Home > 2020 > มีนาคม (Page 3)

วัดอุณหภูมิแม่นสุดๆ! สจล. เปิดตัวประตูสแกนอุณหภูมิระบบ AI พร้อมฆ่าเชื้อ สู้โควิด-19

วัดอุณหภูมิแม่นสุดๆ! สจล. เปิดตัวประตูสแกนอุณหภูมิระบบ AI เวอร์ชันใหม่ ผนวกฟังก์ชันฆ่าเชื้อ พร้อมชูมาตรการสู้โควิด-19 สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ถือเป็นความท้าทายที่ทั่วโลกจะต้องก้าวข้ามไปด้วยกัน โดยเฉพาะการปรับตัวขององค์กร และสถานศึกษา ในการทำงานและเรียนท่ามกลางภาวะวิกฤตให้ผ่านพ้นไปอย่างราบรื่น เห็นได้จากองค์กร และสถาบันศึกษาต่างก็ออกมาตรการที่อำนวยความสะดวกให้การทำงานและการเรียนสามารถดำเนินต่อไปได้ภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ซึ่งนอกจากการออกมาตรการปฏิบัติที่ชัดเจน ยืดหยุ่นต่อการทำงาน การเรียนการสอนที่ต้องพบปะกันซึ่งหน้า นำมาซึ่งความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสแล้วการที่องค์กร และสถาบันศึกษาที่มีองค์ความรู้ด้านนวัตกรรมหรือเทคโนโลยีเป็นของตัวเอง และรู้จักดึงเอาองค์ความรู้เหล่านั้นมาใช้ก็ถือเป็นอีกอาวุธสำคัญที่สามารถนำมาใช้สู้ภัยวิกฤต หรือโควิด-19 ได้ ศ.ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ อธิการบดีสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) กล่าวว่า สจล. มีความมุ่งมั่นที่จะนำองค์ความรู้ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รวมถึงองค์ความรู้ด้านต่างๆ มาสร้างสรรค์นวัตกรรม ซึ่งคณาจารย์ และนักศึกษา สจล. หวังว่าจะเป็นส่วนหนึ่งที่จะนำพาสังคมก้าวผ่านสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 อีกทั้งเล็งเห็นว่าวิกฤตดังกล่าวเป็นโอกาสที่ทุกหน่วยงาน สถาบันการศึกษา จะได้ทบทวนองค์ความรู้ ความพร้อมในการบริหารความเสี่ยง ตลอดจนดึงเอาเครื่องมือต่างๆ ที่มีอยู่ออกมาใช้ได้อย่างเหมาะสม เพื่อเป็นภูมิคุ้มกันในการรับมือกับวิกฤตอื่นๆ ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 เริ่มต้นขึ้นในประเทศไทย สจล. ได้เดินหน้าพัฒนานวัตกรรมเพื่อรับมือกับสถานการณ์ดังกล่าว เพื่อให้การจัดการเรียนการสอนเป็นไปอย่างราบรื่น อีกทั้งเพื่อช่วยเหลือองค์กรภายนอก และสถาบันศึกษาอื่นๆ ภายใต้โครงการ

