วันอาทิตย์, เมษายน 28, 2024
Home > New&Trend > สิงห์ เอสเตท รุกตลาด Cluster Home เปิดราคาเริ่มต้นยูนิตละ 120 ล้านบาท

สิงห์ เอสเตท รุกตลาด Cluster Home เปิดราคาเริ่มต้นยูนิตละ 120 ล้านบาท

สิงห์ เอสเตท รุกตลาด Cluster Home ปักหมุดโครงการ SMYTH’S Ramintra บนทำเลศักยภาพ เปิดราคาเริ่มต้นยูนิตละ 120 ล้านบาท รองรับดีมานด์บ้านเดี่ยว Ultra Luxury กรุงเทพโซนตะวันออก

สิงห์ เอสเตท เดินหน้า Cluster Home โครงการที่ 2 ต่อจาก ลาซัวว์ เดอ เอส เปิดตัว แบรนด์ “SMYTH’S Ramintra” บ้านแนวราบระดับอัลตร้าลักชัวรี ทำเลกรุงเทพโซนตะวันออก โดยยังคงคอนเซปต์ ULTIMATE PRIVACY นำเสนอความเป็นส่วนตัวสุดเอ็กซ์คลูซีฟเพียง 4 ยูนิต ด้วยฟังก์ชันและดีไซน์ที่ถูกออกแบบมาเป็นพิเศษตามกลุ่มเป้าหมายที่ชัดเจน ให้เหมาะสำหรับไลฟ์ไตล์ที่โดดเด่นอย่างแตกต่าง ดันรายได้รวมธุรกิจพักอาศัยแนวราบเติบโตขึ้นกว่า 70% จากปีก่อน

นายณัฐวุฒิ มัธยมจันทร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการพัฒนาธุรกิจพักอาศัย บริษัท สิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า โครงการ SMYTH’S Ramintra (สมิทธ์ รามอินทรา) คือการต่อยอดสำคัญของการขยายธุรกิจแนวราบแบบใหม่ ในรูปแบบ Cluster Home (คลัสเตอร์ โฮม) หรือที่สิงห์ เอสเตท จะเรียกว่า บ้านแบบ Private Estate ซึ่งจะเป็นบ้านที่ดีไซน์มาเพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์ที่แตกต่างของลูกบ้านแต่ละหลัง เป็นการต่อยอดความสำเร็จในกลุ่มโครงการบ้านแนวราบระดับอัลตร้าลักชัวรี ที่บริษัทฯ มองเห็นโอกาสในการเติบโตและการขยายธุรกิจในกลุ่มลูกค้าเป้าหมายของเซกเมนท์นี้ จากความสำเร็จของโครงการที่ผ่านมาสะท้อนให้เห็นว่าตลาดลักชัวรียังคงเติบโตและยังมีดีมานด์อยู่ ซึ่งสอดคล้องกับแผนการเปิดตัวโครงการบ้านแนวราบทั้ง 5 โครงการ ที่สิงห์ เอสเตท ตั้งเป้าไว้ในปีนี้ ที่จะครอบคลุม เซกเมนท์ลักชัวรีที่หลากหลาย ตั้งแต่บ้านเดี่ยวระดับราคา 15 ล้านบาทขึ้นไป / 20 ล้านบาทขึ้นไป / 50 ล้านบาทขึ้นไป รวมถึงโครงการ Private Estate ที่เป็น Flagship อย่างลาซัวว์ เดอ เอส และล่าสุด SMYTH’S Ramintra เปิดขายที่ราคาเริ่มต้น 120 ล้านบาท โดยบริษัทฯ คาดว่าโครงการที่พักอาศัยแนวราบในปีนี้ จะมีรายได้ที่เติบโตขึ้นกว่า 70% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า

