วันศุกร์, มีนาคม 29, 2024
Home > On Globalization > อีกหนึ่งก้าวสำคัญของผู้หญิงซาอุดีอาระเบียในการเลือกตั้งท้องถิ่น

อีกหนึ่งก้าวสำคัญของผู้หญิงซาอุดีอาระเบียในการเลือกตั้งท้องถิ่น

 
Column: Women in Wonderland
 
อย่างที่ทราบกันดีว่าผู้หญิงในประเทศซาอุดีอาระเบียนั้นถูกจำกัดสิทธิต่างๆ ในสังคมเป็นอย่างมาก ถึงแม้ว่าซาอุดีอาระเบียจะมีศาสนาอิสลามเป็นศาสนาประจำชาติเหมือนกับประเทศอื่นๆ แต่กฎหมายในประเทศซาอุดีอาระเบียนั้น เป็นกฎหมายที่เข้มงวดมากๆ สำหรับสิทธิต่างๆ ของผู้หญิงในสังคม โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับกฎหมายในประเทศอื่นๆ ที่มีศาสนาอิสลามเป็นศาสนาประจำชาติ หรือจะกล่าวได้ว่าในสังคมของประเทศซาอุดีอาระเบียนั้นเป็นสังคมที่ผู้ชายเป็นใหญ่และเป็นผู้มีอำนาจมากที่สุดในสังคม
 
ในช่วงหลายปีมานี้เราจะได้ยินข่าวต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการถูกจำกัดสิทธิต่างๆ ของผู้หญิงในสังคม อย่างเช่นเมื่อเดือนมิถุนายน 2554 ที่มีข่าวว่า ซาอุดีอาระเบียเป็นประเทศเดียวในโลกที่ไม่อนุญาตให้ผู้หญิงขับรถเองได้ สาเหตุที่ข่าวนี้ได้รับความสนใจจากทั่วทุกมุมโลกก็เพราะมีผู้หญิงซาอุดีอาระเบียกลุ่มหนึ่งรวมตัวกันเรียกร้องสิทธิในการขับรถ และมีการรณรงค์ผ่านเฟซบุ๊ก ยูทูป และทวิตเตอร์ ให้ผู้หญิงออกมาขับรถพร้อมกันในโครงการ Women 2 Drive และจะมีการจัดกิจกรรมนี้ขึ้นเรื่อยๆ จนกว่าผู้หญิงจะได้รับอนุญาตให้ขับรถได้ ซึ่งโครงการนี้ก็ได้รับความสนใจและมีผู้หญิงเข้าร่วมเป็นจำนวนมาก 
 
สำหรับเรื่องนี้ประเทศซาอุดีอาระเบียให้เหตุผลว่า สาเหตุที่ไม่อนุญาตให้ผู้หญิงขับรถเองได้เป็นเพราะกลัวผู้หญิงจะได้รับอันตรายจากการเดินทางไปไหนคนเดียว ก่อนอื่นคุณผู้อ่านต้องเข้าใจก่อนว่าที่ซาอุดีอาระเบียนั้นมีกฎหมายห้ามอย่างชัดเจนว่า ห้ามผู้หญิงใช้ระบบขนส่งสาธารณะ และห้ามเดินทางคนเดียวโดยที่ไม่มีผู้ชายที่เป็นญาติเดินทางไปด้วย กฎเหล่านี้ทำให้ผู้หญิงในซาอุดีอาระเบียค่อนข้างลำบากเวลาที่ต้องการเดินทางไปโรงเรียน ไปทำงาน หรือไปซื้อของ เพราะพวกเธอต้องพึ่งพาญาติที่เป็นผู้ชายให้เดินทางไปด้วย หรือไม่ก็ต้องจ้างคนขับรถ และไม่ใช่ผู้หญิงทุกคนที่จะสามารถจ้างคนขับรถได้ เพราะสำหรับบางครอบครัวที่มีรายได้น้อยนั้น การจ้างคนขับรถถือเป็นค่าใช้จ่ายที่สูงมากๆ ในแต่ละปีประเทศซาอุดีอาระเบียต้องเสียเงินถึงปีละ 3,200 ร้อยล้านดอลลาร์ (ประมาณ 96,000 ล้านบาท) ในการจ้างคนต่างประเทศเข้ามาทำงานเป็นคนขับรถ
 
