วันศุกร์, เมษายน 26, 2024
Home > Cover Story > ตลาดเสื้อใน ถูกบุกด้วยพรีเมียมแบรนด์เมืองนอก

ตลาดเสื้อใน ถูกบุกด้วยพรีเมียมแบรนด์เมืองนอก

 

ขณะที่แบรนด์ค่ายชุดชั้นในในไทยพากันขยับพร้อมกลยุทธ์และเคมเปญการตลาด ไปสู่กลุ่มลูกค้าระดับกว้างเข้าถึงทุกช่วงวัย พร้อมชูคุณภาพและราคาที่ย่อมเยา และขยายช่องทางผลิตภัณฑ์ไปตามรูปแบบต่างๆ 

จากกระแสเทรนด์ของโลก ผู้หญิงหันมาเน้นใส่ใจเรื่องรูปร่างมากขึ้น ยึดคอนเซ็ปต์เบาสบาย เก็บทรง ไร้รอยตะเข็บ ทำให้เหล่าบรรดาค่ายเสื้อในยักษ์ใหญ่ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นแบรนด์ไทยหรือเทศ  หันมาแข่งขันเจาะกลุ่มเซกเมนต์นี้กันมากขึ้น  

ล่าสุด บริษัท เป๊ปโป้ แฟชั่น กรุ๊ป จำกัด ผู้นำเข้าแบรนด์แฟชั่นระดับโลกอย่าง เกส (Guess) และแมงโก้ (Mango) ได้ฤกษ์เปิดตัวแบรนด์ใหม่ในเครือ “สแปงซ์” (Spanx) ผลิตภัณฑ์กระชับสัดส่วนอันดับหนึ่งของโลกจากสหรัฐอเมริกา โดยประเดิมเปิดตัวผลิตภัณฑ์คอลเลกชันหลากหลาย  ณ สยามพารากอนและดิเอ็มโพเรียม มุ่งเจาะกลุ่มลูกค้าพรีเมียมเป็นหลัก  ด้วยราคาเริ่มต้นที่ 1,490 บาท ถึง 3,990  บาท 

“ผู้หญิงทุกคนต่างมีสิ่งหนึ่งที่เหมือนกัน นั่นคืออยากมีหุ่นที่ดูดี เพรียว กระชับ และไม่มีร่องรอยชั้นในให้เห็นเมื่อมองจากด้านหลัง และนี่คือจุดแข็งของผลิตภัณฑ์สแปงซ์”  ยัสมิน เรืองเลิศบุตร กรรมการบริษัท เป๊ปโป้ แฟชั่นกรุ๊ปจำกัด บอก

สำหรับตลาดในประเทศไทย พบว่ามีกลุ่มผู้บริโภคที่ต้องการเชปแวร์ที่มีคุณภาพสูงซึ่งหาไม่ได้ในตลาดไทย และทำให้ เป๊ปโป้ แฟชั่นกรุ๊ปจำกัด เล็งเห็นโอกาสในการเติบโตทางธุรกิจเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์กระชับสัดส่วนระดับพรีเมียม จึงตัดสินใจนำสแปงซ์ ความลับหุ่นสวยของดาราฮอลลีวู้ดสู่ตลาดไทย

จุดเด่นของ สแปงซ์ ซึ่งถือเป็นการปฏิวัติการสวมใส่ชุดชั้นในของสาวอเมริกันและสาวทั่วโลก อยู่ที่ความสามารถในการช่วยพรางข้อด้อยและทำให้หุ่นของผู้หญิงดูดีขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ โดยมีซูเปอร์สตาร์และเจ้าแม่แฟชั่นระดับโลกอย่าง บียอนเซ่, เจนนิเฟอร์ โลเปซ, รีฮันนา, มาดอนน่า, เฟอร์กี้, เคต แบลนเช็ต, คิม คาร์เดเชียน และเบลค ไลฟ์ลี่ เป็นพรีเซนเตอร์

“มั่นใจว่าสแปงซ์จะได้รับการต้อนรับเป็นอย่างดีจากตลาดไทย เพราะสแปงซ์เป็นแบรนด์ดังระดับโลกที่เปี่ยมด้วยคุณภาพ”