“SMYTH’S Ramintra เป็น Private Estate โครงการที่ 2 บนทำเลศักยภาพย่านรามอินทรา ซึ่งเป็น Residential Hub ที่น่าอยู่เห็นได้จาก ระยะทางที่ใกล้เซ็นทรัล รามอินทรา เพียง 2.8 กม. และรายล้อมด้วยช้อปปิ้งมอลล์อื่นๆ สนามกอล์ฟ สถาบันการศึกษาชั้นนำ โรงพยาบาลชั้นนำ และสนามบิน รวมถึงเป็นทำเลที่เชื่อมต่อไปยังย่านอื่นๆ ได้สะดวกมาก ทำให้ทำเลนี้มีจุดเด่นเรื่องการเชื่อมต่อกับศูนย์กลางธุรกิจได้อย่างง่ายดาย (Business Connectivity) เพียง 3.8 กม. ถึงทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ มุ่งสู่ใจกลางเมือง และสุขุมวิทได้สะดวก และเพียง 650 ม. ถึงรถไฟฟ้าสายสีชมพู สถานีรามอินทรา 3 ซึ่งเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าอีก 2 สาย มั่นใจได้ว่าโครงการนี้จะเป็นอีกหนึ่ง Flagship ด้วยจุดเด่นโครงการที่เป็น ULTIMATE PRIVACY หรือ ความเป็นส่วนตัวที่สมบูรณ์แบบ กับจำนวนบ้านเพียง 4 ยูนิต บนพื้นที่ประมาณ 2 ไร่ มูลค่าเริ่มต้นที่ 120 ล้านบาท ออกแบบภายใต้แนวคิดงานสถาปัตยกรรมแบบ Metropolitan Tropical Modern ที่มาในรูปแบบของบ้านสั่งสร้างที่สามารถปรับเปลี่ยนพื้นที่ใช้สอยให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์ตามความชอบและการใช้งานที่เหมาะสมของผู้อยู่อาศัย และยังคงไว้ซึ่งคุณภาพและแนวการพัฒนาโครงการแบบ “Best in Class” คงอัตลักษณ์ในแบบฉบับของสิงห์ เอสเตท ที่ถูกถ่ายทอดเป็น DNA ไว้อย่างสมบูรณ์แบบ” นายณัฐวุฒิ กล่าว

สิงห์ เอสเตท ให้คำจำกัดความโครงการ SMYTH’S Ramintra ว่าเป็น “A Well-Crafted Architectural Masterpiece” ออกแบบบนพื้นฐานที่เน้นความเป็นส่วนตัว “Sanctuary of Seclusion” โดยวางแปลนให้แต่ละบ้านมี Private Court ซึ่งได้ถูกออกแบบให้เป็นจุดนำสายตาของทุกพื้นที่ในส่วนหลักๆ ของบ้าน สร้างความเป็นส่วนตัวสูง และตัวบ้านยังถูกออกแบบให้สามารถปรับเปลี่ยนพื้นที่ได้ตามความต้องการและไลฟ์สไตล์ของสมาชิกทุกคนภายในบ้าน (Flexible and customizable) เพื่อให้สอดรับกับการใช้ชีวิตของผู้อยู่อาศัยทุกเพศทุกวัย นอกจากนี้ยังออกแบบให้มีพื้นที่ส่วนตัวที่มี ความพิเศษ Hideaway Chamber ซึ่งเชื่อมต่อกับ Supercar Garage และเป็นห้องที่เพดานสูงแบบ Double Volume Space โดยมีความพิเศษที่แตกต่างคือทางเดินที่เชื่อมไปยังชั้น 2 ของตัวบ้านได้อีกด้วย หรือสามารถปรับเปลี่ยนพื้นที่นี้ให้เป็นห้องในฝันได้ตามความต้องการ ที่สำคัญภายในโครงการ ประกอบไปด้วย

o ระบบไฟฟ้าใต้ดินทั้งโครงการ

o ระบบ Solar Cell ช่วยผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์

o Heat Exchanger อุปกรณ์ที่นำความร้อนจากคอยล์ร้อนของเครื่องปรับอากาศ แลกเปลี่ยนมาเก็บไว้ในถังน้ำร้อนเพื่อผลิตน้ำร้อน แทนหม้อต้มไฟฟ้า ช่วยประหยัดไฟฟ้าในการผลิตน้ำร้อนใช้ในบ้าน และช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของเครื่องปรับอากาศ

o รวมถึงเตรียมระบบรองรับนวัตกรรมต่างๆ เช่น

· EV Charger เพื่อชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า

· Power Wall แบตเตอรี่เก็บไฟฟ้าจาก Solar Cell

· S-Air System ที่ทำให้อากาศภายในบ้านหมุนเวียน และนำอากาศบริสุทธิ์จากภายนอกเข้าสู่ภายในบ้าน พร้อมกรองฝุ่น PM 2.5 และปรับอุณหภูมิให้เย็นขึ้น

