วันจันทร์, เมษายน 29, 2024
Home > Cover Story > โอบอ้อมคลินิก บุกปั๊ม ปตท. เปิด O2O Hub

โอบอ้อมคลินิก บุกปั๊ม ปตท. เปิด O2O Hub

“หลังผ่านสถานการณ์โควิด สปสช. ขยายการรักษาโรคทั่วไป 42 อาการผ่านระบบ Telemedicine จึงเกิดไอเดียสร้าง Hub เพราะหลายครั้งก่อนเจอคุณหมอ ต้องตรวจร่างกาย ซึ่ง Telemedicine ตรวจร่างกายไม่ได้ ต้องเดินเข้าคลินิก มีพยาบาลตรวจร่างกายและเผอิญโออาร์ต้องการพาร์ตเนอร์ตรงนี้พอดี….”

นีล นิลวิเชียร ประธานกรรมการบริหาร บริษัท คลิกนิก เฮลท์ จำกัด (Clicknic) กล่าวกับ “ผู้จัดการ 360 องศา” ถึงจุด “คลิก” ระหว่างสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ โออาร์ และคลิกนิก เฮลท์ จนเกิดโครงการ “โอบอ้อมคลินิก” ในสถานีบริการน้ำมัน PTT Station แห่งแรก โดยพุ่งเป้าให้บริการผู้ป่วยกลุ่มบัตรทอง

แต่จุดแตกต่างจากคลินิกทั่วไป คือ รูปแบบ Omni-channel ผสมผสาน Offline และ Online ในกรณีการเจ็บป่วยเกินขอบเขตการรักษาของคลินิก Clicknic จะทำหน้าที่เชื่อมต่อบริการ Telemedicine ในสถานพยาบาล ร่วมกับเทคโนโลยีการพบแพทย์ทางไกล (Telemedicine & Health Care Platform) ให้ผู้ป่วยสามารถปรึกษาหมอเฉพาะทางและมีบริการส่งยาถึงมือโดยไม่ต้องเดินทางไปโรงพยาบาล ซึ่งใช้เวลานานมาก

ด้านหนึ่ง โออาร์มีจุดแข็งในแง่พื้นที่ในชุมชน คือ สถานีบริการน้ำมันกระจายตัวตามกรุงเทพฯ และปริมณฑล รวมถึงทั่วประเทศ โดยวางนโยบายให้ปั๊มเป็นจุดศูนย์กลางของชุมชน ลูกค้าเดินเข้ามาใช้บริการต่างๆ อย่างครบวงจร สามารถเติมน้ำมัน ซื้อของ รับประทานอาหาร และหาหมอได้ด้วย ตามยุทธศาสตร์การขยายขอบเขตกลุ่มธุรกิจไลฟ์สไตล์ไปยังธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับ Health & Wellness

อีกด้านหนึ่ง โมเดลการให้บริการของคลิกนิกและ สปสช. สามารถตอบโจทย์โออาร์ได้ทันที คือ ประชาชนมีสิทธิ์บัตรทอง และคลิกนิกเชื่อมต่อช่องทางให้ผู้ป่วยปรึกษาหมอได้อย่างรวดเร็ว โดยเบิกสิทธิ์บัตรทองได้ ทำให้คนส่วนใหญ่ ถ้าไม่สบาย สามารถเดินเข้าปั๊มน้ำมัน ใช้บริการโอบอ้อมคลินิกและหาหมอได้ทันที

ส่วนการนำร่องสาขาแรกในสถานีบริการพีทีทีสเตชัน หนองแขม เนื่องจากโออาร์ระบุว่า ปั๊มแห่งนี้มีแทรฟฟิกจำนวนมาก ประเมินจากจำนวนลิตรการขายน้ำมันอยู่ในเกณฑ์สูง รวมทั้งเป็นทำเลพื้นที่มีประชาชนอยู่อาศัยหนาแน่นและยอดผู้มีสิทธิ์บัตรทองจำนวนมาก ประกอบด้วย 3 กลุ่มหลัก คือ กลุ่มนักเรียนนักศึกษา กลุ่มที่ไม่ได้ทำงานบริษัท เช่น วินมอเตอร์ไซค์ ผู้ขับขี่แท็กซี่ ผู้ประกอบอาชีพอิสระ และกลุ่มเกษียณอายุ ผู้สูงอายุ ซึ่ง สปสช. โออาร์และคลิกนิกทำวิจัยสำรวจร่วมกัน กระทั่งตัดสินใจเลือกเป็น Prime Area ของกลุ่มผู้มีสิทธิ์บัตรทองและนำร่องเป็น Pilot Project

