วันเสาร์, เมษายน 20, 2024
Home > Cover Story > มหากาพย์ “ศรีสวัสดิ์” ระเบิดสินเชื่อรถแลกเงิน

มหากาพย์ “ศรีสวัสดิ์” ระเบิดสินเชื่อรถแลกเงิน

ธุรกิจแลกเปลี่ยนเงินตรา 2 ค่าย แต่ใช้ชื่อเดียวกันอย่าง “Superrich (ซุปเปอร์ริช)” แม้เป็นคู่แข่งที่ต่างฝ่ายไม่เคยยอมกัน แต่ไม่ได้เปิดศึกช่วงชิงแบรนด์ดุเดือดเหมือนมหากาพย์ “ศรีสวัสดิ์ เงินติดล้อ” ซึ่งใช้เวลาต่อสู้ยาวนานมากกว่าทศวรรษ และในกลุ่มสินเชื่อ “รถแลกเงิน” ต้องถือว่า “ศรีสวัสดิ์” เป็นผู้บุกเบิกปลุกตลาดใหม่ให้สถาบันการเงินแห่เข้ามาเจาะช่องว่างสร้างรายได้จำนวนมหาศาล

จุดเริ่มต้นของ “ศรีสวัสดิ์” เกิดจากแนวคิดของเสี่ยเจ้าของธุรกิจอู่ซ่อมรถในจังหวัดเพชรบูรณ์ ฉัตรชัย แก้วบุตตา ซึ่งมีเครือข่ายลูกค้าที่นำรถยนต์มาใช้บริการในอู่อยู่เป็นประจำ และส่วนใหญ่มักเจอปัญหาการติดต่อขอกู้เงินจากธนาคาร ไม่ว่าจะเป็นปัญหาเอกสารรายได้ทางการเงิน การตรวจสอบเครดิต รวมถึงการเดินทางไปยังสาขาต่างๆ ของธนาคาร

ปี 2522 ฉัตรชัยตัดสินใจเปิดธุรกิจปล่อยเงินกู้ด้วยวิธีจำนำทะเบียนรถเป็นหลักประกัน โดยใช้ชื่อมารดา “ศรีสวัสดิ์ แก้วบุตตา” ตั้งชื่อกิจการว่า “บริษัท ศรีสวัสดิ์ เพชรบูรณ์” เริ่มต้นธุรกิจให้บริการสินเชื่อในพื้นที่จังหวัดเพชรบูรณ์ ใช้วิธีเดินสายไปยังพื้นที่ชุมชนต่างๆ จนเป็นที่รู้จักและถือเป็นเจ้าตลาดในจังหวัด

ดำเนินธุรกิจเกือบ 20 ปี บริษัท ศรีสวัสดิ์ เพชรบูรณ์ ขยายสาขาไปยังจังหวัดต่างๆ มากกว่า 130 สาขาทั่วประเทศ และถือเป็น “เบอร์ 1” ในตลาดสินเชื่อรถแลกเงิน

ปี 2550 กลุ่มบริษัทเอไอเอ ซึ่งมี “เอไอจี” หรืออเมริกันอินเตอร์แนชชั่นแนล กรุ๊ป กลุ่มธุรกิจประกันและผู้ให้บริการทางการเงินยักษ์ใหญ่ สัญชาติอเมริกัน เข้ามาเจรจาขอร่วมทุนกับกลุ่มศรีสวัสดิ์ และเปลี่ยนชื่อเป็น บริษัท ซีเอฟจี เซอร์วิส จำกัด สร้างแบรนด์ทางการค้า “ศรีสวัสดิ์ เงินติดล้อ” ทำตลาดทั่วประเทศ

ปี 2551 ฉัตรชัยตัดสินใจซื้อบริษัท พีวี แอนด์เคเคเซอร์วิส 2008 เปลี่ยนชื่อใหม่เป็น “บริษัท ศรีสวัสดิ์ พาวเวอร์ 1979 จำกัด” มีทุนจดทะเบียน 1 ล้านบาท แต่ยังไม่ประกอบธุรกิจใดๆ

ปี 2552 ผลพวงจากวิกฤตการณ์ทางการเงินในสหรัฐอเมริกา “แฮมเบอร์เกอร์ไครซิส” กลุ่มเอไอจีเจอปัญหาขาดสภาพคล่องอย่างหนักและประกาศนโยบายบังคับให้บริษัทลูกในเครือตัดขายธุรกิจที่ไม่ใช่ธุรกิจหลัก ซึ่งรวมถึงธุรกิจรถแลกเงิน “ศรีสวัสดิ์ เงินติดล้อ” ด้วย

เอไอจีได้รับการติดต่อจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา ซึ่งเวลานั้นมีกลุ่ม จีอี แคปปิตอล อินเตอร์เนชั่นแนล โฮลดิ้ง คอร์ปอเรชั่น (GECIH) เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ เสนอซื้อกิจการ “ศรีสวัสดิ์ เงินติดล้อ” ทั้ง 100%

