วันอังคาร, เมษายน 16, 2024
Home > New&Trend > ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ของ จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จากปี 2560 พร้อมทรานส์ฟอร์มสู่การเป็นผู้นำด้านการสร้างคอนเทนต์เต็มรูปแบบแห่งยุคในปีนี้

ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ของ จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จากปี 2560 พร้อมทรานส์ฟอร์มสู่การเป็นผู้นำด้านการสร้างคอนเทนต์เต็มรูปแบบแห่งยุคในปีนี้

บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) ช่องวัน 31 และช่องจีเอ็มเอ็ม 25 ในฐานะผู้นำด้านธุรกิจเพลง ผู้ผลิตคอนเทนต์สื่อและทีวีดิจิทัล ตลอดปีที่ผ่านมาได้มีการปรับตัวสู่การเปลี่ยนแปลง รวมถึงตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคได้อย่างดีเสมอมา และยังครองความเป็นผู้นำด้านการผลิตคอนเทนต์แห่งยุค พร้อม ทรานส์ฟอร์มสู่การเป็นผู้นำด้านการสร้างคอนเทนต์เต็มรูปแบบแห่งยุคในปีนี้

ความสำเร็จของแกรมมี่ตลอดปี 2560

บุษบา ดาวเรือง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ปีที่แล้วเป็นช่วงเปลี่ยนแปลงสูงในวงการสื่อ และวงการบันเทิง แต่แกรมมี่ยังพร้อมปรับกลยุทธ์ต่างๆ เพื่อให้มีคอนเทนต์ดีๆ ทั้งเพลง ละคร ข่าว ภาพยนตร์ครบทุกมิติ ในปีที่ผ่านมามีผลงานที่การันตีความสำเร็จของแกรมมี่ อาทิ ภาพยนตร์เรื่อง ฉลาดเกมส์โกง ซึ่งเป็นภาพยนตร์ที่ทำรายได้สูงจาก GDH โดยโกยรายได้ในประเทศไทย 112.15 ล้านบาท และสร้างรายได้บ็อกซ์ออฟฟิศในประเทศจีน 1,300 ล้านบาท และอีกหลายรางวัลในต่างประเทศ ในส่วนของช่องวัน 31 และจีเอ็มเอ็ม 25 ก็เช่นกัน ละครมีกระแสแรง เรตติ้งค่อนข้างดี ส่วนกลุ่มธุรกิจเพลงของแกรมมี่ก็มีผลงานเป็นที่น่าพอใจ อาทิ ช่องยูทูป GMM GRAMMY OFFICIAL ที่มีผู้ติดตามมากกว่า 10 ล้านคน เป็นช่องแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เรามีหลายกำลังใจ หลายรางวัล ที่ยังจะรักษาคุณภาพและมาตรฐานความเป็นแกรมมี่ไว้ได้อย่างดี ในความตั้งใจที่จะผลิตผลงานสู่ผู้บริโภค การเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีเข้ามาเราก็พร้อมที่จะปรับตัว โดยในปี 2561 นี้จะเห็นความร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจใหม่ๆ ที่ชัดเจนขึ้น สิ่งที่เราทำมา เพียรพยายามมาทั้งหลาย ทำให้ จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ และบริษัทในเครือ สามารถยืนอยู่ในจุดที่ดี และพึงพอใจ และดีขึ้นกว่าเดิม“

