วันเสาร์, เมษายน 20, 2024
Home > Cover Story > วุฒิศักดิ์ กรุ๊ป เปิดศึกปีจอ ผุด W Hospital จิ๊กซอว์ชิ้นใหญ่

วุฒิศักดิ์ กรุ๊ป เปิดศึกปีจอ ผุด W Hospital จิ๊กซอว์ชิ้นใหญ่

การเลื่อนแผนนำหุ้นบริษัท ดับบลิวซีไอ โฮลดิ้ง จำกัด (WCIH) ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของบริษัท วุฒิศักดิ์ คลินิก อินเตอร์กรุ๊ป จำกัด (WCIG) เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ หลังจัดทัพปรับโครงสร้างการเงินและการบริหารครั้งใหญ่ เป้าหมายอยู่ที่การแต่งตัวสร้างผลการดำเนินงานในปี 2561 และต่อจิ๊กซอว์ทั้งหมด โดยเฉพาะโปรเจกต์ผุดโรงพยาบาล เพื่อรุกธุรกิจสุขภาพและความงามอย่างครบวงจร ชิงเม็ดเงินหลักแสนล้านบาท ทั้งในและต่างประเทศ

อรรถวุฒิ จริงไธสง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารวุฒิศักดิ์ กรุ๊ป ระบุว่า บริษัทเตรียมพร้อมเรื่องต่างๆ เรียบร้อยแล้ว เหลือเพียงเรื่องผลประกอบการและระยะเวลาที่เหมาะสม โดยคาดว่าจะนำหุ้นเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์อย่างช้าที่สุดช่วงปี 2562-2563 หรือหากรายได้และกำไรเติบโตอย่างสวยหรู ทะลุเป้า บริษัทอาจเข้าจดทะเบียนภายในปี 2561 ก็เป็นได้

ทั้งนี้ ตามแผนการตลาดและการลงทุนในธุรกิจเพื่อสุขภาพและความงามในปี 2561 บริษัทยังเน้นการยกระดับพัฒนาธุรกิจสู่ Wuttisak Wellness World เป็นผู้นำธุรกิจสุขภาพและความงามอย่างครบวงจร 4 ด้าน ประกอบด้วย

1. Beauty & Wellness การให้บริการด้านสุขภาพและความงามด้วยนวัตกรรมใหม่ล่าสุด รวมทั้งการพัฒนาบุคลากรทางการแพทย์

2. Wellness & Spa การดูแลสุขภาพและความงามแบบองค์รวม ขยายบริการด้านเวชศาสตร์ชะลอวัย และเวชศาสตร์ฟื้นฟู

3. Product Distribution การนำผลิตภัณฑ์ Cosmetics บุกตลาดประเทศจีน โดยจัดจำหน่ายผ่านช่องทางต่างๆ ทั้งร้านค้าปลีก สถานเสริมความงาม และ Online

4. Inbound Beauty & Wellness Tour การจัดโปรแกรมการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ ซึ่งเป็นความร่วมมือในการรองรับนักท่องเที่ยวจากประเทศจีนที่สนใจมาทัวร์สุขภาพและความงามในประเทศไทยเพิ่มมากขึ้น

ขณะเดียวกัน บริษัทตั้งเป้าขยายสาขาวุฒิศักดิ์ในรูปแบบแฟรนไชส์ เพื่อเร่งปูพรมสาขาครอบคลุมทุกพื้นที่และเพิ่มศักยภาพการบริหารงาน จากเดิมบริษัทลงทุนและบริหารธุรกิจในแต่ละสาขา โดยสร้างทีมแฟรนไชส์พัฒนาระบบและพร้อมเปิดตัวเต็มรูปแบบในต้นปี 2561 รวมทั้งขยายบริการด้านเวชศาสตร์ชะลอวัย เวชศาสตร์ฟื้นฟู และคลินิกกายภาพบำบัดในต้นเดือนมกราคมที่สำนักงานใหญ่งามวงศ์วาน และสาขาเสนานิคม

