วันพฤหัสบดี, มีนาคม 28, 2024
Home > New&Trend > 9 สิ่งที่คุณ (อาจ) ไม่เคยรู้เกี่ยวกับ ‘บัตรแรบบิท’ บัตรเดียว กิน ช้อป เที่ยว พร้อมโปรฯ แรงปลายปี

9 สิ่งที่คุณ (อาจ) ไม่เคยรู้เกี่ยวกับ ‘บัตรแรบบิท’ บัตรเดียว กิน ช้อป เที่ยว พร้อมโปรฯ แรงปลายปี

รู้ยัง ‘บัตรแรบบิท’ ในมือคุณเป็นมากกว่าแค่บัตรโดยสารรถไฟฟ้าบีทีเอส ถ้าใช้อย่างรู้คุณค่ามันจะพาเราไปสนุกกับโลกไร้เงินสดหรือ Cashless ชนิดที่ต่อให้ลืมพกกระเป๋าเงินไว้ที่บ้าน คุณก็ไม่ต้องว้าวุ่นใจ แค่มีบัตรแรบบิทหนึ่งใบก็พร้อมจะใช้ชีวิตได้อย่างสะดวกสบาย ทั้งขึ้นรถไฟฟ้าต่อเรือด่วน นั่งรถเมล์แอร์เย็นฉ่ำให้สบายใจ แวะกินมื้อเช้าในร้านสะดวกซื้อ หรือไม่ต้องต่อคิวแลกเงินก็ฟินกับอาหารอร่อยในศูนย์การค้าชื่อดังได้ด้วย แถมยังมีโปรฯ เร้าใจในโอกาสก้าวสู่ปีที่ 9 ของบัตรแรบบิท เริ่มต้นแค่ 9 บาท! เรารวบรวม 9 เรื่องจริงที่คุณ (อาจ) ไม่เคยรู้เกี่ยวกับบัตรแรบบิทมาฝาก เผื่อจะช่วยให้หลายอย่างในชีวิตของคุณง่ายขึ้นอีกเยอะ

1. รถ เรือ ราง – ทางไหนก็สะดวก ‘บัตรแรบบิท’ พร้อมพาคุณไปทุกที่!

หลายคนอาจจะไม่รู้ว่า บัตรแรบบิทไม่เพียงแค่ชำระค่าโดยสารรถไฟฟ้าบีทีเอสเท่านั้น ทั้งยังครอบคลุมการเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะอื่น ๆ ในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด ไม่ว่าจะเป็นรถโดยสารสมาร์ทบัส, รถบีอาร์ที, เรือด่วนเจ้าพระยา (ธงแดง), เรือข้ามฟากท่าพระจันทร์ – มหาราช, เรือโดยสารคลองภาษีเจริญ และเจ้าพระยาทัวร์ริสโบ๊ท (ธงฟ้า) ใครจะไปนครปฐมก็แค่นั่งไมโครบัส Y70E (หมอชิต – ศาลายา) หรือเช็คอินเชียงใหม่ก็ใช้บริการ RTC เชียงใหม่ซิตี้บัส ล่องใต้ไปภูเก็ตก็ใช้ร่วมกับภูเก็ตสมาร์ทบัส ได้อย่างสะดวกสบาย แม้แต่มินิบัสโพธิ์ทอง (หาดใหญ่ – สงขลา)

2. ก้าวสู่ปีที่ 9 ของบัตรแรบบิท จัดโปรฯ เร้าใจร่วมกับ 49 แบรนด์ดัง เริ่มต้นที่ 9 บาท!

เตรียมฉลองก้าวสู่ปีที่ 9 ของบัตรแรบบิทกันดีกว่า! บริษัท บางกอก สมาร์ทการ์ด ซิสเท็ม จำกัด หรือ บัตรแรบบิท จัดโปรโมชั่นสุดพิเศษ ร่วมกับ 49 แบรนด์ดัง เริ่มต้นเพียง 9 บาท สายกิน สายช้อป และสายหวานพลาดไม่ได้เป็นอันขาด โปรโมชั่นเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 63 – 31 ธ.ค. 63 เพียงใช้บัตรแรบบิทชำระค่าสินค้าและบริการ

3. ช้อปเพลิน ‘ลืมเติมเงิน’ ทำไงดี?