ภาวิต จิตรกร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายธุรกิจ จีเอ็มเอ็ม มิวสิค บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) เผยว่า ในกลุ่มธุรกิจเพลง การผลิตผลงานเพลงของศิลปินในปีที่ผ่านมา แกรมมี่ได้ส่งเพลงและซิงเกิ้ลใหม่มากกว่า 700 เพลง จากศิลปิน อาทิ ธงไชย แมคอินไตย์, เป๊ก ผลิตโชค, นิว จิ๋ว, ดา เอ็นโดรฟิน, อะตอม ชนกันต์ รัตนอุดม, วงโปเตโต้, วงบิ๊กแอส เป็นต้น รวมถึงการสร้างปรากฏการณ์การจำหน่ายบัตรคอนเสิร์ตต่างๆ ที่แฟนเพลงให้ความสนใจซื้อบัตรในวันแรกจนบัตรหมดภายในระยะเวลาอันรวดเร็ว อาทิ คอนเสิร์ต “Pepsi Present Big Mountain Music Festival 2017” สร้างปรากฏการณ์ขายบัตร 40,000 ใบหมดเกลี้ยงภายใน 10 ชั่วโมง ตามติดมาด้วยคอนเสิร์ต “นั่งเล่น Music Festival 3” บัตรขายหมดภายในวันเดียว และล่าสุดประเดิมต้น ปีนี้กับคอนเสิร์ต “Chang Music Connection Present Genie Fest 19 ปี กว่าจะร็อกเท่าวันนี้” ที่เปิดขายบัตร วันแรกเมื่อวันที่ 7 มกราคมที่ผ่านมา บัตร 60,000 ใบ ขายหมดในพริบตาแค่ 15 นาที โดยคอนเสิร์ตครั้งนี้ถือเป็นการจัดแฟนมีตติ้งครั้งยิ่งใหญ่ของค่ายจีนี่ด้วยเช่นกัน ถือเป็นบทสรุปได้ว่าศิลปินแกรมมี่ยังคงครองใจ และได้รับกระแสตอบรับที่ดีเยี่ยมจากแฟนเพลงมาโดยตลอด

นอกจากนี้ในปี 2560 ที่ผ่านมา แกรมมี่สามารถขยายคอนเทนต์สู่แพล็ตฟอร์มดิจิทัลได้มากขึ้น รวมถึงการร่วมมือกับแพล็ตฟอร์มใหม่ๆ เพื่อเพิ่มความสามารถในการนำคอนเทนต์ที่ผลิตขึ้นให้เข้าถึงผู้บริโภคได้อย่างทั่วถึงและตรงกลุ่มเป้าหมายมากที่สุด อาทิ Spotify, Joox, OMU เพื่อเสริมความแข็งแกร่งในตลาดมิวสิคสตรีมมิ่ง เป็นโอกาสในการขยายช่องทางเผยแพร่ คอนเทนต์ของแกรมมี่ไปยังกลุ่มเป้าหมาย รวมทั้งความสามารถในการขยาย กลุ่มผู้ฟัง และแนวทางในการเพิ่มการมีส่วนร่วมบนแพลตฟอร์มด้วยการจัดกิจกรรมต่างๆ ที่ช่วยรักษาและขยายฐานผู้ใช้งานให้เพิ่มขึ้นได้ ดังนั้นนี่คือยุคของการแข่งขันกับพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป แกรมมี่ในฐานะ Content และ Infrastructure provider พร้อมร่วมมือกับทุกพันธมิตรในการเสิร์ฟคอนเทนต์ที่มีคุณภาพในอนาคต ซึ่งเป็นอีกหนึ่งช่องทางในการเข้าถึงผู้บริโภคด้วยเช่นกัน โดยในอนาคตจะเป็นยุคของ Fan-based Marketing

แนวโน้มธุรกิจสื่อ และกลยุทธ์ในปี 2561 ของช่องวัน 31 ช่อง GMM25 และเอ-ไทม์ มีเดีย

จากที่ช่องวัน 31 ได้สร้างปรากฎการณ์ พิษสวาท ไว้เมื่อช่วงต้นปีที่แล้ว การันตีด้วยกระแสต่างๆ และการคว้ารางวัลโทรทัศน์ทองคำ ในสาขารางวัลบทละครดีเด่น และรางวัลผู้กำกับละครดีเด่น, ป้อง-ณวัฒน์ กุลรัตนรักษ์ คว้ารางวัลนาฏราชครั้งที่ 8 ในสาขานักแสดงนำชายยอดเยี่ยม โดย ป้อง-ณวัฒน์ ยังเป็นนักแสดงไทยที่ได้รับความนิยมอย่างมากในแดนมังกร จนมีโอกาสได้ไปร่วมงานกับประเทศจีนครั้งแรกในซีรีส์เรื่อง “Love Jewelry” โดย ช่องวัน 31 ก็นำซีรี่ส์ดังเรื่องนี้มาลงจอให้แฟนๆ ได้ชมกันแล้ว ในชื่อภาษาไทย “แผนลับ สลับรัก” และปิดท้ายปีด้วยปรากฏการณ์จากละคร เรื่อง “เธอคือพรหมลิขิต” ที่ได้นักแสดงอย่าง บี้-สุกฤษฎิ์ และ เอสเธอร์ สุปรีย์ลีลา มาทำเรตติ้งทะยานขึ้นเป็นอันดับ 2 ของละคร จันทร์ – อังคาร จากทุกช่อง ด้วยยอดผู้ชมกว่า 3.8 ล้านคน พร้อมกับทุบสถิติละครไทยที่มียอดผู้ชมออนไลน์ในประเทศจีนกว่า 910 ล้านวิวอีกด้วย

