วันเสาร์, กรกฎาคม 27, 2024
Home > Green > Green Mind > วันดี กุญชรยาคง “โอกาสของชีวิตอยู่ที่เราสร้างขึ้นเอง”

วันดี กุญชรยาคง “โอกาสของชีวิตอยู่ที่เราสร้างขึ้นเอง”

 

วันดี กุญชรยาคง จบบัญชีจากกรุงเทพการบัญชี จบมาไม่เคยทำบัญชีเป็นอาชีพ เพราะมองว่าเป็นงานที่ไม่มีอะไรท้าทาย จึงไปเรียนต่อกฎหมาย เคยทำงานขายแผงโซลาร์เซลล์ให้กับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยสำหรับพื้นที่ห่างไกลที่ไม่มีไฟใช้

นี่คือประวัติย่อๆ จากวันดีที่ดูไม่อยาก เล่าย้อนอดีตมากเท่ากับพูดถึงสิ่งที่ทำอยู่ในปัจจุบัน

เช่นเดียวกับที่ไม่เคยให้ข่าวว่าสามีเป็น อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดนครนายก (สุรพงษ์ จุลเจริญ) ซึ่งทำให้เธอมีตำแหน่งเป็นนายกสภากาชาดจังหวัดโดยปริยาย แต่ด้วยความผูกพันในหน้าที่ก็ยังคอยสนับสนุนกลุ่มแม่บ้าน ของจังหวัดอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งมีสถานะเป็นเหมือนลูกสาวใหญ่ของหลวงพ่อแคล้ว เจ้าอาวาสวัดดอนเมือง เพราะมีผู้ใหญ่แนะนำ ให้รู้จักมาหลายสิบปีก่อนหน้านั้น

ช่วงน้ำท่วมปี 2554 เลยมีหน้าที่ส่งไข่ ส่งข้าวกล่องไปช่วยเหลือชาวบ้านที่เดือดร้อนผ่านวัดดอนเมืองจำนวนมาก

มีลูกสาว 1 คนเรียนจบและทำงานเลี้ยงดูตัวเองแบบเดียวกับที่คุณแม่ทำ

ช่วงปี 2548-2549 วันดีเคยตัดสินใจเกษียณจากการทำธุรกิจเพื่อไปใช้ชีวิตตามใจต้องการ

“คิดว่าผู้หญิงทำงานถึง 50 ปีก็พอแล้ว ผู้หญิงต้องรักษาร่างกาย ตอนนั้นน้ำหนัก 70 กิโลกรัม พอหยุดงานก็ไปออกกำลังทุกวัน เข้าสปา ลดเหลือ 60 กิโล ไม่ได้ทำงานก็กลัวบ้าเหมือนกัน ต้องหากิจกรรมทำ ไปหอสมุดแห่งชาติ สนใจเรื่องอะไรก็ไปหาอ่าน ชอบที่มีสาระเติมเต็มความรู้ บทสัมภาษณ์ดีๆ ในนิตยสารก็อ่าน เพราะทำให้เราเข้าใจว่าแต่ละคนมีการดำเนินชีวิตแบบไหน”

ธุรกิจที่วันดีทำไว้เลี้ยงตัวหลังเกษียณ หลักๆ ได้แก่ อาคาร Capital Residence ในซอยทองหล่อ เป็นอพาร์ตเมนต์ให้เช่าเน้นกลุ่มลูกค้าญี่ปุ่น จ้างบริษัท CB Richard Ellis บริหารงาน ตึกแถว 14 ห้องในซอยเดียวกัน ที่ดินริมถนนธนะรัชต์ ทางขึ้นเขาใหญ่ที่ซื้อไว้ตั้งแต่ราคาไร่ละ 7 แสน เพราะชอบว่าถนนเส้นนี้เป็นสายคลาสสิก ต้นไม้เยอะ