ตอบโจทย์การใช้ชีวิตในทุกๆ มิติ เพื่อให้บ้านเป็นพื้นที่แห่งการพักผ่อนเพื่อความสุขของผู้อยู่อาศัยอย่างแท้จริง โดย SMYTH’S Ramintra นำเสนอแบบบ้าน 2 รูปแบบ รวมสระว่ายน้ำ บนที่ดินขนาด 180 – 189 ตารางวา ได้แก่

o Residences I: พื้นที่ใช้สอย 1,023 ตารางเมตร
o Residences II: พื้นที่ใช้สอย 1,014 ตารางเมตร

บ้านทั้ง 2 รูปแบบ ประกอบด้วย 5 ห้องนอน 8 ห้องน้ำ 2 พื้นที่รับแขก 1 ห้องอเนกประสงค์ 2 พื้นที่ทานอาหาร 2 พื้นที่ Pantry 1 ห้องครัวไทย สำหรับปรุงอาหารแบบเต็มรูปแบบ มีห้องซักรีด และแยกส่วนสำหรับห้องแม่บ้านไว้ 2 ห้องพร้อมห้องน้ำอย่างเป็นสัดส่วน รวมถึงจุดเด่นที่เรียกได้ว่าเป็นเอกลักษณ์ของการออกแบบพื้นที่ คือ ห้อง Hideaway Chamber และที่จอดรถได้สูงสุดถึง 10 คัน ประกอบด้วย ที่จอดรถในร่ม 4 คัน Supercar Garage 2 คัน และรองรับการจอดรถด้วย Parking Lift System ถึง 4 คัน โดยพื้นที่บ้านขนาดใหญ่แบบนี้ สามารถรองรับครอบครัวใหญ่ให้สมาชิกแต่ละคนในบ้านมีพื้นที่ส่วนตัวได้อย่างเต็มที่ หรือตอบโจทย์เจ้าของบ้านที่ทำธุรกิจในที่พักอาศัย ซึ่งเป็นวิถีของคนรุ่นใหม่ในปัจจุบัน สามารถทำงานจากที่บ้านได้ เพิ่มความสะดวกในการใช้ชีวิต ดังนั้นด้วยพื้นที่ขนาดใหญ่ทำให้สามารถปรับเปลี่ยนฟังก์ชันบ้านได้เป็นสัดส่วน แยกส่วนพักอาศัยและชีวิตงานออกจากกันอย่างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นส่วนทำงาน พื้นที่สังสรรค์ แยกออกจากพื้นที่อยู่อาศัยของครอบครัว

“เราเชื่อมั่นว่า SMYTH’S Ramintra จะเป็นหนึ่งในความสมบูรณ์แบบของบ้านเดี่ยวแบบ Private Estate ที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตที่พิเศษของลูกค้าโครงการนี้อย่างแท้จริง ทั้งยังสะท้อนแนวคิด และวิสัยทัศน์ของ สิงห์ เอสเตท ในการสร้างความหลากหลายที่สมดุล เพื่อการเติบโตที่ยั่งยืน ผ่านการพัฒนาโครงการที่ใส่ใจในทุกๆ รายละเอียด เพื่อสร้างความสมดุลในการใช้ชีวิต ให้ความสำคัญกับความเป็น Best in Class ในทุกๆ ขั้นตอนการก่อสร้าง และการเลือกใช้วัสดุอุปกรณ์ อีกทั้งยังตอกย้ำถึงความเข้าใจ และความเชี่ยวชาญในการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ระดับ ลักชัวรีในการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์และบริการที่มีคุณภาพเหนือระดับเพื่อส่งมอบประสบการณ์อันทรงคุณค่าให้ลูกค้า ที่สามารถส่งต่อได้จากรุ่นสู่รุ่น” นายณัฐวุฒิ กล่าว