Home > 2016 > มีนาคม (Page 2)

ยุติการทำสุหนัตหญิงอันแสนโหดร้าย

 Column: Women in Wonderland เกือบทุกประเทศในโลกนี้ยอมรับว่าการทำสุหนัตหญิงถือเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนของเด็กและผู้หญิง ซึ่งนี่ถือเป็นรูปแบบหนึ่งในการเลือกปฏิบัติต่อผู้หญิงในสังคม และยังเป็นการแสดงให้เห็นถึงความไม่เท่าเทียมกันในสังคมระหว่างผู้ชายและผู้หญิงมาเป็นเวลานาน การทำสุหนัตหญิงยังไม่ได้ช่วยให้เกิดประโยชน์ใดๆ ต่อสุขภาพของผู้หญิงและเด็ก แต่กลับทำให้เกิดอันตรายอย่างมาก การตัดอวัยวะเพศหญิงนอกจากจะทำให้เนื้อเยื่อบริเวณนั้นเสียหายแล้ว ยังทำให้ร่างกายทำงานผิดปกติอีกด้วย การทำสุหนัตหญิงหรือการขริบอวัยวะเพศหญิง ภาษาอังกฤษใช้คำว่า Female Genital Mutilation (FGM) หรือ Female Genital Cutting (FGC) เป็นพิธีการที่โหดร้ายและป่าเถื่อนมาก  การทำสุหนัตหญิงเป็นจารีตของชนกลุ่มน้อยในประเทศแถบตะวันออกกลาง ทวีปแอฟริกา และบางประเทศในทวีปเอเชีย ซึ่งพิธีกรรมนี้เป็นวัฒนธรรมที่สืบทอดกันมายาวนานตามความเชื่อ คนในสมัยก่อนมีความเชื่อว่า อวัยวะเพศหญิงเป็นสิ่งสกปรกและน่าเกลียด จึงควรที่จะตัดทิ้ง นอกจากนี้ผู้หญิงถือว่าเป็นสมบัติของผู้ชาย ผู้หญิงจึงไม่ควรที่จะเกิดอารมณ์ทางเพศจนต้องสำเร็จความใคร่ด้วยตัวเอง ดังนั้นการตัดต้นตอที่ไวต่อความรู้สึกทางเพศออก จะทำให้ผู้หญิงไม่มีความรู้สึกทางเพศใดๆ และยังช่วยให้ผู้หญิงเป็นภรรยาที่จงรักภักดีและอยู่ในโอวาทของสามี ในขณะเดียวกันก็จะเป็นลูกสาวที่เลี้ยงง่าย และเป็นเครื่องช่วยประกันว่าเด็กผู้หญิงคนนี้จะเป็นสาวบริสุทธิ์จนถึงวันแต่งงาน  นอกจากนี้คนโบราณยังเชื่อว่าการขริบอวัยวะเพศหญิงจะช่วยให้เกิดสุขอนามัยที่ดีอีกด้วย เพราะในรุ่นของคนเป็นแม่และญาติๆ ทุกคนต่างก็โดนขริบอวัยวะเพศหญิงกันมาแล้วทั้งนั้น เลยทำให้พวกเขายิ่งเชื่อว่า การขริบอวัยวะเพศหญิงนั้นเป็นเรื่องที่ดี และต้องการสนับสนุนให้ลูกของตัวเองผ่านพิธีการขริบอวัยวะเพศหญิงเช่นเดียวกัน การทำสุหนัตหญิง คือการตัดอวัยวะเพศหญิงบางส่วนหรือทั้งหมดออก ซึ่งการตัดออกนี้ไม่ได้ช่วยให้ผู้หญิงและเด็กมีสุขอนามัยที่ดีขึ้นเลย องค์การอนามัยโลกได้แบ่งการขริบอวัยวะเพศหญิงออกเป็น 4 ประเภทด้วยกันคือ (1) ตัดเฉพาะบางส่วนหรือทั้งหมดของคลิตอริส (2) ตัดเฉพาะบางส่วนหรือทั้งหมดของคลิตอริสและแคมเล็ก (3) ตัดเฉพาะบางส่วนหรือทั้งหมดของคลิตอริส

