วันอังคาร, กันยายน 17, 2024
Home > Cover Story > EnergyLIB ปฏิวัติวงการโซลาร์เซลล์ ประกาศพร้อมช่วยคนไทยลดค่าไฟ

EnergyLIB ปฏิวัติวงการโซลาร์เซลล์ ประกาศพร้อมช่วยคนไทยลดค่าไฟ

ปัจจุบันการติดตั้งโซลาร์เซลล์กำลังเป็นเทรนด์ที่มาแรงทั่วโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศไทยที่เติบโตอย่างรวดเร็ว และมีแนวโน้มที่จะเพิ่มสูงขึ้นในอนาคต ด้วยหลายปัจจัยทั้งราคาค่าไฟฟ้าที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และเทรนด์การเปลี่ยนมาใช้พลังงานสะอาดที่มีภาวะโลกร้อนเป็นตัวเร่ง

โดยในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา พบว่าอัตราการเติบโตของค่าไฟฟ้าเพิ่มสูงขึ้นถึง 30% (อ้างอิงจากค่าไฟฟ้าต่อหน่วยประเภทบ้านพักอาศัยระหว่างปี 2564-2566) ซึ่งส่วนหนึ่งมาจากการที่ภาครัฐทยอยปรับเพิ่มอัตราค่าไฟฟ้าโดยอัตโนมัติ หรือค่าไฟฟ้าผันแปร (Ft) ประกอบกับไลฟ์สไตล์ของคนยุคใหม่ที่เปลี่ยนไป ทั้งการทำงานแบบ Work from home ตลอดจนความนิยมในการใช้รถยนต์ EV ทำให้แนวโน้มการใช้ไฟฟ้าในครัวเรือนเพิ่มสูงมากยิ่งขึ้น

ส่งผลให้การติดตั้ง “โซลาร์รูฟท็อป” กลายมาเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่มาแรง เพื่อเป็นการรับมือกับค่าไฟที่มีแนวโน้มขยับตัวสูงขึ้น และยังสอดรับกับเทรนด์พลังงานสะอาดที่เป็นเมกะเทรนด์ทั่วโลกอีกด้วย

นั่นทำให้ตลาดโซลาร์เซลล์ในเมืองไทยดูจะคึกคักไม่น้อยเลยทีเดียว โดยศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจ ทีทีบี ได้คาดการณ์ว่าตลาดโซลาร์เซลล์ในไทยจะเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยในช่วงปี 2565-2568 จะเติบโตเฉลี่ยร้อยละ 22 ต่อปี จนมีมูลค่า 67,268 ล้านบาท ในปี 2568 ส่วนมูลค่าการผลิตโซลาร์เซลล์ในไทย ปี 2566 อยู่ที่ 6,147.53 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เติบโตร้อยละ 184.35 จากปี 2565 (2,161.95 ล้านดอลลาร์สหรัฐ)

แม้ว่าตลาดโซลาร์เซลล์ในเมืองไทยจะดูคึกคักและมีผู้เล่นมากหน้าหลายตาที่เดินหน้าป้อนผลิตภัณฑ์ออกสู่ท้องตลาดอย่างต่อเนื่อง แต่ถึงกระนั้นสัดส่วนการติดตั้งโซลาร์เซลล์ยังคงอยู่ในภาคอุตสาหกรรมเป็นส่วนใหญ่ ในขณะที่การติดตั้งสำหรับครัวเรือนยังต้องเผชิญกับเพนพอยต์ทั้งเรื่องค่าใช้จ่ายในการติดตั้ง การต้องแยกซื้ออุปกรณ์จากหลายผู้ผลิตทั้งแผงโซลาร์เซลล์ (Solar Panel) อินเวอร์เตอร์ (Inverter) และแบตเตอรี่ (Battery) อันเป็น 3 อุปกรณ์หลักที่เกี่ยวข้องในการใช้งาน รวมไปถึงดีไซน์ของตัวอุปกรณ์ที่ยังไม่ตอบโจทย์ผู้อยู่อาศัย ข้อจำกัดในเรื่องการจ่ายไฟ และความคุ้มค่าคุ้มราคา ที่ล้วนเป็นสิ่งที่ทำให้ผู้บริโภคเกิดอาการ “ลังเล” ในการติดตั้งโซลาร์รูฟท็อปอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว

