วันพฤหัสบดี, พฤษภาคม 2, 2024
Home > Cover Story > ศุภาณัท จรูญพรภักดี ตัวแม่แบรนด์เนมมือสอง

ศุภาณัท จรูญพรภักดี ตัวแม่แบรนด์เนมมือสอง

ศุภาณัท จรูญพรภักดี “คุณปู” นายกสมาคมแบรนด์เนมมือสอง (Secondhand Brandname Association: S-BA) อยู่ในวงการมานานกว่า 20 ปี เธอหลงเสน่ห์แบรนด์เนมตั้งแต่วัยรุ่นนักเรียน เริ่มจากสินค้าชิ้นเล็กๆ กระเป๋า เข็มขัด กระทั่งวันหนึ่งลองซื้อขายกันในกลุ่มและค้นพบว่า แบรนด์เนมไม่ใช่แค่หิ้วหรูๆ แต่สามารถทำกำไรได้ และเป็นสินค้าน่าลงทุน

“ปูชอบสินค้าแบรนด์เนมมาก่อนตั้งแต่ตอนที่ยังไม่รู้ว่าลงทุนได้ ตั้งแต่สมัยเป็นนักเรียน นักศึกษาอายุ 22-23 ปี แล้วลองซื้อขายกันเล่นๆ ชอปปิงไปเรื่อย ยังไม่จริงจัง เรียนรู้เก็บประสบการณ์มากขึ้นเรื่อยๆ และมาจับร้านจริงๆ ประมาณอายุ 30 ทั้งเปิดเว็บไซต์ขายออนไลน์ตั้งแต่ยุค 1G ไม่มีเฟซบุ๊ก ไม่มีไอจี มีแค่บีบี”

เธอเปิดร้านแรกแถวสยามสแควร์ ก่อนย้ายหน้าร้านใหม่ ชื่อ REAL2 BRAND มาปักหลักแถวย่านอุดมสุข และขยายเพิ่มอีกสาขาในศูนย์การค้าสามย่านมิตรทาวน์ ให้บริการซื้อขายสินค้าแบรนด์เนมไม่ผ่านพ่อค้าคนกลาง บริการซ่อมสปา รับฝากขาย รับตรวจสอบแบรนด์เนมแท้ปลอม รับซื้อกระเป๋า นาฬิกา กำไล ผ้าพันคอ และอื่นๆ และยังมีคอร์สสอนกลยุทธ์ต่างๆ เกี่ยวกับแบรนด์เนม 

ตั้งแต่คอร์สอบรมดูกระเป๋าแบรนด์เนม แท้- ปลอม คอร์สซ่อมกระเป๋าแบรนด์เนม คอร์สสปากระเป๋าขั้นพื้นฐาน คอร์สเรียนทําสีกระเป๋า คอร์สอบรมแบรนด์เนมครบวงจร คอร์สสอนเรื่องกฎหมายภาษีนำเข้า มีบริการรถรับส่งแบรนด์เนมครบวงจรเคลื่อนที่ รวมทั้งจำหน่ายผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดกระเป๋าแบรนด์เนมนำเข้าจากต่างประเทศ เรียกว่า จัดเต็มแบบครบวงจร

ปัจจุบัน REAL2 BRAND นอกจากซื้อขายกระเป๋าแบรนด์เนม ตอนนี้กำลังเน้นบริการซ่อมสปา เพราะมีออเดอร์เข้ามาหลายร้อยใบต่อเดือน มีลูกค้าทั้งในและต่างประเทศ โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าญี่ปุ่นชอบมากและยกนิ้วให้ฝีมือคนไทย รวมถึงการเปิดคอร์สอบรม มีลูกศิษย์จบแล้วหลายรุ่นหลายร้อยคน หลายคนกลายเป็นอาจารย์สอนลูกศิษย์อีกต่อด้วย

ศุภาณัทเล่าว่า สมัยก่อนยังไม่มีโรงเรียนสอนสปากระเป๋า เธอไปเรียนรู้ในประเทศฝรั่งเศสกับบริษัทจำหน่ายน้ำยาทำความสะอาดกระเป๋า ชนิดครูพักลักจำ ก่อนมาเจอบริษัทนำเข้าน้ำยาในประเทศไทย จึงมีโอกาสได้เรียนแบบเต็มๆ ทั้งวิธีซ่อม-สปากระเป๋าและประยุกต์ใช้กับแบรนด์เนม เพราะเป็นหลักการเดียวกันและใช้น้ำยานำเข้าจากต่างประเทศ พัฒนาฝีมือ และอยู่ในวงการนานเกือบ 20 ปี จนเป็นที่ยอมรับ 