ด้านกลุ่มแก้วบุตตาพยายามเจรจาซื้อคืนกิจการทั้งหมดจากเอไอจี เสนอราคาหลายรอบ แต่สุดท้ายธนาคารกรุงศรีอยุธยาบรรลุข้อตกลง ฮุบบริษัท ซีเอฟจี เซอร์วิส จำกัด ทั้งหมด รวมถึงแบรนด์ทางการค้า “ศรีสวัสดิ์ เงินติดล้อ” ทำให้ฉัตรชัยพลิกกลยุทธ์เปิดบริษัทใหม่ “ศรีสวัสดิ์ พาวเวอร์” และเร่งขยายสาขาแบบปูพรม 136 สาขา เพื่อทวงคืนตลาดและฐานลูกค้า

ปี 2553 บริษัท ศรีสวัสดิ์ พาวเวอร์ 1979 เริ่มดำเนินธุรกิจให้บริการสินเชื่อจำนำรถทุกประเภท รวมถึงสินเชื่อที่อยู่อาศัย ภายใต้สโลแกนใหม่ “มีบ้าน มีรถ เงินสดทันใจ” พร้อมปรับโครงสร้างธุรกิจ ซื้อบริษัทอีก 2 แห่งและเปลี่ยนชื่อใหม่ คือ บริษัท เค.พี.เอ็น. โฮลดิ้ง จำกัด เปลี่ยนชื่อเป็น บริษัท ศรีสวัสดิ์พาวเวอร์ 1982 และบริษัท เจ.ดี.ที. มันนี่ เซอร์วิส เปลี่ยนชื่อเป็น บริษัท เงินสดทันใจ จำกัด

ปี 2556 บริษัทแปรสภาพเป็นบริษัทมหาชนจำกัด รุกขยายสาขาและทำตลาดอย่างรวดเร็ว โดยใช้แบรนด์ “ศรีสวัสดิ์” เป็นตัวรุก ไม่ต่างจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา ซึ่งกลุ่มจีอี แคปปิตอลฯ มองว่าสร้างความสับสนให้กลุ่มลูกค้า จึงยื่นฟ้องต่อศาล เพื่อบังคับบริษัท ศรีสวัสดิ์ พาวเวอร์ 1979 จำกัด ยกเลิกการใช้ชื่อ “ศรีสวัสดิ์” ทำตลาด

ขึ้นศาลกันหลายรอบ แต่สุดท้าย ศาลไม่ได้มีคำสั่งตามคำร้องขอของธนาคารกรุงศรีอยุธยา โดยให้เหตุผลว่า ชื่อ “ศรีสวัสดิ์” เป็นชื่ออำเภอในจังหวัดกาญจนบุรี และเป็นชื่อทั่วไปที่นำมาจดจัดตั้งบริษัทได้ ตัวแบรนด์แตกต่างกัน เนื่องจากกลุ่มศรีสวัสดิ์พาวเวอร์ไม่ได้หยิบคำว่า “ศรีสวัสดิ์” เข้ามาอยู่ในโลโกและแบรนด์ อย่างไรก็ตาม บริษัท ซีเอฟจี เซอร์วิส ยังฟ้องร้องคู่แข่งต่อเนื่อง

ปี 2557 ทนง พิทยะ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กระโดดเข้ามาร่วมถือหุ้นและรับตำแหน่งประธานกรรมการบริษัท ศรีสวัสดิ์ พาวเวอร์ 1979 จำกัด (มหาชน) ชูโมเดลธุรกิจ “ร้านสะดวกซื้อทางการเงิน” และบริษัทเสนอขายหุ้นไอพีโอ ราคาหุ้นละ 6.90 บาท โดยเริ่มซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ เมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2557

ขณะที่คู่แข่ง บริษัท ซีเอฟจี เซอร์วิส จำกัด เปลี่ยนชื่อเป็น บริษัท เงินติดล้อ จำกัด เมื่อปี 2558 และใช้คำว่า “ศรีสวัสดิ์” ในโลโกจนถึงปัจจุบัน

ปี 2560 ศาลฎีกามีคำพิพากษายกฟ้องกรณีบริษัทเงินติดล้อ จำกัด เป็นโจทก์ยื่นฟ้องกล่าวหา บริษัทศรีสวัสดิ์ พาวเวอร์ เลียนแบบเครื่องหมายการค้าบริการคำว่า “ศรีสวัสดิ์” และบริษัท ศรีสวัสดิ์พาวเวอร์ 1979 จำกัด (มหาชน) เปลี่ยนชื่อใหม่เป็น “บริษัท ศรีสวัสดิ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)” จัดตั้งเป็นกลุ่มธุรกิจทางการเงิน.