ทั้งนี้ เป๊ปโป้ แฟชั่น กรุ๊ป จำกัด ได้ตั้งเป้ายอดขายไว้ที่ 20 ล้านบาท ในหกเดือนแรก และจะขยายสาขาเพิ่มเป็น6 สาขา ภายในสิ้นปีนี้ นอกจากนี้ ยังมีแผนที่จะขยายเพิ่มไลน์สินค้าอื่นๆ ในเฟสต่อไปตลอด ปี 2557”

ในขณะที่โซเนีย ศรีชวาลา กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไคร่า โมด จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายชุดชั้นในไคร่า (kyra) เปิดเผยว่า ภาพรวมของตลาดชุดชั้นในพรีเมียมในครึ่งปีแรกที่ผ่านมา ยอดขายลดลง 30% โดยมีปัจจัยต่างๆ  ไม่ว่าจากนโยบายของรัฐ  ภาระค่าใช้จ่ายที่เพิ่มสูงขึ้น รวมถึงการแข่งขันที่รุนแรง ทำให้เกิดสงครามราคาในทุกเซกเมนต์  รวมทั้งตลาดชุดชั้นในพรีเมียมปีนี้มีการแข่งขันที่สูงมาก ทั้งการเปิดตัวคอลเลกชันใหม่ การจัดโปรโมชันลดราคา รวมไปถึงการจัดกิจกรรมต่างๆ เพื่อกระตุ้นยอดขาย

สำหรับแบรนด์ไคร่าได้ทุ่มงบการทำตลาดในปีนี้กว่า 10 ล้านบาท รุกตลาดในครึ่งปีหลัง โดยจัด 2แคมเปญใหญ่ คือ 1. แคมเปญโฆษณา “Kyra Body Bliss คืนชีวิตให้ผู้หญิง” นำเสนอนวัตกรรม Body Bliss และ Body Touch Gel เพื่อเป็นทางเลือกให้กับผู้บริโภค นอกจากนี้ยังมีแคมเปญร่วมกับดีไซเนอร์ไทย ซึ่งจะเริ่มในเดือนกันยายน คาดว่าทั้ง 2 แคมเปญจะช่วยผลักดันยอดขายให้เพิ่มขึ้น 15% รวมทั้งการขยายสาขาในรูปแบบสแตนด์อะโลน ภายใต้ชื่อ Premium Outlet Mall Phuket ในเดือนสิงหาคมนี้ และเปิดเคาน์เตอร์ในห้างเซ็นทรัล เฟสติวัล เชียงใหม่ ในเดือนธันวาคม จากปัจจุบันที่มีร้านในรูปแบบสแตนด์อะโลนรวม 9 สาขา และช็อปในห้างสรรพสินค้า 37 สาขา

จาก 2 แคมเปญหลักนี้เชื่อว่าจะช่วยให้ไคร่ามีรายได้เติบโตขึ้น13-15% ในสิ้นปีนี้ หรือคิดเป็นมูลค่ากว่า 70 ล้านบาท นอกจากนี้บริษัทยังพัฒนาระบบออนไลน์ เพื่อรองรับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนหรือเออีซีโดยเริ่มขยายตลาดในประเทศจีน ญี่ปุ่น สิงคโปร์ ฮ่องกง โดยตั้งเป้าที่จะมียอดขายราว 15% ในสิ้นปีหน้า

 “แผนการดำเนินธุรกิจ5 ปีนับจากนี้ บริษัทจะเน้นขยายร้านแบบสแตนด์อะโลนในกรุงเทพฯ รวมถึง Kyra Flagship Store สาขาแรกในเมืองไทย และมีแผนเปิดร้านในหัวเมืองใหญ่จำนวน 3-4 สาขา รวมถึงการเปิดเคาน์เตอร์ในห้างสรรพสินค้า และการขยายตลาดในต่างประเทศ ทั้งเอเชีย ยุโรป และอเมริกา โดยเริ่มจัดทำเว็บไซต์ให้มีความน่าสนใจและมีความเป็นสากลมากขึ้น รวมทั้งพัฒนารูปแบบการซื้อขายผ่านระบบออนไลน์ระดับสากลในปลายปีนี้” โซเนียกล่าวสรุป
 