Read More

เคทีซีรุกสินเชื่อบุคคลเติบโตยั่งยืน หวังครองใจผู้บริโภคระยะยาว อัดงบดัน 2 แคมเปญลงตลาด

 เคทีซีรุกสินเชื่อบุคคลเติบโตยั่งยืน หวังครองใจผู้บริโภคระยะยาว อัดงบดัน 2 แคมเปญลงตลาด “Supersave 70%” และ “แจกไม่ยั้ง กองทัพ iPhone 6S” เคทีซีเผยแนวโน้มธุรกิจสินเชื่อบุคคลยังเติบโตน่าพอใจ วางแนวกลยุทธ์ทำธุรกิจแบบซุปเปอร์เซฟ เน้นการเติบโตแบบยั่งยืนและมั่นคง ตอกย้ำเจตนารมณ์แบ่งเบาภาระสมาชิกพร้อมเสริมอาวุธเพิ่มความรู้และสร้างวินัยการชำระเงินต่อเนื่อง หวังเป็นหนึ่งในใจผู้บริโภคในระยะยาว ล่าสุดอัดงบประมาณเปิดเกมการตลาดตั้งแต่ต้นปี ด้วย 2 แคมเปญใหญ่ "Supersave 70%" มอบส่วนลดดอกเบี้ยสูงสุด 70% ให้สมาชิกสมัครใหม่ถึง 2 รอบบัญชี และ “แจกไม่ยั้งกองทัพ iPhone 6S” มอบ iPhone 6S รวมมูลค่า 1.59 ล้านบาท คาดสิ้นปียอดลูกหนี้เติบโตประมาณ 15%  นางสาวสุดาพร จันทร์วัฒนากุล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร - ธุรกิจสินเชื่อบุคคล “เคทีซี” หรือ บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า “ภาพรวมธุรกิจสินเชื่อบุคคลของไทยในปี

Read More

“บ้านนพวงศ์” โรงแรมบูติกกลางเกาะรัตนโกสินทร์ การอนุรักษ์ที่เดินควบคู่ไปกับการพัฒนา

  ท่ามกลางกระแสการอนุรักษ์ความเป็นไทยในมิติต่างๆ ที่กำลังเป็นที่สนอกสนใจของผู้คนอยู่ในขณะนี้ บ่อยครั้งที่เราพบว่า ความพยายามในการอนุรักษ์จะจบอยู่ที่การคงสิ่งที่มีอยู่เดิมเอาไว้เพียงเท่านั้น แต่มิติของการพัฒนาต่อเพื่อล้อไปกับความเปลี่ยนแปลงของกาลเวลาและเพิ่มมูลค่าให้กับความเก่าเหล่านั้น กลับมีให้เห็นได้น้อย จากสี่แยกคอกวัวบนถนนราชดำเนินกลาง ถนนที่อัดแน่นไปด้วยประวัติศาสตร์ทางการเมืองและสังคม เดินตัดเข้าไปยังซอยดำเนินกลางใต้ด้านหลังอนุสรณ์สถาน 14 ตุลา ไม่ไกลนัก เราจะพบกับ “บ้านนพวงศ์” บ้านไม้สีขาวสไตล์โคโลเนียลที่ดูเงียบสงบและงดงาม บ้านเก่าอายุกว่า 70 ปี ที่ปัจจุบันได้รับการปรับปรุงจนกลายเป็นโรงแรมบูติกชื่อดังที่ยังคงเอกลักษณ์บ้านเก่าไว้ได้อย่างครบถ้วน บ้านนพวงศ์เป็นบ้านเก่าของสกุลนพวงศ์ สร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 7ราวๆ พ.ศ.2488 อันเป็นช่วงปลายของสงครามมหาเอเชียบูรพา เพื่อใช้เป็นบ้านพักของหม่อมหลวงดิศพงศ์ นพวงศ์ และสาลี่ นพวงศ์ ณ อยุธยา ได้รับการออกแบบโดย “หลวงบุรกรรมโกวิท” หนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้งและอดีตนายกสมาคมสถาปนิกสยาม ซึ่งถือเป็นบุคคลสำคัญในวงการสถาปัตยกรรมไทย โครงสร้างบ้านเป็นเรือนไม้สักทรงไทยสถาปัตยกรรมแบบโคโลเนียล ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมที่เกิดขึ้นในยุคอาณานิคม และเริ่มแพร่ขยายเข้าสู่ประเทศไทยในสมัยรัชกาลที่ 5-6 อันจะเห็นได้จากลวดลายการตกแต่ง ลายฉลุ ช่องแสง การกลึงไม้แบบตะวันตก ผสมกับบ้านไทยที่เน้นช่องลม มีบานกระทุ้ง บานเกล็ด เรือนหลังหน้าเป็นเรือนสำหรับอยู่อาศัย ส่วนเรือนด้านหลังเป็นห้องน้ำและห้องครัวตามลักษณะของบ้านไทยสมัยก่อน จากบ้านพักอาศัยของตระกูล นานวันเข้าก็ทรุดโทรมไปตามกาลเวลา ความคิดในการอนุรักษ์บ้านเก่าของตระกูลนพวงศ์จึงเกิดขึ้น เพื่อคงคุณค่าและเก็บรักษาความทรงจำของบ้านหลังนี้ไว้ แต่นอกเหนือจากการอนุรักษ์ “กันตศม นพวงศ์

