วันอังคาร, เมษายน 16, 2024
Home > Life > นิทรรศการ Modigliani, Soutine et l’aventure de Montparnasse

นิทรรศการ Modigliani, Soutine et l’aventure de Montparnasse

 

 

ในศตวรรษที่ 20 ปารีสเป็นศูนย์กลางศิลปะและวัฒนธรรม เหล่าอาร์ทิสต์ทุกแขนงมุ่งมา ไม่ว่าจะเป็นนักเขียน จิตรกร ประติมากรไปชุมนุมสังสรรค์กันตามย่านต่างๆ จากกรองด์ บูเลอวารด์ (Grands Boulevards) ย้ายไปมงต์มาร์ทร์ (Montmartre) และมงต์ปาร์นาส (Montparnasse)

 

ที่มงต์ปาร์นาสไปรวมตัวกันที่ La Ruche อันถือเป็นจุดเริ่มต้นของ Ecole de Paris อันว่า La Ruche นี้เป็นอาคารที่อัลเฟรด บูเชร์ (Alfred Boucher) ให้สร้างขึ้นโดยนำส่วนประกอบของอาคารที่แสดงไวน์ในงานเอ็กซ์โปนานาชาติ ปี 1900มาประกอบขึ้นใหม่ โดยทีมงานของกุสตาฟ เอฟเฟล (Gustave Eiffel) วิศวกรผู้สร้างหอเอฟเฟล (Tour Eiffel) นั่นเอง

 

อาร์ทิสต์ที่มารวมตัวกันที่ La Ruche นี้มีอาทิ แฟร์นองด์ เลเจร์ (Fernand Léger) มารี โลรองแซง (Marie Laurencin) คอนสแตนติน บรานคูซี (Constantin Brancusi) มาร์ก ชากาล (Marc Chagall) ชาอิม ซูตีน (Chaïm Soutine) อาเมเดโอ โมดิกลีอานี (Amedeo Modigliani) นอกจากนั้นยังมีนักเขียนอย่างกีโยม อโปลลิแนร์ (Guillaume Apollinaire) มักซ์ จาคอบ (Max Jacob) แบลส ซองดราร์ (Blaise Cendrars) เป็นต้น เมื่ออัลเฟรด บูเชร์เสียชีวิตในปี 1934 La Ruche เหลืออาร์ทิสต์เพียงไม่กี่คน หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 La Ruche หายไปจากความทรงจำของผู้คน รัฐมีโครงการจะทุบทิ้ง หากได้รับการต่อต้านจากมาร์ก ชากาลและพรรคพวก ในปี 1972 La Ruche จึงขึ้นทะเบียนอาคารอนุรักษ์ มีการบูรณะ และกลับมาเป็นศูนย์รวมอาร์ทิสต์อีกครั้งหนึ่ง

 

มงต์ปาร์นาสเป็นศูนย์รวมอาร์ทิสต์ช่วงระหว่างสงครามโลกทั้งสองครั้ง หากสงครามโลกครั้งที่ 1 ทำให้ต่างกระจัดกระจายกันไป บ้างก็บาดเจ็บจากสงคราม ทว่าเมื่อสงครามสิ้นสุดลง จิตรกรและนักเขียนจากประเทศต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งชาวอเมริกันต่างมุ่งมา ไม่ว่าจะเป็นเกอทรูด สไตน์ (Gertrude Stein) เออร์เนสต์ เฮมิงเวย์ (Ernest Hemingway)เอฟ สก็อต ฟิตซ์เจอรัลด์ (F. Scott Fitzgerald) แมน เรย์ (Man Ray) อเล็กซานเดอร์ คัลเดอร์ (Alexander Calder)

 

อาร์ทิสต์ย่านมงต์ปาร์นาสยังคงดึงดูดความสนใจได้เสมอ Pinacothèque de Paris จัดนิทรรศการ Modigliani, Soutine et l’aventure de Montparnasse อันเป็นงานศิลป์ที่โจนาส เนตเตอร์ (Jonas Netter) สะสมไว้

 

โจนาส เนตเตอร์เป็นชาวอัลซาส (Alsace) ที่มั่งคั่ง มาตั้งรกรากในปารีส ชอบสะสมงานศิลป์ ชอบใจผลงานของอาเมเดโอ โมดิกลีอานีเป็นพิเศษ เขาให้การสนับสนุนทางการเงินแก่จิตรกรผู้นี้ผ่านพ่อค้างานศิลป์ชาวโปแลนด์ชื่อ เลโอโปลด์ ซโบโรว์สกี (Leopold Zborowski)

