่มากกว่า 500,000 ตารางเมตร พลิกกลยุทธ์เปลี่ยนจาก “คู่แข่ง” ฝั่งตรงข้าม เป็น “พันธมิตร” และ “แม็กเน็ต” ชิ้นสำคัญที่เสริมจุดขายซีพีเอ็นอย่างแข็งแกร่ง มีการวิเคราะห์กันว่า สาเหตุสำคัญอาจเกิดจากอิคาโน่กรุ๊ป บริษัทแม่ของอิเกียและสยามฟิวเจอร์ดีเวลลอปเมนท์ ในฐานะพันธมิตรร่วมทุนโครงการเมกาบางนา ที่ใช้เม็ดเงินมากกว่า 12,000 ล้านบาท ไม่สามารถกว้านซื้อที่ดินผืนใหญ่ แม้พยายามไล่เก็บที่ดินหลายแปลงแล้วก็ตาม จากเดิมตั้งเป้าผุดโครงการ “เมกาบางใหญ่” บริเวณหัวมุมทางแยกต่างระดับบางใหญ่ เพื่อเปิดอิเกียสโตร์ สาขา 2 และพัฒนาโครงการศูนย์การค้าครบวงจร “เมกาบางใหญ่” รูปแบบเดียวกับเมกาบางนา มีทั้งห้างสรรพสินค้า ซูเปอร์เซ็นเตอร์ ร้านอาหารและร้านค้านับร้อย เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ซึ่งต้องการเนื้อที่ไม่ต่ำกว่า 250 ไร่  ส่วนโครงการเมการังสิต ตามแผนปักหมุดอยู่บริเวณจุดตัดมอเตอร์เวย์กับถนนรังสิต-นครนายก คาดว่าจะสามารถหาที่ดินแปลงใหญ่ขนาด

Read More

“เจริญ” เปิดศึกระลอกใหม่ ไล่บี้เป้าหมายยึดตลาดรีเทล

 เจริญ สิริวัฒนภักดี ประกาศวิสัยทัศน์ชัดเจนตั้งแต่เปิดตัวบิ๊กโปรเจ็กต์ “เอเชียทีค เดอะริเวอร์ฟรอนท์” ต้องการเป็นผู้นำธุรกิจศูนย์การค้าในประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) ภายใน 10 ปี โดยเร่งสร้างและขยายแบรนด์ค้าปลีกในอาณาจักร เพื่อผุดสาขาทั้งในไทยและบุกทุกประเทศของภูมิภาค แต่ช่วง 3 ปีที่ผ่านมา เจริญต้องปรับกระบวนทัพหลายรอบและดูเหมือนว่า ปี 2558 จะเป็นก้าวย่างสำคัญในการเปิดศึกค้าปลีกระลอกใหม่อย่างเต็มรูปแบบ   จากเดิม “ทีซีซีแลนด์” ที่มีวัลลภา และโสมพัฒน์ ไตรโสรัส เป็นผู้กุมบังเหียนหลักและแบ่งแยกทีมดูแลแบรนด์ค้าปลีกแต่ละแบรนด์ เจริญสั่งปรับโครงสร้างธุรกิจอสังหาริมทรัพย์กลุ่มรีเทล โดยจัดตั้งบริษัทลูก ทีซีซีแลนด์ แอสเสท เวิลด์ รวมการบริหารงานกลุ่มค้าปลีกทุกแบรนด์และอยู่ภายใต้นโยบายการบริหารของทีซีซีแลนด์  ประกอบด้วย 1. เอเชียทีค เดอะริเวอร์ฟรอนท์  2. เกตเวย์ เอกมัย 3. เซ็นเตอร์พอยท์ ออฟ สยามสแควร์ 4. พันธุ์ทิพย์  ซึ่งล่าสุดมี 3 สาขาที่ประตูน้ำ งามวงศ์วาน และบางกะปิ 5.