Read More

กาแฟไม่ไร้คุณแต่ก็ไม่ไร้โทษ

 Column: Well – Being นิตยสาร GoodHealth รายงานว่า ชาวออสเตรเลียดื่มกาแฟกันมากถึง 16.3 ล้านถ้วยต่อวัน ทำให้มีการวิจัยเกี่ยวกับการดื่มกาแฟ ว่ามีผลต่อการหายใจ กล้ามเนื้อ สมอง และนาฬิกาชีวิตของเราอย่างไรบ้าง ผลที่ได้ไม่เป็นด้านลบเสียทั้งหมด ดังที่ แคลร์ คอลลินส์ ศาสตราจารย์ด้านโภชนาการและการกำหนดอาหารแห่งมหาวิทยาลัยนิวคาสเซิล กล่าวว่า “ไม่ยุติธรรมเลยที่จะปรักปรำว่าดื่มกาแฟแล้วมีแต่โทษ มีเหตุผลมากมายที่สนับสนุนให้ดื่มกาเฟอีนในชีวิตประจำวันต่อไป” เพราะ กาแฟเป็นคุณต่อ ... กล้ามเนื้อ ในกาแฟมีกรดคาเฟอิคที่ช่วยให้กล้ามเนื้อใช้น้ำตาลกลูโคสในกระแสเลือด และมีกรดคลอโรจีนิคที่ช่วยให้ร่างกายไวต่อฮอร์โมนอินซูลิน จึงถือเป็นข่าวดีของผู้เป็นโรคเบาหวานประเภทที่ 2 ดังที่ศาสตราจารย์คอลลินส์อธิบายว่า “กรดคาเฟอิคทำให้กล้ามเนื้อเป็นเสมือนฟองน้ำที่มีประสิทธิภาพ สามารถดูดซึมน้ำตาลกลูโคสในเลือดได้ดีขึ้น” ผู้ที่ดื่มกาแฟทั้งที่มีและไม่มีกาเฟอีนวันละ 3 ถ้วยหรือมากกว่า จึงมีความเสี่ยงต่อเบาหวานประเภทที่ 2 ลดลงร้อยละ 21 นอกจากนี้ กาแฟยังได้ชื่อว่าเป็นเครื่องดื่มที่ให้พลังงานต่ำ ถ้าดื่มในรูปของกาแฟที่ไม่เติมนมและน้ำตาล หรือเติมเฉพาะนมพร่องมันเนย ซึ่งไม่จัดว่ามีอันตรายแต่อย่างใด ตับ ตับมีหน้าที่ทำลายสารเคมีในร่างกาย และกาแฟช่วยให้ตับทำงานได้ดีขึ้น เพราะในกาเฟอีนมีสารประกอบ kahweol และ cafestol ที่มีคุณสมบัติต้านภาวะอักเสบ