แน่นอนว่า การเป็นตัวแม่ในวงการทำให้ศุภาณัทมองตลาดสินค้าแบรนด์เนมมีโอกาสเติบโตสูงมากในระยะยาว เนื่องจากมีฐานตลาดและกลุ่มลูกค้าจำนวนมาก ทั้งกลุ่มเศรษฐีที่นิยมเลือกซื้อสินค้ามือหนึ่งและกลุ่มที่ใช้ด้วย ลงทุนด้วย นับวันเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยเฉพาะหากรู้วิธีและรู้จักเลือกแบรนด์ที่มีมูลค่าสูงตลอดกาล ราคาไม่ตก 

ทั้งนี้ เว็บไซต์ statista.com เคยแสดงมูลค่าลักชัวรีแบรนด์ที่มีมูลค่าสูงสุด 10 อันดับแรกในปี 2020 หรือช่วงก่อนโควิดแพร่ระบาด 

อันดับ 1 หลุยส์ วิตตอง มีมูลค่าแบรนด์ 1,611,559 ล้านบาท

อันดับ 2 ชาแนล มีมูลค่าแบรนด์ 1,124,235 ล้านบาท

อันดับ3 แอร์เมส มีมูลค่าแบรนด์ 1,027,374 ล้านบาท

ตามมาด้วยกุชชี่ โรเล็กซ์ คาเทียร์ คริสเตียน ดิออร์  อีฟส์ แซงต์ โลรองต์ เบอร์เบอรี่ และ ปราด้า

สำหรับในประเทศไทย ข้อมูลจากกรมศุลกากรเคยระบุมูลค่าการนำเข้าสินค้าแบรนด์เนมโดยตัวแทนถูกต้องตามกฎหมาย ระหว่างปี 2560-2561 สูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ หลุยส์ วิตตอง มีมูลค่านำเข้า 1,252.71 ล้านบาท ชาแนล 1,128.63 บาท และแอร์เมส 389.91 ล้านบาท ตามมาด้วย ปาเต็ก ฟิลิปป์ (นาฬิกา) และคริสเตียน ดิออร์ ตามลำดับ

ขณะเดียวกันเธอและกลุ่มเพื่อนๆ ในธุรกิจคิดตรงกันว่า ควรมีศูนย์กลางการประสานงานและช่วยเหลือร่วมกัน เนื่องจากตลาดสินค้าแบรนด์เนมเติบโตก้าวกระโดด มีการซื้อขายทั้งมือหนึ่งและมือสอง โดยเฉพาะตลาดสินค้าแบรนด์เนมมือสองมีกลุ่มลูกค้านิยมมากขึ้น เนื่องจากสามารถลงทุนทำกำไรได้ 

ที่สำคัญ เกิดกลุ่มแก๊งหลอกขายสินค้าปลอมระบาดจนกลายเป็นปัญหาใหญ่และทำให้ภาพลักษณ์ประเทศไทยถูกมองเป็นแหล่งใหญ่สินค้าแบรนด์เนมปลอม

ศุภาณัทตัดสินใจดึงเพื่อนๆ ผู้ประกอบการจับมือกันตั้งชมรมแบรนด์เนมมือสอง เพื่อให้ข้อมูลการซื้อขายแบรนด์เนม ความรู้ต่างๆ ช่วยเหลือกัน แลกเปลี่ยนสินค้ากันและกันระหว่างแม่ค้า หาสินค้าให้ลูกค้าที่ต้องการสินค้าแบรนด์เนมมือสอง และบริการปรึกษาปัญหาต่างๆ ปรากฏว่า มีร้านค้าเข้าร่วมเป็นสมาชิกชมรมจำนวนมาก  