Read More

“พาราไดซ์พาร์ค” จุดพลุ เสริมเขี้ยวเล็บรุกแนวรบใหม่

 การเปิดตัวห้างสรรพสินค้า โตคิว พาราไดซ์ พาร์ค นอกจากเป็นบิ๊กแองเคอร์ชิ้นใหม่ของศูนย์การค้าพาราไดซ์พาร์ค ยังหมายถึงการเตรียมพร้อมเพื่อรุกแนวรบย่านกรุงเทพตะวันออก ที่เต็มไปด้วยยักษ์ค้าปลีก โดยเฉพาะการประกาศผุดโครงการ “บางกอกมอลล์” ของกลุ่มเดอะมอลล์ เนื้อที่ 100 ไร่ มูลค่าลงทุนมากกว่า 20,000 ล้านบาท ในปี 2561  แน่นอนว่า โตคิวสาขา 2 ถือเป็นการขยายการลงทุนครั้งใหม่ หลังจากกลุ่มโตคิว ญี่ปุ่น เข้ามาเปิดสาขาในเมืองไทยแห่งแรกเมื่อ 30 ปีก่อนที่ศูนย์การค้ามาบุญครอง หรือ “เอ็มบีเค” ยุคปัจจุบัน โดยครั้งนี้กลุ่มโตคิวร่วมทุนกับบริษัท พาราไดซ์ รีเทล จำกัดในเครือบริษัท เอ็ม บี เค จำกัด (มหาชน) จัดตั้งบริษัท พีที รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด สัดส่วนการร่วมทุน 50:50  เป็นผู้บริหารห้างสรรพสินค้าโตคิว สาขาพาราไดซ์ พาร์ค แยกออกจากห้างโตคิว สาขาเอ็มบีเค  ทาคาชิ

Read More

ไบโอฟาร์ม จากผู้ด้อยโอกาส สู่ผู้นำยาไทย

 “เราเป็นผู้ด้อยโอกาสด้านยามาก่อน แต่ตอนนี้เมื่อเราเป็นผู้นำนวัตกรรม ผมมองว่ายาสำคัญต่อประชาชนที่ต้องช่วยกันดูแลความเจ็บป่วยของคนไทย เราเองช่วยกันดูแล โครงการตู้ยา Biopharm เพื่อชุมชน คือหนึ่งในโครงการที่เราได้ทำตอบแทนสังคม และอยากให้คนไทยถึงยาดี ราคาถูกและมีคุณภาพ” คำกล่าวของเศกสุข  เกษมสุวรรณ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท ไบโอฟาร์ม เคมิคอลส์ จำกัด ที่กล่าวในโครงการ จัดตู้ยา พร้อมยาสามัญประจำบ้าน เพื่อมอบให้กับชุมชนและโรงเรียนในต่างจังหวัดที่ขาดแคลน ถือเป็นการแสดงจุดยืนในการให้บริการยาที่มีคุณภาพ และให้อุปกรณ์ยาพื้นฐานเบื้องต้นได้เข้าถึงแหล่งชุมชน 100 ชุมชน พร้อมทั้งเป็นการเผยแพร่แบรนด์ไปยังกลุ่มผู้บริโภคมากขื้น หากย้อนไปเมื่อปี 2517 ไบโอฟาร์มได้เริ่มก่อตั้งธุรกิจ และเริ่มจากการเป็นตัวแทนนำเข้ายาจากต่างประเทศ เพื่อทำการจำหน่ายให้กับกลุ่มโรงพยาบาล หลังจากที่ราคายาต่างประเทศสูงขึ้น ในช่วงสามสิบกว่าปีที่แล้ว บริษัทฯ จึงได้คิดที่จะตั้งโรงงานไบโอแลปขึ้นผลิตยาเอง เพื่อให้ได้ยาที่ราคาถูกลง และมีคุณภาพทัดเทียมกับยาต้นแบบจากต่างประเทศ เป็นที่ยอมรับในระดับโลก ไบโอแลปถือเป็นโรงงานผลิตยาแห่งแรกในประเทศไทยที่ได้มาตรฐาน Pharmaceutical Inspection Co-operation Scheme (PIC/S) ซึ่งหมายถึงการมีหลักเกณฑ์และวิธีการที่ดี ผลิตยาตามข้อกำหนดอนุสัญญาระหว่างประเทศ มาประมาณ 2 ปีแล้ว นอกจากมาตรฐาน GMP โดยได้ผลิตยาทั้งสิ้น 9

