Home > กระทรวงคมนาคม

เร่งเครื่องสถานีกลางบางซื่อ ดึงกลุ่มทุนปลุกย่านธุรกิจใหม่

กระทรวงคมนาคมกำลังเร่งเครื่องก่อสร้างโครงการ “สถานีกลางบางซื่อ” เพื่อเปิดให้บริการทันตามเป้าหมายช่วงต้นปี 2564 แจ้งเกิดศูนย์กลางระบบรางหรือศูนย์กลางคมนาคมแห่งอนาคตของประเทศ และปลุกย่านธุรกิจขนาดใหญ่ ซึ่งบรรดากูรูเศรษฐกิจและอสังหาริมทรัพย์ต่างจับจ้องโอกาสการเติบโตไปพร้อมๆ กับเมกะโปรเจกต์แห่งนี้ ทั้งนี้ ตามแผนของกรมการขนส่งทางราง กระทรวงคมนาคม ระบุว่า ในปีงบประมาณ 2563 กระทรวงคมนาคมมีแผนลงทุนโครงการเมกะโปรเจกต์จำนวน 41 โครงการ วงเงิน 1.78 ล้านล้านบาท เพื่อขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจ สังคม ยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน สอดคล้องกับนโยบายตามยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี (พ.ศ. 2561-2580) และแผนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมขนส่งของไทย (พ.ศ. 2558-2565) ที่ต้องการพัฒนาระบบคมนาคมขนส่งทุกโครงข่าย ทั้งทางถนน ทางราง ทางน้ำ และทางอากาศ ให้เชื่อมโยงกันเป็นหนึ่งเดียว รวมทั้งแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 12 ของกระทรวงคมนาคม เน้นการพัฒนาการขนส่งทางรางให้เป็นโครงข่ายหลักของประเทศ ซึ่งเป็นที่มาสำคัญของการจัดตั้งกรมการขนส่งทางราง ขณะเดียวกัน การพัฒนาโครงข่ายระบบรางในเมืองเริ่มเห็นชัดเจนตั้งแต่ช่วงปี 2558-2559 ทั้งโครงการรถไฟฟ้าสายต่างๆ จากเดิมที่มีระยะทาง 80-100 กิโลเมตร ล่าสุดมีการอนุมัติไปแล้วกว่า 386

Read More

20 เมกะโปรเจกต์ จุดเปลี่ยนเศรษฐกิจไทย

 เมกะโปรเจกต์ภายใต้การดูแลของกระทรวงคมนาคมซึ่งจะเป็นส่วนช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยภายใต้กรอบ S-Curve ซึ่งหนึ่งในนั้นคือการพัฒนาโครงการสร้างพื้นฐาน ทั้งนี้จะเป็นอีกหนึ่งต้นทุนของการผลิต การบริการ ความสะดวกในการคมนาคมที่เป็นความต้องการของประชาชน ซึ่งเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่จะสามารถยกระดับคุณภาพชีวิตของคนในสังคมได้  ปัจจัยสนับสนุนเศรษฐกิจของประเทศโดยหลักๆ อยู่ที่ธุรกิจการท่องเที่ยว และการลงทุนของภาครัฐ ทั้งที่เป็นโครงการเก่าที่ยังคงค้างอยู่ในขั้นตอนการดำเนินงาน รวมไปถึงเขตเศรษฐกิจพิเศษซึ่งไทยจะต้องพร้อมที่จะเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ทั้งนี้ดูเหมือนว่ารัฐบาลชุดนี้จะให้ความสำคัญต่อเมกะโปรเจกต์ทั้งที่กำลังก่อสร้าง หรือโครงการที่อยู่ในขั้นตอนการขออนุมัติ ซึ่งเส้นทางคมนาคมที่กำลังเกิดขึ้นจะเชื่อมต่อโยงใยพื้นที่ต่างๆ ของประเทศสร้างให้เกิดความสะดวกสบายและร่นระยะเวลาในการเดินทาง ซึ่งแน่นอนว่าย่อมหมายถึงต้นทุนโลจิสติกต์ที่จะลดลงในอนาคตสำหรับภาคอุตสาหกรรม โดยอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม พยายามผลักดันโครงการต่างๆ ให้ผ่านขั้นตอนแรก ซึ่งคือขั้นตอนการอนุมัติโครงการ ทั้งนี้ผลดีจากการลงทุนของภาครัฐนั้นย่อมก่อให้เกิดแรงกระเพื่อมทางเศรษฐกิจได้  เมื่อภาคเอกชนเห็นว่านโยบายใดของรัฐบาลที่ผ่านการอนุมัติจากคณะรัฐมนตรีแล้ว นักลงทุนจะเล็งเห็นโอกาสทางธุรกิจเช่นเดียวกัน ดังจะเห็นได้จากราคาที่ดินบริเวณเส้นทางระบบขนส่งมวลชนแบบรางนั้น ราคาประเมินถีบตัวสูงขึ้นหลายเท่าตัว โดยภาคเอกชนที่ตอกหมุดจับจองพื้นที่กันอย่างรวดเร็ว รอเพียงการพัฒนาไปสู่ที่พักอาศัยแนวตั้ง หรือห้างค้าปลีกขนาดใหญ่  กระนั้นโครงการเมกะโปรเจกต์ที่อาคมเล็งเห็นและให้ความสำคัญนั้นคือเส้นทางคมนาคมทางบก ทางน้ำ ทางอากาศ และระบบราง ทั้งนี้ 20 โครงการจะถูกดำเนินงานภายใต้กรอบระยะเวลาการทำงาน 8 ปี ตั้งแต่ปี 2558–2565 ซึ่งจะดำเนินการภายใต้แผนงาน 5 แผน 1. โครงข่ายรถไฟระหว่างเมือง 2. โครงข่ายขนส่งสาธารณะ แก้ปัญหาการจราจร 3. ความสามารถของทางหลวงในการเชื่อมโยงฐานการผลิตของประเทศ 4. โครงข่ายการขนส่งทางน้ำ และ

Read More