Read More

Ari Football Concept Store เปลี่ยนความคลั่งไคล้เป็นธุรกิจ

 สำหรับคอลูกหนังเมืองไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่ชื่นชอบรองเท้าสตั๊ดด้วยแล้ว น้อยคนนักที่จะไม่รู้จัก Ari Football Concept Store หรือ “อาริ” ร้านขายอุปกรณ์เกี่ยวกับฟุตบอลแบบครบวงจร ที่เกิดขึ้นมาจากความคลั่งไคล้ในกีฬาลูกหนังของศิวัช วสันตสิงห์ เริ่มต้นจากร้านเล็กๆ เพียงไม่กี่ตารางเมตร ณ วันนี้ อาริขยายสาขาออกไปมากกว่า 10 สาขา ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด เติบโตขึ้นจนกลายเป็นธุรกิจที่น่าจับตามอง ร้านอาริก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2553 ด้วยความชื่นชอบในกีฬาฟุตบอลและรองเท้าสตั๊ดเป็นทุนเดิมของศิวัช วสันตสิงห์ บวกกับข้อเท็จจริงที่ว่าขณะนั้นเมืองไทยยังไม่มีร้านขายอุปกรณ์เกี่ยวกับฟุตบอลโดยเฉพาะ ส่วนใหญ่จะเป็นร้านที่ขายอุปกรณ์กีฬาหลายประเภทรวมๆ กัน  ความคิดที่จะเปิดร้านขายอุปกรณ์เกี่ยวกับกีฬาฟุตบอลแบบเต็มรูปแบบจึงเกิดขึ้น เพื่อให้คนไทยได้มีโอกาสใช้สินค้าที่มีคุณภาพ หลากหลาย ได้ใช้สินค้าของทีมฟุตบอลที่ตัวเองชอบ และหาซื้อสะดวกไม่ต้องเดินทางไปซื้อถึงต่างประเทศ ซึ่งเป็นที่มาของ “Ari Football Concept Store” ร้านขายอุปกรณ์กีฬาฟุตบอลแบบครบวงจร  โดยสาขาแรกตั้งอยู่บนพื้นที่เล็กๆ ขนาดเพียง 25 ตารางเมตร ภายในโครงการอารีน่า 10 ย่านทองหล่อ ด้วยเงินลงทุนตั้งต้น 2 ล้านบาท โดยมีธารา เทย์เลอร์ (Tahra

Read More

แปลงบ้านเก่าเป็นโรงแรม สไตล์ Siam Hotel Maker

  บ่อยครั้งที่เรามักเห็นภาพอาคารบ้านเรือนเก่าแก่แต่ทรงคุณค่าทั้งด้านสถาปัตยกรรมและเรื่องราวในอดีต กลับถูกทิ้งร้าง ทรุดโทรม รอวันผุพังไปตามกาลเวลา และบ่อยครั้งอีกเช่นกันที่บ้านเรือนเหล่านั้นถูกแทนที่ด้วยอาคารสมัยใหม่ชนิดหารากแทบไม่เจอ กลบความมีเสน่ห์และคุณค่าดั้งเดิมของอาคารไปจนเกือบหมดสิ้น แต่ก็มีคนอีกกลุ่มหนึ่งอย่าง “สยาม โฮเทล เมกเกอร์” (Siam Hotel Maker) ที่เห็นคุณค่าและมูลค่าของสิ่งเหล่านี้ พยายามชุบชีวิตตึกเก่า อาคารเก่า ให้กลับมาถ่ายทอดเรื่องราวในอดีตพร้อมทั้งสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับเจ้าของได้ในรูปแบบของโรงแรมขนาดเล็กที่มีเอกลักษณ์และมาตรฐานไม่แพ้โรงแรมใหญ่ สยาม โฮเทล เมกเกอร์ คือบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์สำหรับธุรกิจโรงแรมที่พักขนาดเล็ก ตั้งแต่ โรงแรมบูติก (Boutique Hotel), โฮสเทล (Hostel), บัดเจท โฮเทล (Budget Hotel) รวมถึงเบดแอนด์เบรคฟาสต์ (Bed&Breakfast) โดยก่อตั้งขึ้นภายใต้การริเริ่มและบริหารงานของ “กันตศม นพวงศ์ ณ อยุธยา” เจ้าของและสถาปนิกผู้ออกแบบ “บ้านนพวงศ์” บูติกโฮเทลต้นแบบด้านการอนุรักษ์และปรับปรุงอาคารเก่าที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ที่มีรางวัลชนะเลิศการประกวดในโครงการ “Thailand Boutique Awards 2014-2015” ในหมวด Basic Thematic City Hotel เป็นเครื่องการันตี อาจกล่าวได้ว่าสยาม โฮเทล

