วันเสาร์, เมษายน 20, 2024
Home > Life > ระวัง ! ตู้เย็นทำลายคุณค่าผัก & ผลไม้

ระวัง ! ตู้เย็นทำลายคุณค่าผัก & ผลไม้

 
ระวัง ! ตู้เย็นทำลายคุณค่าผัก & ผลไม้ ฟังดูแล้วทะแม่งๆ ใช่ไหม
 
ปกติแล้วเรารู้เพียงว่า เมื่อซื้อผักผลไม้มาแล้ว ดูเหมือนวิธีที่เราคิดว่าดีที่สุดและปลอดภัยที่สุด คือนำของทุกอย่างเก็บไว้ในตู้เย็น แต่เชื่อไหมว่า ตู้เย็นที่ให้ความเย็นมากเกินไป กลับกลายเป็นที่ที่เลวร้ายที่สุดสำหรับการเก็บผักผลไม้สดบางชนิด 
 
Zoe Wilson กับ Vanessa Hattersley สองนักกำหนดอาหารกล่าวว่า การยืดอายุผักผลไม้และรักษาคุณค่าทางอาหารให้ได้ครบถ้วนนั้น จำเป็นต้องรู้หลักการเก็บรักษาง่ายๆ บางอย่างด้วยเช่นกัน
 
พริกหวาน
จัดว่าเป็นผักคู่ครัวที่มักซื้อติดบ้านไว้เสมอ มีคุณค่าทางอาหารสูงมาก เพราะมีวิตามินซีและเบตา–แคโรทีนสูงมาก โดยเฉพาะพริกแดงยังมีไลโคปีนสูงด้วย Hattersley เตือนว่า “หากพริกหวานของคุณเริ่มเหี่ยว อย่าเพิ่งโยนทิ้ง ให้หั่นเป็นชิ้นใหญ่ๆ แล้วใส่ในหม้อซุป สตู หรือสปาเกตตีซอสเนื้อ”
 
ส่วน Wilson ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า “พริกหวานเป็นผักที่ไวต่อความเย็นเช่นเดียวกับถั่วและพริกขี้หนู เพื่อป้องกันไม่ให้พริกหวานได้รับความเย็นจัดจนกลายเป็นน้ำแข็งและนิ่มเละจนใช้ไม่ได้ ให้เก็บไว้ในตู้เย็นบริเวณที่ไม่เย็นจัดหรือมีอุณหภูมิสูงกว่าบริเวณอื่น”
 
ผักสลัด
ระวังอย่าเก็บผักสลัดในที่เย็นจัดเป็นอันขาด ยิ่งผักมีใบเขียวเข้มมากเท่าใด คุณค่าทางอาหารยิ่งสูงขึ้นเพียงนั้น และมีคุณค่าทางอาหารที่หลากหลายแตกต่างกันในแต่ละชนิด เช่น ผักโขมอุดมไปด้วยวิตามินซี เอ และแมงกานีส ขณะที่วอเตอร์เครสมีวิตามินซีและเอสูง ทั้งยังได้ชื่อว่าเป็นแหล่งพลังงานที่มีคุณค่าทางอาหารมาก เพราะเชื่อกันว่ามีสรรพคุณในการต่อต้านมะเร็ง
 
ผักสลัดประเภทผักกาดหอม ต้องเก็บในถุงพลาสติก มีรู แล้วเก็บในลิ้นชักตู้เย็น โดยวางไว้บนสุดเสมอ หากเอาของอื่นไปทับจะทำให้ผักกาดหอมช้ำเละอย่างรวดเร็ว
 
Hattersley ย้ำว่า ให้บริโภคผักสลัดที่ราดด้วยน้ำสลัดที่มีน้ำมันเป็นส่วนประกอบด้วย เพราะ “น้ำมันช่วยให้ร่างกายของคุณดูดซึมสารอาหารได้ดีขึ้น”
 
สมุนไพร
การเติมสมุนไพรสับละเอียดสักหนึ่งหรือสองช้อนโต๊ะลงในอาหารจานโปรด นอกจากช่วยชูรสทั้งกลิ่นและรสชาติให้อาหารจานนั้นหอมน่ารับประทานขึ้นมาในทันทีแล้ว ยังให้คุณประโยชน์อย่างเอกอุทั้งในแง่เสริมภูมิคุ้มกันและการย่อยอาหาร
 
สมุนไพรจัดว่ามีราคาแพงไม่เบา โดยเฉพาะเมื่อคิดว่าต้องซื้อมาหนึ่งกำมือแล้วใช้เพียงหนึ่งหรือสองก้าน ที่เหลือโยนทิ้งไป ดังนั้น คุณจะกลายเป็นคนใช้เงินอย่างคุ้มค่าแน่นอน ถ้ารู้วิธีเก็บหรือยืดอายุสมุนไพรเหล่านี้ เพียงใส่ไว้ในถุงพลาสติกที่มีรูระบายอากาศโดยรอบ
 
Wilson อธิบายว่า สมุนไพรมีความบอบบางมาก โดยเฉพาะชนิดที่มีใบอ่อนนุ่มเป็นพิเศษอย่างผักชี สมุนไพรเกือบทั้งหมดต้องเก็บในตู้เย็น ยกเว้นโหระพาที่เก็บนอกตู้เย็น โดยแช่น้ำทั้งกิ่งในแก้วน้ำทรงสูง แล้ววางในครัวบริเวณที่เย็นเป็นพิเศษ “คุณยืดอายุสมุนไพรได้ด้วยการตัดแยกกิ่งให้มีความยาวพอประมาณ แล้วใส่ในถุงพลาสติกที่มีซิปล็อก จากนั้นนำไปไว้ในช่องแช่แข็งหรือฟรีซเซอร์”
 