ถกลเกียรติ วีรวรรณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เดอะ วัน เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด เปิดเผยว่า แนวโน้มธุรกิจสื่อทีวีในปีนี้ การแข่งขันค่อนข้างสูง สงครามแย่งชิงคนดู จากจอทีวีด้วยกันเองและ second screen ที่เข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ ทุกสถานีต้องตรึงผู้ชมด้วยคอนเทนต์คุณภาพระดับพรีเมี่ยม ที่โดดเด่นและแตกต่างเท่านั้น เพื่อดึงผู้ชมมาชมพร้อมกันในหน้าจอทีวีมากกว่าการชมย้อนหลังหรือชมในแพลตฟอร์มออนไลน์ นั้นถือเป็นตัวแปรในการสร้างเรตติ้งเพื่อเรียกเม็ดเงินโฆษณาและสร้างการจดจำแบรนด์ของสถานีให้อยู่ในใจของผู้ชม

โดยทิศทางในปี 2561 นี้ ช่องวัน 31 มีอัตราการเติบโตของเรตติ้ง 24% จากปี 2559 เป็น 1 ใน 5 ของช่องทีวีที่ได้รับความนิยมสูงสุดมาตลอด โดยเฉพาะฐานผู้ชมในกลุ่มที่มีอำนาจในการซื้อ ทั้งในกรุงเทพและต่างจังหวัด ยังคงเป็นฐานผู้ชมที่เหนียวแน่น ช่องวัน 31 เป็นช่องทีวีที่โดดเด่นในคอนเทนต์ละคร ซิทคอม และวาไรตี้ ในปี 2561 ช่องวัน 31 เดินหน้าในการสานต่อความสำเร็จ พร้อมขยายฐานผู้ชมอย่างต่อเนื่อง ด้วยกลยุทธ์ Event Television ต่อยอดความเชี่ยวชาญด้านการสร้างสรรค์ และคอนเทนต์ เน้นการสร้างประสบการณ์การมีส่วนร่วมกับผู้ชมในรูปแบบต่างๆ เพื่อสร้างความผูกพันกับแบรนด์ของช่องและตัวคอนเทนต์ พร้อมกันบนหน้าจอทีวี โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเวลาไพร์มไทม์

หากวัดผลจากเรตติ้ง ละคร คือ ความโดดเด่นของช่องทีวีที่ผู้ชมยกให้ช่องวันเป็น 1 ใน 3 ของช่องที่ละครได้รับความนิยมสูงสุด โดยในปี 2561 ช่องวัน 31 ใช้ความเชี่ยวชาญในการเป็นผู้สร้างสรรค์งาน scripted content ปูพรมวางผังคอนเทนต์ ละคร ซิทคอม ซีรีส์ เต็มพิกัดตามผังเวลา เสิร์ฟความสุขให้ผู้ชม ทั้งวัน ทุกวัน กับละครหลังข่าว 20.10 น. ละครสำหรับครอบครัวทุกเพศทุกวัย หลากรส หลากแนว พร้อมทัพนักแสดงชั้นนำคับจอ อาทิ เรือนเบญจพิษ, ดาวจรัสฟ้า, สายรักสายสวาท ฯลฯ อีกทั้งยังฉีกกฏการดูละครหลังข่าวด้วยกลยุทธ์ “ละครดีสี่วันรวด” ทุกวันจันทร์ถึงพฤหัสบดี เพื่อสร้างความต่อเนื่องในการรับชม ทำให้เกิดความผูกพันกับคอนเทนต์ และจดจำ แบรนด์ช่องในที่สุด ซึ่งได้นำร่องกลยุทธ์นี้ด้วยละคร ชายไม่จริงหญิงแท้ ในปลายปี 2560 และประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก

ดูละครหลังข่าวจบแล้ว ยังมีละครให้ดูต่อเนื่อง ด้วยผัง “ละครสามทุ่มยี่สิบ” ที่เข้มข้นด้วยเนื้อหา และการเปิดกว้างของเรื่องราวในการนำเสนอ เพื่อเป็นทางเลือกที่มากขึ้นสำหรับผู้ชม เปิดประเดิมผังกับละคร “ล่า” ที่แรงข้ามปี จากนั้นต่อด้วยละครแนวสืบสวนสอบสวน กาหลมหรทึก ที่เข้าแถวจ่อคิวรอลงจอในปีนี้ และพลาดไม่ได้ กับอีกหนึ่งปรากฏการณ์ใหม่ของละครทีวีไทย ที่ให้คนดูร่วมโหวตเพื่อกำหนดชะตาชีวิตของตัวละคร และถ่ายทอดสดตามผลโหวตของผู้ชมเป็นผู้เลือก กับละคร “เมืองมายา LIVE” ทุกคืนวันพุธ เริ่มออกอากาศแล้วตั้งแต่ 3 มกราคมที่ผ่านมา ส่วนแม่บ้านคอละครไทย ยังมีละครช่วงเที่ยง เสาร์ อาทิตย์ให้ดูกันเต็มอิ่ม กับละครเรื่องใหม่ “ทานตะวันจันทร์วาด” ซึ่งกำลังออนแอร์อยู่ในขณะนี้

ซิทคอม ไม่มีใครปฏิเสธว่า ช่องวัน31 คือจ้าวแห่งซิทคอม ซิทคอมยอดนิยมอย่าง “ เป็นต่อ” “บางรักซอย 9/1”, “เสือ ชะนี เก้ง” ยังทำหน้าที่สานต่อความสนุกของเรื่องราวในปีนี้อย่างต่อเนื่อง ในขณะที่ผังเวลาซิทคอม ทุ่มตรงทุกวันจันทร์ถึงพฤหัสบดี จะเป็นเวลาที่ช่องวัน 31 จะสร้างอีกหนึ่งปรากฏการณ์ของซิทคอมชุดใหม่ “บ้านสราญแลนด์” ความหฤหรรษ์ในการส่องเรื่องราวความสนุกสนานของลูกบ้านแต่ละหลังของหมู่บ้านนี้แบบไม่ซ้ำหลัง ไม่ซ้ำเรื่อง ไม่ซ้ำวัน วันจันทร์ “ ศึกรักข้ามรั้ว” ,วันอังคาร “สุภาพบุรุษสุดซอย”, วันพุธ “รักล้นๆคนเต็มบ้าน” ,วันพฤหัสบดี “ชะนีหนีคาน” ซึ่ง ซิทคอม บ้านสราญแลนด์ ถือเป็นซิทคอมที่รวมดาราระดับแถวหน้ามารวมตัวกันมากที่สุด รวมทั้งยังเป็นการเล่นซิทคอมครั้งแรกของดาราบิ๊กเนมอย่าง ป้อง ณวัฒน์ ,นุ่น วรนุช และ บี น้ำทิพย์ อีกด้วย

รายการวาไรตี้ “ศึกวันดวลเพลง” ยังเป็นรายการประกวดร้องเพลงที่ได้รับความนิยมมาอย่างต่อเนื่อง จัดเป็นทัพหน้าในการรักษาฐานผู้ชมทั้งประเทศที่ชื่นชอบเพลงลูกทุ่ง ในปี 2561 จะสร้างความฮือฮากับศึกวันดวลเพลง seasonal ในแต่ละฤดูกาลที่จะทำให้ผู้ชมต้องคอยติดตามและเอาใจช่วยผู้เข้าแข่งขัน ไม่ว่าจะเป็น “สงครามเทพบุตร” “สงครามแชมป์” และ “เสาร์ห้า” ฯลฯ