หมดกังวลเรื่องเงินในบัตรหมดได้เลย นอกจากคุณจะสามารถเติมเงินที่ห้องจำหน่ายตั๋วโดยสารรถไฟฟ้าบีทีเอส (สถานีใดก็ได้) แล้วยังเติมเงินได้ที่ร้านค้าต่าง ๆ หรือผู้ให้บริการเติมเงินที่มีสัญลักษณ์เติมเงินของบัตรแรบบิทได้ด้วย อาทิ แมคโดนัลด์, เคอรี่ เอ็กซ์เพรส, เทสโก้ โลตัส เอ็กซ์เพรส, มินิบิ๊กซี, ลอว์สัน 108 รวมถึงศูนย์อาหารภายในศูนย์การค้าชั้นนำ ได้แก่ ศูนย์อาหารในเครือเดอะมอลล์ เครือซีพีเอ็น และอื่น ๆ อีกมากมาย เติมเงินได้ตั้งแต่ 100 บาทขึ้นไป โดยมูลค่ารวมในบัตรต้องไม่เกิน 4,000 บาท เท่านี้คุณก็พร้อมชำระค่าเดินทางและค่าบริการต่าง ๆ ได้อย่างสะดวกสบาย

4. แค่ลงทะเบียนก็อุ่นใจ บัตรหายได้เงินคืน!

ใครเคยทำบัตรแรบบิทหายยกมือขึ้น! อย่าตื่นตระหนกด้วยความเสียดายเงินหรือเที่ยวคงเหลือ อย่างแรกคุณต้องตั้งสติ หายใจเข้าลึก ๆ แล้วค้นหาให้ละเอียดอีกครั้ง หากเช็คแล้วชัวร์ว่าบัตรหายให้โทร.ไประงับการใช้บัตรได้ที่ศูนย์แรบบิท ฮอตไลน์ 02-617-8383 โดยคุณสามารถขอคืนมูลค่าเงินและเที่ยวเดินทางคงเหลือในบัตรได้ (ภายใต้เงื่อนไขที่บริษัทฯ กำหนด) บัตรแรบบิทมีนโยบายให้ผู้ถือบัตรทุกประเภทและทุกใบต้องลงทะเบียนยืนยันตัวตน (Know Your Customer หรือ KYC) การลงทะเบียนยืนยันตัวตนทำได้ง่าย ๆ แค่นำบัตรประชาชนและบัตรแรบบิทไปติดต่อที่ห้องจำหน่ายตั๋วโดยสารรถไฟฟ้าบีทีเอส เจ้าหน้าที่ก็ทำได้ทันที บัตรประชาชนหนึ่งใบลงทะเบียนบัตรแรบบิทได้ไม่จำกัดจำนวนด้วยนะ คุณจะซื้อบัตรใหม่ลายโปรดหรือสะสมให้ครบทุกคอลเลคชั่นก็ลงทะเบียนได้ทุกใบ

5. ซื้อบัตรแรบบิทลายใหม่ที่ไหนก็ได้ ง่ายๆ แค่ปลายนิ้ว

หากเป็นเมื่อก่อน คุณอาจจะต้องไปรอซื้อบัตรแรบบิทที่ห้องจำหน่ายตั๋วโดยสารบีทีเอส (ยิ่งเป็นบัตรลายสวย ๆ ที่มีคนชอบมากมาย เราแทบจะต้องไปต่อคิวรอกันแต่เช้าเลยล่ะ) แต่เดี๋ยวนี้ทุกคนสามารถซื้อบัตรแรบบิทด้วยตัวเองง่าย ๆ ผ่านช่องทางออนไลน์ ได้ทุกที่ ทุกเวลา ไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ไหน

6. มีบัตรแรบบิทกี่ใบถึงจะพอดี…แล้วถ้าเจอคิตตี้อยากเหมาหมดทุกลายได้มั้ย?

ข่าวดี คือ คุณจะมีบัตรแรบบิทกี่ใบก็ได้ ไม่จำกัด จะซื้อเพื่อใช้งาน หรือสะสมเป็นคอลเลคชั่นก็ได้หมด เพราะบัตรแรบบิทมีคอลเลคชั่นพิเศษพร้อมดีไซน์หน้าบัตรสุดเอ็กซ์คลูซีฟ ให้คุณซื้อหรือเก็บสะสมกันตลอดปีด้วยนะ หลายคนคงจะเคยเห็นบัตรแรบบิทที่ได้รับความไว้วางใจจากคาแรคเตอร์ชื่อดังระดับโลก ร่วมผลิตลายหน้าบัตรเป็นคอลเลคชั่นพิเศษ ที่วางขายปุ๊บหมดปั๊บภายในพริบตาก็เกิดขึ้นมาแล้ว เช่น ‘Hello Kitty’ แมวสาวสุดแบ๊วที่ทำเอาสาว ๆ ใจบางทั่วโลก หรือ ‘Kumamon’ หมีดำจอมซนจากเกาะคิวชู ที่ประทับใจคนไทยเป็นอย่างมาก หรือคาแรคเตอร์ดังระดับตำนานอย่าง ‘Gandum & Zaku’ ที่มีแฟนคลับเหนียวแน่นทั่วโลก และไม่ว่าบัตรแรบบิทจะออกมาอีกกี่ลายกี่คาแรคเตอร์ก็ไม่เคยทำให้แฟนคลับทุกเพศทุกวัยผิดหวังเลยล่ะ