Read More

เซเว่นยืนยันเปิดให้บริการ 24 ชั่วโมง ช่วยผู้บริโภคมีอาหารปลอดภัยรับประทาน

เซเว่นฯ ยืนยันเปิดให้บริการประชาชน 24 ชั่วโมง ช่วยผู้บริโภคมีอาหารปลอดภัยรับประทาน ตามที่กรุงเทพมหานครได้มีประกาศเรื่องสั่งปิดสถานที่เป็นการชั่วคราว (ฉบับที่ 2) ลงวันที่ 21 มีนาคม 2563 จากสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา หรือโรคโควิด-19 โดยให้มีการปิดสถานที่ประเภทต่างๆ ในพื้นที่กรุงเทพมหานครเป็นการชั่วคราว ตั้งแต่วันที่ 22 มีนาคม ถึงวันที่ 12 เมษายน 2563 นั้น บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) ผู้ก่อตั้งร้านเซเว่น อีเลฟเว่นในประเทศไทย ขอแจ้งว่า ร้านเซเว่นฯ ทุกแห่งจะยังคงพยายามเปิดให้บริการตามปกติ 24 ชั่วโมงทั่วประเทศ เพื่ออำนวยความสะดวกและบรรเทาความเดือดร้อนแก่พี่น้องประชาชนในด้านสินค้าอุปโภคบริโภค เช่นอาหารข้าวกล่องพร้อมรับประทาน น้ำดื่ม และสินค้าที่จำเป็นในชีวิตประจำวัน สำหรับ ร้านเซเว่นฯ ในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานครยังคงเปิดตามปกติ แต่จะปิดเฉพาะพื้นที่นั่งหรือยืนรับประทานอาหารภายในร้านตามประกาศเท่านั้น บริษัทขอยืนยันว่าได้ดำเนินมาตรการรักษาความสะอาดถูกสุขอนามัย เพื่อป้องกันเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่ร้านเซเว่นฯ ทุกสาขามาต่อเนื่องอย่างเข้มงวดตามนโยบายกระทรวงสาธารณสุข และพร้อมยืนหยัดเคียงข้างชุมชนและพี่น้องประชาชนในช่วงเวลาที่ยากลำบากนี้ไปด้วยกัน

Read More

CPF พร้อมจับมือคนไทยฝ่าวิกฤตโควิด-19 มอบผลิตภัณฑ์อาหารให้กับโรงพยาบาลรัฐกว่า 40 แห่งทั่วประเทศ

กว่า 40 โรงพยาบาลทั่วประเทศได้รับอาหารปลอดภัยจากใจซีพีเอฟ พร้อมจับมือคนไทยฝ่าวิกฤตโควิด-19 ไปด้วยกัน โรงพยาบาลรัฐกว่า 40 แห่งทั่วประเทศได้รับมอบผลิตภัณฑ์อาหารปลอดภัย ใน โครงการ "CPF ส่งอาหารจากใจ ร่วมต้านภัย COVID -19 ไปด้วยกัน" ของบริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ และทยอยส่งมอบอาหารให้แก่ประชาชนที่อยู่เกณฑ์ต้องเฝ้าระวังไปแล้วกว่า 10,000 คน เพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือสังคมและประเทศไทยรอดพ้นวิกฤตโควิด-19 ซีพีเอฟ ได้ร่วมกับโรงพยาบาลของรัฐที่มีผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 ดำเนิน "โครงการ CPF ส่งอาหารจากใจร่วมต้านภัย COVID-19" ขึ้น เพื่อสนับสนุนอาหารคุณภาพปลอดภัยให้คณะแพทย์และเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ เพื่อเป็นกำลังใจแก่ผู้ที่เสียสละเป็นทัพหน้าในการปฏิบัติภารกิจในการดูแลรักษาผู้ป่วยอย่างทุ่มเทมาตลอดระยะเวลาเวลาเกือบ 2 เดือน และสนับสนุนอาหารแก่ประชาชนที่อยู่ในเกณฑ์ต้องเฝ้าระวังได้มีอาหารบริโภคอย่างเพียงพอในช่วงที่ต้องกักตัว ล่าสุด บริษัทฯ ได้เดินหน้าส่งมอบผลิตภัณฑ์อาหารปลอดภัย CP ให้โรงพยาบาลรัฐไปแล้วกว่า 40 แห่งทั่วประเทศ ได้แก่ โรงพยาบาลรามาธิบดี โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ โรงพยาบาลตำรวจ โรงพยาบาลราชวิถี โรงพยาบาลศิริราช สถาบันบำราศนราดูร

Read More

COVID-19 เชื้อฟืนเผาจริงเศรษฐกิจไทย?