Read More

“โอม นมัส ศิวะ”

 Column: AYUBOWAN นัยความหมายของวันสำคัญที่ทำให้แต่ละสังคมหรือประเทศประกาศให้เป็นวันหยุดของทางราชการหรือภาคเอกชนในแต่ละพื้นที่ของโลก นอกจากจะสะท้อนมิติทางประวัติศาสตร์ ร่องรอยแห่งความจำเริญงอกเงยทางศิลปวัฒนธรรม รวมถึงคุณค่าที่สังคมเหล่านั้นเชื่อถือและให้ความสำคัญใส่ใจแล้ว ในอีกด้านหนึ่งยังเป็นภาพสะท้อนของความเคารพความแตกต่างของผู้คนในแต่ละสังคมให้ได้รับเกียรติและการยอมรับอย่างเสมอหน้าเท่าเทียมกันโดยไม่เลือกปฏิบัติหรือตั้งข้อรังเกียจเดียดฉันท์ ให้ต้องถูกผลักออกไปเป็นส่วนเกินของสังคม ประเด็นที่ว่านี้ดูเหมือนว่าสังคมศรีลังกาซึ่งแม้จะมีประชากรชาวพุทธสิงหลมากกว่าร้อยละ 70-75 ของประชากรจำนวน 20 ล้านคนและให้ความสำคัญกับ “วันพระใหญ่” หรือวันพระจันทร์เต็มดวง (Poya Day) ของศาสนาพุทธให้เป็นวันหยุดราชการอย่างน้อยเดือนละครั้ง พร้อมกับการงดเว้นกิจกรรมที่ขัดต่อศีลธรรมจรรยาแล้ว ด้วยเหตุแห่งความเป็นพหุสังคมที่มีการเรียนรู้อดีต ทำให้วันสำคัญทางศาสนาของศาสนาอื่นๆ ก็ได้รับการยอมรับและบรรจุให้เป็นวันหยุดราชการไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน ศาสนาฮินดู ซึ่งมีชาวศรีลังกาทมิฬนับถืออยู่ประมาณร้อยละ 13-15 ของประชากรทั้งหมด ก็เป็นศาสนาที่มีวันสำคัญและได้รับการประกาศให้เป็นวันหยุดราชการในปฏิทินวันหยุดประจำปีของศรีลังกา ไม่น้อยเช่นกัน หรืออาจกล่าวได้ว่ามีวันหยุดของศาสนาฮินดูในปฏิทินวันหยุดของศรีลังกาเฉลี่ย 2 เดือนต่อครั้งเลยทีเดียว วันสำคัญที่นำไปสู่วันหยุดครั้งล่าสุดของศาสนาฮินดูในศรีลังกา คือวัน Maha Shivaratri ที่เป็นวันสำคัญทางศาสนาของศาสนาพราหมณ์-ฮินดู โดย ศิวราตรี แปลว่า ราตรีหรือค่ำคืนแห่ง (การบูชา) พระศิวะเจ้า ศิวราตรีเป็นเทศกาลสำคัญยิ่งวันหนึ่งในรอบปีของชาวฮินดู โดยพิธีศิวราตรีจะจัดขึ้นในช่วงวันแรม (กฤษณปักษ์) แรม 13 ค่ำ (กฤษณไตรโยทศี) หรือ แรม 14 ค่ำ (กฤษณจตุรทศี) ของเดือน

