วันอาทิตย์, เมษายน 28, 2024
Home > Cover Story > เปิดขุมทรัพย์ PTG 8 กลุ่มธุรกิจ รายได้แสนล้าน

เปิดขุมทรัพย์ PTG 8 กลุ่มธุรกิจ รายได้แสนล้าน

หลังใช้เวลาโลดแล่นในวงการมากกว่า 3 ทศวรรษ “พีทีจี เอ็นเนอยี” เร่งเดินหน้าโรดแมป PTG Business Outlook : Drive for Tomorrow ตามแผนทรานส์ฟอร์มธุรกิจจาก Oil-Non oil เป็นธุรกิจ Co-Create Ecosystem รุกอุตสาหกรรมในอนาคต เพื่อผลักดันสัดส่วนกำไรจาก Non-oil สู่ระดับ 50% และขึ้นแท่นเป็น Global Company

โดยเฉพาะปีนี้ พีทีจีทุ่มเงินลงทุนลุยยกระดับสถานีบริการน้ำมันแบรนด์ PT และยกระดับบริการที่เรียกว่า PT Service Master ใน 3 มิติ ตั้งแต่การขยายสาขาครบ 2,206 สาขา การตั้ง PT Service Master ให้คำแนะนำลูกค้า มี Max Camp ให้ลูกค้าได้เข้าพักผ่อนระหว่างการเดินทาง และการรวบรวมความต้องการของกลุ่มลูกค้าต่าง ๆ ผ่านฐานสมาชิก Max Card, Max Card Plus, Max Me และ Max Enterprise Connect เพื่อนำเสนอ Data-Driven Offerings and Promotions ให้โดนใจลูกค้ามากที่สุด

ต้องถือว่า PT Max Camp เป็นแม็กเน็ตและกลยุทธ์ใหม่ เพื่อเอาชนะคู่แข่ง เพราะภายในแคมป์มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบ ทั้งห้องอาบน้ำ เตียงนอน ทีวี เครื่องซักผ้า โดยลูกค้าที่เป็นสมาชิกสามารถใช้บริการได้ฟรีและเปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมติดตั้งกล้องวงจรปิด เพื่อความปลอดภัย โดยล่าสุดเปิดอยู่ในสถานีบริการน้ำมัน 64 แห่งและวางแผนขยายเป็น 141 สถานี ภายในปี 2570

ขณะที่ฐานสมาชิก Max Card ล่าสุดอยู่ที่ 19 ล้านสมาชิก และจะขยายเป็น 30 ล้านสมาชิกในอีก 5 ปีข้างหน้า เพราะ Max Card และ Max Card Plus เป็นเครื่องมือวิเคราะห์พฤติกรรมลูกค้า เพิ่มยอดขาย และเพิ่มความถี่ของการเข้ามาใช้บริการธุรกิจในเครือเพิ่มมากขึ้น

อย่างไรก็ตาม การลุยเป้าหมายเหล่านี้ไม่ใช่เรื่องยากและเหมือนพีทีจีกำลังเข้าใกล้ความสำเร็จ แต่นั่นไม่ใช่เรื่องง่ายเช่นกัน ท่ามกลางสมรภูมิดุเดือดที่มีคู่แข่งยักษ์ใหญ่ ทั้ง ปตท. และบางจาก ซึ่งล่าสุด บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ทำบิ๊กดีลซื้อหุ้น 65.99% ในบริษัท เอสโซ่ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) (ESSO) จาก ExxonMobil มูลค่ากว่า 5.55 หมื่นล้านบาท

แต่หากมองเส้นทางมากกว่า 30 ปีของพีทีจี เริ่มจากกลุ่มนักธุรกิจเจ้าของกิจการคลังน้ำมันและค้าน้ำมันจับมือกันก่อตั้งบริษัท ภาคใต้เชื้อเพลิง จำกัด นำเข้าน้ำมันจากต่างประเทศมาจำหน่ายให้ลูกค้า ซึ่งมีกลุ่มลูกค้าหลักเป็นเรือประมงและอุตสาหกรรมในพื้นที่ภาคใต้ โดยมีคลังน้ำมัน 2 แห่ง คือ คลังน้ำมันชุมพร ใน อ. เมืองชุมพร จ. ชุมพร และคลังน้ำมันแม่กลอง ใน อ. เมือง จ. สมุทรสงคราม