Read More

จับตา ปตท. ผนวก ราชบุรีโฮลดิ้ง พลังงานไทยในอาเซียน

 ภายใต้สถานการณ์ที่ประเทศไทยมีความต้องการใช้พลังงานที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เมื่อสภาพอากาศทั้งไทยและทั่วโลกกำลังเปลี่ยนแปลงอย่างเห็นได้ชัด แต่เมื่อเทียบกับแหล่งพลังงานภายในประเทศที่มีอยู่อย่างจำกัด จำเป็นอย่างยิ่งที่ไทยต้องนำเข้าพลังงานจากต่างประเทศ ด้วยวิกฤตด้านพลังงานที่ไทยกำลังเผชิญอยู่ ทำให้หลายหน่วยงานออกมาตรการหรือกิจกรรมเพื่อรณรงค์การประหยัดพลังงาน รวมไปถึงการหาช่องทางที่จะนำพลังงานทดแทนทั้งพลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานน้ำ พลังงานลม พลังงานจากขยะ มาใช้ หรืออีกหนึ่งทางเลือกคือการมองแหล่งพลังงานตามแนวตะเข็บชายแดนหรือประเทศเพื่อนบ้าน เช่นที่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) และ บริษัท ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) เพิ่งจรดปากกาลงนามความร่วมมือลงทุนด้านพลังงานภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน ที่ผ่านมา แม้หลักใหญ่ใจความของบันทึกความเข้าใจดังกล่าว จะมีเนื้อหาเพื่อศึกษาความเป็นไปได้ของการลงทุนโครงการด้านพลังงานในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รองรับความต้องการใช้พลังงานของประเทศ เสริมสร้างเสถียรภาพความมั่นคงด้านพลังงานในอนาคต และสร้างความเข็มแข็งในการดำเนินธุรกิจในต่างประเทศร่วมกัน ดูเหมือนบันทึกความร่วมมือดังกล่าวจะเป็นไปเพื่อสร้างความมั่นคงให้แก่สองบริษัทที่มีความเชี่ยวชาญด้านพลังงาน มากกว่าจะเป็นดั่งสโลแกนที่ได้ยินจนคุ้นหูว่า “พลังไทย เพื่อไทย”  แน่นอนว่าความร่วมมือของทั้งสองบริษัทจะได้รับความเห็นชอบจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานอย่าง ดร.ณรงค์ชัย อัครเศรณี ที่นอกจากจะเป็นประธานในงานและพยานคนสำคัญแล้ว ยังให้ความเห็นที่เสมือนเป็นแรงสนับสนุนแก่บริษัทพลังงานและบริษัทไฟฟ้าของไทยที่เป็นไปเพื่อรองรับอนาคตของประเทศ การศึกษาเพื่อดำเนินโครงการด้านพลังงานที่สำคัญและเป็นทิศทางพลังงานในอนาคตที่จำเป็นของไทย ทั้งก๊าซธรรมชาติเหลว และถ่านหิน “พลังความร่วมมือของแต่ละบริษัทจะสร้างความเชื่อมั่นให้แก่นักลงทุนที่อยู่ในไทยและในต่างประเทศได้ทั้งในวันนี้และอนาคต ที่สำคัญที่สุดคือเป็นการแสดงถึงศักยภาพของบริษัทพลังงานและบริษัทไฟฟ้าของไทย ที่สามารถสร้างโครงข่ายพลังงานในระดับชาติ ด้วยความมุ่งมั่นในบทบาทหน้าที่สร้างเสถียรภาพความมั่นคงด้านพลังงาน สร้างความมั่งคั่งทางเศรษฐกิจ และความยั่งยืนด้านพลังงานของสังคมไทย” แนวความคิดดังกล่าวดูเหมือนจะตรงกับสโลแกนของ คสช. ที่ว่า “มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน” การขยับของสองบริษัทที่มีธงนำด้านพลังงาน

Read More