วันอังคาร, มีนาคม 19, 2024
Home > Cover Story > เซเว่นฯ ลุยอัปเกรดสินค้า พิซซ่า เบเกอรี่ ของสด สู้ “คนละครึ่ง”

เซเว่นฯ ลุยอัปเกรดสินค้า พิซซ่า เบเกอรี่ ของสด สู้ “คนละครึ่ง”

ยักษ์ใหญ่สะดวกซื้อ เซเว่นอีเลฟเว่น ดูเหมือนต้องเร่งเดินหน้าตามแผนยุทธศาสตร์ All Convenience และปรับกลยุทธ์ช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2563 โดยเฉพาะการสร้างจุดขายและแรงดึงดูดกลุ่มลูกค้าที่แห่ไปจับจ่ายสินค้าในร้านโชวห่วยรายย่อยภายใต้โครงการ “คนละครึ่ง” ของรัฐบาล คิดเป็นเปอร์เซ็นต์เพิ่มขึ้นมากกว่าเท่าตัว

ขณะที่มาตรการ “ช้อปดีมีคืน” ซึ่งร้านสะดวกซื้ออยู่ในกลุ่มร้านค้าตามโครงการ โดยประชาชนสามารถใช้สิทธิ์หักลดหย่อนภาษีจากค่าซื้อสินค้าหรือค่าบริการในประเทศตามที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 30,000 บาทต่อคนนั้น กระแสความนิยมของผู้คนไม่แรงเท่าโครงการคนละครึ่ง เนื่องจากต้องรอการหักลดหย่อนภาษีและมูลค่าที่ได้ขึ้นอยู่กับฐานรายได้ของประชาชนแต่ละคน ฐานรายได้สูงจึงจะได้รับการลดหย่อนสูง

สิ่งที่เห็นชัดเจน คือ ร้านสะดวกซื้อทุกค่ายต่างต้องทำโปรโมชั่นและเพิ่มสินค้าใหม่ที่แตกต่างจากร้านโชวห่วย ซึ่งเซเว่นอีเลฟเว่นมีการปรับกลยุทธ์อย่างชัดเจน โดยเฉพาะการเพิ่มสินค้าใหม่หมวดอาหาร เบเกอรี่ หรือแม้กระทั่งของสด เช่น เนื้อหมู เนื้อไก่ กุ้ง เข้ามาอยู่ในตู้แช่มากขึ้น รวมทั้งจัดโปรโมชั่นลดแลกแจกแถมในกลุ่มสินค้าที่ไม่มีจำหน่ายในร้านโชวห่วยทั่วไป

อย่างล่าสุด กลุ่มธุรกิจ คัดสรร เบเกอรี่ แอนด์ คาเฟ่ ธุรกิจเบเกอรี่และเครื่องดื่มในเครือบริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) ผู้บริหารธุรกิจร้านสะดวกซื้อ เซเว่นอีเลฟเว่น งัดแคมเปญใหม่กระตุ้นแบรนด์ “พิซซ่าคาเฟ่” ซึ่งเพิ่งเปิดเคาน์เตอร์จำหน่ายเมื่อ 2 เดือนก่อน จัดโปรโมชั่นจากปกติ ราคาถาดละ 79 บาท ลดราคาเหลือ 59 บาท ถ้าซื้อ 2 ถาด ราคา 99 บาท โดยชูจุดขายแป้งพิซซ่าสูตรฟอคคาเซีย สไตล์อิตาเลียน และเพิ่มหน้าใหม่ แชมปิญองแอนด์ชีส จากก่อนหน้ามีให้เลือก 3 หน้า คือ ฮาวายเอี้ยน ชีสซี่และเบสท์ไบท์ นอกจากนี้ เพิ่มทอปปิ้ง เช่น สับปะรด แฮม มอสซาเรลลาชีส และไส้กรอกเยอรมัน ในราคา 15 บาทต่อชนิด

ขณะเดียวกันเร่งขยายเคาน์เตอร์จำหน่ายในร้านเซเว่นอีเลฟเว่นจาก 20 กว่าสาขา เป็น 137 สาขา และมีบริการสั่งผ่าน 7-Delivery ได้ ตั้งแต่เวลา 7 โมงเช้าถึง 3 ทุ่ม