ปี 2535 จึงเริ่มธุรกิจสถานีบริการน้ำมัน ตั้งบริษัทลูกชื่อ บริษัท ปิโตรเลียมไทยคอร์ปอเรชั่น จำกัด และจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเมื่อปี 2538 เปลี่ยนจาก บริษัท ภาคใต้เชื้อเพลิง จำกัด เป็น บริษัท ภาคใต้เชื้อเพลิง จำกัด (มหาชน) และเปลี่ยนชื่อ เป็น บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) ในปี 2554

เทียบกันหมัดต่อหมัด ไทม์ไลน์และประสบการณ์ บริษัทน้ำมันสายพันธุ์ไทยทั้ง 3 ค่าย ชั้นเชิงไม่แตกต่างกัน

ปัจจุบันอาณาจักรพีทีจีมีมูลค่าสินทรัพย์มากกว่า 4.5 หมื่นล้าน ปี 2565 มีรายได้รวมกว่า 179,785 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าที่มีรายได้ 134,088.17 ล้านบาท และขยายเสาหลักทางธุรกิจ ก้าวข้ามการเป็นเพียงบริษัท Oil and Gas ได้ 8 กลุ่มแล้ว ประกอบด้วยกลุ่มธุรกิจน้ำมันเชื้อเพลิงและธุรกิจค้าปลีก กลุ่มธุรกิจจำหน่ายแก๊ส LPG กลุ่มธุรกิจพลังงานทดแทนและการลงทุน กลุ่มธุรกิจขนส่ง กลุ่มธุรกิจบริหารและจัดการระบบ กลุ่มธุรกิจเครื่องดื่มและอาหาร กลุ่มธุรกิจ Auto Care Services และกลุ่มธุรกิจบริการเงินอิเล็กทรอนิกส์ (e-Money)

หากไล่ตั้งแต่กลุ่มธุรกิจน้ำมันเชื้อเพลิงและธุรกิจค้าปลีก มีสถานีบริการ PT ใน 2 ลักษณะ คือ สถานีบริการน้ำมันที่เป็นกรรมสิทธิ์ของบริษัท (Company Owned Company Operated) หรือ COCO โดยดำเนินการภายใต้ บริษัท ปิโตรเลียมไทยคอร์ปอเรชั่น จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อย และสถานีบริการน้ำมันที่เป็นของผู้ประกอบการที่ได้รับสิทธิ์จากบริษัท (Dealer Owned Dealer Operated) หรือ DODO โดยสถานีบริการน้ำมันประเภท DODO

ส่วนธุรกิจค้าปลีก ซึ่ง PTC เป็นผู้ลงทุนและดำเนินการ ได้แก่ ธุรกิจร้านสะดวกซื้อ PT Mart และ Max Mart ในสถานีบริการ PT

2. กลุ่มธุรกิจจำหน่ายแก๊ส LPG ภายใต้ บริษัท แอสลาส เอ็นเนอยี จำกัด และบริษัท โอลิมปัส ออยล์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยเช่นกัน โดยเริ่มเข้ามาขยายธุรกิจการจำหน่าย LPG สำหรับภาคครัวเรือนและภาคอุตสาหกรรมเมื่อปี 2563 ปัจจุบันมีโรงบรรจุ 1 แห่ง จุดให้บริการร้านจำหน่ายก๊าซ LPG บรรจุถังในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล 99 สาขา และวางแผนให้บริการไปยังภูมิภาคอื่นทั่วประเทศ

3. ธุรกิจพลังงานทดแทนและการลงทุน ซึ่งถือเป็นพอร์ตใหม่ เพื่อปิดความเสี่ยงเรื่องการขาดแคลนพลังงานจากปิโตรเลียมในอนาคต ทั้งธุรกิจพลังงานไบโอดีเซล ธุรกิจพลังงานเอทานอล และธุรกิจโรงงานไฟฟ้าจากขยะ

