วันศุกร์, มีนาคม 29, 2024
Home > Cover Story > เปรม บุษราบวรวงษ์ MD One Thailand ฝันเปลี่ยนฉากทัศน์มวยไทย

เปรม บุษราบวรวงษ์ MD One Thailand ฝันเปลี่ยนฉากทัศน์มวยไทย

มวยไทย กีฬาการต่อสู้ที่ได้รับความนิยมทั้งจากคนไทยและชาวต่างชาติ ภาพจำที่มีในหลายมิติแง่มุม ทั้งการสร้างอาชีพให้แก่ผู้สนใจ โดยเฉพาะเด็กหนุ่มจากต่างจังหวัด เป็นฟันเฟืองหลักในธุรกิจค่ายมวย และเป็นอีกหนึ่งอัตลักษณ์ของไทยในเชิงการท่องเที่ยวและกีฬา ที่มักจะได้รับความสนใจในกลุ่มนักท่องเที่ยวจากต่างชาติ

นอกจากนี้ อีกหนึ่งภาพจำของกีฬามวยไทยคือ การพนันขันต่อ ที่เรามักจะได้เห็นเสมอในสนามมวย แม้จะยังไม่ถูกกฎหมาย แต่ไม่อาจปฏิเสธได้ว่าไม่มีอยู่จริง และต้องยอมรับว่า มวยกับการพนันเป็นสิ่งที่อยู่คู่กันเสมอ รวมถึงการล้มมวย ที่มักนำมาซึ่งความสูญเสีย โดยเฉพาะต่อตัวนักมวยที่อาจต้องทิ้งอนาคตลงบนเวทีผืนผ้าใบ

นักกีฬามวยไทยอาจไม่ได้ถูกมองดังฮีโร่เช่นนักกีฬามวยสากล โดยเฉพาะนักกีฬาที่เข้าร่วมแข่งขันรายการใหญ่อย่างโอลิมปิก ที่หากนำชัยชนะและคว้าเหรียญทองกลับมาในนามประเทศได้ มักจะได้รับคำชื่นชม รายได้ และโอกาสที่ตามมาอีกมากมาย

ทว่าเวที One Championship คือกุญแจสำคัญที่กำลังจะเปลี่ยนฉากทัศน์ของมวยไทยในอดีต “ชาตรี ศิษย์ยอดธง” ผู้ก่อตั้งและซีอีโอ One Championship ชายผู้ประกาศจุดยืนที่จะนำมวยไทยไปสู่จุดสูงสุด ปัจจุบันเป็นนักธุรกิจหมื่นล้านที่สร้างความเปลี่ยนแปลงให้เกิดแก่วงการมวยไทย

นอกจาก ชาตรี ศิษย์ยอดธง แล้ว อีกหนึ่งคนสำคัญที่ก้าวเข้ามาร่วมขับเคลื่อนมวยไทย และพร้อมจะเป็นผู้ปั้นฮีโร่นักชกรากหญ้าสู่เวทีใหญ่ระดับโลก “เปรม อริยะวัฏ บุษราบวรวงษ์” ที่เพิ่งได้รับการแต่งตั้งให้เป็นกรรมการผู้จัดการ One ประเทศไทย เมื่อปีที่แล้ว

หลายคนอาจรู้จัก เปรม บุษราบวรวงษ์ ในฐานะทายาทค่ายแฟร์เท็กซ์ ค่ายมวยที่นายบรรจง บุษราบวรวงษ์ ผู้เป็นพ่อ ปลุกปั้นมาอย่างยาวนาน นอกจากธุรกิจค่ายมวยแล้ว แฟร์เท็กซ์ยังเป็นเจ้าของแบรนด์อุปกรณ์กีฬาที่ส่งออกต่างประเทศเป็นหลัก โดย 90 เปอร์เซ็นต์ส่งออกไปยังยุโรป อเมริกา จีน และ 10 เปอร์เซ็นต์จำหน่ายภายในประเทศ

คุณเปรมร่วมงานกับ One Championship ในฐานะสปอนเซอร์มาตั้งแต่เริ่มต้น การทำงานร่วมกันและแนวคิดที่เป้าหมายเหมือนกัน น่าจะเป็นส่วนสำคัญให้คุณเปรมนั่งแท่นตำแหน่ง MD ของ One อีกคน