อรรถวุฒิกล่าวว่า ตั้งแต่ปีหน้าธุรกิจวุฒิศักดิ์จะมี 4 โมเดลหลัก โดย 3 โมเดลแรก ได้แก่ วุฒิศักดิ์ คลินิก ใช้เงินลงทุนประมาณ 6-8 ล้านบาทต่อสาขา วุฒิศักดิ์ บิวตี้ เซ็นเตอร์ ศูนย์การดูแลความงามครบวงจร ใช้เงินลงทุน 5-7 ล้านบาทต่อสาขา และวุฒิศักดิ์ คอสเมติกช็อป หรือร้านค้าปลีกเครื่องสำอางภายใต้แบรนด์วุฒิศักดิ์ และแบรนด์ Premium Products: Exclusive ที่มีจำหน่ายเฉพาะวุฒิศักดิ์เท่านั้น

เช่น That’so จากอิตาลี Respera จากสหรัฐอเมริกา และแบรนด์จากเกาหลี รวมถึงผลิตภัณฑ์เสริมความงามที่สกัดจากธรรมชาติ อาหารเสริมเพื่อสุขภาพ บำรุงร่างกายและผิวพรรณ แบรนด์ Oxygen จากประเทศญี่ปุ่น Kembucha Tea, Siam Snail และสมุนไพรไทย ซึ่งวุฒิศักดิ์ คอสเมติกช็อป ใช้เงินลงทุนประมาณ 1.5-2.5 ล้านบาทต่อสาขา จัดจำหน่ายสินค้าไม่ต่ำกว่า 1,000 เอสเคยู

ปัจจุบัน วุฒิศักดิ์มีคลินิกในประเทศไทย 113 สาขา และในต่างประเทศอีก 12 สาขา ส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่ม CLMV โดยคาดว่าจะเริ่มเปิดบิวตี้เซ็นเตอร์และคอสเมติกช็อปตั้งแต่ต้นปีหน้า งบลงทุนรวม 100-200 ล้านบาท โมเดลละ 10-20 จุด และตั้งเป้าขยายครบ 300 สาขา ภายใน 3 ปีหลังจากนี้ แยกเป็นวุฒิศักดิ์รูปแบบคลินิก จำนวน 150 แห่ง บิวตี้เซ็นเตอร์ 50 แห่ง และรีเทลช็อปอีก 100 แห่ง กระจายทั้งในประเทศไทย กัมพูชา ลาว เมียนมา กัมพูชา รวมถึงในประเทศจีน และอีกหลายประเทศในภูมิภาคเอเชีย

ส่วนโมเดลสุดท้าย ซึ่งถือเป็นจิ๊กซอว์ชิ้นใหญ่ คือ โรงพยาบาลเฉพาะทางด้านศัลยกรรมความงาม หรือ “W Hospital” (Aesthetic Surgery Hospital) หลังจากทดลองเปิดให้บริการแผนกศัลยกรรมความงามที่วุฒิศักดิ์คลินิก สาขาเสนานิคมและสาขาสยามสแควร์ โดยจะนำร่องเปิดโรงพยาบาลแห่งแรกในปี 2561 ขนาดไม่เกิน 30 เตียง และมีแผนขยาย W Hospital ในปีถัดไป หากได้รับผลตอบรับดี

“W Hospital จะเป็นโรงพยาบาลเฉพาะด้านศัลยกรรมความงามอย่างเต็มรูปแบบและต่างจากกลุ่มโรงพยาบาลยักษ์ใหญ่ที่เริ่มหันมาลงทุนขยายธุรกิจสุขภาพ เนื่องจากวุฒิศักดิ์เน้นการให้บริการแบบครบวงจร ทั้งสุขภาพและความงาม ทุกเรื่อง ตั้งแต่ออฟฟิศซินโดรมไปจนถึงการเสริมความงามเพื่อความสวยงามทุกโมเมนต์ มีเครือข่ายคลินิก ศูนย์บิวตี้เซ็นเตอร์และคอสเมติกช็อปกระจายทั่วประเทศ ซึ่งแข็งแกร่งกว่ากลุ่มโรงพยาบาล หรือแม้กระทั่งโรงพยาบาลยันฮีที่เป็นโรงพยาบาลด้านศัลยกรรมความงาม”