ทั้งนี้ โอบอ้อมคลินิกการพยาบาลและการผดุงครรภ์สาขาแรก เปิดให้บริการระหว่างวันจันทร์ถึงเสาร์ เวลา 8:00-17:00 น. รองรับทั้งผู้ป่วยทั่วไปและผู้ป่วยบัตรทอง โดยมีพยาบาลวิชาชีพให้บริการพื้นฐานภายในคลินิก เช่น ทำแผล ฝากครรภ์ ตรวจครรภ์ รับยาคุมกำเนิด รับถุงยางอนามัย คัดกรองและประเมินความเสี่ยงสุขภาพกายหรือสุขภาพจิต ตรวจรักษาโรคเบื้องต้นก่อนปรึกษาแพทย์ผ่านระบบ Telemedicine

นีลกล่าวว่า สปสช. และคลิกนิกวางแผนการขยายคลินิกไว้ 2 ระยะ คือ ระยะสั้น การขยายจำนวนเคสเพิ่มขึ้น เพราะจากการเปิดให้บริการเพียงไม่กี่วันตั้งแต่ช่วงกลางเดือนกันยายนที่ผ่านมา ผลตอบรับดีมาก เฉลี่ย 19-20 เคสต่อวัน โดยตั้งเป้าเพิ่มขึ้นอย่างน้อยเฉลี่ย 50 เคสต่อวัน

ระยะที่ 2  สปสช. เตรียมทำเฟสทดลองกลุ่มโรคเรื้อรัง เช่น โรคเบาหวานประเภท 2 ที่ต้องคุมอาหารและวัดระดับน้ำตาลอย่างต่อเนื่อง โอบอ้อมคลินิกสามารถเป็นฮับ บริการเจาะเลือด ติดตามด้วย Telemedicine และส่งยาถึงบ้าน ซึ่งเบื้องต้นวางแผนขยายสาขาอีก 4 แห่งในสถานีบริการน้ำมันทำเลสี่มุมเมือง ประมาณต้นไตรมาส 2 ปี 2567

ขณะเดียวกัน สปสช. ยังเร่งขยายโครงการร้านขายยาคุณภาพ บริการปรึกษาและจ่ายยาฟรีแก่ผู้ใช้สิทธิบัตรทองที่มีอาการเจ็บป่วยเล็กน้อย (Common illnesses) 16 กลุ่มอาการ ซึ่งต่อยอดจากช่วงการระบาดของโควิด-19 ในโครงการแจก ATK จ่ายยาและดูแลอาการทั่วไปที่เกิดจากโควิด แต่หากเป็นอาการนอกเหนือ 16 กลุ่มอาการ เภสัชกรจะแนะนำให้พบแพทย์ที่คลินิกหรือโรงพยาบาล

ปัจจุบันมีร้านยาผ่านการอบรมเข้าร่วมโครงการกว่า 800 แห่ง และจะผ่านการอบรมอีกกว่า 1,000 แห่ง หรือรวมแล้วมากกว่า 1,500 แห่งทั่วประเทศ โดยมีเครือข่ายดรักสโตร์ยักษ์ใหญ่เข้าร่วมด้วย เช่น ร้านวัตสันเข้าร่วมแล้ว  68 สาขา และจะขยายอีก 50 สาขาภายในปีนี้ ร้านเอ็กซ์ต้า พลัส ในเครือซีพีออลล์ เข้าร่วมแล้ว 271 สาขา และบริการปรึกษาเภสัชกรผ่านแอป ALL PharmaSee ร้านบู๊ทส์เข้าร่วมแล้ว 110 สาขา และมีบริการ Telephamacist บน Boots App

ด้านท็อปส์แคร์ (Tops Care) ในเครือเซ็นทรัล รีเทล เข้าร่วมแล้ว 3 สาขา ที่ท็อปส์สาขาพัฒนาการ 30 สาขาแจ้งวัฒนะ สาขาพระราม 2 และตั้งเป้าขยายเพิ่มเป็น 50 สาขาภายในปี 2566 ก่อนปูพรม 300 สาขาทั่วประเทศภายในปี 2570 รวมทั้งเปิดบริการปรึกษาปัญหาสุขภาพกับทีมเภสัชกร แพทย์ผ่านแชตและวิดีโอคอลทาง Line Official Account @Tops-care

ซีอีโอคลิกนิกเฮลท์ย้ำว่า โอบอ้อมคลินิกในปั๊ม ปตท. หนองแขม ถือเป็นช่องทาง O2O Online to Offline แห่งแรก และยังมองทำเลอื่นๆ เช่น คอนโดมิเนียม ห้องพยาบาลในบริษัทต่างๆ ในมหาวิทยาลัย ในโรงเรียน เพียงแค่มีไอแพดเท่ากับสามารถปรึกษาแพทย์ได้ตลอดเวลา แต่ ณ เวลานี้ ต้องถือว่าเครือข่ายสถานีบริการน้ำมันถือเป็นทำเลครอบคลุมพื้นที่ได้มากที่สุด.