แรงกดดันว่าด้วยการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาในนาม COVID-19 ที่กำลังดำเนินอยู่ในขณะนี้ ดูเหมือนว่าจะไม่ใช่ความท้าทายต่อความสามารถในการบริหารจัดการด้านการสาธารณสุขและมาตรการรับมือกับสถานการณ์ความเป็นไปของหน่วยงานภาครัฐแต่เพียงลำพังเท่านั้น หากแต่ผลของการแพร่ระบาดยังคุกคามชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คนในสังคมซึ่งกำลังนำไปสู่ new normal หรือวิถีชีวิตใหม่ในไม่ช้า ตลอดระยะเวลากว่า 2-3 เดือนนับตั้งแต่แรกเริ่มมีข่าวการแพร่ระบาดในประเทศจีน การประเมินความเสียหายอาจจะจำกัดวงอยู่เฉพาะในส่วนของการค้าและธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับจีนอย่างเป็นด้านหลัก หากแต่เมื่อข้อเท็จจริงของการแพร่ระบาดกระจายตัวไปสู่การประกาศให้ COVID-19 เป็น “ภาวะการระบาดใหญ่ทั่วโลก” (Pandemic) โดยองค์การอนามัยโลกในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา การประเมินความเสียหายทางเศรษฐกิจก็ขยายตัวไปสู่ความกังวลใจว่า COVID-19 จะเป็นปัจจัยลบที่ฉุดให้การฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกเป็นไปอย่างยากลำบากมากขึ้นไปอีก COVID-19 ซึ่งเป็นไวรัสสายพันธุ์ใหม่ ไม่เพียงแต่จะส่งผลร้ายทำลายร่างกายมนุษย์เท่านั้น แต่ยังทำลายเศรษฐกิจทั่วโลก เพราะโรงงานหลายแห่งในจีนที่มีบริษัทจากต่างประเทศได้ทุ่มเงินมหาศาลเข้าไปลงทุนทำกิจการต่างต้องปิดทำการชั่วคราว ขณะที่นักท่องเที่ยวชาวจีนซึ่งเป็นหัวใจหลักของการท่องเที่ยวในหลายๆ ประเทศก็ต่างชะลอตัวลงหลังรัฐบาลจีนประกาศห้ามประชาชนในประเทศออกไปท่องเที่ยว เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสที่รุนแรงไปมากกว่านี้ เหตุการณ์ดังกล่าวได้ส่งผลกระทบในรูปแบบของ domino effect ซึ่งในส่วนของประเทศไทยซึ่งมีกลไกการขับเคลื่อนเศรษฐกิจภายในประเทศอยู่ที่การท่องเที่ยว และพึ่งพานักท่องเที่ยวจีนอย่างเป็นด้านหลัก ทำให้เมื่อเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว ส่งผลให้อุตสาหกรรมท่องเที่ยวในประเทศไทยทรุดหนักถึงขั้นวิกฤต ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจโรงแรม ธุรกิจสายการบิน หรือแม้กระทั่งสถานที่ท่องเที่ยวหลายแห่งที่เคยมีนักท่องเที่ยวหนาแน่นต่างเงียบเหงาไร้ผู้คน และทำให้ผู้ประกอบการจำนวนไม่น้อยทนพิษไม่ไหวจนถึงขนาดที่ต้องยอมถอยและปิดกิจการลง กระนั้นก็ดี ผู้ประกอบการบางส่วนต่างพยายามประคับประคองและปรับตัวรับมือกับสถานการณ์ที่ต้องเผชิญอยู่เบื้องหน้า โดยธุรกิจสายการบินดูจะเป็นธุรกิจที่นอกจากจะได้รับผลกระทบอย่างหนักแล้ว ยังมีความเคลื่อนไหวเพื่อรองรับกับวิกฤตครั้งนี้อย่างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นการปรับลดเงินเดือนของผู้บริหารการบินไทยลงร้อยละ 15-25 ควบคู่กับการปรับลดค่าพาหนะลงร้อยละ 20-30 เป็นระยะเวลา 6 เดือนนับตั้งแต่ 1 มีนาคม 2653

