วัตสัน เผยทิศทางธุรกิจ ประจำปี 2567 เน้นขยายการเติบโต รวมถึงการนำความยั่งยืนมาใช้ผสานในการพัฒนาส่วนต่างๆ ของธุรกิจเพิ่มมากขึ้น พร้อมชูกลยุทธ์การชอปปิ้งออฟไลน์และออนไลน์ (O+O) เพื่อส่งเสริมการมีส่วนร่วมของลูกค้า รวมถึงการต่อยอดให้กับสินค้าภายใต้แบรนด์วัตสัน เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา
วัตสันถือเป็นร้านเพื่อสุขภาพและความงามแห่งแรกที่มีสาขาครอบคลุม 77 จังหวัดทั่วประเทศไทย สำหรับปีนี้วัตสันตั้งเป้าเปิดสาขาใหม่รวม 50 สาขา ซึ่งเป็นจำนวนที่ใกล้เคียงกับปีที่ผ่านๆ มา รวมถึงมีแผนรีโนเวตร้านเดิมที่มีอยู่
ล่าสุดวัตสันตอกย้ำเป้าหมายด้านความยั่งยืน เปิดตัว Greener Store ร้านค้าเพื่อความยั่งยืนที่สาขาสยามสแควร์เป็นที่แรก โดยมีการนำเสนอแนวคิดและมาตรการต่างๆ ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมาปรับใช้ในร้าน เพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลงทางสภาพภูมิอากาศ เช่น การติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์บนหลังคา การเลือกใช้วัสดุตกแต่งที่ผลิตจากกระดาษและไม้รีไซเคิล ลดการใช้พลังงานและหันมาใช้พลังงานหมุนเวียน รวมถึงเน้นการมีส่วนร่วมของลูกค้า อย่างกิจกรรม “ปั่น รักษ์โลก” ปั่นจักรยานพลังงานไฟฟ้า พร้อมลุ้นรับคูปองส่วนลด โดยถ้าปั่นครบ 3 นาที รับคูปองส่วนลดพิเศษ 3% ปั่นครบ 5 นาที ได้ลดพิเศษ 5% และปั่นครบ 7 นาที ได้รับส่วนลดพิเศษ 7% เป็นต้น
ซึ่งการติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์บนหลังคานั้น สามารถลดการใช้พลังงานในร้านได้ถึง 25% นอกจากนั้นตั้งแต่ปี 2562 เป็นต้นมา วัตสันได้มีการเปลี่ยนหลอดไฟทั้งหมดภายในร้านให้เป็นหลอด LED เพื่อเป็นการประหยัดพลังงานอีกทางหนึ่ง โดยตั้งเป้าลดการใช้ไฟฟ้าให้ได้ 30% ภายในปี 2573
นอกจากนี้ยังได้นำรถบรรทุกและรถปิคอัพไฟฟ้ามาใช้สำหรับการจัดส่งสินค้า ซึ่งจะช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ อีกทั้งยังเพิ่มสัดส่วนการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์เพื่อความยั่งยืน ซึ่งเป็นการเพิ่มทางเลือกและตอบรับความต้องการที่เปลี่ยนไปของลูกค้าที่หันมาสนใจด้านสิ่งแวดล้อมกันมากขึ้น
พสิษฐ์ มั่นคงขันติวงศ์ กรรมการผู้จัดการ วัตสัน ประเทศไทย กล่าวว่า “แนวคิด Greener Store ถือเป็นสัญลักษณ์ของความมุ่งมั่นของวัตสันในการสร้างวัฒนธรรมที่บ่มเพาะความยั่งยืนในกระบวนการดำเนินงาน และปฏิบัติการต่างๆ ในทุกๆ วัน” ซึ่งแนวคิดดังกล่าวจะมุ่งเน้นไปที่ประเด็นสำคัญต่างๆ เช่น การเลือกใช้วัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม การลดใช้พลังงาน รวมถึงเพิ่มการใช้พลังงานหมุนเวียน และการมีส่วนร่วมของลูกค้า
โดย Greener Store สาขาสยามสแควร์ถือเป็นสาขานำร่อง เพราะมีความเหมาะสมด้านสถานที่ ด้วยความเป็นสาขาแบบสแตนอโลนที่สามารถติดตั้งโซลาร์เซลล์ได้สะดวก และมีพื้นที่กว้าง ทำให้เอื้อต่อการพัฒนาสู่การเป็นร้าน Greener Store ส่วนแผนการขยายสาขาของ Greener Store นั้น ยังคงต้องดูความพร้อมด้านต่างๆ ต่อไป
ด้านกลยุทธ์ O+O ของวัตสัน ถือว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างดีในการมอบประสบการณ์การชอปปิ้งแบบไร้รอยต่อ เพราะจากไลฟ์สไตล์ในปัจจุบันพบว่า ลูกค้าส่วนใหญ่ของวัตสันมีพฤติกรรมในการช้อปปิ้งทั้งออฟไลน์และออนไลน์ควบคู่กัน และหลังจากสถานการณ์โควิด-19 พฤติกรรมดังกล่าวยังคงสืบต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน ซึ่งนั่นทำให้การช้อปปิ้งแบบ O+O มีสัดส่วนที่โตขึ้นในทุกปี โดยปัจจุบันสมาชิกวัตสัน คลับ มีจำนวนมากกว่า 9 ล้านคนที่ได้รับสิทธิพิเศษผ่าน “โปรโมเชื่อม” โปรโมชั่นที่ออกแบบมาเพื่อเชื่อมต่อการชอปปิ้งออนไลน์และออฟไลน์
ไม่เพียงเท่านั้น เพื่อให้สอดรับกับเทรนด์ในยุคปัจจุบันที่ผู้บริโภคหันมาใส่ใจเรื่องสุขภาพกันมากขึ้น วัตสันจึงได้เปิดตัววัตสัน เดย์ไวต้า (Day-Vita) ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารภายใต้แบรนด์วัตสันขึ้นอย่างเป็นทางการ โดยการเปิดตัวในครั้งนี้ เป็นการใช้ความเชี่ยวชาญด้านสุขภาพประกอบกับความเข้าใจในผู้บริโภค มาต่อยอดสู่การพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อตอบโจทย์ลูกค้าที่รักสุขภาพ
และถ้ามาดูตัวเลขรายได้ พบว่า ปี 2566 ที่ผ่านมา วัตสันมีการเติบโตที่ดีกว่าธุรกิจค้าปลีกอื่นๆ คือเติบโตระดับ 2 Digit ทำให้ในปีนี้ วัตสันก็ตั้งเป้าเติบโตที่ 2 Digit เช่นเดิม โดยสินค้าที่เติบโตสูงสุดคือกลุ่มเครื่องสำอางที่มีการเติบโตอย่างไม่หยุดยั้ง และยอดซื้อต่อบิลไม่เคยลด
ปัจจุบันวัตสัน ประเทศไทย มีจำนวนสาขามากกว่า 700 สาขาทั่วประเทศ โดย 95% ของร้านวัตสันอยู่ในห้างสรรพสินค้า คอมมูนิตี้มอลล์เป็นหลัก