7. สงสัยจัง “น้องแรบบิท” ที่อยู่บนบัตรเดบิต / บัตรเครดิต ทำอะไรได้บ้างหนอ?

ใครที่มีบัตรเดบิตและบัตรเครดิตที่มีสัญลักษณ์ “แรบบิท” อยู่บนบัตรแล้วล่ะก็ ขอบอกว่า บัตรใบนั้นได้เพิ่มฟังก์ชั่นพิเศษให้คุณใช้ชีวิตสะดวกสบายเหมือนพก “บัตรแรบบิท” ทุกประการ เพราะที่ผ่านมา ‘บัตรแรบบิท’ ร่วมกับ ‘ธนาคารกรุงเทพ’ และ ‘อิออน’ ออกบัตรเครดิตและบัตรเดบิตคอลเลคชั่นพิเศษให้กับลูกค้า ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในการใช้บริการของธนาคารจนถึงการใช้งานฟังก์ชั่นต่าง ๆ ในบัตรแรบบิท เพื่อจ่ายค่าเดินทางรถไฟฟ้าบีทีเอส เรือ หรือรถเมล์ รวมถึงจ่ายค่าอาหารและบริการต่าง ๆ ได้อย่างลื่นไหล ไม่มีสะดุด พร้อมรับส่วนลดจากการใช้ฟังก์ชั่นบัตรแรบบิทอีกด้วย เห็นมั้ย! บัตรแรบบิทใบเดียวไม่เคยพอเลยจริง ๆ
8. หาก ‘น้องแรบบิท’ หลับเกิน 2 ปี อย่าเพิ่งทิ้งน้องไป…มูลค่าเงินในบัตรข้างในยังอยู่จ้า!

เพราะบัตรแรบบิทที่ไม่ได้ใช้งานเป็นระยะเวลาเกิน 2 ปีขึ้นไป จะไม่สามารถนำมาใช้งานได้ตามปกติ เนื่องจากบัตรอยู่ในสถานะ ‘Sleep’ ซึ่งเงินในบัตรยังคงอยู่เหมือนเดิม เพียงแต่ยังไม่สามารถใช้งานได้ทันทีจนกว่าจะเติมเงินเข้าไปในบัตรอีกครั้ง หลังจากเติมเงินปุ๊บ กระต่ายน้อยก็จะตื่นขึ้นปั๊บ! คุณก็ใช้งานบัตรได้ตามปกติแล้วล่ะ
9. ทำไม ‘น้องกระต่าย’ ถึงหูตั้งข้างเดียว?

หลายคนอาจจะสงสัย ทำไมหนอ ‘น้องกระต่าย’ จอมซนบนบัตรแรบบิท ถึงได้ทำหูตั้งข้างตกข้าง บอกเลยว่ามันมีความหมายเชิงปรัชญาซ่อนอยู่ หูที่ตั้งและตกบ่งบอกถึงความฉลาดในการเปิดรับสิ่งต่าง ๆ รอบตัว สะท้อนบุคลิกเชิงจิตวิทยาของกลุ่มเป้าหมายหลักที่เป็นคนรุ่นใหม่ มีความเป็นตัวของตัวเอง หลุดออกจากกรอบของการใช้ชีวิตภายใต้ความเชื่อเดิมๆ พร้อมเปิดรับสิ่งใหม่ที่ดีกว่าบนหลักของเหตุผลและเลือกสิ่งที่เหมาะกับตัวเอง ตามที่สุภาษิตไทยว่าไว้ “ฟังหูไว้หู” นั่นเอง ถึงจะน่ารักแต่ก็เปี่ยมด้วยความหมายลึกซึ้งจริงมั้ย!

ใส่ความเห็น