ต่อมาในเดือนพฤศจิกายน 2557 ซาอุดีอาระเบียอนุญาตให้ผู้หญิงขับรถเองได้ภายในเมืองเท่านั้น ถ้าจะขับรถออกนอกเมืองเมื่อไหร่ ผู้ชายจะต้องเป็นคนขับเท่านั้น และผู้หญิงที่จะขับรถเองได้จะต้องปฏิบัติตามกฎเหล่านี้
 
(1) ผู้หญิงที่จะสามารถขับรถเองได้นั้นจะต้องมีอายุตั้งแต่ 30 ปีขึ้นไป 
 
(2) พวกเธอสามารถขับรถได้ตั้งแต่ 7 โมงเช้าจนถึง 2 ทุ่ม ในวันเสาร์ถึงวันพุธ ส่วนวันพฤหัสบดีและวันศุกร์ทางการอนุญาตให้ขับรถได้ตั้งแต่เวลาเที่ยงวันไปจนถึงเวลา 2 ทุ่ม 
 
(3) ผู้ชายในครอบครัวจะต้องยินยอมและอนุญาตให้พวกเธอขับรถได้ 
 
(4) ผู้หญิงที่จะขับรถตามลำพังจะต้องแต่งตัวให้ถูกต้องตามหลักธรรมเนียมปฏิบัติของศาสนาอิสลาม
 
(5) ผู้หญิงที่จะขับรถเองไม่อนุญาตให้มีการแต่งหน้าในระหว่างขับรถ
 
ซาอุดีอาระเบียให้เหตุผลว่า สาเหตุที่มีการออกกฎเหล่านี้ขึ้นมาก็เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเรื่องผิดศีลธรรมขึ้นมา
 
นับเป็นอีกหนึ่งก้าวของผู้หญิงซาอุดีอาระเบียที่ได้รับสิทธิในสังคมมากขึ้น และในเดือนธันวาคม 2558 นี้ จะถือเป็นประวัติศาสตร์หน้าใหม่ครั้งสำคัญของผู้หญิงซาอุดีอาระเบีย เมื่อทางการอนุญาตให้ผู้หญิงลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นผู้บริหารท้องถิ่นได้ และมีสิทธิ์ในการลงคะแนนเลือกตั้งเป็นครั้งแรกอีกด้วย
 
เมื่อปี 2554 สมเด็จพระราชาธิบดีซัลมาน บิน อับดุลลาซิซ ซึ่งเป็นกษัตริย์องค์ปัจจุบันของซาอุดีอาระเบียได้ประกาศว่า ในอนาคตผู้หญิงซาอุดีอาระเบียจะมีสิทธิ์ในการลงเป็นตัวแทนในการเลือกตั้งและสามารถลงคะแนนเลือกตั้งได้เหมือนกับผู้ชาย และเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ทางการได้ประกาศว่า การเลือกตั้งส่วนท้องถิ่นที่จะจัดขึ้นในเดือนธันวาคมนี้ ผู้หญิงซาอุดีอาระเบียสามารถลงสมัครเป็นผู้บริหารส่วนท้องถิ่นได้ และผู้หญิงทุกคนจะมีสิทธิ์ในการลงคะแนนเลือกตั้งเป็นครั้งแรกด้วย 
 
สิ่งแรกที่ผู้หญิงซาอุดีอาระเบียต้องทำคือ ผู้หญิงทุกคนที่กฎหมายกำหนดว่าเป็นผู้มีสิทธิ์ในการเลือกตั้ง ให้ไปลงทะเบียนที่เขตของตัวเอง เพื่อแสดงความจำนงว่าต้องการใช้สิทธิ์ในการเลือกตั้งที่เขตนี้ เพราะทางการจะได้จัดหาสถานที่เลือกตั้งสำหรับผู้หญิงที่ใกล้เขตนี้ที่สุดให้ ในการเลือกตั้งครั้งนี้จะมีเขตการเลือกตั้งทั้งหมด 1,263 เขตจากทั่วประเทศ และทั้งหมดนี้จะมีเพียง 424 เขตเท่านั้นที่อนุญาตเฉพาะผู้หญิงเท่านั้นในการลงคะแนนเลือกตั้ง โดยทางการได้เปิดให้ผู้หญิงไปลงทะเบียนได้ตั้งแต่วันที่ 22 สิงหาคม จนถึงวันที่ 14 กันยายน และถ้าหากผู้หญิงคนใดสนใจที่จะลงสมัครเป็นผู้บริหารส่วนท้องถิ่นในครั้งนี้ก็สามารถไปสมัครได้ ตั้งแต่วันที่ 22 สิงหาคม จนถึงวันที่ 17 กันยายน
 