นั่นทำให้บริษัท เอเนอร์จี้ลิบ (ประเทศไทย) เล็งเห็นโอกาส ประกาศบุกตลาดโซลาร์เซลล์สำหรับที่พักอาศัย ด้วยการเปิดตัว “EnergyLIB” แบรนด์ระบบโซลาร์ที่มีโซลูชันแบบครบวงจรสำหรับที่อยู่อาศัยรายแรกในไทย เพื่อแก้ปัญหาข้างต้นของผู้บริโภคและปฏิวัติอุตสาหกรรมโซลาร์เซลล์ ชูจุดเด่นลดค่าไฟสูงสุด 70% และสามารถใช้ไฟได้ทั้งกลางวันและกลางคืนหรือแม้กระทั่งเวลาไฟดับ พร้อมชิงส่วนแบ่งการตลาดที่มีมูลค่าสูงถึง 6 หมื่นล้าน

ทวนทอง ศรีวิเชียร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอเนอร์จี้ลิบ (ประเทศไทย) เปิดเผยถึงที่มาของแบรนด์ระบบโซลาร์น้องใหม่ของวงการว่า ปัจจุบันภาครัฐและเอกชนทั้งในและต่างประเทศเริ่มเห็นความสำคัญและมีการรณรงค์ลดภาวะโลกร้อน พร้อมหาผลิตภัณฑ์และนวัตกรรมใหม่ๆ ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น จึงเป็นที่มาของการก่อตั้งบริษัทใหม่ในชื่อ EnergyLIB เพื่อสร้างผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมานำเสนอผู้บริโภค  โดยผ่านการสำรวจตลาดมากกว่า 10 ประเทศ ในระยะเวลา 2 ปี เพื่อดูความต้องการของผู้บริโภคในแต่ละท้องถิ่น จนตกผลึกเป็น EnergyLIB แบรนด์ระบบโซลาร์แบบครบวงจรสำหรับที่อยู่อาศัยรายแรกในไทย

ซึ่งความน่าสนใจอยู่ที่การบุกตลาดครั้งนี้เอเนอร์จี้ลิบไม่ได้มาคนเดียว แต่ได้ผนึกกำลังกับพาร์ตเนอร์อย่าง “ไลเจนด์” (Ligend) ซึ่งเป็นผู้นำเทคโนโลยีแบตเตอรี่ ภายใต้เซิ่งหงโฮลดิ้งกรุ๊ป (Shenghong Holding Group) บริษัทยักษ์ใหญ่จากจีนที่ติดอันดับ 171 ของบริษัทที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกปี 2567 จากการจัดอันดับของ Fortune Global 500 ปี 2024 เพื่อเสริมแกร่งในการผลิตแบตเตอรี่อีกด้วย

“EnergyLIB มาจาก Energy Liberty หรือเสรีภาพด้านพลังงาน เพราะเรามุ่งหวังว่าผู้บริโภคทั่วไปควรมีโอกาสและเสรีภาพในการเข้าถึงเสน่ห์ของเทคโนโลยีด้านพลังงานที่จะเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันได้ จึงพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่เป็นมากกว่าโซลาร์เซลล์โซลูชัน ซึ่ง EnergyLIB ตั้งเป้าขึ้นเป็นผู้นำระดับโลกด้านโซลูชันพลังงานแสงอาทิตย์และระบบเก็บพลังงานคุณภาพสูงสำหรับครัวเรือนแบบครบวงจร”

“ส่วนไลเจนด์เอง เขามีความชำนาญในอุตสาหกรรมนี้ทั้งการผลิต Energy Storage ที่ใช้หุ่นยนต์ในการทำงานถึง 90% เพื่อหลีกเลี่ยงความผิดพลาด รวมถึงการผลิตแผงโซลาร์และแบตเตอรี่ ทำให้ความร่วมมือระหว่าง EnergyLIB และไลเจนด์ เรียกได้ว่าพร้อมแล้วที่จะบุกตลาดโซลาร์เซลล์สำหรับที่อยู่อาศัยในประเทศไทย”