Read More

LPP เดินหน้าแผนฉุกเฉินหลังพบเจ้าหน้าที่นิติบุคคลอาคารชุดติดเชื้อไวรัสโควิด-19

LPP เดินหน้าตามแผนปฏิบัติการส่งทีมฉุกเฉินปิดสำนักงานนิติบุคคลอาคารชุดโครงการลุมพีนี พาร์ค พระราม 9-รัชดา หลังพบเจ้าหน้าที่นิติบุคคลอาคารชุดของโครงการมีอาการไข้สูงและต่อมาแพทย์ยืนยันผลการตรวจว่าติดเชื้อโคโรนาไวรัสสายพันธ์ใหม่ 2019 (โควิด-19) เข้าสู่กระบวนการ Big Cleaning และปิดใช้งานเป็นเวลา 7 วัน เพื่อความปลอดภัยของเจ้าของร่วมและทีมงาน นางสาวสมศรี เตชะไกรศรี กรรมการผู้จัดการ บริษัท ลุมพีนี พรอพเพอร์ตี้ มาเนจเมนท์ จำกัด (LPP) บริษัทบริหารจัดการชุมชนในเครือ บริษัท แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า เมื่อวันที่ 15 มีนาคม 2563 เจ้าหน้าที่ดูแลนิติบุคคลอาคารชุดโครงการลุมพีนี พาร์ค พระราม 9-รัชดา มีอาการไข้สูง ได้เดินทางไปพบแพทย์ ซึ่งต่อมาแพทย์ได้ยืนยันผลการตรวจว่าพนักงานคนดังกล่าวติดเชื้อไวรัสโควิด-19 และได้แจ้งผลมายังบริษัท ทางบริษัทได้ดำเนินการตามแผนฉุกเฉินที่ได้มีการวางไว้ก่อนหน้าทันที โดยให้พนักงานคนดังกล่าวเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาล พร้อมกับได้แจ้งเรื่องตามกระบวนการถึงกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข เพื่อเข้าสู่กระบวนการสืบสวนหาสาเหตุของการติดเชื้อของพนักงานตามเส้นทางย้อนหลัง 7 วัน ตามมาตรฐานของกระทรวงสาธารณสุข ในขณะเดียวกันบริษัทได้ดำเนินการตามแผนปฏิบัติการฉุกเฉินโดยแจ้งเรื่องดังกล่าวให้กับคณะกรรมการนิติบุคคลอาคารชุดและเจ้าของร่วมของโครงการดังกล่าวให้ทราบข้อมูลที่เกิดขึ้น พร้อมดำเนินการปิดสำนักงานนิติบุคคลอาคารชุด

Read More

แกร็บสร้างความมั่นใจผู้บริโภค เปิดตัวการส่งอาหารแบบ “ไร้การสัมผัส” เพื่อป้องกันการแพร่กระจายไวรัสโควิด-19

แกร็บฟู้ด ผู้นำแพลตฟอร์มการสั่งอาหารผ่านแอปพลิเคชั่นในประเทศไทย ตอกย้ำความมุ่งมั่นในการให้ความสำคัญด้านสุขอนามัยของลูกค้า พาร์ทเนอร์ผู้ขับขี่และร้านอาหาร ในช่วงการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 เปิดตัวบริการการส่งอาหารรูปแบบใหม่ ไร้การสัมผัส หรือ Contactless Delivery เพื่อลดความเสี่ยงจากการสัมผัสติดต่อกันทางกายภาพระหว่างลูกค้าและพาร์ทเนอร์ผู้ขับขี่ พร้อมจับมือกับพาร์ทเนอร์ร้านอาหารยกระดับการดูแลความสะอาดในทุกขั้นตอนตั้งแต่การเตรียมอาหารและภาชนะในการบรรจุอาหาร แนะชำระเงินผ่านแกร็บเพย์ลดความเสี่ยงการสัมผัสเชื้อโรค ธรินทร์ ธนียวัน กรรมการผู้จัดการใหญ่ แกร็บ ประเทศไทย กล่าวว่า “แกร็บ ได้ติดตามและเฝ้าระวังสถานการณ์ไวรัส โควิด-19 อย่างใกล้ชิด พร้อมดำเนินมาตรการเพื่อป้องกันและส่งเสริมสุขอนามัยของผู้ที่เกี่ยวข้องอย่างครบวงจร โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ซึ่งส่งผลให้มีลูกค้าใช้บริการแกร็บฟู้ดเป็นจำนวนมาก เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าของเราท่ามกลางสถานการณ์ดังกล่าว แกร็บขอส่งมอบความห่วงใยผ่านการเปิดตัวบริการแบบไร้การสัมผัส หรือ Contactless Delivery ด้วยการเว้นระยะห่างที่เหมาะสมจากผู้อื่น (social distancing) ซึ่งสอดคล้องกับแนวทางการควบคุมโรคระบาดตามมาตรฐานสากล โดยได้เริ่มประกาศใช้มาตรการดังกล่าวตั้งแต่วันนี้ (20 มีนาคม 2563) นอกจากนี้ แกร็บยังได้ยกระดับการดูแลสุขอนามัยของพาร์ทเนอร์ผู้ขับขี่้ด้วยการจัดหาหน้ากากอนามัย รวมถึงร่วมกับพาร์ทเนอร์ร้านอาหารในการดูแลความสะอาดของการเตรียมอาหารและภาชนะที่ใช้ในการส่งอาหารด้วย” ผู้ขับขี่และผู้บริโภคสามารถปฏิบัติตามขั้นตอนแนะนำในการส่งอาหารแบบไร้การสัมผัสได้ ดังนี้ - ลูกค้าระบุจุดรับ-ส่งอาหาร ผ่านการส่งข้อความทางแชท - ผู้ขับขี่แกร็บฟู้ดแจ้งลูกค้าเมื่อเดินทางถึง เมื่อผู้ขับทำการส่งอาหารในจุดที่แจ้งไว้ให้วางอาหารไว้บนกระเป๋าส่งอาหารและรอให้ลูกค้าออกมารับโดยทิ้งระยะห่างระหว่างผู้ขับและลูกค้า 2 เมตร ซึ่งผู้ขับจะต้องหมั่น ทำความสะอาดหรือล้างมือก่อนสัมผัสบรรจุภัณฑ์เสมอ -

