วันอังคาร, มีนาคม 19, 2024
Home > Life > ระบายสี ละลายความเครียดสะสม

ระบายสี ละลายความเครียดสะสม

ความเป็นจริงที่เกิดขึ้นบนโลก ทั้งสภาพเศรษฐกิจที่กำลังซื้ออ่อนแรงลงเป็นทุนเดิม และยังถูกกระหน่ำซ้ำเติมจากระลอกคลื่นแห่งความโชคร้ายที่พัดพาเอาเชื้อไวรัสโควิด-19 เข้ามาสร้างรอยแผลให้ลึกลงไปจากจุดเดิม

นี่ยังไม่นับรวมปัญหาอื่นๆ ที่รายล้อมเข้ามาดั่งพายุลูกแล้วลูกเล่า ซึ่งยังไม่มีท่าทีว่าจะสิ้นสุดลงเมื่อไหร่ ทั้งปัญหาการเมืองในประเทศ ปัญหาความอยุติธรรมในสังคม การประท้วงเรียกร้องสิทธิเสรีภาพในกลุ่มต่างๆ ฯลฯ

ทั้งหมดทั้งมวลล้วนนำมาซึ่งความเครียดที่ค่อยๆ แทรกซึมและหยั่งรากลึกลงไปในระบบความนึกคิด ความรู้สึก และแปรสภาพเป็นอาการที่แสดงออกมาทางกายภาพ ซ้ำร้ายกว่านั้น คือ เราได้ถ่ายทอดความตึงเครียดไปสู่ผู้คนในครอบครัวโดยที่เราไม่อาจรู้ตัว

อาการที่บ่งชี้ว่า เราอยู่ในภาวะความเครียด ได้แก่ อาการที่แสดงออกทางร่างกาย เช่น ปวดศีรษะ เบื่ออาหาร ปวดท้อง หัวใจเต้นเร็ว เป็นต้น ยังมีอาการที่แสดงออกทางด้านจิตใจ เช่น สมาธิสั้น ความจำไม่ดี การตัดสินใจช้าลง วิตกกังวล อาการที่แสดงออกทางด้านอารมณ์ เช่น อารมณ์แปรปรวน หงุดหงิดหรือโกรธง่ายขึ้น ร้องไห้ มองโลกในแง่ร้าย ซึมเศร้า อาการที่แสดงออกทางด้านพฤติกรรม เช่น รับประทานอาหารจุบจิบ หรือรับประทานอาหารมากขึ้น สูบบุหรี่ ดื่มแอลกอฮอลล์

เมื่อเรามีอาการเจ็บป่วยทางร่างกาย เป็นหวัด หรือมีไข้ เราสามารถดูแลรักษาสุขภาพให้หายจากไข้หวัดได้ ด้วยการใช้ยาบรรเทาอาการ ออกกำลังกาย และเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์

แต่ความเครียดที่เกิดขึ้น เป็นความเจ็บป่วยทางใจ ไม่ใช่ทุกคนที่จะสามารถรับมือเมื่อต้องเผชิญกับความเครียด หรือยับยั้งความรู้สึกที่มากระตุ้นให้เกิดความเครียดได้ เพราะผู้ที่สามารถเอาชนะความเครียดได้นั้น ไม่ใช่เรื่องของความโชคดี ทว่า เป็นเรื่องของการฝึกฝนความแข็งแรงของจิตใจ ให้แกร่งพอที่จะต้านทานสิ่งเร้าที่จะก่อให้เกิดความเครียดในอนาคต

เมื่อต้องเผชิญกับความเครียด สิ่งแรกที่ควรกระทำคือ วิเคราะห์หาสาเหตุที่ทำให้เกิดความเครียด และพิจารณาดูว่าสามารถแก้ปัญหาที่ต้นเหตุได้หรือไม่ หรืออาจจำเป็นต้องขอความช่วยเหลือจากผู้อื่นในการแก้ปัญหา เพราะบางครั้งเราไม่สามารถแก้ไขได้เพียงลำพัง

