วันพฤหัสบดี, เมษายน 25, 2024
Home > Cover Story > เยือนเสียมเรียบ เมืองน่าเที่ยวแห่งเอเชีย (1) ผ่านด่านปอยเปต

เยือนเสียมเรียบ เมืองน่าเที่ยวแห่งเอเชีย (1) ผ่านด่านปอยเปต

AEC Leisure
 
ผลสำรวจเมืองท่องเที่ยวที่ดีที่สุดในเอเชียประจำปี 2557 ของนิตยสารทราเวล แอนด์ เลเชอร์  (Travel & Leisure) นิตยสารด้านการท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมสูงสุดในสหรัฐอเมริกา พบว่า กรุงเทพฯ ซึ่งเคยครองแชมป์ อันดับ 1 เมืองท่องเที่ยวที่ดีที่สุดในเอเชียมาหลายสมัย กลับเสียแชมป์ให้กับเกียวโตของญี่ปุ่น ที่ขึ้นมานั่งแท่นอับดับ 1 แทน โดยมี “เสียมเรียบ” เมืองท่องเที่ยวของกัมพูชา ขยับขึ้นมาอยู่อันดับ 2 จากอันดับ 4 ในปีก่อน ส่งผลให้กรุงเทพฯ แชมป์เก่าตกไปอยู่อันดับ 3          
 
โดย 5 อันดับเมืองท่องเที่ยวที่ดีที่สุดในเอเชีย ปี 2557 ตามผลสำรวจของนิตยสารดังกล่าวมีดังนี้ อันดับที่หนึ่งได้แก่เมืองเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น ตามมาด้วยอันดับที่ 2 เมืองเสียมเรียบ กัมพูชา อันดับ 3 แชมป์เก่า กรุงเทพมหานคร ของไทย ต่อด้วยอันดับที่ 4 โตเกียว และอันดับที่ 5 ฮ่องกง
 
ซึ่งการสำรวจเพื่อจัดอันดับของนิตยสารทราเวล แอนด์ เลเชอร์ ในครั้งนี้ใช้เกณฑ์ในการพิจารณา 6 ประการด้วยกัน คือ สถานที่ท่องเที่ยว ทัศนียภาพ ความสวยงาม และความร่มรื่น, ศิลปวัฒนธรรมและประเพณี, อาหารการกิน, แหล่งจับจ่ายใช้สอย, ความเป็นมิตรของผู้คน และสุดท้าย คือความคุ้มค่าของเงิน หรือความพึงพอใจที่ได้รับจากการจับจ่ายของนักท่องเที่ยว โดยให้ผู้อ่านเข้ามาตอบแบบสอบถามผ่านทางเว็บไซต์
 
ประเด็นน่าคิดนอกจากจะอยู่ที่การหลุดจากตำแหน่งแชมป์ของกรุงเทพฯ แล้ว การก้าวขึ้นมาสู่อันดับ 2 ของเสียมเรียบ ก็น่าสนใจไม่แพ้กัน เราถือโอกาสนี้ไปสำรวจเสียมเรียบ อันเป็นที่ตั้งของเมืองโบราณนครวัด นครธม แหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญ และเมืองที่ครองอันดับ 2 ของเมืองท่องเที่ยวที่ดีที่สุดในเอเชียประจำปี 2557 พร้อมกันเลย
 
การเดินทางจากกรุงเทพฯ ไปยังเมืองเสียมเรียบของกัมพูชานั้น นอกจากจะใช้บริการของสายการบินที่บินตรงสู่เสียมเรียบแล้ว การเดินทางทางรถก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่อาจจะใช้เวลามากกว่าสักหน่อย แต่ราคาดึงดูดใจ แถมได้บรรยากาศไปอีกแบบ
 
