Home > Kerry Express

เคอรี่-ไปรษณีย์ไทย ปูพรมพรึ่บ สกัดหน้าใหม่

สงครามธุรกิจโลจิสติกส์ บริการส่งพัสดุแบบด่วนหรือ “Express” ร้อนเดือดขึ้นหลายเท่า เพราะหลังจากกลุ่ม “อาลีบาบา” ของมหาเศรษฐีระดับโลก “แจ็ค หม่า” ทุ่มทุนดัน “Best Express - Flash Express” 2 แบรนด์ธุรกิจขนส่งสินค้าเข้ามาเจาะตลาดโลจิสติกส์ในไทยเมื่อปลายปีที่ผ่านมา ล่าสุด น้องใหม่ J&T Express จากประเทศจีน เตรียมเปิดตัวอย่างเป็นทางการในเร็วๆ นี้ พร้อมๆ กับการเร่งปูพรมสาขาทั่วเมือง ที่สำคัญ หลายทำเลกลายเป็นสมรภูมิช้างชนช้าง ชนิดคูหาติดคูหา ร้านชนร้าน จนทำให้ทั้งไปรษณีย์ไทยและเคอรี่เอ็กซ์เพรส ต้องเร่งปูพรมสาขาสกัดคู่แข่งหน้าใหม่อย่างเร่งด่วน ไม่นับการชูจุดแข็งด้านบริการทุกรูปแบบ เหตุผลสำคัญมาจากแนวโน้มการขยายตัวของตลาดขนส่งสินค้าและพัสดุที่พุ่งพรวดต่อเนื่องตามธุรกิจอีคอมเมิร์ซที่เติบโตก้าวกระโดด โดยข้อมูลการสำรวจของสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) หรือ ETDA คาดการณ์มูลค่าตลาดอี-คอมเมิร์ชของประเทศไทยในปี 2562 จะพุ่งสูงถึง 3.2 ล้านล้านบาท หรือเติบโต 12-13% จากปี 2561 ที่มีมูลค่าตลาดรวมประมาณ 3.15 ล้านล้านบาท และปี 2560

Read More

โลจิสติกส์ไทยสุดคึก รับกระแสอี-คอมเมิร์ซบูม

การมาถึงของอาลีบาบากรุ๊ป พร้อมกับบันทึกข้อตกลงที่จะลงทุนในระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ด้วยมูลค่ารวมกว่า 1.1 หมื่นล้านบาท ดูจะเป็นแรงกระตุ้นเร้าภาคธุรกิจและจุดประเด็นความหวังของรัฐบาลไทยที่จะนำธุรกิจอี-คอมเมิร์ซไทยให้ก้าวหน้าไปตามนโยบายพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลที่มุ่งหมายไม่น้อยเลย ขณะเดียวกันกรณีดังกล่าวได้ส่งผลให้ภาคธุรกิจว่าด้วยการขนส่งสินค้าและโลจิสติกส์ได้รับอานิสงส์จากการเปลี่ยนแปลงด้านเทคโนโลยี ที่กำลังรุกเร้าและปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตผู้คนในสังคมด้วยอัตราเร่ง อย่างก้าวกระโดด และดำเนินไปท่ามกลางสีสันที่น่าสนใจอย่างยิ่ง และกำลังส่งผลให้ภูมิทัศน์ของธุรกิจปรับเปลี่ยนและเกิดภาพใหม่ที่แปลกแตกต่างไปจากเดิม แผนการก่อสร้างโครงการ Smart Digital Hubในพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) มูลค่าลงทุนกว่า 11,000 ล้านบาท ของ “อาลีบาบา” ที่จะเริ่มก่อสร้างภายในปี 2561-2562 ซึ่งเป็นโครงการที่จะอาศัยเทคโนโลยีด้านการประมวลข้อมูลโลจิสติกส์ เพื่อทำให้การขนส่งสินค้าระหว่างไทย-จีน การขนส่งสินค้าข้ามพรมแดนสู่ประเทศเพื่อนบ้าน (CLMV) และไปยังที่อื่นๆ ทั่วโลก ที่ได้รับการคาดหวังว่าจะทำให้ประเทศไทยทะยานไปสู่ความเป็นศูนย์กลางการค้า “อี-คอมเมิร์ซ” ได้ไม่ยาก และคาดหวังว่าจะกรุยทางให้ไทยก้าวไปสู่ศูนย์กลางการขนส่งและโลจิสติกส์ในอนาคต สำนักงานพัฒนาธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) หรือ ETDA ได้ประเมินมูลค่าการซื้อขายผ่านออนไลน์ในปี 2561 ว่าจะพุ่งทะยานเพิ่มขึ้นไปสู่ระดับที่มีมูลค่าเกิน 3 ล้านล้านบาท จากปีก่อนหน้าที่อยู่ในระดับ 2.4 ล้านล้านบาท ซึ่งกรณีที่ว่านี้จะทำให้ธุรกิจโลจิสติกส์และการขนส่งสินค้ากลายเป็นธุรกิจดาวรุ่งพุ่งแรงที่น่าจับตามอง และมีการแข่งขันสูง ด้วยเหตุที่การจัดการขนส่งสินค้าจากผู้ขายไปถึงมือผู้ซื้อยังคงต้องพึ่งพาการขนส่งสินค้าเป็นหลัก ผู้ประกอบการโลจิสติกส์ทั้งที่เป็นผู้ประกอบการท้องถิ่นของไทยและจากต่างประเทศต่างทยอยสร้างฐานการให้บริการเพื่อรองรับและเก็บเกี่ยวอานิสงส์ของธุรกิจค้าออนไลน์ที่เติบโตแบบก้าวกระโดด โดยนอกจากบริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด (ปณท.)

Read More