ขณะที่วิธีการจัดการกับความเครียด คือ การทำให้ร่างกายรู้สึกผ่อนคลาย เช่น การออกกำลังกาย การนวด การรับประทานอาหารที่ชอบ ดูภาพยนตร์ ฟังเพลง ปลูกต้นไม้ นั่งสมาธิ และอีกวิธีที่นักบำบัด นักจิตวิทยา แนะนำคือ การใช้ศิลปะบำบัด เพราะการวาดภาพ ระบายสี การปั้น ช่วยทำให้สภาวะอารมณ์ของเราได้ผ่อนคลายลง

นักจิตวิทยาด้านศิลปะบำบัดอย่าง ลินดา เทอร์เนอร์ กล่าวว่า การระบายสีจะช่วยให้คุณเยือกเย็นขึ้น เพราะหากคุณกำลังจดจ่ออยู่กับการระบายสี กำลังมีสมาธิอยู่กับการทำงานศิลปะ มันจะช่วยให้คุณสงบนิ่งอยู่กับปัจจุบันและรู้สึกผ่อนคลาย

ข้อดีของการระบายสี ไม่ว่าจะเป็นการระบายสีในสมุดที่มีลวดลายอยู่แล้ว หรือระบายลงบนกระดาษเปล่า

1. ช่วยให้สมองได้รู้สึกผ่อนคลาย ลดระดับความวิตกกังวลลงไปอัตโนมัติ เมื่อเราระบายสีลงบนลวดลายง่ายๆ

2. การระบายสีเป็นเหมือนการออกกำลังกายของสมอง ที่ต้องใช้สมองทั้งสองซีกทำงานอย่างสอดคล้องกัน

การเลือกสีอย่างสร้างสรรค์ยังเป็นการจัดระเบียบแนวคิด

3. ช่วยพัฒนาแนวคิดนอกกรอบได้มากขึ้น ที่สำคัญคือ เป็นการฝึกสมาธิทำให้เราจดจ่อกับอะไรได้นาน

4. การระบายสีจะส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวันให้ดีขึ้น เช่น การนอนหลับ ปรับปรุงความจำ

5. สร้างความรู้สึกดีให้เกิดขึ้นกับจิตใจ จากการเลือกสีเชิงบวก

6. การระบายสีไม่ได้จำกัดแต่เฉพาะวัยเด็กเท่านั้น ในวัยผู้ใหญ่สามารถเรียนรู้สิ่งต่างๆ จากศิลปะได้เช่นกัน

นอกจากนี้ สียังมีพลังที่ช่วยเยียวยารักษาบำบัดอารมณ์และความรู้สึก สีโทนร้อน เช่น สีเหลือง สีส้ม สีแดง สีม่วง ที่ช่วยให้รู้สึกมีชีวิตชีวา สร้างพลังความเร่าร้อน กระตือรือร้นและกระฉับกระเฉง สีโทนเย็น เช่น สีเขียว สีน้ำเงิน สีฟ้า สร้างความรู้สึกผ่อนคลาย สดชื่น สงบ สบายใจ คลายเครียด สีโทนเย็นจึงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับคนที่มีชีวิตประจำวันเคร่งเครียดเป็นอย่างมาก

ครั้งต่อไปที่เรารู้สึกเครียด หรือต้องเผชิญกับสภาวะความกดดันที่จะส่งผลต่อสภาพจิตใจ การระบายสีดูจะเป็นการระบายความเครียดได้เป็นอย่างดี ถือเป็นการฝึกฝีมือในด้านศิลปะ และยังเป็นการฝึกจิตใจให้พร้อมรับกับสภาวะหรือเหตุการณ์ไม่คาดฝันที่อาจเกิดขึ้นได้ในอนาคต

ใส่ความเห็น