Read More

แค่จัดบ้านใหม่ ได้สุขภาพดีขึ้นอีกโข

 Column: Well – Being หนทางดูแลสุขภาพให้ดีขึ้น มีมากมายหลายหลากจนสาธยายไม่หมด ไม่ว่าการบริโภคผักและผลไม้มากขึ้น การวัดความดันโลหิตอย่างสม่ำเสมอ และเครียดให้น้อยลง แต่นิตยสาร GoodHealth ให้ข้อคิดว่า ยังมีอีกหนึ่งวิธีง่ายๆ ที่ช่วยให้คุณมีสุขภาพดีขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ เพียงจัดบ้านเสียใหม่เท่านั้น ความเปลี่ยนแปลงเล็กๆ น้อยๆ และการรู้จักใช้ประโยชน์จากของใช้ในบ้าน สามารถทำให้ชีวิตความเป็นอยู่ของคุณดีขึ้นอย่างน่ามหัศจรรย์ ไม่ว่าในแง่น้ำหนักตัว การนอน และความคิดสร้างสรรค์ วางกระถางต้นไม้บนโต๊ะทำงาน นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยี นครซิดนีย์ แนะนำว่า การวางกระถางต้นไม้ไว้บนโต๊ะทำงาน ช่วยกระตุ้นความคิดสร้างสรรค์ได้ เพราะลดปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้มากถึงร้อยละ 25 ยิ่งระดับคาร์บอนไดออกไซด์ลดลงมากเท่าไร สมองส่วนที่ควบคุมด้านความคิดก็ยิ่งทำงานได้ดีขึ้นเท่านั้น โดยเฉพาะส่วนที่เกี่ยวข้องกับทักษะการทำงาน เช่น การตอบสนองต่อภาวะวิกฤต และการพัฒนากลยุทธ์ใหม่ๆ นอกจากนี้ ถ้าคุณฝึกสัมผัสใบไม้อย่างสม่ำเสมอจนติดเป็นนิสัยแล้ว จิตใจของคุณจะสงบลงด้วย นักวิจัยตั้งข้อสังเกตว่า ยิ่งต้นไม้มีขนาดใหญ่ขึ้นเพียงใดก็ยิ่งดีขึ้นเพียงนั้น เพราะต้นไม้ยิ่งมีใบใหญ่ขึ้นเท่าไร ก็สามารถดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์ได้มากขึ้นเท่านั้น เก็บซีเรียลให้พ้นมือ ผลการศึกษาปี 2015 ระบุว่า ผู้หญิงที่เก็บซีเรียลไว้ในตู้กับข้าวจนพ้นมือและไม่อยู่ในสายตา มีแนวโน้มลดน้ำหนักตัวได้ดีกว่าคนที่ตั้งไว้ล่อตาบนเคาน์เตอร์ โดยลดได้เฉลี่ย 9 กิโลกรัม นักวิจัยกล่าวถึงสาเหตุว่า เพราะเรามีธรรมชาติหยิบอาหารใกล้มือเข้าปาก เมื่อเหลือบเห็นซีเรียลเป็นอันดับแรก ก็คว้าเข้าปากแทนการเลือกบริโภคอาหารที่ให้พลังงานต่ำกว่า