นอกจากนี้ ยังมี รายการแข่งขันร้องเพลง seasonal program ของระดับซูเปอร์สตาร์รายการใหม่ ภายใต้ชื่อรายการ “Star War” ต่อด้วยรายการ “Remaster Thailand” นอกจากนั้นยังมีรายการ “World of Dance” รายการแข่งขันเต้นระดับโลก ที่การันตีความเข้มข้นโดย เจนนิเฟอร์ โลเปซ ซึ่งช่องวัน31 ได้คว้าลิขสิทธิ์มา พร้อมออกอากาศในกลางปี 2561 นี้แน่นอน

เกมส์โชว์เตรียมพบ โฉมใหม่ของความสนุกจากเกมส์โชว์ที่สร้างกระแสฮือฮาในทุกสัปดาห์ “รู้ไหมใครโสด 2018” ที่จะเพิ่มให้ผู้ชมมีส่วนร่วมในการค้นหาหนุ่มหล่อไปพร้อมๆกันว่าคนไหน โสด, มีเจ้าของ หรือ ไม่มองหญิง,ส่วนรายการ 4:4 แฟมิลีเกม, ซุปตาร์ท้า OX, อักษรล่าแสน ยังคงตรึงผังรายการเกมโชว์ของช่องวัน31 ที่สร้างความสนุกให้ผู้ชมต่อเนื่อง และที่สุดของเกมโชว์ในปีนี้ คือรายการ “The Wall” กำแพงพลิกชีวิต เกมส์โชว์ระดับโลก ที่จะทำให้ผู้ชมตามลุ้นในทุกวินาที พลิกชะตาผู้เข้าแข่งขันในทุกขณะ โดยมี วู้ดดี้ วุฒิธร มิลินทจินดา รับหน้าที่เป็นพิธีกร

​ด้านข่าวช่องวัน 31 ฉีกกฏการนำเสนอรายการข่าว ด้วยการปักหมุดกลุ่มเป้าหมายข่าวเพื่อคอละคร ข่าวช่องวัน31 จึงตามติดสถานการณ์เด่น เหตุการณ์ดัง เจาะลึกเข้มข้นแบบ Human interest ตลอดทั้งวัน เช้า เที่ยง เย็น และข่าวสั้นอัพเดททุกชั่วโมง ด้วยทีมข่าวรุ่นใหม่ ที่พาผู้ชมไปขยี้และขยายประเด็นอย่างเผ็ดร้อน ไม่ว่าจะเป็น จั๊ด-ธีมะ กาญจนไพริน และ คิง-พีระวัฒน์ อัฐนาค ซึ่งกลายเป็นไอคอนคนข่าวรุ่นใหม่ไปแล้ว

​นอกจากทัพคอนเทนต์ระดับพรีเมี่ยมในปี 2561 ช่องวัน31 ยังวางกลยุทธ์ด้านแบรนด์ดิ้ง เพื่อสร้างการจดจำ ด้วยการผสานสื่อทั้ง ON AIR, ON LINE และ ON GROUND, อย่างเข้มข้นและต่อเนื่อง โดยใช้เป็นเครื่องมือทางการตลาดเพื่อสร้างการรับรู้และจดจำ เป็นการดึงผู้ชมให้กลับมาชมคอนเทนต์พร้อมกัน ณ เวลาออกอากาศจริงบนจอทีวีให้มากที่สุดด้วยกลยุทธ์ event television ดังกล่าว