4. กลุ่มธุรกิจขนส่ง หรือ พีทีจี โลจิสติกส์-ธุรกิจขนส่ง และคลังสินค้าและศูนย์จำหน่ายสินค้า เป็นเจ้าของกองรถบรรทุกน้ำมันขนาดใหญ่ ทำหน้าที่จัดส่งน้ำมันให้ปั๊ม COCO และลูกค้ากลุ่มธุรกิจค้าส่งน้ำมันเชื้อเพลิงที่สั่งซื้อน้ำมันจากบริษัท 5. กลุ่มธุรกิจบริหารและจัดการระบบ โดยตั้งบริษัท อินโนลิเจนท์ ออโตเมชั่น จำกัด หรือ INA รองรับธุรกิจสถานีบริการน้ำมัน สถานีบริการแก๊ส LPG ธุรกิจค้าปลีก และธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม ซึ่งโดยส่วนใหญ่สาขาของธุรกิจดังกล่าวตั้งอยู่ในสถานีบริการของบริษัท

6. กลุ่มธุรกิจเครื่องดื่มและอาหาร โดยลงทุนและดำเนินการธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม ภายใต้ 2 แบรนด์หลัก คือ ร้านกาแฟพันธุ์ไทย ซึ่งเปิดให้บริการภายในปั๊ม PT และนอกปั๊ม PT เช่น ท่าอากาศยานนานาชาติดอนเมือง ห้างสรรพสินค้าและไฮเปอร์มาร์เกต

อีกแบรนด์ คือ คอฟฟี่ เวิลด์ บริหารงานภายใต้ บริษัท จี เอฟ เอ คอร์ปอเรชั่น (ไทยแลนด์) จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัท กาแฟพันธุ์ไทย จำกัด โดยวางตำแหน่งทางการตลาดเป็นกาแฟระดับพรีเมียม เน้นเจาะกลุ่มคนในเมือง คนรุ่นใหม่กำลังซื้อสูง เน้นทำเลห้างสรรพสินค้า คอมมูนิตี้มอลล์ และสนามบิน

นอกจากนั้น มีร้านไอศกรีมคุณภาพระดับพรีเมียม แบรนด์ ครีม แอนด์ ฟัดจ์ (Cream & Fudge) ร้านแซนด์วิช นิวยอร์ก ฟิฟท์อเวนิว เดลี (New York 5th Av. Deli) ที่ให้บริการแซนด์วิชหลากหลายรูปแบบระดับพรีเมียม และร้านไทย เชฟ เอ็กเพรส เน้นเมนูอาหารจานเดียว

7. ธุรกิจบำรุงรักษาและซ่อมแซมรถยนต์ โดยร่วมทุนกับบริษัท ออโต้แบคส์ เซเว่น จำกัด ประเทศญี่ปุ่น เปิด AUTOBACS ทั้งใน-นอกสถานีบริการ

กลุ่มสุดท้าย ธุรกิจการบริการเงินอิเล็กทรอนิกส์ (e-Money) ภายใต้บริษัท แมกซ์ การ์ด จำกัด และ บริษัท แมกซ์ โซลูชัน เซอร์วิส จำกัด เน้นวางระบบการเงินอิเล็กทรอนิกส์ ผ่านแอปพลิเคชัน PT Max Rewards เพื่อดูแลลูกค้าสมาชิกบัตร PT Max Card และออกแบบสิทธิประโยชน์ เช่น การสะสมคะแนนผ่านทุกยอดการซื้อสินค้าและบริการ ร้านอาหารและเครื่องดื่มในเครือ และการแลกคะแนนสะสมระหว่างพาร์ตเนอร์ประมาณ 100 ร้านค้า

พิทักษ์ รัชกิจประการ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ปี 2566 บริษัทตั้งงบลงทุน 5,000-6,000 ล้านบาท แบ่งเป็นธุรกิจน้ำมัน 1,000-1,500 ล้านบาท เพื่อขยายสถานีบริการน้ำมันและก๊าซ LPG เพิ่มขึ้น 80-120 แห่ง รีโนเวตสถานีเดิมเพื่อเพิ่มสาขาในกลุ่มนอนออยล์ ทั้งร้านกาแฟพันธุ์ไทย ร้านสะดวกซื้อ Max Mart และศูนย์ Autobacs เข้าไปในสถานีบริการน้ำมันได้

ขณะเดียวกันตั้งงบลงธุรกิจกลุ่มนอนออยล์ 2,000-2,500 ล้านบาท และธุรกิจใหม่ๆ อีก 1,500-2,000 ล้านบาท เพื่อแตกไลน์เพิ่มเติมจาก 8 กลุ่มด้วย.