วันศุกร์, มีนาคม 29, 2024
Home > On Globalization > เส้นทางของ Didier Raoult

เส้นทางของ Didier Raoult

Column: From Paris

Covid-19 ทำให้รู้จักชื่อ Didier Raoult ศาสตราจารย์นายแพทย์ผู้เชี่ยวชาญโรคติดเชื้อ ผู้พบว่ายา chloroquine และ hydroxychloroquine สามารถใช้กับผู้ที่ติดเชื้อ Covid-19 จนสร้างความแตกแยกในวงการแพทย์และนักวิทยาศาสตร์ของฝรั่งเศส

Didier Raoult เกิดที่เมือง Dakar ประเทศเซเนกัล (Sénégal) พ่อเป็นแพทย์ทหาร พื้นเพชาวนอร์มองดี (Normandie) ผู้ก่อตั้งสถาบันวิจัยอาหารในแอฟริกา ส่วนแม่เป็นพยาบาล ครอบครัวย้ายกลับฝรั่งเศส ตั้งรกรากที่เมืองมาร์เซย (Marseille) ขณะที่เขาอายุ 10 ขวบ เขาเรียนไม่ดี พออายุ 17 ปี ลาออกจากโรงเรียนเพื่อไปทำงานในเรือพาณิชย์เป็นเวลา 2 ปี ในปี 1972 เขากลับมาสอบมัธยมปลายด้านวรรณคดี และเข้าเรียนในคณะแพทยศาสตร์ของมาร์เซย เพราะเป็นวิชาเดียวที่พ่อจะออกค่าใช้จ่ายให้ ผลการเรียนขณะเป็นอินเทิร์นทำให้ไม่ได้เรียนสาขาที่อยากเรียน จึงต้องมาเรียนด้านโรคติดเชื้อเฉกเช่นเดียวกับตา เขาพูดเสมอว่าต้องการเป็นคนเก่งที่สุดในโลก เขาเดินทางไปศึกษาต่อในสหรัฐอเมริกาจนได้รับปริญญาเอก ผลการเรียนดีเลิศจนสถาบันแพทย์แห่งหนึ่งต้องการให้เขาร่วมทีมด้วย แต่เขาเลือกเดินทางกลับฝรั่งเศส ได้เป็นอธิการบดีมหาวิทยาลัยเมืองมาร์เซย

Didier Raoult ค้นพบแบคทีเรียหลายชนิด อันนำไปสู่การรักษาโรคที่เกิดจากแบคทีเรียเหล่านี้ ชื่อเสียงของเขาขจรขจายไปทั่วโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งผลงานวิจัยของเขาได้รับรางวัลมากมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งรางวัล Grand Prix Inserm (Institut national de la santé et de la recherche médicale) ในปี 2010 ซึ่งถือเป็นเหรียญทองของ CNRS (Centre national de la recherche scientifique) และรางวัลจาก Fondation Louis D ในปี 2015 และในปีเดียวกัน Thomson-Reuters จัดให้เขาเป็นนักค้นคว้าที่มีอิทธิพลที่สุดคนหนึ่ง ปี 2016 ได้รับเลือกเป็นนักวิจัยที่มีผู้กล่าวถึงมากคนหนึ่ง (High cited researcher list) และรางวัลอื่นๆ อีกมากมาย Didier Raoult มีผลงานพิมพ์จำนวนมาก ทั้งบทความและหนังสือกว่า 3,000 ชิ้น

Didier Raoult เป็นผู้ผลักดันให้เกิดสถาบันวิจัยการแพทย์ในมหาวิทยาลัยของเขาในปี 2017 รวบรวมนักเรียนแพทย์หัวกะทิกว่า 300 คนเพื่อทำงานในห้องแล็บ

ชื่อเสียงของ Didier Raoult จำกัดในวงการแพทย์และการวิจัย หากเขาเป็นที่ยอมรับนับถือของชาวเมืองมาร์เชย และนักเรียนแพทย์ของมหาวิทยาลัยเมืองนี้ เมื่อเกิดโรคระบาด Covid-19 ที่เมืองอู่ฮั่น เขานำชาวฝรั่งเศสที่เดินทางกลับมาจากเมืองนั้นไปเก็บตัวเป็นเวลา 14 วัน และคอยตรวจตลอดเวลา เขาชอบอ่านหนังสือพิมพ์ South China Morning Post ของฮ่องกง ทั้งยังเดินทางไปเมืองจีน 2 ครั้งด้วยกัน และประทับใจการทำงานของแพทย์และนักวิจัยจีน ซึ่งนำเชื้อไปเพาะและพบว่าเชื้อ coronavirus ตอบสนองดีกับยา chloroquine ผลการวิจัยนี้ตีพิมพ์ใน Cell Research ด้วยเหตุนี้ Didier Raoult จึงลงมือศึกษายา chloroquine ที่รักษาโรคมาลาเรีย และยา hydroxychloroquine ที่รักษาโรคลูปัส และรูมาตอยด์ ยาทั้งสองนี้ได้ทดสอบแล้วว่าใช้ไม่ได้กับไข้เลือดออกและชิคุนกุนยา แต่น่าจะใช้ได้กับโคโรนาไวรัส ดังนั้น Didier Raoult จึงร่วมกับทีมงานของเขาทดลองใช้ยานี้ร่วมกับยาปฏิชีวนะซึ่งต่อต้านไวรัส นั่นคือยา azithromycin ซึ่งเคยใช้กับโรคซิกามาแล้ว ปลายเดือนกุมภาพันธ์ 2020 ส่วนผสมของยาทั้งสองชนิดนี้พร้อมจะฉีดให้คนไข้ และทันทีก็ได้รับการอนุมัติจากเจ้าพนักงานด้านสาธารณสุข โดยใช้กับผู้ป่วยอาสาสมัคร 24 คน ปรากฏว่า 75 เปอร์เซ็นต์ของผู้ได้รับยาหายจากไวรัสนี้ภายใน 10 วัน แม้จะทดลองกับจำนวนคนอันน้อยนิด แต่เวลาไม่คอยท่า Didier Raoult จึงบอกกล่าวที่มหาวิทยาลัย ก่อนที่จะลงในยูทูบ