ทุกอย่างต้องพัฒนาขึ้น

“แฟร์เท็กซ์ ธุรกิจอุปกรณ์กีฬา แม้ปัจจุบันจะเติบโตได้ดี แต่เราต้องทำให้ดีขึ้นไปอีกขั้น อาจต้องดูเรื่องแพลตฟอร์มออนไลน์ มาร์เกตติ้งออนไลน์มากขึ้น เพื่อไปสู่การเป็นผู้นำ” คุณเปรมเล่าถึงทิศทางของแฟร์เท็กซ์ธุรกิจที่รับสืบทอดมาจากรุ่นพ่อ ขณะที่ปัจจุบันยังมีอีกหนึ่งหน้าที่ ที่ดูจะยิ่งใหญ่ไม่แพ้กัน

“ส่วนที่เข้ามาทำงานที่ One Championship ประเทศไทย ผมอยากเปลี่ยนวงการมวยไทย ต้องการให้มวยไทยพัฒนาขึ้นไปอีกระดับหนึ่ง คนส่วนใหญ่มองว่ามวยไทยเป็นกีฬาที่เกี่ยวข้องกับการพนัน เป็นกีฬาที่มีการล้มมวย มีภาพลบอยู่เสมอ ผมคิดว่าถึงเวลาแล้วที่เราจะนำเอาคำว่า “มวยไทย” ไปต่อยอดและพัฒนาไปถึงระดับโลกให้ได้ พยายามสร้างภาพดีๆ ให้กับชาวต่างชาติหลงรักมวยไทย”

มวยไทย ถือเป็นกีฬาการต่อสู้ที่มีท่วงท่าสวยงาม และถูกมองว่านี่เป็นศิลปะอีกหนึ่งแขนง ในแต่ละปีจะมีชาวต่างชาติเดินทางเข้ามาในประเทศไทยเพื่อเรียนรู้มวยไทยนับหมื่นคน ดูได้จากจำนวนค่ายมวยที่เปิดสอนชาวต่างชาติที่กระจายอยู่ตามจังหวัดท่องเที่ยวที่เพิ่มมากขึ้น กระทั่งมวยไทยกลายเป็นอุตสาหกรรมส่งออก เมื่อมีนักลงทุนมองเห็นโอกาส และเปิดโรงเรียนสอนมวยไทยในต่างประเทศ

ฉากทัศน์ของมวยไทย สร้างฮีโร่บนเวทีผืนผ้าใบ

“สมัยก่อน ไม่มีใครชื่นชมนักกีฬามวยไทยสักเท่าไร โดยเฉพาะในรุ่นเก่าๆ นักมวยเลิกชก แทนที่เราจะเห็นนักมวยที่เราชื่นชอบ มองเขาเป็นฮีโร่ เป็นตัวอย่าง น่าสนับสนุน แต่เรากลับเห็นนักกีฬาเหล่านั้นพอเลิกชกมวยแล้ว ไม่มีงาน ไม่มีเงิน อยู่ข้างถนน ขายยาเสพติด หรือทำงานผิดกฎหมาย”

การยกระดับอาชีพมวยไทย อาจเป็นสิ่งที่หลายคนมองว่าเป็นเรื่องยาก เมื่อมีปัจจัยหลายด้านที่เกี่ยวข้อง แต่ผู้บริหาร One ประเทศไทยยังมีความแน่วแน่

“เราพยายามที่จะเปลี่ยนภาพจำเหล่านั้น ทำให้นักมวยมีรายได้มากขึ้น ทำอาชีพนี้ได้อย่างซื่อสัตย์ ไม่ต้องล้มมวย นี่คือเป้าหมายที่สำคัญ และเราพยายามช่วยทุกคนในวงการมวย ไม่ใช่แค่นักมวยเท่านั้น แต่รวมถึงค่ายมวย โปรโมเตอร์ กรรมการ อยากให้ทุกคนมองเห็นคุณค่าของกีฬามวยไทย ทำให้ทุกคนเท่าเทียม”

นอกจากภาพจำของมวยไทย และสวัสดิภาพ รายได้ของผู้คนในแวดวงมวยไทย ที่คุณเปรมต้องการเปลี่ยนแล้ว การสร้างลีกเล็กๆ เพื่อปูทางสู่การไปขึ้นเวทีใหญ่อย่าง One Championship ก็ไม่น้อยหน้า