ด้าน สายทิพย์ มนตรีกุล ณ อยุธยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายธุรกิจ จีเอ็มเอ็ม มีเดีย เปิดเผยว่า “ในแง่ของทีวีดิจิทัล การแข่งขันก็ยังคงเข้มข้นอยู่ ทุกช่องต่างก็เริ่มมีความแข็งแรง รู้ทิศทางของตัวเองแล้ว ทิศทางในการวางกลยุทธ์ของในปีหน้าทั้ง ช่อง GMM25 และวิทยุ สิ่งสำคัญที่สุดคงเป็นเรื่องของ คอนเทนต์ ทั้งวิทยุ หรือทีวีก็ตาม คอนเทนต์คือหัวใจสำคัญที่สุด ซึ่งแน่นอนว่าปีนี้ เราคงต้องใช้เวลาในการเตรียมคอนเทนต์ต่างๆ ให้แข็งแรงขึ้น เพื่อที่จะพร้อมในการตอบรับกับเงินในตลาด ในแง่ภาพรวมกลยุทธ์ของ GMM25 ปีนี้มุ่ง Expand ในแต่ละรูปแบบต่างๆ ไปยังคนรุ่นใหม่ที่มีไลฟ์สไตล์ทันสมัยทั่วประเทศ ซึ่งเดิมกลุ่มคนดูเราก็ยืนยันว่าเป็นกลุ่ม 15-34 ปี เป็นคนรุ่นใหม่คนทันสมัย อาจจะเป็นคนที่มีอายุมากกว่า 34 แต่มีไลฟ์สไตล์ที่ทันสมัย ดังนั้นปีนี้ การขยายฐานของกลุ่มคนดูให้เพิ่มมากขึ้น ด้วยตัวเลขการเติบโตของเราที่ดีขึ้นสูงขึ้น จึงขยายฐานคนดูออกไปสู่เมืองต่างจังหวัดมากขึ้น โดยจัดเต็มคอนเทนต์ที่แตกต่าง และมีเอกลักษณ์แบบฉบับ GMM 25 ให้มีความสนุก สาระและความบันเทิง ครบรส เสริมความแข็งแกร่งด้วยกองทัพสื่อแบบครบวงจรในที่เดียว ที่ไม่มีใครมีแบบเรา ทั้งสื่อทีวีดิจิทัล GMM25 แพลตฟอร์มออนไลน์ ออนกราวน์ และสื่อวิทยุ (Green Wave 106.5 FM, EFM104.5, Chill Online) ตอบโจทย์การเข้าถึงผู้ชมไลฟ์สไตล์ทันสมัยทั่วประเทศ และตอบโจทย์ธุรกิจผู้สนับสนุนที่ต้องการแพ็คเกจที่ มีการผสมผสานสื่อชั้นนำเพื่อประสิทธิภาพสูงสุด

ด้านการขยายคอนเทนต์ อย่างละคร ก็มีการเพิ่ม ความยาวของละครเวลา 20.20 น. เป็น 2 ชั่วโมง แล้ว ก็เพิ่มละครก่อนข่าว เป็นช่วง Family Fun เวลา 18.20 น. ช่วงเวลาของละครและซีรีส์ต่างประเทศที่ดูได้สนุกทั้งครอบครัว เปิดด้วยซีรีส์จีนฟอร์มยักษ์ 2 เรื่องดัง ที่มียอดวิวสูงสุดในประเทศจีน ได้แก่ “Lost Love in Times อภินิหารรัก เหนือบังลังก์” และ “Fighter of the Destiny เทพบุตรนักสู้พลิกลิขิตสวรรค์”

อีกช่วงหนึ่ง มีการปรับคอนเทนต์ต่างๆ เช่น รายการข่าวจะเห็นว่ามีการปรับเปลี่ยนรูปแบบและพิธีกร ให้มีความเป็นแมสมากขึ้น อาทิ ข่าวตอนเย็น “ข่าวใหญ่ไทยแลนด์” ก็จะเห็นภาพชัดขึ้นว่า อันนี้คือตลาดแมส อย่างชัดเจน ด้านผู้ประกาศข่าวก็จะมีความเป็นคนข่าวมากขึ้น ซึ่งได้ คุณต๊ะ-พิภู พุ่มแก้วกล้า มาเริ่มต้นทำงานในรายการข่าว “เช้าวันนี้ GMM News” นอกจากนี้รูปแบบของข่าวบันเทิงก็เปลี่ยนไป รายการใหม่ “เรื่องใหญ่ไฟกระพริบ” เป็นรายการวาไรตี้บันเทิงที่นำเอาคอนเทนต์ของข่าวบันเทิงมาทำเป็นรูปแบบของรายการใหญ่ขึ้นเพิ่มเติมพิธีกร นอกจากนั้นเรายังคงเน้นในเรื่องของรายการวัยรุ่น สไตล์กินเที่ยว ช้อปปิ้ง ดูหนัง ฟังเพลง คนดูช่องเราดูแล้ว มันคือช่องบันเทิงที่เน้นในเรื่องของไลฟ์สไตล์ การใช้ชีวิต ทุกอย่างจะเป็น การรวบรวมเอาความเป็นไลฟ์สไตล์ของความบันเทิงมาไว้ที่ช่อง GMM25 กลยุทธ์ที่สำคัญอีก 2 ประเด็น ที่เราคงมุ่งเน้น คือ