ราวกับลูกระเบิดลง วงการแพทย์และวิทยาศาสตร์พากันแก้ว่าเป็น fake news ขาดความเชื่อถือทางวิทยาศาสตร์ บ้างก็เกรงว่า hydroxychloroquine มีผลข้างเคียงต่อหัวใจ ซึ่ง Didier Raoult ก็ตอบสวนทันทีว่าตั้งแต่ทศวรรษ 1990 เขาใช้ยานี้รักษาคนไข้นับ 4,000 คน ไม่เห็นมีใครมีปัญหาหัวใจ ความคิดเห็นของเขาได้รับการสนับสนุนจากสมาชิกของคณะกรรมการระดับสูงด้านสาธารณสุขผู้หนึ่ง Didier Raoult รู้สึกโดดเดี่ยวในการต่อสู้ของเขา ไม่ว่าจะเป็นการสู้กับบริษัทยา รัฐบาลหรือเจ้าหน้าที่ระดับสูงที่ปารีส เขากล่าวว่าในฝรั่งเศสไม่ค่อยมีใครรู้จักผม `อย่างไรก็ตาม ประธานาธิบดีทุกยุคทุกสมัยนับตั้งแต่ฌาคส์ ชีรัก (Jacques Chirac) จนถึงเอ็มมานูเอล มาครง (Emmanuel Macron) ต่างไปกระทบไหล่เขามาแล้วทั้งสิ้น ดังเห็นจากภาพที่ประดับในห้องทำงาน หรือแม้แต่ที่อพาร์ตเมนต์ของเขา

คนเก่งปากกล้าย่อมตกเป็นขี้ปาก เสียงวิพากษ์วิจารณ์มาจากรอบด้าน เมื่อ Agnès Buzyn ได้รับแต่งตั้งเป็นรัฐมนตรีสาธารณสุข Didier Raoult พูดว่า ระวังปัญหาความขัดแย้งด้านผลประโยชน์ Yves Lévy สามีของท่านรัฐมนตรีเป็นแพทย์ใหญ่เหมือนกัน และมีตำแหน่งในองค์กรทางการแพทย์สำคัญๆ เขาไม่ยอมรับคณะแพทยศาสตร์ของมหาวิทยาลัยมาร์เซย จึงเป็นเหตุให้ Agnès Buzyn ไม่ชอบ Didier Raoult และไม่ไปร่วมพิธีเปิดสถาบันของฝ่ายหลัง เมื่อได้รัฐมนตรีสาธารณสุขคนใหม่ Olivier Veran ซึ่งเป็นแพทย์และรู้จัก Didier Raoult ดี ได้พูดคุยกับผู้อาวุโสบ่อยครั้ง

อย่างไรก็ตาม Didier Raoult ยึดมั่นในการวิจัยของตน เริ่มให้การรักษาด้วย hydroxychloroquine และ azithromycine ควบคู่กันไป จากมาร์เซย ต่อไปยังหลายเมือง ยิ่งเมื่อนักการเมืองหลายคนหายจาก Covid-19 ด้วยฝีมือของ Didier Raoult ทำให้เขายิ่งน่าเชื่อถือ ประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครงได้กล่าวแก่คณะที่ปรึกษาการแพทย์ว่าไม่ควรมองข้าม Didier Raoult ผู้ที่อยู่เบื้องหลังการตัดสินใจของท่านประธานาธิบดี คือ บริจิต มาครง (Brigitte Macron) นั่นเอง

จึงเป็นที่มาของการประกาศของรัฐบาลให้ใช้ยา hydroxychloroquine ได้ ทั้งนี้ต้องเป็นแพทย์ในโรงพยาบาลเป็นผู้สั่งเท่านั้น

ก่อนหน้านั้นแพทย์ผู้หนึ่งเสียดสี Didier Raoult ว่า ถ้า hydroxychloroquine ได้ผลจริง Didier Raoult คงจะได้รางวัลโนเบลเป็นแน่

อย่างอื่นไม่รู้ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์โทรศัพท์หา Didier Raoult และสหรัฐอเมริกาใช้ยาตามอย่างแพทย์ฝรั่งเศสผู้นี้

ใส่ความเห็น