“กะว่าชีวิตนี้ไม่ต้องทำอะไรแล้ว ทุกที่ซื้อมาเอง พ่อแม่ไม่ได้ร่ำรวย เริ่มซื้อที่ดินตั้งแต่เรียนจบอายุ 20 กว่าๆ แปลงแรกที่ซื้อที่เมืองเอก รังสิต ซื้อมาหลายสิบปีตั้งแต่ตารางวาละ 2,200 บาท ขายเท่าไรก็กำไร  ไม่เคยน้ำท่วมจนกระทั่งปีที่แล้วเพราะรัฐบาลเอาที่ดอนกันน้ำ ดอนเมืองเลยท่วม แต่ที่เป็นหนอง หนองจอกกลับไม่ท่วม ซอยทองหล่อก็ซื้อเอง ชอบซอยนี้อยู่มาตั้งแต่เด็กๆ เลย เป็นแหล่งกินแหล่งเที่ยวเป็นเมืองญี่ปุ่น”

วันดีเกือบจะเป็นคนที่เรียกว่าไม่แต่งหน้า ทั้งตัวไม่มีเพชรพลอยเป็นเครื่องประดับ นิยมซื้อแต่ที่ดินเป็นทรัพย์สินเก็บไว้ เพราะมองว่าเป็นสิ่งที่มีจำกัดไม่มีงอกเงย หากรู้จักเลือกทำเลที่มีแนวโน้มเติบโตก็จะมีมูลค่าเพิ่มขึ้น

“มีเงินเท่าไรไปลงกับที่ดินหมด เห็นไหมทั้งตัวไม่มีอะไรเลย เลือกที่มันมีโอกาสเติบโต แต่ไม่ซื้อเก็งกำไร ชอบที่ไหนก็เก็บไม่ชอบก็ขาย ตอนลงทุนจะทำโซลาร์ฟาร์มก็ขาย ที่ในซอยทองหล่อไปแปลง เพราะชวนคนมาร่วมทุนแล้วไม่มีใครเชื่อ ทำให้เป็นคนมีหุ้นในบริษัทเยอะจากที่ตั้งใจจะถือหุ้นแค่ 1 ใน 3 เลยกลายเป็นมีถึง 2 ใน 3 เขาเลยจัดอันดับให้เป็นเศรษฐีเบอร์ 23 ไม่ได้ตั้งใจนะ”

วันดีเล่าว่าพ่อแม่ไม่ได้ร่ำรวย แต่การซื้อที่เพราะมองอนาคตเป็นหลักว่าเป็นสินค้าที่มีมูลค่าเพิ่ม เน้นผ่อนน้อยผ่อนนานไม่มองเป็นภาระผูกพัน ทุกอย่างอยู่ภายใต้การคาดการณ์ที่มีหลักการ ในชีวิตจึงไม่ชอบเรื่องเซอร์ไพรซ์

“จบมาทำงานเดือนแรกก็เพื่อให้หลุดพ้นความยากจนใช่ไหม เป็นเด็กขอเงินพ่อแม่ ใช้ มีทางเลือกน้อย เมื่อเรามีเงินใช้เงินของตัวเองเพื่อดำรงชีพและมีความสุขในการใช้ชีวิต เราก็ต้องรู้จักบริหารเงินที่มีอยู่ ยอมเหนื่อยเพื่อเอาไปเลือกลงทุนได้ ได้เงินมาแล้วแบ่งเลย ให้พ่อแม่ เงินเก็บคำว่าเก็บคือซื้อที่ดิน ลงทุน ต้องคิดถึงวันข้างหน้า”

เมื่อกลับมาทำธุรกิจอีกครั้ง ล่าสุดเธอ ตัดสินใจซื้อพื้นที่ชั้น 13, 14 และ 16 ของอาคารยูไนเต็ดทาวเวอร์ ในซอยทองหล่อเพิ่มขึ้นด้วย สำหรับเป็นสำนักงานของเอสพีซีจีที่อยู่ในช่วงขยายตัว

แม้วันนี้วันดีจะกลายเป็นเศรษฐีติดอันดับเมืองไทย แต่โดยส่วนตัวเธอให้นิยามเกี่ยวกับคำว่ารวยไว้ว่า

“รวย หมายถึงเราเลือกได้ ไม่เคยคิดว่ารวยต้องมีสิบล้าน ร้อยล้าน พันล้าน แล้วก็ไม่ได้เลือกแบบชีวิตหรูหรา แต่ทำทุกอย่างให้ดีที่สุด ใช้ชีวิตอย่างไม่ประมาทแล้วก็วางโรดแมปชีวิตให้ดี”