“One Lumpinee เราทำมาเพียงแค่ 4 เดือน แต่ถือว่ามีการพัฒนา สามารถเปลี่ยนมุมมองของคนได้มากขึ้น เราอยากให้กีฬามวยไทยเป็นกีฬาอาชีพจริงๆ ไม่ใช่แค่กีฬาที่มาต่อยมวยเพื่อหาเลี้ยงครอบครัวเท่านั้น แต่มวยไทยจะเป็นอาชีพที่สามารถสร้างรายได้ทุกเดือน”

เป้าหมายการสร้างขุมกำลังของนักกีฬามวยไทย โดยเฉพาะการสร้างรายได้ที่เป็นปัจจัยหลักที่จะเป็นแรงจูงใจให้เหล่านักชกมองเห็นโอกาสสำหรับก้าวย่างที่สำคัญในชีวิต “สิ่งที่เราทำสามารถเปลี่ยนชีวิตนักกีฬาได้ เราอยากสร้างฮีโร่ให้กับคนไทยที่มีมวยไทยเป็นมรดก ชาวต่างชาติชื่นชมมวยไทย แต่เรากลับไม่มีฮีโร่มวยไทยมากพอ”

นอกจากค่าตัวของนักมวยจากการขึ้นชกต่อนัด ที่แม้ผู้บริหาร One ประเทศไทยจะไม่สามารถบอกตัวเลขที่ชัดเจนได้ แต่ยืนยันว่าสูงกว่าเวทีอื่น และสิ่งที่ทำให้เหล่านักชกอยากตบเท้าขึ้นสังเวียนแห่งนี้คือเงินโบนัสที่สูงถึงหลักแสนบาท โดยมีเงื่อนไขอยู่ไม่กี่อย่างสำหรับผู้ชนะ คือ ท่วงท่าลีลาการชกที่สวยงาม เป็นแมตช์ที่สนุก สร้างความประทับใจ

ความพยายามของผู้บริหาร One Championship ไทย ไม่ใช่แค่การสร้างรายได้เพื่อจูงใจนักชกเท่านั้น เพราะนั่นไม่ใช่เครื่องการันตีว่า เราจะมีนักกีฬามากพอสำหรับการปลุกปั้นให้ขึ้นไปไขว่คว้าความสำเร็จ

คุณเปรมเล่าเส้นทางที่จะสร้างเหล่านักชกให้ขึ้นมาประชันฝีมือบนเวทีใหญ่ว่า “เราร่วมมือกับการกีฬาแห่งประเทศไทย และหลายภาคส่วน สร้างโครงการ “ศึกมวยไทยรากหญ้าสู่สากล” ที่ค้นหานักชกหน้าใหม่ เปรียบเทียบให้เข้าใจง่ายๆ คือ เวทีนี้เหมือนอคาเดมี เป็นคลาสระดับประถม แฟร์เท็กซ์ไฟลท์ เป็นคลาสระดับมัธยม One Lumpinee เป็นเสมือนมหาวิทยาลัย และหากเป็น One Championship เสมือนระดับปริญญาโท

“เราอยากสร้างสเต็ปให้นักกีฬาได้มีความฝัน ความมุ่งมั่น ถ้าอยากเป็นนักกีฬาจริง เรามีทางเดินให้ ไม่ใช่ทางตันแบบแต่ก่อน ต่อยมวยไทยจบแล้วยังไงต่อ ซึ่งนานๆ ทีอาจจะมีนักกีฬามวยที่สามารถไปต่อได้ในระดับอินเตอร์เนชันแนล อย่าง บัวขาว แต่ก็ยังมีจำนวนน้อย เราเลยทำขั้นบันไดให้เขาสามารถวาดฝันได้

“สิ่งสำคัญที่สุดคือ มวยไทยจะไปได้ไกลกว่านี้ เป็น Soft Power ที่แท้จริง ที่ทุกๆ คนจะเห็นคุณค่า ไม่ใช่แค่คนจนจะมาเป็นนักมวย แต่คนชั้นกลาง คนชั้นสูง หรือใครที่รักกีฬานี้ก็สามารถมาแข่งขันได้”

