Home > Grab Food

Food Delivery ขยายตัว แข่งขันสูง กำเนิดผู้เล่นหน้าใหม่

“อาหารไม่ว่าอย่างไรก็ยังขาย” คำกล่าวนี้ไม่เกินไปเลยสักนิด เมื่ออาหารเป็นปัจจัยสำคัญในการดำรงmชีวิตของมนุษย์ ไม่ว่าสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในปัจจุบันจะส่งผลให้การดำเนินชีวิตของประชาชนเปลี่ยนแปลงไปเพียงใดก็ตาม จึงไม่น่าแปลกใจที่ธุรกิจอาหาร และธุรกิจที่เกี่ยวข้องจะมีโอกาสขยายตัวในอัตราที่สูงกว่าธุรกิจหรืออุตสาหกรรมอื่นๆ ในยามที่โลกเผชิญกับเชื้อไวรัสโควิด-19 เป็นระยะเวลากว่าหนึ่งปี มูลค่าธุรกิจร้านอาหารของไทยในแต่ละปีสูงถึงหลักแสนล้านบาท นับเป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่มีการแข่งขันกันสูงมาก และจะมีนักลงทุนหน้าใหม่กระโจนเข้าใส่ตลาดนี้อย่างต่อเนื่อง เมื่อส่วนแบ่งการตลาดสูงจนน่าเสี่ยง ธุรกิจร้านอาหารเป็นหนึ่งในธุรกิจที่มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อภาคบริการและเศรษฐกิจของประเทศ ด้วยมูลค่าหมุนเวียนที่ไม่ต่ำกว่า 4 แสนล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 4.7 ของภาคบริการทั้งหมดของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ แน่นอนว่า ไวรัสโคโรนา 2019 สร้างผลกระทบอย่างมหาศาล ผู้ประกอบการร้านอาหารบางรายที่มีอัตราการขยายสาขาอย่างรวดเร็ว ทยอยปิดตัวลงในอัตราที่ไม่ต่างกันตามสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส เนื่องจากต้องแบกภาระค่าใช้จ่ายต่อเดือนในจำนวนที่สูงมาก ในขณะที่รายรับกลับเดินสวนทาง โดยศูนย์วิจัยกสิกรไทยเคยคาดการณ์ไว้ว่า ธุรกิจร้านอาหารในปี 2563 จะมีมูลค่าเพียง 3.85-3.89 แสนล้านบาท หรือหดตัวประมาณ 9.7-10.6 เปอร์เซ็นต์ จากปีที่ผ่านมาและถือเป็นการพลิกกลับมาหดตัวครั้งแรกในรอบ 8 ปี ผู้ประกอบการร้านอาหารจำนวนมากปรับตัวไปตามสถานการณ์ พร้อมทั้งคว้าโอกาสในการขยายฐานลูกค้าด้วยการเปิดบริการสั่งอาหารทางออนไลน์ ซึ่งการเปิดหน้าสู้ในศึกครั้งนี้ของธุรกิจร้านอาหาร ส่งผลให้ธุรกิจ Food Delivery เติบโตอย่างต่อเนื่อง มีการประเมินจากยูโรมอนิเตอร์ว่า มูลค่าตลาดรวมของ Food Delivery ในประเทศไทยพบว่า ในปี 2563 มูลค่าตลาดรวมอยู่ที่ 68,000 ล้านบาท นอกจากนี้

Read More

แกร็บสร้างความมั่นใจผู้บริโภค เปิดตัวการส่งอาหารแบบ “ไร้การสัมผัส” เพื่อป้องกันการแพร่กระจายไวรัสโควิด-19

แกร็บฟู้ด ผู้นำแพลตฟอร์มการสั่งอาหารผ่านแอปพลิเคชั่นในประเทศไทย ตอกย้ำความมุ่งมั่นในการให้ความสำคัญด้านสุขอนามัยของลูกค้า พาร์ทเนอร์ผู้ขับขี่และร้านอาหาร ในช่วงการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 เปิดตัวบริการการส่งอาหารรูปแบบใหม่ ไร้การสัมผัส หรือ Contactless Delivery เพื่อลดความเสี่ยงจากการสัมผัสติดต่อกันทางกายภาพระหว่างลูกค้าและพาร์ทเนอร์ผู้ขับขี่ พร้อมจับมือกับพาร์ทเนอร์ร้านอาหารยกระดับการดูแลความสะอาดในทุกขั้นตอนตั้งแต่การเตรียมอาหารและภาชนะในการบรรจุอาหาร แนะชำระเงินผ่านแกร็บเพย์ลดความเสี่ยงการสัมผัสเชื้อโรค ธรินทร์ ธนียวัน กรรมการผู้จัดการใหญ่ แกร็บ ประเทศไทย กล่าวว่า “แกร็บ ได้ติดตามและเฝ้าระวังสถานการณ์ไวรัส โควิด-19 อย่างใกล้ชิด พร้อมดำเนินมาตรการเพื่อป้องกันและส่งเสริมสุขอนามัยของผู้ที่เกี่ยวข้องอย่างครบวงจร โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ซึ่งส่งผลให้มีลูกค้าใช้บริการแกร็บฟู้ดเป็นจำนวนมาก เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าของเราท่ามกลางสถานการณ์ดังกล่าว แกร็บขอส่งมอบความห่วงใยผ่านการเปิดตัวบริการแบบไร้การสัมผัส หรือ Contactless Delivery ด้วยการเว้นระยะห่างที่เหมาะสมจากผู้อื่น (social distancing) ซึ่งสอดคล้องกับแนวทางการควบคุมโรคระบาดตามมาตรฐานสากล โดยได้เริ่มประกาศใช้มาตรการดังกล่าวตั้งแต่วันนี้ (20 มีนาคม 2563) นอกจากนี้ แกร็บยังได้ยกระดับการดูแลสุขอนามัยของพาร์ทเนอร์ผู้ขับขี่้ด้วยการจัดหาหน้ากากอนามัย รวมถึงร่วมกับพาร์ทเนอร์ร้านอาหารในการดูแลความสะอาดของการเตรียมอาหารและภาชนะที่ใช้ในการส่งอาหารด้วย” ผู้ขับขี่และผู้บริโภคสามารถปฏิบัติตามขั้นตอนแนะนำในการส่งอาหารแบบไร้การสัมผัสได้ ดังนี้ - ลูกค้าระบุจุดรับ-ส่งอาหาร ผ่านการส่งข้อความทางแชท - ผู้ขับขี่แกร็บฟู้ดแจ้งลูกค้าเมื่อเดินทางถึง เมื่อผู้ขับทำการส่งอาหารในจุดที่แจ้งไว้ให้วางอาหารไว้บนกระเป๋าส่งอาหารและรอให้ลูกค้าออกมารับโดยทิ้งระยะห่างระหว่างผู้ขับและลูกค้า 2 เมตร ซึ่งผู้ขับจะต้องหมั่น ทำความสะอาดหรือล้างมือก่อนสัมผัสบรรจุภัณฑ์เสมอ -

Read More