ถั่วเปลือกแข็งและเมล็ดธัญพืช
ทั้งถั่วเปลือกแข็งและเมล็ดธัญพืชได้ชื่อว่าเป็นอาหารว่างชั้นเลิศที่นอกจากอุดมด้วยไขมันดีที่เป็นแหล่งพลังงานแสนวิเศษแล้ว ยังมีวิตามินนานาชนิดที่คุณควรเพิ่มลงในจานสลัดหรืออาหารเช้าประเภทซีเรียล
 
Wilson กล่าวว่า การเก็บถั่วเปลือกแข็งและเมล็ดธัญพืชเหล่านี้ไว้ในโหลแก้วแล้ววางไว้บนชั้นนั้น อาจแลดูสวยงามและเหมาะสมดีแล้ว แต่เมื่อโดนแสง มันกลับอายุสั้นลงมาก “หากเก็บในตู้เย็น จะอยู่ได้นานราว 4 เดือน และอาจนานถึง 6 เดือนด้วยซ้ำถ้าเก็บในช่องแช่แข็ง โดยเหตุที่ถั่วเปลือกแข็งและเมล็ดธัญพืชมีไขมันสูง จึงมีกลิ่นเหม็นหืนได้ง่าย ดังนั้น ถ้าบริโภคในสภาพสดใหม่ รสชาติย่อมดีขึ้นมากเลยทีเดียว”
 
อโวคาโด
เป็นผลไม้ที่เมื่อสุกแล้วมีเนื้อแสนนุ่มและรสมันอร่อย นอกจากมีการยืนยันแล้วว่า อโวคาโดช่วยปกป้องหัวใจรวมทั้งทำให้ความดันโลหิตลดลง ยังอุดมไปด้วยไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยว กากใย วิตามินซีและอี
 
วิธีบ่มให้อโวคาโดสุกทำได้ไม่ยาก เพียงใส่ไว้ในถุงกระดาษสีน้ำตาล “คุณเร่งให้สุกเร็วขึ้นได้ด้วยการนำกล้วยหอมหนึ่งผลใส่ลงไปในถุงด้วย” Hattersley แนะนำ “เมื่อสุกแล้ว เราเก็บอโวคาโดในตู้เย็นได้อีกสองวัน”
 
ให้เลือกซื้ออโวคาโดเนื้อแน่นสีเขียวหรือม่วงอมดำ ซึ่งแก่จัดและจะสุกในอีกสองสามวัน เพื่อให้นำมาใช้งานได้ในสภาพที่สุกกำลังดีนั่นเอง เลือกผลที่ไม่มีตำหนิใดๆ รวมทั้งเปลือกไม่ปริแยกด้วย
 
กะหล่ำปลี
กะหล่ำปลีได้รับการยกย่องว่าเป็นยาครอบจักรวาล ช่วยรักษาโรคต่างๆ มาตั้งแต่ยุคโรมัน เพราะอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระและกากใย จึงช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันและรักษาอาการติดเชื้อต่างๆ 
 
Wilson เปิดเผยว่า “ถ้าเก็บไว้ในตู้เย็นบริเวณที่เย็นจัดที่สุด กะหล่ำปลีจะอยู่ได้นานถึงหนึ่งเดือน หากบริโภคกะหล่ำปลีเพียงวันละครึ่งถ้วย คุณจะได้รับวิตามินเคเต็มร้อยเลยทีเดียว ซึ่งดีต่อสุขภาพกระดูกของคุณมาก”
 
กะหล่ำปลีแดงมีวิตามินซีสูงกว่ากะหล่ำปลีสีเขียวถึง 6–8 เท่า
 
มะเขือยาวและแตงกวา
Hattersley บอกว่า “ผักทั้งสองชนิดนี้ไม่ชอบความเย็น ให้วางไว้บนชั้นในครัวก็เพียงพอแล้ว แต่ต้องระวังอย่าวางไว้ใกล้กับกล้วยและมะเขือเทศ ซึ่งเวลาสุกแล้วจะส่งกลิ่นฉุนออกมา ทำให้มะเขือเทศและแตงกวาดูดกลิ่นเข้าไปด้วย”
 
กระเทียม
Wilson แนะเคล็ดลับว่า ให้เก็บในหม้อดินเผาใบเล็ก ๆ ที่ทำให้กระเทียมเย็น และอยู่ได้นานขึ้น ไม่จำเป็นต้องเก็บในตู้เย็น
 
ผลไม้เมืองร้อน
Wilson กล่าวว่า “มะละกอ สับปะรด มะม่วง เลมอน และมะนาว ล้วนเป็นผลไม้ที่ไวต่อความเย็น ตู้เย็นทำให้ผลไม้เหล่านี้เน่าเร็วขึ้น ให้วางในถาดผลไม้แล้วตั้งบนโต๊ะจะดีที่สุด”
 
 
ที่มา: นิตยสาร GoodHealth
Column: Well – Being
เรียบเรียง: ดรุณี แซ่ลิ่ว