วันเสาร์, เมษายน 27, 2024
Home > Cover Story > เจาะไอเดียธุรกิจนักบิดสาว เสาวณีย์ กาญจนโอฬารศิริ  

เจาะไอเดียธุรกิจนักบิดสาว เสาวณีย์ กาญจนโอฬารศิริ  

“เราเป็นคนชอบความเร็ว ขับรถเร็ว แต่เพิ่งมาหัดขี่มอเตอร์ไซค์บิ๊กไบค์เมื่อเกือบสิบปีก่อนนี้เอง มีก๊วนแก๊งสี่ห้าคนคบกันมาตั้งแต่สมัย ม.1 ขี่ไปเที่ยวหลายจังหวัด จนวันหนึ่งขี่ไปเที่ยวเขาใหญ่ ประทับใจ ชอบอากาศ ภูเขา ถนนสวยๆ ตัดสินใจหาซื้อบ้านอยู่เลย”

เสาวณีย์ กาญจนโอฬารศิริ กรรมการผู้จัดการ บริษัท Make A Whiz จำกัด กล่าวถึงจุดเริ่มต้นของโครงการ Rango pool villa บ้านพักพูลวิลล่าบนเขาใหญ่ จังหวัดนครราชสีมา ซึ่งถือเป็นธุรกิจตัวแรกในชีวิตเมื่อ 3 ปีก่อน

เธอเล่าว่า ตอนนั้นประทับใจเขาใหญ่มากและเริ่มหาที่ทาง ทั้งที่ไม่ใช่คนพื้นเพ เพื่ออยู่อาศัยและทำธุรกิจ โดยชิมลางทำฟาร์มก่อน แต่ลุยได้แค่ระยะหนึ่งเหมือนไม่ค่อยเหมาะกับไลฟ์สไตล์ของตัวเอง เพราะเป็นคนชอบกิจกรรมเชิงท่องเที่ยวและชอบบ้านสไตล์ทัสคานี ซึ่งมีที่มาจากชื่อเมือง Tuscany เป็นสถาปัตยกรรมแบบชนบทสไตล์อิตาลี เน้นสภาพแวดล้อมในธรรมชาติ เรียบง่าย สวยงาม แต่แฝงไว้ด้วยความอบอุ่นและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ลักษณะเด่นตรงหลังคาเป็นทรงปั้นหยาค่อนข้างลาดหรือเป็นหลังคาเรียบ

เสาวณีย์ลงทุนซื้อบ้านและตกแต่งตามสไตล์ทัสคานี วาดภาพให้เป็นบ้านบนภูเขา วางคอนเซ็ปต์ทะเลทรายเหมือนในภาพยนตร์การ์ตูนเรื่อง Rango เพราะชอบหนังการ์ตูนกิ้งก่าแรงโก้มาก เป็น Passion เอามาเป็นไอเดียจัดสวนและออกแบบบรรยากาศทะเลทราย มีต้นตะบองเพชรตามจุดต่างๆ

“ในย่านแถวนั้นไม่มีใครตกแต่งบ้านเหมือนเรา ไม่มีต้นตะบองเพชร (หัวเราะ) และผสมผสานระหว่างบ้านสไตล์ทัสคานีกับความเป็นทะเลทราย บ้านสวยมาก เกิดความรู้สึกอยากแชร์ประสบการณ์และ Story ต่างๆ ให้นักท่องเที่ยว กลายเป็นธุรกิจตัวแรกที่เพื่อนฝูงในวงการไม่รู้”

ปัจจุบัน Rango pool villa เปิดให้บริการห้องพัก 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ สไตล์ Luxury เหมาะกับกลุ่มครอบครัวและกลุ่มเพื่อน รวมถึงกลุ่ม Pet friendly เพื่อมัดใจกลุ่มลูกค้ารักสัตว์ ซึ่งช่วง 3 ปีที่ผ่านมา กระแสตอบรับดีมาก ทั้งในแง่ลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการและรูปแบบบ้าน มีนิตยสารชื่อดังเข้ามาถ่ายทำสกู๊ปอยู่หลายครั้ง

แน่นอนว่า ความสำเร็จของโครงการแรกทำให้เอ็มดีสาวมองแผนดำเนินการขั้นต่อไป โดยเตรียมขยายอสังหาริมทรัพย์เชิงท่องเที่ยวแบบเอ็กซ์คลูซีฟ คอนโดมิเนียมส่วนตัวที่มองเห็นวิวทะเลพาโนรามาบนหาดจอมเทียน เมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี เน้นการตกแต่งสไตล์ปราสาทหินอ่อน และเร็วๆ นี้ เตรียมเผยโฉมเมกะโปรเจกต์โฮสเทลในกรุงเทพฯ ซึ่งคาดว่าจะเริ่มก่อสร้างในปี 2567