ความจริง ความเป็นเรียลลิตี้ หรือความเป็นช่องของความจริง จะเห็นภาพชัดตั้งแต่ละคร จากจุดเริ่มต้นที่คลับฟรายเดย์เดอะซีรี่ส์ที่เป็นเรื่องจริง Tie-in เข้าไปในชีวิตของคนจริงๆ ได้ แม้แต่ข่าว เราก็ยังบอกว่า “ชัด จริง ชัวร์” หมายความว่าคนดูข่าวเราได้รู้แต่ความเป็นจริงแน่นอน

โอกาส ในแง่ของการให้โอกาสกับคนรุ่นใหม่ ที่ผ่านมาเราจะมี รายการ Hotwave Music Awards หรือการรับสมัครนักแสดงหน้าใหม่ NEW FACE ซึ่งต่อไปนี้เราจะมีรายการประเภทนี้ เรื่องของการให้โอกาสกับคน เพราะเรามีทั้งคนทำเพลง งานแสดง ดีเจ พิธีกร เพราะฉะนั้นคนที่เดินมาที่เรา มันมีโอกาสเต็มไปหมด ทุกวันนี้ที่เราให้โอกาส เขาสามารถจะใช้โอกาสนั้นเติมฝันได้ ปีหน้าเราจะมีคอนเซ็ปต์ของคำว่า “กล้าดี” ก็คือเราทุกคนต้องกล้าที่จะทำความดีกัน มีรูปแบบของกิจกรรมต่างๆ เพิ่มขึ้น และมีการขยายกิจกรรมต่างๆ ไปสู่ต่างจังหวัดมากขึ้น ทำกิจกรรมออนกราวน์มากขึ้น ส่วนงานออนไลน์ มีการพัฒนาแอพพลิเคชั่นในงานออนไลน์ต่างๆ เราก็ทำควบคู่ไปกับช่องด้วย ปีนี้จะเป็นความครบถ้วนสมบูรณ์มากขึ้นของคำว่า ออนแอร์-ออนกราวน์-ออนไลน์

“ในส่วนของวิทยุปี 2561 นับเป็นอีกก้าวสำคัญของ เอ-ไทม์ มีเดีย หลังจากประสบความสำเร็จอย่างสูงจากการขยายการรับฟังจากวิทยุสู่ App Atime Online เพื่อให้เหมาะกับไลฟไสตล์ของคนรุ่นใหม่เป็นเจ้าแรก ทำให้ทั้ง 3 รายการ Green Wave 106.5 FM , EFM104.5 และ Chill Online มีผู้ฟังมากที่สุดในประเทศไทย เฉพาะทาง App Atime Online มีผู้ฟังประมาณ 15 ล้านไอดีในแต่ละเดือน และยังสามารถขยายการรับฟังไปได้ทั่วไทย และทั่วโลกอีกด้วย จาก App Atime Online ก้าวต่อไปของเอ-ไทม์ มีเดีย ก็คือ Atime Music Hub เราจะไม่ใช่แค่รายการวิทยุอีกต่อไป แต่เราจะมีเพลย์ลิสต์เพลงหลากหลายให้ได้ฟังกันอีกด้วยบน App Atime Online ไม่ว่าจะเพลงฮิตในอดีตที่หาฟังยาก เพลงสากล เพลงลูกทุ่ง เพื่อขยายกลุ่มคนฟังให้กว้างมากขึ้น ด้วยความเชี่ยวชาญในการทำ เพลย์ลิสต์เพลงมามากกว่า 25 ปี ประกอบกับการมีดีเจชื่อดังที่เป็นที่รู้จักกันเป็นอย่างดีมากที่สุดในประเทศไทย เช่น ดีเจพี่ฉอด, ดีเจพี่อ้อย, ดีเจอ้อม สุนิสา, ดีเจมดดำ คชาภา, ดีเจต้นหอม ศกุนตลา, ดีเจเผือก พงศธร, ดีเจโอ๊ต ปราโมทย์ และอีกมากมาย จึงทำให้เรามีความแตกต่าง ไปจาก รายการวิทยุอื่น และ App ฟังเพลงทั่วไป”