การสนับสนุนอุตสาหกรรมมวยไทยใน โครงการ “ศึกมวยรากหญ้าสู่สากล” เป็นหนึ่งในนโยบายของรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่ต้องการผลักดัน Soft Power-5F ของไทยให้แข็งแกร่งขึ้น โดย 5F ได้แก่ ศิลปะมวยไทย Fighting อาหาร Food ภาพยนตร์และวีดิทัศน์ Film การออกแบบแฟชั่นไทย Fashion และเทศกาลประเพณีไทย Festival

นอกจากจะเป็นการสร้างรายได้ให้ธุรกิจค่ายมวยไทย อุตสาหกรรมมวยไทยทั้งในและต่างประเทศ ยังเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงกีฬาไปพร้อมกัน ซึ่งจะช่วยฟื้นฟูและกระตุ้นเศรษฐกิจให้กับวงการกีฬามวยไทยอีกด้วย

แนวคิดห้ามไม่ให้มีการพนันในสนามมวย

กีฬากับการพนันเป็นของคู่กัน ความต้องการที่จะยกระดับมวยไทย ทำให้เกิดการตั้งกฎสำหรับเวที One ที่หลายคนมองว่าเป็น Sport Entertainment

“การพนันมีอยู่ในทุกวงการกีฬา ไม่ว่าจะฟุตบอล บาสเกตบอล มวย ถ้าเป็นที่อังกฤษมีเว็บสำหรับการพนัน ไม่มีการพูดต่อรองในสนาม สมัยก่อนอาจมีการส่งสัญญาณของเซียนมวยจากข้างเวที สร้างอิทธิพลต่อนักมวยที่กำลังชก ผมอยากให้อิมเมจของมวยไทยเปลี่ยนไป เวทีมวยต้องไม่ใช่แค่การที่เซียนพนัน หรือ ชาวต่างชาติที่ซื้อทัวร์เข้ามาดูเท่านั้น แต่อยากให้คนเข้ามาดูด้วยความชื่นชม สนับสนุน หรือเป็นกลุ่มแฟนคลับ กองเชียร์ที่เป็นเพื่อนร่วมค่ายมาดู อยากให้มวยไทยเป็นสิ่งที่คูล ฮิป เหมือนกีฬาอื่นๆ ในต่างประเทศ ที่เหล่าเซเลบริตี้ อินฟลูเอนเซอร์ ไปดู”

One Championship One Lumpinee คือเวทีแห่งการเปลี่ยนแปลง

กระแสความนิยมและการตอบรับจากเหล่าผู้ชื่นชอบกีฬามวย ท่ามกลางการดำเนินไปของเวทีมวยภายใต้ชื่อแบรนด์ One ที่สร้างฐานแฟนคลับและคนดูเพิ่มขึ้น จากการถ่ายทอดสดรายการ One Championshipออกไป 170 ประเทศ และการได้เวลาออกอากาศช่วงไพรม์ไทม์ของทีวีดิจิทัลไทย และเรียกเรตติ้งได้มากกว่าละครก่อนข่าวค่ำ นับเป็นการสร้างแรงกระเพื่อมให้แก่วงการมวยไทยไม่น้อย นี่อาจไม่ใช่แค่ฉากทัศน์ของวงการมวยไทยเท่านั้น ที่ค่อยๆ เปลี่ยนไป

“นี่เป็นเวทีแห่งการเปลี่ยนแปลงจริงๆ ผมว่ามันจะเปลี่ยนชีวิต ที่สำคัญที่สุดคือชีวิตของนักมวยที่ถูกเอาเปรียบบ่อยๆ รายได้ไม่ดี เขาควรจะได้อะไรที่มากกว่านี้ เพราะพวกเขาทุ่มเททั้งกาย ใจ ต้องขึ้นเวทีอาจมีเจ็บบ้าง สิ่งตอบแทนที่ได้รับควรจะสมน้ำสมเนื้อกับนักกีฬา คำว่า “ล้มมวย” คำว่า “ไม่สู้” จะไม่มีอยู่ เมื่อคุณก้าวเข้ามาที่นี่ เพราะสิ่งที่เราให้กับนักกีฬามันคุ้มค่า เพื่อให้เขาได้มีชีวิตที่ดีขึ้น ณ ตอนนี้ และในอนาคตหลังจากเลิกชกมวย” คุณเปรมทิ้งท้าย.