ที่สำคัญ การกลับมาของนายแพทย์วุฒิศักดิ์ ลิ่มพานิช ในฐานะผู้ก่อตั้งแบรนด์วุฒิศักดิ์เมื่อ 15 ปีก่อน เป็นอีกจุดแข็งที่เสริมด้านทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพราะฐานลูกค้าส่วนใหญ่เชื่อมั่นในชื่อเสียงและคุณภาพ รวมทั้งกลุ่มลูกค้าจากต่างประเทศ โดยเฉพาะกลุ่มชาวจีนสนใจบริการด้านศัลยกรรมความงามจากแพทย์ชาวไทยจำนวนมาก ไม่ต่ำกว่าหลักแสนคน นอกจากนี้ บริษัทยังร่วมมือกับสมาคมแพทย์เกาหลีแห่งประเทศไทย (Korea Thai Medical Association) หรือ KTMA มาถ่ายทอดความรู้และประสบการณ์ให้ทีมแพทย์วุฒิศักดิ์ รวมทั้งให้คำปรึกษาแนะนำแก่ลูกค้าที่ต้องการเดินทางไปทำศัลยกรรมที่ประเทศเกาหลีใต้

แน่นอนว่า จิ๊กซอว์ทั้ง 4 ตัวของวุฒิศักดิ์ เป็นการเปิดเกมรุกธุรกิจอย่างครบวงจร ซึ่งที่ผ่านมาวุฒิศักดิ์ กรุ๊ป พยายามชูนโยบายยกระดับธุรกิจและขยายบริการด้านคลินิกในรูปแบบของการศัลยกรรมตกแต่งและเสริมความงามด้วยนวัตกรรมสมัยใหม่ เพื่อตอบสนองกลุ่มลูกค้าที่ต้องการดูแลตัวเอง ผู้ที่ต้องการเปลี่ยนบุคลิกภาพเพื่อสร้างความมั่นใจ เพราะสังคมไทยเริ่มยอมรับและมีทัศนคติที่ดีต่อการทำศัลยกรรม ซึ่งไม่ได้จำกัดเฉพาะผู้หญิงเท่านั้น แต่รวมถึงผู้ชายในสังคมเมือง

ที่สำคัญ ตลาดธุรกิจความงามมีอัตราเติบโตต่อเนื่อง ไม่ว่าสถานการณ์เศรษฐกิจจะซบเซา เฉพาะในประเทศไทยมีมูลค่าเม็ดเงินมากกว่า 2.5 แสนล้านบาท ซึ่ง “วุฒิศักดิ์” ในฐานะผู้ปลุกกระแสคลินิกความงามไม่ยอมเสียโอกาสทองแน่

 

“วุฒิศักดิ์” คัมแบ็ก

ชื่อ “วุฒิศักดิ์” ในฐานะผู้ปลุกกระแสธุรกิจคลินิกความงาม เริ่มต้นจาก 3 หนุ่มหน้าสวย คือ ณกรณ์ กรณ์หิรัญ พลภัทร จันทรวิเมลือง และนายแพทย์วุฒิศักดิ์ ลิ่มพานิช โดยวุฒิศักดิ์ คลินิก (Wuttisak Clinic) เปิดให้บริการครั้งแรกเมื่อวันที่ 2 มิถุนายน 2545 ที่สาขางามวงศ์วาน ด้วยทุนจดทะเบียน 50 ล้านบาท และใช้เวลาเพียงไม่กี่ปี อาศัยกลยุทธ์การรุกตลาดแบบหวือหวา ใช้ดาราชื่อดังเป็นพรีเซ็นเตอร์สร้างชื่อจนติดตลาด สามารถผุดสาขาครอบคลุมทั่วกรุงเทพฯ และปริมณฑล