ปัจจุบันมีรถให้บริการอยู่หลายราย หลากแบบ ทั้งรถตู้และรถทัวร์ เส้นทางกรุงเทพฯ ไปยังอรัญประเทศ ตลาดโรงเกลือ และด่านปอยเปต จากด่านปอยเปตผู้ที่ต้องการเดินทางต่อไปยังเมืองเสียมเรียบ สามารถใช้บริการรถแท็กซี่ของฝั่งกัมพูชาที่จอดรอบริการอยู่ที่ด่านปอยเปตเพื่อเข้าไปยังเสียมเรียบได้เลย ราคาค่าบริการเมื่อเทียบกับประเภทรถและระยะทางแล้วถือว่าคุ้ม ทั้งนี้ทั้งนั้นขึ้นอยู่กับทักษะในการเจรจาต่อรองอีกด้วย
 
แต่ถ้าใครไม่อยากต้องไปต่อรถให้วุ่นวาย เรามีอีกทางเลือกหนึ่งมานำเสนอ นั่งรถทัวร์ข้ามประเทศต่อเดียวถึง เส้นทางกรุงเทพฯ-เสียมเรียบ ซึ่งเป็นรถทัวร์ที่ดำเนินการร่วมกันระหว่างบริษัท ขนส่ง จำกัด ของไทย กับบริษัทเดินรถของทางกัมพูชา สนนราคาอยู่ที่ไม่เกินพันบาท มีบริการทุกวัน วันละ 2 รอบ คือ รอบ 08.00 น. และ 09.00 น. ใช้เวลาเดินทางจริงๆ ประมาณ 6 ชั่วโมง แต่อาจจะเสียเวลาที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองปอยเปตสักหน่อย เพราะรถทัวร์สายนี้เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งฝรั่งและเอเชียที่ต้องการเดินทางจากกรุงเทพฯ ไปเสียมเรียบ เพราะค่อนข้างสะดวกไม่วุ่นวาย เสียเวลานิด แต่ราคาน่าคบ 
 
ผู้ที่ถือหนังสือเดินทางประเทศไทยสามารถเดินทางเข้าไปยังกัมพูชาและพำนักอยู่ได้ไม่เกิน 14 วันโดยไม่ต้องมีวีซ่า แต่นักท่องเที่ยวต่างชาติบางประเทศต้องใช้วีซ่า เราจึงต้องเผื่อเวลาในการรอเพื่อนร่วมเดินทางของเราทำวีซ่าจนเสร็จสิ้นเสียก่อน จากนั้นค่อยเดินทางต่อไปยังเมืองเสียมเรียบ
 
ด่านพรมแดนปอยเปตนั้น ตั้งอยู่ที่ตำบลปอยเปต อำเภออูร์ชเรา จังหวัดบันเตียเมียนเจย ประเทศกัมพูชา อยู่ติดกับอำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว ประเทศไทย เมื่อข้ามด่านปอยเปตเข้าไปยังเขตของประเทศกัมพูชาเราจะพบกับกาสิโนจำนวนไม่น้อยที่เปิดให้บริการสำหรับผู้ที่รักการเสี่ยงโชค โดยส่วนใหญ่เปิดเป็นรูปแบบของโรงแรมที่มีบริการห้องพัก ห้องอาหาร สปา และกาสิโนบริการอย่างพร้อมพรั่ง แขกที่มาใช้บริการมีทั้งคนไทยและต่างชาติ ทั้งมาเองและเดินทางมาเป็นคณะทัวร์
 
สำหรับกาสิโนที่อยู่ในปอยเปตนั้นเปิดให้บริการอย่างถูกกฎหมายของประเทศกัมพูชาถือเป็นย่านธุรกิจพิเศษที่เป็นแหล่งทำเงินของกัมพูชา ในส่วนของกลุ่มทุนที่เข้ามาดำเนินธุรกิจกาสิโนที่ปอยเปตนั้นมีทั้งนักธุรกิจชาวกัมพูชาเอง และกลุ่มทุนจากต่างชาติรวมถึงนักธุรกิจชาวไทยด้วย ซึ่งกาสิโนหลายแห่งที่ปอยเปตได้มีการผลัดมือสับเปลี่ยนเจ้าของกันมาเป็นระยะตามช่วงจังหวะของธุรกิจ ขนาดของทุน และความชำนาญในธุรกิจกาสิโนของแต่ละกลุ่มทุน
 