“สมาคมแบรนด์เนมมือสองก่อตั้งมาสิบปีแล้ว เริ่มจากชมรมแบรนด์เนมมือสองก่อน หลังจากนั้น 4 ปี ยกฐานะเป็นสมาคมแบรนด์เนมมือสอง เวลานั้นเริ่มมีการขายออนไลน์มากขึ้นและเริ่มมีสินค้าแบรนด์เนมของปลอม สมาคมฯ เริ่มให้บริการตรวจสินค้าแบรนด์เนมมือสอง มือหนึ่ง ให้แม่ค้าด้วยกัน เพื่อรับรองสินค้า ถ้าใครขายสินค้าไม่แท้จะตัดออกจากสมาคมทันทีและต้องรับผิดชอบด้วย”

พอผ่านปีที่ 5-6 สมาคมฯ เริ่มเข้าไปช่วยตรวจสินค้าให้หน่วยงานภาครัฐ ซึ่งมีเป็นประจำทุกเดือน เนื่องจากสินค้าแบรนด์เนมปลอม ทั้งมือหนึ่ง มือสอง ยังระบาดหนัก ทั้งการช่วยเหลือกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ปปส.) และสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ส่วนใหญ่เป็นการตรวจสอบสินค้าที่ถูกยึดก่อนการประมูลขายทอดตลาด  

ล่าสุด สมาคมแบรนด์เนมมือสองมีสมาชิกลงทะเบียนแล้วเกือบ 300 ร้านค้า ทั้งที่มีหน้าร้านและออนไลน์ สมาชิกทุกรายต้องผ่านการตรวจสอบคุณสมบัติ เช่น กรณีร้านค้าที่มีหน้าร้าน ต้องเปิดให้บริการมาแล้วไม่ต่ำกว่า6เดือน ร้านค้าออนไลน์ หรือผู้ขายออนไลน์ ต้องมีการขายในสื่อออนไลน์ไม่ต่ำกว่า1ปี ขายสินค้าแบรนด์เนมแท้เท่านั้น เช่น กระเป๋า รองเท้า นาฬิกา เครื่องประดับ เสื้อผ้า และไม่มีประวัติอาชญากรรมหรือฉ้อโกงใดๆ 

สมาชิกจะได้รับบัตรประจำตัวรับรองสถานะสมาชิกจากสมาคม สติกเกอร์รับรองสถานะร้านค้าในสมาคม S-BA ได้รับสติกเกอร์รับรองร้านค้าน่าเชื่อถือ Trust Seller เพื่อรับประกันและสร้างความเชื่อมั่นให้ผู้ซื้อขาย

ขณะเดียวกันสมาคมยังจับมือกับกลุ่มศูนย์การค้าและห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่เดินสายจัดมหกรรมแบรนด์เนมมือสองอย่างต่อเนื่อง เดือนละ 1 ครั้ง เช่น กลุ่มห้างเดอะมอลล์ทุกสาขาในกรุงเทพฯ ห้างซีคอนบางแค แฟชั่นไอส์แลนด์ เทอร์มินัล21 กลุ่มห้างเซ็นทรัล โดยครั้งล่าสุดจัดมหกรรมแบรนด์เนมมือสองครั้งที่ 19 เมื่อวันที่ 23-25 ธันวาคม ที่ศูนย์การค้าแฟชั่นไอส์แลนด์ 

อย่างไรก็ตาม สมาคมฯ ยังเน้นเปิดงานเฉพาะห้างในเขตกรุงเทพฯ ส่วนต่างจังหวัดคาดว่าจะสามารถเดินสายจัดช่วงปลายปี 2566

การเปิดมหกรรมในห้างสามารถทำยอดขายได้ดีระดับหนึ่งขึ้นอยู่กับพื้นที่และจำนวนร้านค้าที่เข้าร่วม อย่างเดอะมอลล์ท่าพระ สถานที่เล็ก มีประมาณ 20 ร้านค้า ส่วนแฟชั่นไอส์แลนด์ได้พื้นที่ขนาดใหญ่มากรองรับได้ถึง 50ร้านค้า หรือเซ็นทรัลลาดพร้าวมีร้านเข้าร่วม 50 กว่าร้านค้า เป็นงานที่ได้ยอดขายมากสุด บางร้านสามารถขายได้มากสุดถึง 300 ใบต่อการจัดงาน 3 วัน และมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง ซึ่งเป็นสัญญาณที่ดีมาก.