จนกระทั่งปี 2557 เกิดจุดเปลี่ยนสำคัญ เมื่อ 3 หนุ่มตัดสินใจแยกทางกัน โดยณกรณ์ลาออกไปอย่างเงียบๆ ส่วนหมอวุฒิศักดิ์หันไปจับธุรกิจอาหารและธุรกิจโรงแรม เปิดทางให้พลภัทรเข้ามาบริหาร “วุฒิศักดิ์” ซึ่งมีเป้าหมายต้องการยกระดับภาพลักษณ์ของแบรนด์ ทั้งนวัตกรรม ไลน์โปรดักต์ และคุณภาพการบริการของคลินิกให้มีมาตรฐาน ภายใต้แนวคิด “อยากสวย อย่าเสี่ยง” รองรับการก้าวสู่เป็นเมดิคอลฮับของอาเซียน

ช่วงจังหวะนั้นเอง กลุ่มธุรกิจเครื่องมือและอุปกรณ์แพทย์อย่าง บริษัท อี ฟอร์ แอล เอม จำกัด (มหาชน)หรือ EFROL เข้ามาเจรจาซื้อกิจการ “วุฒิศักดิ์” เพื่อต่อยอดเป้าหมายทั้งทุนและนวัตกรรม โดยดึงมือการตลาดและแฟรนไชส์อย่างอรรถวุฒิ จริงไธสง เข้ามานั่งตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารวุฒิศักดิ์ กรุ๊ป

สำหรับกลุ่ม EFORL จดทะเบียนเป็นบริษัทมหาชนในประเทศไทย และจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็มเอไอ เมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2552 ดําเนินธุรกิจเป็นตัวแทนจําหน่ายเครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์ ความงามและสุขภาพ ปัจจุบันมีบริษัทในเครือ 3 บริษัท ได้แก่ บริษัท สเปซเมด จำกัด เป็นตัวแทนจำหน่ายเครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ใช้ในบ้าน (Home uses) อุปกรณ์ทางวิทยาศาสตร์ (Microscope) และอื่นๆ

บริษัท วุฒิศักดิ์ คลินิก อินเตอร์กรุ๊ป จำกัด (Wuttisak Clinic Inter group: WCIG) ธุรกิจบริการเสริมความงาม บริษัทถือหุ้น 50.17% โดยลงทุนผ่านบริษัทดับบลิวซีไอ โฮลดิ้ง จํากัด (WCI Holding Co., Ltd. หรือ WCIH) และบริษัท สยามสเนล จำกัด ธุรกิจจัดจําหนํายเครื่องสําอางจากผลิตภัณฑ์เมือกหอยทาก โดยถือหุ้น 51% นอกจากนี้ มีบริษัทร่วมทุน แดทโซ เอเชีย คอร์ปอเรชั่น จำกัด (That’so Asia Corporation) ประกอบธุรกิจนำเข้าและจําหน่ายผลิตภัณฑ์ความงามจากประเทศอิตาลี ภายใต้แบรนด์ That’so และร้านขายปลีกเครื่องสําอาง ถือหุ้น 18%

ปี 2559 ธีรวุทธิ์ ปางวิรุฬห์รักข์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. อี ฟอร์ แอล เอม (EFORL) และกรรมการบริหารบริษัท ดับลิวซีไอ โฮลดิ้ง (WCIH) ประกาศจะนำ “วุฒิศักดิ์” เข้าตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เบื้องต้นตั้งเป้าหมายระดมทุนกว่า 1,000 ล้านบาท ปรับโครงสร้างทางการเงินให้แข็งแกร่งและรุกขยายธุรกิจครั้งใหญ่

และล่าสุด หลังหายจากวงการไปกว่า 3 ปี หมอวุฒิศักดิ์ ลิ่มพานิช ประกาศกลับเข้ามานั่งเก้าอี้ที่ปรึกษาวุฒิศักดิ์ กรุ๊ป เพื่อลุยโปรเจกต์ใหญ่ เปิด “W Hospital” (Aesthetic Surgery Hospital) โรงพยาบาลเฉพาะทางด้านศัลยกรรมความงาม เสริมธุรกิจสุขภาพและความงามอย่างครบวงจร ชิงเม็ดเงินมูลค่าหลายแสนล้าน ไม่ใช่แค่ในประเทศไทยแต่รวมถึงตลาดอาเซียนและเอเชีย

เป็นเป้าหมายใหญ่ที่หมอวุฒิศักดิ์ตัดสินใจจะเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง

ใส่ความเห็น