นอกเหนือจากธุรกิจกาสิโนที่เป็นตัวกระตุ้นเศรษฐกิจแล้ว การค้าชายแดนก็ถือเป็นกลไกทางเศรษฐกิจที่สำคัญของทั้งไทยและกัมพูชา โดยที่ผ่านมาคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ (กนพ.) ของไทยได้เห็นชอบให้จัดตั้งเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษนำร่องใน 5 พื้นที่ชายแดน ซึ่ง “จังหวัดสระแก้ว” เป็น 1 ใน 5 จังหวัดที่จะพัฒนาในเฟสแรกพร้อมกับจังหวัดตาก มุกดาหาร ตราด และสงขลา
 
ซึ่งถ้าพิจารณาจากมูลค่าการค้าชายแดนไทย-กัมพูชา ด้านจังหวัดสระแก้ว ตั้งแต่ปี 2545 จนถึงปี 2556  พบว่ามีการเติบโตขึ้นอย่างมาก จาก 9,604 ล้านบาทในปี 2545 มาถึงปี 2556 มีมูลค่าการค้าขายรวมทั้งสิ้น 61,704 ล้านบาท ทางจังหวัดสระแก้วจึงหันมาให้ความสำคัญในการพัฒนาการค้าชายแดนและวางเป้าหมายให้สระแก้วเป็น “ประตูสู่อินโดจีน” ให้ได้ในอนาคตอันใกล้ โดยพยายามผลักดันให้เปิดด่านส่งออกสินค้าแห่งใหม่และเสนอรัฐบาลให้กำหนดเป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษ 
 
ในปี 2553 ทางจังหวัดสระแก้วได้ว่าจ้างทีมวิจัยจากมหาวิทยาลัยหอการค้าไทยมาศึกษาข้อมูลเชิงลึกเพื่อประเมินศักยภาพและความเป็นไปได้ในการจัดตั้งสถานีขนถ่ายสินค้ารองรับการจัดตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษชายแดนด้านอรัญประเทศ และได้นำเสนอผลการศึกษาดังกล่าวต่อรัฐบาลมาหลายสมัย ซึ่งถ้าการผลักดันดังกล่าวสำเร็จ คาดว่ามูลค่าการค้าชายแดนระหว่างไทยและกัมพูชาจะเติบโตขึ้นอย่างมาก ส่งผลดีต่อเศรษฐกิจของทั้งสองประเทศ
 
ด่านพรมแดนปอยเปตของกัมพูชาอยู่ห่างจากด่านศุลกากรอรัญประเทศของไทยเพียงแค่ 1 กิโลเมตร และอยู่ใกล้กับตลาดโรงเกลือ ศูนย์รวมสินค้าและเสื้อผ้าแบรนด์เนมมือสอง ทั้งชาวไทยและชาวกัมพูชานิยมมาเลือกซื้อสินค้าที่นี่ ทั้งแบบซื้อไปใช้ส่วนตัวและเพื่อขายต่อ ถือเป็นแหล่งการค้าที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งระหว่างไทยกับกัมพูชา
 
ภาพของนักเสี่ยงโชคมากหน้าหลายตาที่ตั้งใจเดินทางมาที่ปอยเปตโดยมีจุดหมายอยู่ที่กาสิโน รถบรรทุกสินค้าที่วิ่งกันขวักไขว่ นักธุรกิจ พ่อค้าแม่ขาย ทั้งชาวไทยและกัมพูชาที่ผ่านเข้าออกด่านเพื่อดำเนินธุรกิจ นักท่องเที่ยวทั้งเอเชียและตะวันตกที่รอทำเรื่องผ่านแดนไปยังจุดหมายที่ตัวเองวางไว้ ภาพเหล่านี้คือความเคลื่อนไหวที่เราสัมผัสได้ ณ บริเวณเชื่อมต่อของประเทศไทยกับกัมพูชา เป็นภาพเคลื่อนไหวที่น่าสนใจและมีนัยสำคัญต่อทั้งสองประเทศ