Read More

การคืนชีพของกล้องฟิล์ม แค่แฟชั่น หรือมนต์เสน่ห์

ภาพยนตร์เรื่อง “Walter Mitty ชีวิตพิศวงของวอลเตอร์มิตตี้” ที่เข้าฉายในประเทศไทยช่วงปลายปี 2013 เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับผู้จัดการแผนกฟิล์มเนกาทีฟในสำนักงานนิตยสาร Life ที่มักจะหลุดเข้าไปอยู่ในจินตนาการของตัวเองบ่อยๆ ประกอบกับในห้วงยามนั้น สถานการณ์วงการสิ่งพิมพ์ทั่วโลกกำลังก้าวเข้าสู่การเปลี่ยนแปลง การตีพิมพ์นิตยสาร Life ฉบับสุดท้ายและฟิล์มภาพสำคัญ ทำให้เขาต้องออกเดินทาง เรื่องราวของวอลเตอร์ มิตตี้ ในภาพยนตร์เรื่องนี้ทำให้ “ผู้จัดการ 360 องศา” มองรอบตัวที่ถูกล้อมรอบไปด้วยตู้เก็บฟิล์มภาพถ่ายสำคัญๆ ที่ถูกใช้ตีพิมพ์ลงในนิตยสาร หนังสือพิมพ์ สำหรับบางคนอาจมองว่า สิ่งเหล่านี้มันก็แค่ขยะเก่าๆ เท่านั้น ทว่า เรื่องราว เหตุการณ์ที่ถูกบันทึกอยู่ในม้วนฟิล์มเหล่านี้ ยังคงทรงคุณค่าอยู่เสมอ การเปลี่ยนแปลงของโลกโดยเฉพาะด้านเทคโนโลยีอันล้ำสมัย ที่มีบทบาทในชีวิตประจำวันของผู้คน โลกทั้งใบแทบจะถูกย่อส่วนลงมาบรรจุอยู่ในอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ให้เราได้สืบค้นและเปิดโลกทัศน์ และความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีนี่เองที่ทำให้อะไรหลายอย่างที่เคย “เฟี้ยวฟ้าว” หรือ “เจ๋งโคตร” ในอดีตถูกกลบไปด้วยฝุ่นแห่งกาลเวลา แต่แน่นอนว่า แท้จริงแล้วทุกสิ่งทุกอย่างไม่ได้จางหายไปอย่างไร้ร่องรอย เพราะลึกๆ ในก้นบึ้งหัวใจของทุกคนล้วนแล้วแต่มีพื้นที่ส่วนหนึ่งไว้บันทึกความทรงจำที่ชวนประทับใจในวัยหวาน วัยเยาว์ ให้เราได้ระลึกถึงได้เสมอ เหมือนลิ้นชักที่เราเก็บซ่อนความทรงจำที่งดงามและมีค่าเอาไว้ ขณะที่ความทรงจำเหล่านั้นกลับนอนอย่างสงบนิ่ง อดทน ซื่อสัตย์ เพียงเพื่อรอให้เจ้าของความทรงจำเปิดออกมาทบทวนห้วงเวลานั้นอีกสักครั้ง ในยุคหนึ่ง กล้อง ฟิล์มและภาพถ่ายคืออีกหนึ่งในเครื่องบันทึกความทรงจำ เชื่อว่าหลายครอบครัวต้องมีกล้องฟิล์มไว้ในครอบครองอย่างน้อยๆ หนึ่งตัว