“บริษัทเตรียมปรับโฉมตึกเก่าย่านยมราช เพื่อทำโปรเจกต์โฮสเทล ซึ่งจริงๆ ตั้งใจทำก่อนหน้านี้ แต่เจอสถานการณ์โควิดแพร่ระบาด ต้องพักไว้และเตรียมเวิร์กจริงจังในปีหน้า”

“เราอยากทำโฮสเทลที่มีสตอรี่ไม่เหมือนใคร สร้างประสบการณ์ให้นักท่องเที่ยวที่ไม่อยากนอนโรงแรมแบบเดิมๆ ห้องปกติ อาจเอาความชอบของตัวเอง เรื่องราวต่างๆ เข้ามาใส่ในโครงการ อย่างการขับขี่มอเตอร์ไซค์ท่องเที่ยว เอามอเตอร์ไซค์มาตั้ง ตกแต่งด้วยหมวกกันน็อก ชุดแข่ง และมีห้องพักไม่เกินสิบห้อง เป็นโรงแรมเฉพาะกลุ่มจริงๆ”

ต้องยอมรับว่า กิจกรรมการขี่มอเตอร์ไซค์เป็น Passion หนึ่งของเสาวณีย์ โดยเฉพาะการขี่บิ๊กไบค์ท่องเที่ยวไปสถานที่ต่างๆ เก็บประสบการณ์และต่อยอดสร้างธุรกิจใหม่ๆ ด้านอสังหาริมทรัพย์อย่าง Rango pool villa และอีกหลายโครงการ

ล่าสุด เสาวณีย์ยังเตรียมลุยโปรเจกต์เพื่อสังคม อยากเปลี่ยนภาพลักษณ์ “เด็กแว้น” ให้เป็นที่ยอมรับในสังคมมากขึ้น ในฐานะนักขับขี่บิ๊กไบค์คนหนึ่งในวงการร่วมสิบปี โดยอยู่เบื้องหลังสนับสนุนโครงการ “ลิตเติ้ล แว้น บี ว้าว ไรเดอร์ ปี 2023” ซึ่งตาล- รัชฎา นาคเจริญศรี นักกีฬาแข่งรถจักรยานยนต์ เป็นผู้ริเริ่มร่วมกับกองทุนการพัฒนากีฬาแห่งชาติ

จุดประสงค์ต้องการลดจำนวนเด็กแว้นซิ่งตามท้องถนน และดึงเยาวชนเหล่านี้เข้ามาสัมผัสประสบการณ์ใหม่ของการขับขี่ที่ถูกต้องในรูปแบบนักกีฬามอเตอร์สปอร์ต สองล้อ ที่สำคัญจะมีโอกาสคัดตัวเข้าสู่สนามแข่งรถมอเตอร์ไซค์อย่างถูกต้อง

“เราต้องการทำให้เด็กๆ ที่ถูกมองเป็นเด็กแว้น สร้างให้เขาเป็นดาว เป็นอาชีพที่ถูกยอมรับ เหมือนอาชีพนักร้องในอดีต ไม่ได้ถูกยอมรับ แล้ววันหนึ่งพี่เต๋อ (เรวัต พุทธินันทน์) ทำให้นักร้องกลายเป็นอาชีพที่ทุกคนอยากเป็น ครูเองอยู่เบื้องหลังมาตลอดเรื่องการสร้างศิลปินดารา นักร้อง พิธีกร ยังมี Passion เรื่องการสร้างคน จึงอยากทำสิ่งที่ครูชอบ คือ การขี่มอเตอร์ไซค์กับสร้างเด็กให้ทุกคนยอมรับ”

สำหรับข้อกำหนดคุณสมบัติของ ลิตเติ้ล แว้น บี ว้าว ไรเดอร์ ข้อแรก คือ มีใจรักและอยากเรียนรู้การขับขี่รถมอเตอร์ไซค์ การเข้าร่วมกิจกรรมเปิดกว้างไม่จำกัดเพศ หรือวุฒิการศึกษา โดยมีคณะกรรมการคัดกรองน้องๆ กำหนดจำนวนผู้เข้าร่วมโครงการครั้งละ 60 คน พร้อมอาหารและที่พัก ซึ่งมีเยาวชนมาจากทั่วทุกจังหวัดในประเทศไทยลงทะเบียนร่วมโครงการจำนวนมาก และเตรียมกิจกรรมออนทัวร์อีก 1 ครั้ง คือ ช่วงวันที่ 1-2 กรกฎาคม 2566