Read More

ชฎาทิพ จูตระกูล ผู้หวังสร้างนวัตกรรมค้าปลีก

 หลายต่อหลายครั้งที่ข่าวสารของวงการค้าปลีกไทยที่มักจะวนเวียนอยู่เพียงแค่ไม่กี่กลุ่มบริษัท ซึ่งโดยส่วนใหญ่เนื้อหาสาระที่ถูกกล่าวถึงมักจะเป็นไปในด้านการเปิดตัวโครงการใหม่ การปักหมุดล้อมเมือง การสร้างฐานที่ตั้งทางธุรกิจใหม่ๆ  แต่หากเป็นข่าวสารที่เกี่ยวกับนวัตกรรมการค้าปลีก ชื่อของนักธุรกิจหญิงจากบริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด ชฎาทิพ จูตระกูล ที่นั่งแท่นประธานเจ้าหน้าที่บริหาร มักจะถูกพูดถึงอยู่บ่อยๆ ในฐานะผู้สร้างปรากฏการณ์ หรือหากจะกล่าวว่าเป็นนักปฏิวัติวงการค้าปลีกดูจะไม่เกินไปนัก ท่ามกลางสภาวะเศรษฐกิจที่ไม่ว่ามีทิศทางเป็นเช่นไร กระแส Talk of the Town ที่เกิดขึ้นจากแนวความคิดของ ชฎาทิพ จูตระกูล มักจะมีให้เห็นอย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่การคิดการใหญ่ของนักธุรกิจหญิงผู้นี้ที่จับมือกับพันธมิตรที่เป็นผู้ชำนาญด้านการค้าปลีก ร่วมกันพัฒนาสยามพารากอน รวมไปถึงการร่วมกับกลุ่ม MBK ที่ปัดฝุ่นห้างเก่าอย่างเสรีเซ็นเตอร์ และชูให้เป็น “สวรรค์แห่งการชอปปิ้งของกรุงเทพฯ ย่านตะวันออก” และจบที่ชื่อพาราไดซ์พาร์ค กระทั่งอภิมหาโปรเจกต์บนพื้นที่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ด้วยมูลค่าโครงการกว่า 3.5 หมื่นล้านบาท ที่ร่วมกับกลุ่มซีพี ในการพัฒนาโครงการอสังหาฯ ในชื่อไอคอนสยาม นอกเหนือไปจากการปลุกปั้นโครงการใหม่ๆ แล้ว โครงการ Renovate สยามเซ็นเตอร์ นับเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จที่เกิดขึ้นจากมันสมองของชฎาทิพ และทีมงานมืออาชีพของสยามพิวรรธน์ กระทั่งถึงเวลาที่สยามพิวรรธน์ตัดสินใจที่จะปรับโฉมศูนย์การค้าอย่างสยามดิสคัฟเวอรี่ ภายใต้คอนเซ็ปต์ The Exploratorium โดยมีความพยายามจะทิ้งภาพจำของศูนย์การค้าและปรับสู่การเป็นไฮบริดรีเทลสโตร์แห่งแรกของไทย หลักฐานดังกล่าวทำให้ ชฎาทิพ ถูกสื่อหลายแขนงเขียนถึงในเชิงบวกเสมอ

Read More

Re-Discovery “สยามดิสฯ” ปรับ-เปลี่ยน-ถอด เพื่อเป็นผู้นำ

 หลังจากสร้างปรากฏการณ์จนกลายเป็นกระแส Talk of the Town ให้สยามเซ็นเตอร์ไปเมื่อปี พ.ศ. 2556 ด้วยการปิดปรับปรุงนานถึง 6 เดือน ซึ่งครั้งนั้นสยามพิวรรธน์ใช้งบประมาณไปกว่า 1.8 พันล้านบาท เสียงตอบรับเชิงบวกที่ได้จากการปรับปรุงสยามเซ็นเตอร์ไปเมื่อสามปีก่อน น่าจะสร้างความมั่นใจให้แก่บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด ที่นำทัพโดยชฎาทิพ จูตระกูล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร จนบังเกิดเป็นไอเดียที่กำลังจะถูกถ่ายทอดออกมาบนอาคารที่ตั้งอยู่บนย่านสำคัญของการค้าปลีก ห้วงเวลานี้คงเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมสำหรับการปรับโฉมสยามดิสคัฟเวอรี่ ถือเป็นการปรับปรุงครั้งที่สอง นับตั้งแต่สยามดิสคัฟเวอรี่เปิดตัวเมื่อปี พ.ศ. 2540  บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด มักจะสร้างกระแสให้เกิดขึ้นในวงการค้าปลีกอยู่เนืองๆ และมักถูกจับตามองทั้งจากนักธุรกิจ คู่ค้า สื่อมวลชน และลูกค้า ทั้งจากการลงทุนในโครงการใหม่ๆ ที่อาจเรียกได้ว่าเป็นมหากาพย์แห่งวงการค้าปลีก หรือจากการปรับปรุงรูปลักษณ์ของศูนย์การค้า ที่อุดมไปด้วยดีไซน์ เช่นที่เคยสร้างความโดดเด่นแตกต่างให้แก่สยามเซ็นเตอร์ ซึ่งการันตีได้จากการคว้ารางวัลระดับนานาชาติจำนวน 8 รางวัล รวมถึงการได้รับคัดเลือกให้เป็นหนึ่งใน 5 ศูนย์การค้าที่ออกแบบดีที่สุดในโลก จากสมาคมศูนย์การค้าระหว่างประเทศ (International Council of Shopping Centers–ICSC) ยิ่งเป็นการตอกย้ำคำว่า

Read More