Read More

เซ็นทรัลพัฒนา ชวนไทยอุดหนุนไทย ช้อป & ชมกล้วยไม้ 1 ล้านช่อ เปิดพื้นที่ฟรีช่วยเกษตรกร

“เซ็นทรัลพัฒนา” หนุนเศรษฐกิจไทย เปิดพื้นที่ฟรีช่วยเกษตรกร ชวนไทยอุดหนุนไทย ช้อป & ชมกล้วยไม้ 1 ล้านช่อ พร้อมเตรียมแผนช่วยผู้ประกอบการอีกหลายรายทั่วประเทศ บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) ผู้พัฒนาและบริหารศูนย์การค้าชั้นนำของไทย เดินหน้ากระตุ้นเศรษฐกิจไทยตั้งแต่ฐานราก เปิดพื้นที่ฟรีภายในศูนย์การค้าให้เกษตรกรและผู้ประกอบการได้จัดจำหน่ายผลิตผลและสินค้าคุณภาพดี ประเดิมจัดกิจกรรม “โครงการกระจายดอกกล้วยไม้ 1 ล้านช่อเพื่อเกษตรกรไทย” โดยจับมือร่วมกับ จังหวัดนครปฐม สำนักงานพานิชย์จังหวัดนครปฐม สำนักงานเกษตรจังหวัดนครปฐม กลุ่มเกษตรกรแปลงใหญ่กล้วยไม้จังหวัดนครปฐม สมาคมเกษตรกรผู้ประกอบการสวนกล้วยไม้ไทย และสหกรณ์ผู้ประกอบการกล้วยไม้ จำกัด พร้อมแผนผลักดันเศรษฐกิจต่อเนื่องช่วยสนับสนุนผู้ประกอบการและเศรษฐกิจรายย่อยในทุกภูมิภาค เตรียมจับมือหน่วยงานรัฐช่วยกระจายสินค้าและผลิตภัณฑ์เพื่อสร้างรายได้และเงินหมุนเวียนในประเทศ กระตุ้นไทยช่วยไทย ชุมชนรอด เศรษฐกิจชาติรอด สร้างแรงกระเพื่อมเศรษฐกิจไทยโตต่อเนื่องทั่วประเทศ ลุยจัดกิจกรรมเปิดพื้นที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลฯ 33 สาขาทั่วประเทศ ดึงเกษตรกรและผู้ประกอบการรายย่อยได้มีพื้นกระจายสินค้าคุณภาพสู่คนไทย ดร. ณัฐกิตติ์ ตั้งพูลสินธนา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการตลาด บมจ. เซ็นทรัลพัฒนา กล่าวว่า “ตอนนี้สิ่งสำคัญที่สุดที่ทุกคนจะช่วยกันได้คือ การร่วมแรงร่วมใจที่จะช่วยกันฟื้นฟูให้สถานการณ์ของประเทศในขณะนี้กลับมาแข็งแกร่งอีกครั้ง ในฐานะภาคเอกชน เซ็นทรัลพัฒนาเองเป็น Eco-System