42 โรค ใช้ Telemedicine 16 อาการ ปรึกษา-รับยาฟรี

สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เพิ่มบริการการแพทย์ทางไกล 42 กลุ่มโรคผ่านแอปสุขภาพ ประกอบด้วย 1. ข้อเสื่อมหลายข้อ 2. ตาแดงจากไวรัส 3. ตาแดงจากไวรัส ที่ไม่ระบุรายละเอียด 4. ข้อเสื่อมโดยทั่วไปปฐมภูมิ 5. เนื้อเยื่ออักเสบ 6. วิงเวียน มึน 7. ปวดศีรษะ 8. อาหารเป็นพิษจากเชื้อแบคทีเรียอื่น 9. อาการท้องร่วง 10. กระเพาะและลำไส้อักเสบจากการติดเชื้อ

11. ไข้ไม่ทราบสาเหตุ 12. ความผิดปกติของระบบการทรงตัวของหู 13. โรคตากุ้งยิงและตุ่มอักเสบเรื้อรังที่หนังตา 14. การอักเสบของเยื่อบุตา 15. การติดเชื้อไวรัส ที่ไม่ระบุรายละเอียด 16. กล้ามเนื้อเคล็ด 17. ติดเชื้อไวรัสไม่ระบุตำแหน่ง 18. ข้ออักเสบข้อเดียว ที่ไม่ระบุรายละเอียด 19. เยื่อบุจมูกและลำคออักเสบเฉียบพลัน (หวัดธรรมดา) 20. ไข้ ไม่ระบุชนิด

21. เวียนศีรษะบ้านหมุนเฉียบพลัน ไม่รุนแรง 22. ปวดท้องช่วงบน 23. การติดเชื้อทางเดินหายใจในส่วนบนแบบเฉียบพลันหลายจุด 24. ลมพิษ 25. ปวดท้อง และปวดอุ้งเชิงกราน 26. เยื่อบุตาอักเสบเฉียบพลัน ที่ไม่ระบุรายละเอียด 27. ลมพิษ ที่ไม่ระบุรายละเอียด 28. ปวดหลังส่วนล่าง 29. คออักเสบเฉียบพลัน 30. ต่อมทอนซิลอักเสบเฉียบพลัน

31. คออักเสบเฉียบพลัน ที่ไม่ระบุรายละเอียด 32. การติดเชื้อทางเดินหายใจในส่วนบนแบบเฉียบพลัน 33. กระเพาะอาหารอักเสบที่ไม่ระบุรายละเอียด 34. อาการปวดท้องอื่นๆ 35. ข้ออักเสบหลายข้อที่ไม่ระบุรายละเอียด 36. ต่อมทอนซิลอักเสบเฉียบพลันที่ไม่ระบุรายละเอียด 37. เยื่อจมูกอักเสบจากการแพ้ 38. เยื่อจมูกอักเสบจากการแพ้หรือการเปลี่ยนอากาศ 39. ข้ออักเสบแบบอื่น 40. ไซนัสอักเสบเฉียบพลัน 41. ไซนัสอักเสบเฉียบพลันที่ไม่ระบุรายละเอียด และ 42. การติดเชื้อโควิด-19 กลุ่มสีเขียว อาการเจ็บป่วยเล็กน้อย

ส่วน 16 อาการที่สามารถปรึกษาเภสัชกรรมและรับยาฟรีในเครือข่ายร้านยาคุณภาพ ได้แก่ ปวดหัว เวียนหัว ปวดข้อ เจ็บกล้ามเนื้อ ไข้ ไอ เจ็บคอ ปวดท้อง ท้องเสีย ท้องผูก อาการทางผิวหนัง ผื่น คัน เกิดอุบัติเหตุ มีบาดแผล ถ่ายปัสสาวะขัด/ปัสสาวะลำบาก/ปัสสาวะเจ็บ ตกขาวผิดปกติ อาการผิดปกติต่างๆ ที่เกิดขึ้นกับตา และอาการผิดปกติต่างๆ ที่เกิดขึ้นกับหู.