วันศุกร์, มีนาคม 29, 2024
Home > PR News > ผู้ประกอบการสถานบันเทิง 311 ร้าน รวมตัวยื่นจดหมายถึงนายกฯ อนุญาตจำหน่ายแอลกอฮอล์ พร้อมปลดล็อคเปิดสถานบันเทิงทั่วประเทศช่วงไฮ ซีซั่น

ผู้ประกอบการสถานบันเทิง 311 ร้าน รวมตัวยื่นจดหมายถึงนายกฯ อนุญาตจำหน่ายแอลกอฮอล์ พร้อมปลดล็อคเปิดสถานบันเทิงทั่วประเทศช่วงไฮ ซีซั่น

ผู้ประกอบการสถานบันเทิง 311 ร้าน รวมตัวยื่นจดหมายถึงนายกฯ วอนผู้ว่าฯ อนุญาตจำหน่ายแอลกอฮอล์ในร้านอาหาร นำร่อง 17 จังหวัดท่องเที่ยว พร้อมปลดล็อคเปิดสถานบันเทิงทั่วประเทศช่วงไฮ ซีซั่น สอดคล้องกับแผนเปิดประเทศ ร่วมเสนอมาตรฐานความปลอดภัย และมาตรการเยียวยาผู้ประกอบการ

กลุ่มผู้ประกอบการร้านอาหาร สถานบันเทิงในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร ปริมณฑล และกลุ่มจังหวัดที่เป็นพื้นที่เศรษฐกิจและการท่องเที่ยวหลัก คือ ชลบุรี เชียงใหม่ ภูเก็ต รวม 311 ร้าน ยื่นจดหมายเปิดผนึกถึง พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และผู้อำนวยการศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 ณ ทำเนียบรัฐบาล กระทรวงมหาดไทย กระทรวงสาธารณสุข และศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร เพื่อขอให้พิจารณาการอนุญาตให้จำหน่ายและดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในร้านอาหาร ในเขตพื้นที่นำร่องด้านการท่องเที่ยว 17 จังหวัด ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2564 และอนุญาตให้เปิดกิจการสถานบริการ ผับ บาร์ คาราโอเกะ ทั่วประเทศ ตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2564 เป็นต้นไป พร้อมข้อเสนอมาตรฐานการดำเนินกิจการปลอดภัย (COVID-Free Setting) สำหรับสถานบริการ ผับ บาร์ คาราโอเกะ และมาตรการช่วยเหลือและเยียวยาผู้ประกอบการ

โดยตัวแทนผู้ประกอบการในเขตพื้นกรุงเทพมหานครและปริมณฑล รวมถึงในจังหวัดที่เป็นพื้นที่เศรษฐกิจและการท่องเที่ยวหลักกล่าวว่า นับตั้งแต่สถานการณ์การแพร่ระบาดโรคติดเชื้อโควิด-19 กว่า 19 เดือน ผู้ประกอบการร้านอาหาร สถานบันเทิง และสถานประกอบการได้แก่ ผับ บาร์ คาราโอเกะ รวมถึงพนักงานหลายหมื่นคน ได้ปฏิบัติตามมาตรการของภาครัฐอย่างเคร่งครัดมาโดยตลอด แม้ว่าจะส่งผลกระทบอย่างรุนแรง ต่อเนื่อง ยาวนาน ต่อทั้งธุรกิจ พนักงาน และครอบครัว จนส่งผลให้ผู้ประกอบการกว่าร้อยละ 40-50 จำเป็นต้องปิดตัวลงอย่างถาวร เนื่องจากขาดรายได้และขาดสภาพคล่อง

อย่างไรก็ตาม จากคำประกาศเจตนารมย์ของนายกรัฐมนตรีเกี่ยวกับแผนการเปิดประเทศและการผ่อนคลายกิจการกิจกรรม ที่ครอบคลุมการพิจารณาการอนุญาตให้ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในร้านอาหารในเขตพื้นที่ที่กำหนดเป็นพื้นที่นำร่องด้านการท่องเที่ยว 17 จังหวัด ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2564 และการพิจารณาอนุญาตให้ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในร้านอาหาร รวมถึงเปิดกิจการสถานบริการ ผับ บาร์ คาราโอเกะ ทั่วประเทศ ตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2564 นั้น จะเกิดขึ้นได้ภายใต้มาตรการด้านความปลอดภัยด้านสาธารณสุขที่เหมาะสม ถือเป็นปัจจัยสำคัญในการผลักดันให้เกิดการฟื้นฟูของภาคอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและการบริการ โดยกระตุ้นการจ้างงานและการกระจายรายได้ ในช่วงเทศกาลปีใหม่ซึ่งถือเป็นไฮซีซั่น (High Season) ของภาคอุตสาหกรรมดังกล่าว