Read More

ผลกระทบจาก Covid-19

Column: FROM PARIS ยุคที่เศรษฐกิจญี่ปุ่นเฟื่องฟู นักท่องเที่ยวญี่ปุ่นเต็มกรุงปารีส แล้วก็มาถึงยุคจีนเปิดประเทศ และเศรษฐกิจเติบโต ชาวจีนพ้นจากความยากจน เริ่มอยากใช้เงิน จึงสรรหาสินค้าต่างประเทศ แล้วพัฒนาไปถึงสินค้าแบรนด์เนม นักท่องเที่ยวจีนคลาคล่ำเต็มห้างสรรพสินค้าในกรุงปารีส และบูติกแบรนด์เนมทั้งหลาย แรกทีเดียว บรรดาแบรนด์เนมรังเกียจนักท่องเที่ยวชาวจีน หลุยส์ วุตตง ถึงกับขายสินค้าให้นักท่องเที่ยวจีนคนละหนึ่งชิ้นเท่านั้น เพราะเกรงชาวจีนซื้อไปก๊อบปี้ออกมาขาย ทำเอานักท่องเที่ยวจีนมองหาใครก็ได้ที่จะอนุเคราะห์ซื้อให้ เคยได้รับการทาบทามขณะเดินเล่นในห้างกาเลอรีส์ ลาฟาแยต แต่ปฏิเสธไป กาลเวลาผ่านไป จำนวนนักท่องเที่ยวจีนเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว และเป็นผู้มีกำลังซื้ออย่างแท้จริง แบรนด์เนมทั้งหลายจึงเปิดกว้าง ซื้อได้ไม่อั้น ตามห้างสรรพสินค้า ชาวจีนเข้าแถวรอซื้อแบรนด์เนม ยี่ห้อยอดนิยมคือ หลุยส์ วุตตง ชาแนล กุชชี รองลงมาคือลงชองป์ นอกจากสินค้าแฟชั่นแล้ว การหลั่งไหลมาของนักท่องเที่ยวจีนยังประโยชน์แก่ธุรกิจโดยรวม โดยเฉพาะอย่างยิ่งโรงแรมและร้านอาหาร เมื่อเกิดโรคระบาด Covid-19 จีนปิดประเทศ ห้ามชาวจีนเดินทางออกนอกประเทศ นั่นย่อมกระทบเศรษฐกิจโลก ฝรั่งเศสเป็นประเทศที่เป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวจีน เมื่อไร้ซึ่งชาวจีนแล้ว ห้างร้านเงียบเหงา เศรษฐกิจฝรั่งเศสเสียหายถึงสองพันล้านยูโร ห้างสรรพสินค้ากาเลอรีส์ ลาฟาแยตรับทัวร์เป็นหลัก จึงเต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวจีนในทุกแผนก มากจนต้องจัดแผนกรับลูกค้าชาวจีนโดยเฉพาะ ในวันนี้กาเลอรีส์ ลาฟาแยตหาหน้าเอเชียแทบไม่ได้เลย ห้างจึงค่อนข้างร้างจนน่าตกใจ

Read More

สตาร์บัคส์งดรับแก้วส่วนตัวและเสิร์ฟภาชนะ To-go ชั่วคราว เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19

สตาร์บัคส์ รณรงค์ลดการสัมผัสโดยตรงต่างๆ พร้อมงดรับแก้วส่วนตัวและเสิร์ฟภาชนะ To-go ชั่วคราว เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 สตาร์บัคส์ คอฟฟี่ (ประเทศไทย) แจงมาตรการร่วมรณรงค์ป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 ประกาศของดรับแก้วส่วนตัวชั่วคราว และจะเริ่มใช้ภาชนะเสิร์ฟอาหารในร้านแบบ To-go พร้อมงดวางที่ปรุงเครื่องดื่ม แต่ให้บาริสต้าบริการตามคำขอ ที่ร้านสตาร์บัคส์ทุกสาขาทั่วประเทศ โดยจะทยอยเริ่มตั้งแต่วันที่ 17 มีนาคม นี้เป็นต้นไป จนกว่าจะมีการประกาศการเปลี่ยนแปลง อย่างไรก็ดี กรณีที่ลูกค้านำแก้วส่วนตัวมาแสดงที่ร้าน จะยังคงได้รับส่วนลด 10 บาท ต่อ 1 แก้วเช่นเดิม นอกจากนี้ ยังแนะนำให้ลูกค้าเลือกซื้อเครื่องดื่มผ่านบริการไดร์ฟทรูว์ และเดลิเวอรี่ เพื่อลดการเดินทางไปยังที่สาธารณะ หรือกรณีทำงานจากบ้าน คุณเนตรนภา ศรีสมัย กรรมการผู้จัดการ สตาร์บัคส์ คอฟฟี่ (ประเทศไทย) กล่าวว่า “ด้วยความห่วงใยในสุขภาพของลูกค้าทุกท่านและพาร์ทเนอร์ทุกคนในสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 นี้ สตาร์บัคส์ได้มีมาตรการเพื่อลดการสัมผัสโดยตรง (Contactless) ซึ่งอาจทำให้ประสบการณ์สตาร์บัคส์ที่คุ้นเคยแตกต่างไปจากเดิมบ้าง จึงขออภัยในความไม่สะดวกมา ณ ที่นี้

Read More