หลังจากที่ทางการได้เปิดให้ผู้หญิงมาลงทะเบียนในการเลือกตั้งได้ 2 สัปดาห์ ก็มีผู้หญิงมาลงทะเบียนเพียงแค่ 16 คนเท่านั้น ซึ่งทางการคาดเดาว่า น่าจะมีผู้หญิงมาลงทะเบียนเยอะขึ้นกว่านี้อีกเมื่อใกล้ถึงเวลาปิดรับลงทะเบียน ในขณะเดียวกัน Shaha Muhammad Asiri ซึ่งเป็นประธานในการจัดการเลือกตั้งท้องถิ่นสำหรับผู้หญิงในเขต Al-Darb ได้กล่าวเพิ่มเติมเกี่ยวกับกรณีนี้ว่า ในเขตการเลือกตั้งนี้มีผู้หญิงเพียงแค่ 5 คนเท่านั้นที่ได้มาลงทะเบียนว่าต้องการใช้สิทธิ์ในการเลือกตั้ง และสาเหตุที่น่าจะทำให้มีผู้หญิงเพียงจำนวนเล็กน้อยเท่านั้นที่มาลงทะเบียนก็เป็นเพราะ ผู้หญิงส่วนใหญ่ยังไม่รู้ว่าตัวเองมีสิทธิ์ในการเลือกตั้งครั้งนี้ และอาจจะเป็นเรื่องของการเดินทางที่ค่อนข้างลำบากเพราะต้องรอให้ญาติผู้ชายว่างและพามาลงทะเบียน
 
Fawziya Al-Hani นักต่อสู้เพื่อสิทธิสตรีในประเทศซาอุดีอาระเบียได้ให้ความเห็นเกี่ยวกับการลงสมัครในการเลือกตั้งครั้งแรกสำหรับผู้หญิงในประเทศซาอุดีอาระเบียว่า ผู้หญิงในประเทศซาอุดีอาระเบียเองก็มีความสามารถเหมือนกับผู้ชายในการทำงาน แต่ในการลงสมัครรับเลือกตั้งในครั้งแรกนี้ ผู้หญิงที่จะลงสมัครต้องมีความกล้าเป็นอย่างมาก เพราะพวกเธอจะเป็นที่รู้จักของสาธารณชน ซึ่งค่อนข้างแตกต่างกับก่อนหน้านี้ที่ผู้หญิงมักจะไม่ได้รับความสนใจในสังคม และนี่อาจจะเป็นวัฒนธรรมที่พวกเธอไม่คุ้นเคย นอกจากนี้พวกเธอยังอาจจะต้องเสียเงินเป็นจำนวนมากในการลงเลือกตั้งโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพวกเธอไม่ได้รับเลือกเข้าไป 
 
ถึงแม้ว่าการที่ซาอุดีอาระเบียอนุญาตให้ผู้หญิงลงเลือกตั้งและมีสิทธิ์ในการลงคะแนนเลือกตั้งเป็นครั้งแรกจะเป็นเรื่องที่ดี แต่ก็ยังมีประชาชนชาวซาอุดีอาระเบียจำนวนมากที่ไม่เห็นด้วยกับเรื่องนี้
 
มีกลุ่มชาวซาอุดีอาระเบียที่ยังคงเป็นพวกอนุรักษนิยมได้รวมตัวกันและเดินทางไปพบ Grand Mufti ซึ่งเป็นผู้นำอาวุโสทางศาสนา (Grand Mufti มีหน้าที่หลักๆ คือการให้ความเห็นเกี่ยวกับกฎหมายและเรื่องทางสังคมกับพระมหากษัตริย์) เพื่อเรียกร้องให้ยกเลิกการอนุญาตให้ผู้หญิงมีสิทธิ์ในการเลือกตั้งครั้งนี้ แต่ Grand Mufti ไม่เห็นด้วยกับกลุ่มนี้และยังคงสนับสนุนให้ผู้หญิงมีสิทธิ์ในการเลือกตั้ง
 
