Home > JLL

ความหลากหลายของซัพพลายเชนหนุนอุตสาหกรรมการผลิตไทยโตต่อเนื่อง

เทรนด์ซัพพลายเชนหนุนอุตสาหกรรมการผลิตไทยโตต่อเนื่อง ความหลากหลายของซัพพลายเชนกำลังเพิ่มโอกาสให้ตลาดการผลิตไทย โดยเทรนด์นี้จะเกิดขึ้นได้เมื่อนักลงทุนเริ่มมีความยืดหยุ่นมากขึ้นในหลากหลายปัจจัยรวมถึงการเลือกที่ดินที่เหมาะสม การเปลี่ยนแปลงของห่วงโซ่อุปทาน (Supply Chain หรือ ซัพพลายเชน) ได้ถูกคาดการณ์ว่าจะเกิดขึ้นแบบก้าวกระโดดในช่วงทศวรรษหน้า โดยจะมีการกระจายโรงงานการผลิตและแหล่งผลิตไปยังประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อินเดีย รวมไปถึงทำเลอุตสาหกรรมต่างๆในประเทศไทย โดยข้อมูลของเจแอลแอล (NYSE: JLL) ระบุว่าฐานการผลิตอย่างประเทศไทยจะกลายเป็นผู้ที่ได้ประโยชน์จากเทรนด์นี้ เนื่องจากขีดความสามารถในการผลิตที่หลากหลายซึ่งสามารถเสริมฐานการผลิตใหญ่อย่างจีน อย่างไรก็ดี บริษัทต่าง ๆ จะต้องมีความยืดหยุ่นในการพิจารณาเลือกทำเลที่ตั้งและทางเลือกในการระดมทุน เพื่อสร้างความได้เปรียบท่ามกลางความผันผวนของซัพพลายเชนในปัจจุบัน ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา บริษัทต่าง ๆ เริ่มมองหาการย้ายฐานการผลิตนอกประเทศจีน สำหรับภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก แนวโน้มการย้ายฐานการผลิตไปประเทศใกล้เคียงอื่น ๆ ก่อให้เกิดกระแสกลยุทธ์ “China+1” โดยที่บริษัทต่าง ๆ พากันเพิ่มฐานการผลิตเพิ่มเติมนอกประเทศจีน เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของซัพพลายเชนโดยลดการพึ่งพาประเทศใดเพียงประเทศเดียว “ประเทศไทยได้กลายเป็นจุดหมายปลายทางด้านการลงทุนที่สำคัญในการปฏิรูปซัพพลายเชนจากประเทศจีน โดยมีผู้มาลงทุนจำนวนมากในกลุ่มอุตสาหกรรมหลักต่าง ๆ โดยเฉพาะในภาคธุรกิจไฟฟ้าและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ รวมไปถึงธุรกิจรถยนต์ไฟฟ้า แนวโน้มนี้ได้เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องมาจาก ปี 2566 ซึ่งเป็นปีที่ประเทศไทยมียอดขายที่ดินเพื่อการอุตสาหกรรมสูงสุดในรอบ 17 ปีที่ผ่านมาเลยทีเดียว” นายไมเคิล แกลนซี่ กรรมการผู้จัดการ บริษัท โจนส์ แลง ลาซาลล์

Read More