“แค่นั้นยังไม่พอ เรายังมี รายการทอล์คทางวิทยุที่ดังที่สุด มีผู้ชมผู้ฟังทั้งทางวิทยุ App Atime Online และ การ Live! บน Facebook Youtube มากที่สุดในประเทศไทยอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็น Club Friday ของ คลื่นGreen Wave 106.5 FM ทอล์คอันดับหนึ่งที่ไม่มีใครไม่รู้จัก ของ ดีเจพี่ฉอด ดีเจพี่อ้อย , จันทร์ช็อคโลก โดย ดีเจโอ๊ต ปราโมทย์ และ ดีเจอาร์ต มารุต , อังคารเช็คดวง โดย ดีเจมดดำ และ ดีเจแนน, พุธทอล์คพุธโทร โดย ดีเจต้นหอม ดีเจเผือก พงศธร และดีเจลูกกอล์ฟ ทางคลื่น EFM 104.5, ใต้โต๊ะทำงาน ทอล์คของหนุ่มสาวออฟฟิศของ Chill Online ซึ่งทั้งหมดกำลังมาแรงมาก ทำสถิติคนฟังคนดู Live ทางโซเชี่ยล มากที่สุดในประเทศไทย และ ในช่วงนี้ เรายังมี Atime Point ให้คนฟังสะสม เพื่อร่วมสนุกและแลกของรางวัลมากมายตลอดปี ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างมาก ทำให้มียอดคนฟังเพิ่มมากขึ้น และขยายระยะเวลาการฟัง ได้มากขึ้นอีกด้วย ซึ่งเป็นโอกาสดีสำหรับลูกค้าที่มาลงโฆษณา ได้เพิ่มโอกาสการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายมากขึ้น ในทุกช่วงเวลา”

“อีกหนึ่งธุรกิจของ เอ-ไทม์ มีเดีย ที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงก็คือ Atime Showbiz เรียกได้ว่าเป็นเจ้าตลาดของคอนเสิร์ตศิลปินไทยเลยก็ว่าได้ ด้วยประสบการณ์อันยาวนานมามากกว่า 10 ปี ด้วยการมีสื่อ โปรโมทครบวงจรที่แข็งแรง ทั้งออนแอร์วิทยุ ออนไลน์ และ ออนกราวด์ บวกกับ เป็นบริษัทในเครือเดียวกับโทรทัศน์ช่อง GMM25 ทำให้คอนเสิร์ตของ Atime Showbiz บัตรขายเต็มมาโดยตลอด ยิ่งไปกว่านั้น ต้องมีการเพิ่มรอบคอนเสิร์ตหลายครั้งอีกด้วย เช่น คอนเสิร์ต J dna หรือ คอนเสิร์ตสามแยกปากหวาน 3บวก1 ล่าสุดที่เพิ่งแถลงข่าวพร้อมเปิดขายบัตรหมดกันไปเป็นที่เรียบร้อย ซึ่งในปีนี้ ก็ยังจะมีคอนเสิร์ตยิ่งใหญ่ให้ได้เซอร์ไพรส์กันอีกหลายคอนเสิร์ตตลอดปีนี้ นอกจากนี้ เอ-ไทม์ มีเดีย ก็ยังมี Atime Traveller ที่พร้อมจะพาคนฟัง และ คนทั่วไป เดินทางท่องเที่ยวแบบ Exclusive อีกด้วย ซึ่งทั้งหมดที่กล่าวมา คาดว่าปี 2561 จะเป็นปีที่ เอไทม์ มีเดีย เติบโตมากขึ้นอย่างมาก ทั้งฐานผู้ฟัง และ ทั้งทางด้านการตลาด อย่างแน่นอน”

ภาวิต จิตรกร

 

ถกลเกียรติ วีรวรรณ

 

สายทิพย์ มนตรีกุล ณ อยุธยา

ใส่ความเห็น