ทั้งนี้ ในร้านสาขาโฉมใหม่เต็มรูปแบบจะเน้นเพิ่มกลุ่มสินค้าหลากหลายมากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มเบเกอรี่ “คัดสรร” สินค้าออร์แกนิก ตู้แช่ของสด กลุ่มเครื่องดื่มออลคาเฟ่ ร้านขายยาเอ็กซ์ต้าพลัส และมุมสินค้าบิวตี้ Guardian ซึ่งเป็นแบรนด์ล่าสุดที่ซีพีออลล์ ร่วมทุนกับบริษัท แดรี่ ฟาร์ม อินเตอร์เนชั่นแนล โฮลดิ้ง จำกัด เพื่อดำเนินธุรกิจการจัดจำหน่ายสินค้าสุขภาพและความงามในไทย ทั้งสินค้ากลุ่มคอสเมติกส์ แฮร์แคร์ สกินแคร์ เวลเนส ราคาสินค้าเริ่มต้น 19 บาท และสินค้าออร์แกนิกเริ่มต้น 150 บาท

นายเกรียงชัย บุญโพธิ์อภิชาติ รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส และ Chief Financial Officer บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) หรือ CPALL กล่าวว่า บริษัทกำลังเร่งปรับทิศทางร้านเซเว่นอีเลฟเว่นจาก New Convenience เป็น All Convenience สะดวกครบจบที่เดียว ไม่ว่าจะเป็นสะดวกซื้อ ลูกค้าสามารถซื้อสินค้าทุกอย่างทุกที่ทุกเวลา สะดวกจ่าย จ่ายได้ทุกรูปแบบ เข้าสู่สังคมไร้เงินสด สะดวกรับ สามารถรับสินค้าได้ทุกที่ ทั้งหมดสร้างประสบการณ์และสิทธิประโยชน์ ความคุ้มค่า คุ้มราคา ความสะดวกปลอดภัย

สำหรับยุทธศาสตร์ All Convenience จะครอบคลุมทั้งช่องทางออนไลน์ทูออนไลน์ (O2O) และออนไลน์ทูออฟไลน์ จะเป็นฐานและช่องทางนำเสนอสินค้าและบริการ ร้านเซเว่นฯ ยุคใหม่ สามารถสั่งสินค้าพรีออเดอร์ได้ และเป็นจุดส่งเดลิเวอรี่ ทั้งการสั่งผ่านโมบายแอปและเว็บไซต์ ได้แก่ All Online และ 24 Shopping

ในส่วนบริการเคาน์เตอร์เซอร์วิส จากเดิมให้บริการชำระบิลต่างๆ ค่าน้ำ ค่าไฟฟ้า ต่อมาเพิ่มบริการรับชำระบัตรเครดิต ชำระเบี้ยประกัน จนล่าสุด การเป็น Banking Agent บริการฝาก ถอน รวม 8 ธนาคาร ได้แก่ ธนาคารไทยพาณิชย์ กสิกรไทย ออมสิน กรุงศรีอยุธยา ธกส. ทีเอ็มบี และซีไอเอ็มบี ไทย

ปัจจุบันซีพีออลล์สามารถเพิ่มบริการยืนยันตัวตน KYC Service (Know Your Customer) เพื่อเปิดบัญชีธนาคารได้แล้ว 3 ธนาคาร คือ ไทยพาณิชย์ กรุงศรีฯ และซีไอเอ็มบี ไทย โดยลูกค้าเสียบบัตรประชาชนแบบชิปการ์ดที่เครื่อง EDC ที่ร้านเซเว่นฯ และถ่ายภาพยืนยันตัวตน เพื่อเปิดบัญชีเงินฝากได้ทันที

อย่างไรก็ตาม นายเกรียงชัยย้ำว่า ร้านเซเว่นฯ ในแต่ละทำเลจะมีรูปโฉมแตกต่างกัน ประเภทสินค้าและบริการแตกต่างกัน ซึ่งขึ้นอยู่กับกลุ่มลูกค้าเป้าหมายและไลฟ์สไตล์ เช่น สถานที่ท่องเที่ยว ที่พัก โรงพยาบาล จะมีพื้นที่ Food Place บริการสินค้าปรุงสดและพิซซ่าคาเฟ่

บางสาขามีสินค้าสุขภาพ ร้านขายยาเอ็กซ์ต้า จำหน่ายวิตามิน อาหารเสริม พร้อมเภสัชกรจ่ายยาตามใบสั่ง หรือบางสาขามีสินค้ากลุ่มบิวตี้ Guardian ซึ่งเป็นแบรนด์จากฮ่องกง และไตรมาสหน้าจะเพิ่มจำนวนสินค้าใหม่อย่างต่อเนื่อง