ทางกลุ่มผู้ประกอบการจึงรวมตัวกันเพื่อยื่นจดหมายเสนอต่อพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในประเด็นและมาตรการต่างๆ ดังนี้

– ให้ผู้ว่าราชการจังหวัด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอนุญาตให้จำหน่ายและดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในร้านอาหารในเขตพื้นที่ที่กำหนดเป็นพื้นที่นำร่องด้านการท่องเที่ยว 17 จังหวัด (พื้นที่สีฟ้า) ตามที่ปรากฏในคำสั่งศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่ 18/2564 เรื่อง พื้นที่นำร่องด้านการท่องเที่ยว ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2564 และอนุญาตให้ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในร้านอาหาร และเปิดกิจการสถานบันเทิง ผับ บาร์ คาราโอเกะ ทั่วประเทศ ตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2564 โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในแต่ละพื้นที่ จะดำเนินการร่วมกับผู้ประกอบการเพื่อกำกับดูแลและควบคุมให้เป็นไปตามมาตรการข้อเสนอมาตรการปลอดภัย (COVID-Free Setting) สำหรับสถานบริการ ผับ บาร์ คาราโอเกะ

– จัดหาชุดตรวจ Antigen Test Kit (ATK) โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย หรือในราคาที่ถูกที่สุดแก่สถานประกอบการเพื่อให้พนักงานทำการตรวจด้วยตนเองอย่างน้อยทุก 7 วัน

– จัดลำดับความสำคัญในระดับต้นสำหรับการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น (booster) หรือวัคซีนที่พัฒนารุ่นใหม่ เช่น กลุ่ม Protein Subunit และ mRNA เป็นต้น แก่ผู้ประกอบการและพนักงานของสถานบันเทิง ผับ บาร์ คาราโอเกะ ที่จะเกิดขึ้นในปี 2565 , เมื่อมีหลักฐานประจักษ์ว่ามีผู้ติดเชื้อเข้ามาใช้บริการในสถานประกอบการ หรือมีพนักงานเป็นผู้ติดเชื้อ ให้พิจารณาปิดสถานประกอบการชั่วคราวเป็นเวลา 3 วัน หรือตามเกณฑ์ที่ใช้ในกิจกรรมอื่น เพื่อทำความสะอาดและฆ่าเชื้อในสถานประกอบการอย่างเข้มข้น และกักตัว (Home Isolation) เฉพาะผู้สัมผัสเสี่ยงสูงเป็นเวลา 14 วัน ,

– จัดหาสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ โดยมีระยะปลอดดอกเบี้ย พร้อมผ่อนคลายเงื่อนไขในการพิจารณาสินเชื่อเพื่อเสริมสร้างสภาพคล่องแก่สถานประกอบการในระยะเร่งด่วน

– มอบหมายผู้ว่าราชการจังหวัดหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในแต่ละจังหวัดบูรณาการการการรณรงค์และประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนรับทราบ ตระหนักรู้ และปฏิบัติตามมาตการป้องกันตนเองขั้นสูงสุด (Universal Prevention) อย่างต่อเนื่อง เพื่อป้องกันการการ์ดตก

โดยกลุ่มผู้ประกอบการในเขตพื้นกรุงเทพมหานครและปริมณฑล รวมถึงในจังหวัดที่เป็นพื้นที่เศรษฐกิจและการท่องเที่ยวหลัก ยินดีให้ความร่วมมือและสนับสนุนการดำเนินการของรัฐบาลและศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 ในการประกอบกิจการ เพื่อพลิกฟื้นเศรษฐกิจ ส่งเสริมความมั่นคงทางสังคมควบคู่กับความปลอดภัยด้านสาธารณสุขอย่างสมดุลและยั่งยืนต่อไป

ใส่ความเห็น