ปัจจุบันกลุ่มชุดชั้นในพรีเมียมมีอยู่ราว 7-8 แบรนด์ ไม่ว่าจะเป็นวาโก้ซึ่งเป็นเจ้าตลาดชุดชั้นในระดับกลางถึงสูง ล่าสุดเมื่อต้นเดือนสิงหาคม ที่ผ่านมา ได้ออกโฆษณาที่สร้างกระแสฮือฮาในโลกออนไลน์ ในคลิปโฆษณาชุดชั้นใน “Wacoal Mood Boost-Up” เพียงสัปดาห์เดียวยอดผู้ชมบนยูทูปพุ่ง 3.5 ล้านวิว โดยโฆษณาชุด   Wacoal Mood Boost-Up บู๊สต์ตู้ม 2 คัพอัพเว่อร์ นี้เน้นนวัตกรรม Gel + Air Mold ช่วยเสริมขนาดหน้าอกอย่างเป็นธรรมชาติ  ซึ่งสาวเล็กสาวใหญ่ หรือไม่สาว ก็อาจอัพไซส์ให้เพิ่มได้อีก 2 คัพ!

ในขณะเดียวกันชุดชั้นในไทรอัมพ์น่าจะเป็นคู่แข่งที่เข้มแข็งที่สุดของวาโก้ และเป็นเจ้าตลาดพรีเมียม ก็มีการทำการตลาดที่สม่ำเสมอ โดยล่าสุด ไทรอัมพ์ ได้ตอกย้ำความเป็นผู้นำบราเสริมอกยอดนิยมอันดับ 1 ของเอเชีย  โดยทุ่มงบจัด “Club Maximize Fashion Show Party” เผยโฉมคอลเลกชันบราเสริมทรวงอก Maximizer บราเสริมทรวงอกที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างสูง และตอบโจทย์ความต้องการอันหลากหลายของผู้หญิง จับกลุ่มเป้าหมายสาวทำงาน ในตลาดพรีเมียม-แมส และเสริมความแข็งแกร่งในตลาดมากขึ้น

ซึ่งในงานนี้ไทรอัมพ์ ได้สร้างความประทับใจและถือเป็นครั้งแรกกับงานแฟชั่นโชว์สุดอลังการในรูปแบบสุดเซ็กซี่จากไทรอัมพ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านชุดชั้นในอันดับหนึ่งของเอเชีย

อีกทั้งชุดชั้นในซาบีน่า ที่รีแบรนด์ผลิตภัณฑ์ ขยายตลาดเจาะกลุ่มลูกค้าวัยผู้ใหญ่ พร้อมออกผลิตภัณฑ์ใหม่ ภายใต้ชื่อ “ซาบีน่า ฟังก์ชั่น” ที่เน้นการเก็บกระชับทุกสัดส่วน เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ผู้หญิงที่เปลี่ยนไปด้วยเช่นกัน

ตลาดชุดชั้นในยังเป็นตลาดที่มีการแข่งขันสูง ไม่ว่าจะเป็นระดับแมสหรือพรีเมียม หลายค่าย หลายแบรนด์ต่างงัดกลยุทธ์ ชูจุดเด่น จุดแข็งของตัวผลิตภัณฑ์ รวมถึงการทำการตลาดในรูปแบบต่างๆ ทั้งนี้เพื่อให้เป็นที่แตะตาและดึงดูดความสนใจของลูกค้า

ตลาดเสื้อชั้นในที่มีมูลค่ากว่า 12,000  ล้านบาท กำลังเป็นอีกสมรภูมิหนึ่งที่บรรดาผู้ประกอบการแต่ละรายกำลังเร่งหาหนทางและขยายโอกาส ท่ามกลางแนวโน้มของการดูแลรักษาสุขภาพ ควบคู่กับการเสริมสร้างความโดดเด่นและลบปมด้อย ซึ่งเป็นความต้องการหลักของกลุ่มผู้บริโภค

บางทีตลาดเสื้อชั้นในของไทยนับจากนี้ อาจมีสินค้าแบรนด์เนมหน้าใหม่จากต่างประเทศเข้ามาเจาะตลาดเพิ่มขึ้นอีกเป็นระยะ และจะกลายเป็นโจทย์หลักให้ผู้ประกอบการไทยต้องคิดหนักถึงการผนวกรวมทั้งแฟชั่นและฟังก์ชันเข้าด้วยกันให้แนบชิดและประณีตยิ่งขึ้น