ทว่ารูปแบบร้านที่แตกต่างชัดเจน คือ สาขาตามแหล่งท่องเที่ยว เพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์กลุ่มนักท่องเที่ยวอย่างชัดเจนและผลักดันให้ “เซเว่นอีเลฟเว่น” เป็นจุดแลนด์มาร์กใหม่ในพื้นที่ เช่น สาขาธาราพัทยา ซึ่งได้รับการออกแบบในสไตล์ “เรือยอชต์” ให้เข้ากับทำเลและบรรยากาศสบายๆ ชายหาดพัทยา เพิ่มพื้นที่ลานระเบียงและลานพลาซ่า ลานโล่งสถานที่ตั้งของ Big Fan พัดลมขนาดยักษ์ รองรับการจัดกิจกรรมต่างๆ

รวมถึงสาขาล่าสุด ผาซ่อนแก้ว (Pha Sorn Kaew) ในตำบลแคมป์สน จังหวัดเพชรบูรณ์ ซึ่งถือเป็นรูปแบบร้านระดับพรีเมียม 2 ชั้น มีจุดนั่งชมวิว 360 องศา จากระเบียงชั้น 2 ของร้าน และด้านข้างร้านสามารถมองเห็นวัดพระธาตุผาซ่อนแก้วได้ ด้านในร้านตกแต่งด้วยภาพกราฟิกเป็นรูปพระพุทธเจ้า 5 พระองค์ของวัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว สร้างบรรยากาศจิบกาแฟ ดูวิวทะเลหมอก อย่างสวยงาม

“หลังจากนี้ ซีพีออลล์ต้องเร่งเตรียมความพร้อมทุกด้าน เพราะจากการประเมินภาพรวมผลการดำเนินงานในไตรมาส 4 ยังมีความท้าทายมากเมื่อเทียบช่วงเวลาเดียวกันกับปีก่อนเพราะด้วยฐานที่สูง แม้ปกติแล้วไตรมาสสุดท้ายของทุกปีจะเป็นช่วงพีกของธุรกิจ แต่เกิดวิกฤตโควิด-19 เกิดการล็อกดาวน์ประเทศ และสถานการณ์ในต่างประเทศที่ยังมีความเสี่ยงเรื่องการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้การเดินทางเพื่อท่องเที่ยวในไทยลดลงด้วย”

นอกจากนี้ หากสำรวจตัวเลขรายได้ จำนวนลูกค้าและยอดจับจ่ายจะพบว่า ในไตรมาส 3 ร้านเซเว่นอีเลฟเว่นมียอดรายได้ต่อสาขาต่อวันเฉลี่ย 69,068 บาท เติบโตในอัตราลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 14.3% จำนวนลูกค้าต่อสาขาต่อวัน 917 คน เทียบปีก่อนอยู่ที่ 1,187 คน แม้ยอดจับจ่ายต่อคนเฉลี่ย 75 บาท สูงขึ้นเล็กน้อยจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มียอดบิลเฉลี่ย 70 บาท จากพฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงต่อเนื่องจากสถานการณ์ล็อกดาวน์ธุรกิจค้าปลีกขนาดใหญ่ ทำให้ลูกค้าหันมาซื้อสินค้าในร้านสะดวกซื้อใกล้บ้านมากขึ้น

แต่ในภาพรวมผลประกอบการในไตรมาส 3/2563 มีรายได้ 135,500 ล้านบาท ยังเติบโตลดลง 3.8% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน เนื่องจากได้รับผลกระทบจากทางเศรษฐกิจ อัตราการบริโภคที่ยังหดตัว และจำนวนนักท่องเที่ยวที่หายไป

ทั้งหมดจึงต้องพิสูจน์ว่า ยุทธศาสตร์ All Convenience และการอัปเกรดสินค้าขนานใหญ่ของเซเว่นอีเลฟเว่นจะผลักดันตัวเลขรายได้จบปีนี้ได้สวยงามตามเป้าหมายได้หรือไม่

3 ยุทธศาสตร์ All Convenience

๐ ช่องทางขายใหม่ 1. ร้านสาขาเซเว่น-อีเลฟเว่น
2. บริการ 7-Delivery
3. All Online ผ่านโมบายแอปพลิเคชัน
4. 24 Shopping ผ่านเว็บไซต์

๐ บริการใหม่ 1. เคาน์เตอร์เซอร์วิส รับชำระค่าบริการต่าง ๆ
2. Banking Agent รับฝาก ถอน และ KYC Service
3. รับส่งพัสดุ SPEED-D
4. บริการซักรีด Clean Mate

๐ สินค้าใหม่ 1. กาแฟ All Café
2. เบเกอรี่คัดสรร
3. อาหารปรุงสด Food Place
4. พิซซ่าคาเฟ่
5. ร้านขายยา eXta
6. สินค้าบิวตี้ Guardian

ใส่ความเห็น