 

อาเมเดโอ โมดิกลีอานีเป็นจิตรกรชาวอิตาลี เขาเริ่มจากการเป็นประติมากร ทว่าสุขภาพเป็นอุปสรรค จึงหันมาเขียนรูปแทน ภาพเขียนแรกๆ ของเขาสะท้อนอิทธิพลของอองรี เดอ ตูลูซโลเทรก (Henri de Toulouse-Lautrec) ปอล เซซานน์ (Paul Cézanne) และรูปแบบ cubisme ของปาโบล ปิกัสโซ (Pablo Picasso) เลโอโปลด์ ซโบโรว์สกีจัดนิทรรศการภาพเขียนของโมดิกลีอานีที่แกลเลอรี Berthe Weil เป็นนิทรรศการที่อื้อฉาว เพราะมีรูปเปลือยที่เห็นขุมขน ตำรวจสั่งให้ปลดรูปนั้นออก ถึงกระนั้นโมดิกลีอานีก็ขายภาพเขียนได้

 

ชาอิม ซูตีนเป็นจิตรกรชาวรัสเซีย เป็นเพื่อนร่วมทุกข์ของอาเมเดโอ โมดิกลีอานี อยู่กันอย่างขัดสน โมดิกลีอานีเป็นผู้พาชาอิม ซูตีนไปพบเลโอโปลด์ ซโบโรว์สกีซึ่งไม่ถูกชะตากับชาอิม ซูตีนเอาเสียเลย แต่โจนาส เนตเตอร์กลับชอบภาพเขียนของจิตรกรรัสเซียผู้นี้ เลโอโปลด์ ซโบโรว์สกีจึงจำต้องติดต่อกับชาอิม ซูตีน

 

หากโจนาส เนตเตอร์ชอบผลงานของจิตรกรคนไหน จะซื้อเป็นจำนวนมาก เขาจึงมีภาพเขียนมากมาย เจรารด์ เนตเตอร์ (Gérard Netter) ทายาทของเขามอบคอลเลกชั่นภาพเขียนเหล่านี้แก่มูลนิธิที่จะตั้งขึ้น จึงนำส่วนหนึ่งมาแสดงนิทรรศการเสียก่อน

 

ชื่อนิทรรศการเอ่ยถึงโมดิกลีอานีและซูตีน ทว่าภาพแรกที่เห็นในนิทรรศการกลับเป็นภาพเขียนของโมริซ อูทรีโย (Maurice Utrillo) ตามมาด้วยภาพเขียนของซูซานน์ วลาดง (Suzanne Vladon) จิตรกรสองแม่ลูก ผลงานของโมริซ อูทรีโยเป็นภาพทิวทัศน์เสียส่วนใหญ่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งถนนหนทางในย่านมงต์มาร์ทร์ ส่วนภาพเขียนของซูซานน์ วลาดงเป็นภาพพอร์เทรตและสาวเปลือยเป็นหลัก ไม่น่าเชื่อว่าเธอจะเขียนภาพได้ดีขนาดนั้น ด้วยว่าเธอเพียงแต่เกาะ “ชายกางเกง” ของจิตรกรดัง จึงหัดเขียนรูปด้วย แม้เมื่อตั้งท้องโมริซ อูทรีโย เธอก็ยังไม่รู้ว่าเป็นลูกของใครกันแน่

 

ผลงานของโมดิกลีอานีดูเหมือนไม่มีอะไร แต่ทำไมชอบก็ไม่ทราบ ส่วนใหญ่ที่นำมาแสดงเป็นภาพพอร์เทรต ได้นัยน์ตาและใบหน้าเรียวออกมาเหมือนกันหมด คิ้วเรียวโค้ง จมูกยาว รูปเปลือยก็สวย

 

แปลกที่ไม่ค่อยชอบผลงานของชาอิม ซูตีน ดูเลอะๆ ชอบกล สะท้อนความร้อนรุ่มในใจ นอกจากนั้นยังมีผลงานของคิสลิง (Kisling) เอบีช (Ebiche) เครแมญ (Kremègne) คีโคอิน (Kikoïne) มีภาพของอองเดร เดอแรง (André Derain) 2-3 ภาพ

 

นิทรรศการนำภาพเขียน 120 ภาพมาแสดง ได้เห็นผลงานของจิตรกรที่ไม่เคยได้ยินชื่อมาก่อน ถึงกระนั้นก็อิ่มตา