กลุ่มอนุรักษนิยมยังคงเดินหน้าคัดค้านเรื่องนี้ต่อไป ตอนนี้พวกเขาได้สร้างกลุ่มในโลกโซเชียลเป็นเวลามากกว่า 3 เดือน และยังมีการแฮชแท็กประโยค #The_danger_of_electing_a_woman_in_municipal_elections ซึ่งประโยคนี้ได้ถูกใช้มากกว่า 7,500 ครั้งในเวลาหนึ่งเดือนที่ผ่านมา กลุ่มคนที่ไม่เห็นด้วยเหล่านี้ต่างแสดงความเห็นในทวิตเตอร์กันอย่างดุเดือด อย่างเช่นข้อความว่า “ผู้หญิงที่ลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นคนอันตรายและไม่เป็นที่ยอมรับในสังคม” ซึ่งข้อความนี้ได้ถูกรีทวีตมากกว่า 110 ครั้ง หรืออย่างข้อความนี้ที่บอกว่า “ถ้าคุณต้องการทำลายประเทศ คุณก็ควรทำลายครอบครัว (ผู้หญิง) ก่อน เพราะการที่ผู้หญิงจะออกไปทำงานนอกบ้านในการลงสมัครรับเลือกตั้ง ก็จะทำให้พวกเธอไม่มีเวลาดูแลบ้านและครอบครัวเหมือนแต่ก่อน ซึ่งการไม่มีเวลาดูแลครอบครัวของผู้หญิงก็เปรียบเหมือนกับการทำลายประเทศ
 
การที่กลุ่มอนุรักษนิยมไม่เห็นด้วยและออกมาแสดงความคิดเห็นทางทวิตเตอร์ ก็ทำให้มีผู้หญิงที่เห็นด้วยกับการให้สิทธิ์กับผู้หญิงในการเลือกตั้งได้แสดงความคิดเห็นโต้ตอบกลับในเรื่องนี้ อย่างเช่นว่า “ผู้หญิงไม่ได้มีหน้าที่แค่ให้กำเนิดบุตรเท่านั้น พวกเธอเลี้ยงดู และสอนลูกๆ ให้โตมาในสังคมนี้ได้ ดังนั้นพวกเธอไม่มีอันตรายถ้าพวกเธอจะถูกเลือกในครั้งนี้” หรือข้อความที่ว่า “อันตรายของการให้สิทธิ์ผู้หญิงในการเลือกตั้งในครั้งนี้ก็เหมือนกับอันตรายที่แม่ของคุณเลี้ยงคุณให้โตมาเป็นผู้ชายแบบนี้ในสังคม” นอกจากนี้ผู้ใช้ทวิตเตอร์จำนวนมากยังได้แคปภาพหน้าจอโทรทัศน์ของทีวีช่อง CBC ของประเทศอียิปต์ที่มีรูปของนักการเมืองหญิงที่ประสบความสำเร็จในประเทศต่างๆ และมีผู้หญิงชาวซาอุดีอาระเบียที่คลุมหน้าไว้พร้อมข้อความว่า “ฉันรู้สึกอับอายและไม่มีความเฉลียวฉลาด” 
 
ถึงแม้ว่าการโต้ตอบกันในทวิตเตอร์เรื่องการให้สิทธิ์ผู้หญิงซาอุดีอาระเบียในการเลือกตั้งผู้นำท้องถิ่นในครั้งนี้จะเป็นไปอย่างดุเดือด แต่การเลือกตั้งครั้งนี้ผู้หญิงก็ยังคงมีสิทธิ์ในการลงสมัครรับเลือกตั้งและมีสิทธิ์ในการลงคะแนนไม่เปลี่ยนแปลง 
 
นี่เป็นหนึ่งก้าวสำคัญของผู้หญิงในซาอุดีอาระเบียที่จะได้รับสิทธิ์มากขึ้นในสังคม และยังเป็นก้าวสำคัญของประเทศซาอุดีอาระเบียที่แสดงให้เห็นว่าประเทศซาอุดีอาระเบียยังให้ความสำคัญกับเรื่องความเท่าเทียมกันทางเพศเหมือนกับประเทศอื่นๆ อีกด้วย