ทั้งนี้ ผู้ที่ได้รับการคัดเลือกเข้าร่วมกิจกรรมจะได้รับสิทธิพิเศษร่วมชมการแข่งขันรถจักรยานยนต์รายการ  OR BRIC ที่สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นเนล เซอร์กิต จังหวัดบุรีรัมย์ ช่วงเดือนกันยายน และมีทริปเอ็กซ์คลูซีฟให้เยาวชนในโครงการ 2 คนที่ทำคะแนนได้สูงสุด เยือนโรงงาน BMW Motorrad ที่ประเทศเยอรมนี พร้อมกับตาล รัชฎา นาคเจริญศรี เพื่อสัมผัสประสบการณ์แบบเรซซิ่งในสนามแข่งเต็มๆ 1 วัน

“เราอยู่กับเด็กๆ เห็นเด็กที่มีปัญหามาก ต่อให้มีเงิน เขาอาจมีปัญหา อาจเกิดจากครอบครัว เกิดจากสภาพแวดล้อมรอบตัว เราเคยเป็นครูสอนร้องเพลง รับรู้เยอะ เราอยากเปลี่ยนสภาวะจิตใจเด็กๆ ให้ดีขึ้น อยู่ในสังคมอย่างมีความสุข มีประโยชน์ต่อสังคมและประเทศชาติ”

เมื่อถามถึงที่มาของความหลงใหลความเร็วบนบิ๊กไบค์ ครูปิ๋มเล่าว่า จริงๆ ถูกห้ามขี่มอเตอร์ไซค์ตั้งแต่เด็กๆ เพราะครอบครัวเข้มงวดมาก ไม่ให้ขี่ ไม่ให้นั่งซ้อนมอเตอร์ไซค์ แต่มาวันหนึ่งเมื่ออายุมากแล้วได้ไปเที่ยวกับเพื่อนบนเขาทางภาคเหนือ ซึ่งนั่นกลายเป็นจุดเปลี่ยนในชีวิต

“เพื่อนเราขี่มอเตอร์ไซค์ แต่เรานั่งรถแล้วรู้สึกว่า เขาสนุกมากเลยขอลองนั่ง ใส่หมวกกันน็อก ฟีลดีมาก ตั้งแต่นั้นมาเราไปเรียนการขี่มอเตอร์ไซค์ สนุกมาก อินมากๆ ได้เห็นวิวที่ไม่เหมือนตอนนั่งรถและทำให้มีสมาธิ อยู่ในจุดที่เราคอนโทรลได้ มีความสุขมากๆ”

ขณะเดียวกัน มีการชักชวนเข้าร่วมรายการแข่งขัน ปรากฏว่า นักบิดสาว ปิ๋ม เสาวณีย์ ชนะติดต่อกัน แต่มาเกิดอุบัติเหตุล้มในสนามจนซี่โครงหัก 6 ซี่ ทำให้ต้องพักการแข่งและหันมาทำทีมแข่งระดับชิงแชมป์ประเทศไทย รวมทั้งออกทริปต่างๆ

ถามว่า ซี่โครงหัก 6 ซี่ กลัวหรือไม่ เธอตอบทันทีว่า ยังขี่อยู่บนพื้นฐานที่มีการเรียนและขี่อย่างปลอดภัยที่สุด โดยปัจจุบันมีมอเตอร์ไซค์ร่วมสิบคัน คันที่ชอบ ได้แก่ Ducati Supersport ขนาด 1000 ซีซี เหมาะสำหรับการท่องเที่ยว ถ้าเป็นการขับขี่ในสนามแข่งขันจะใช้ Yamaha R1 ขนาด 1000 ซีซี และอีกคัน HONDA CBR500 ใช้ขี่เที่ยวแบบซอกแซกบนเขา แต่ไม่ว่าขับขี่รุ่นไหนต้องใส่ชุดเซฟ พร้อมล้มทุกสถานการณ์

เธอทิ้งท้ายกับ “ผู้จัดการ360 องศา” ยืนยันถึงซี่โครงหัก 6 ซี่แต่ยังชอบความท้าทาย เพราะเป็นสิ่งที่สร้างประสบการณ์ชีวิตอย่างมีสีสันมากที่สุด.