โดยผลิตภัณฑ์รุ่นแรกที่เปิดตัวภายใต้แบรนด์ EnergyLIB คือ ‘EnergyLIB P1 All-In-One’ ที่ออกแบบมาเพื่อแก้เพนพอยต์ในการติดตั้งโซลาร์รูฟท็อปของภาคครัวเรือนโดยเฉพาะ ซึ่งประกอบด้วยแผงโซลาร์เซลล์ “Black Magic” และเครื่อง All-In-One ที่รวมอินเวอร์เตอร์และแบตเตอรี่เข้าไว้ด้วยกันในชิ้นเดียว

ถ้าเจาะลึกลงไปว่าอะไรคือไฮไลต์ของผลิตภัณฑ์เรือธงชิ้นนี้ และสิ่งที่จะมาปฏิวัติอุตสาหกรรมโซลาร์เซลล์ตามที่ EnergyLIB ประกาศไว้นั้นคืออะไร เราพบว่า สิ่งแรกที่โดดเด่นออกมาคือ ดีไซน์ที่แตกต่างจากระบบโซลาร์รูฟท็อปแบบเดิม ทั้งตัวแผงโซลาร์เซลล์ “Black Magic” ที่ใช้สีดำไร้ช่องตาราง และเครื่องแบบ All-In-One ที่รวมแบตเตอรี่และอินเวอร์เตอร์เข้าไว้ด้วยกัน อีกทั้งยังมีการดีไซน์ออกมาให้มีความเป็นระเบียบและประหยัดพื้นที่ สามารถอยู่ได้ทั้งภายในและภายนอกอาคาร

“เป็นการยกระดับวงการโซลาร์เซลล์ ตารางหมากรุกที่เคยเห็นบนหลังคาบ้านจะไม่มีอีกต่อไป แต่สิ่งที่จะได้เห็นต่อจากนี้คือพื้นผิวสีดำที่ออกแบบมาอย่างดี ซึ่งแผง all black ที่ EnergyLIB นำมาใช้นั้น ไม่ใช่ของใหม่ในตลาดโลก เพราะประเทศอื่นๆ เขามีมาก่อนแล้ว แต่ทำไมผู้บริโภคชาวไทยถึงไม่มีโอกาสได้ใช้สินค้าตัวนี้ นั่นคือคำถามว่าทำไมไม่มีคนนำสินค้าดีๆ มาให้ผู้บริโภคคนไทยได้ใช้ แม้จะต้องลงทุนสูงขึ้นแต่ EnergyLIB จะทำ เพราะอยากให้สินค้าที่ดีที่สุดไปอยู่บนบ้านที่คุณรักที่สุดเช่นเดียวกัน”

อีกหนึ่งจุดขายสำคัญที่น่าจะโดนใจผู้บริโภค คือ การช่วยลดค่าไฟสูงสุดได้ถึง 70% ด้วยการผลิตกระแสไฟฟ้าที่มากขึ้น 5% เทียบเท่าการเปิดแอร์ได้มากกว่า 4 ชั่วโมง และยังสามารถใช้ไฟฟ้าได้ทั้งกลางวัน กลางคืน แม้กระทั่งเวลาไฟดับ เพราะเป็นการใช้ไฟจากแบตเตอรี่ที่เก็บสำรองไฟไว้ เสมือนมี Power Bank ประจำบ้าน

“ด้วยความสามารถในการดูดรับแสงและความร้อนของแผงโซลาร์ Black Magic ที่มากกว่า สูญเสียพลังงานแสงน้อยกว่า ทำให้สามารถผลิตพลังงานได้มากขึ้น 5% นอกจากนี้ อินเวอร์เตอร์ยังสามารถรับกระแสไฟฟ้าได้มากกว่า และใช้แรงดันไฟฟ้าในการเริ่มผลิตกระแสไฟฟ้าที่ต่ำกว่า ทำให้เริ่มผลิตได้ในเวลาที่เช้ากว่า และหยุดผลิตในเวลาที่ช้ากว่า” ทวนทองกล่าวเสริม

นอกจากนั้น ยังมีระบบความปลอดภัยอัตโนมัติ Energy CUBE ที่สามารถมอนิเตอร์สถานะกระแสไฟฟ้าภายในบ้านได้แบบเรียลไทม์ด้วยแอปพลิเคชัน LIB Life พร้อมบริการติดตั้ง รับประกัน และบริการหลังการขาย

อีกหนึ่งประเด็นสำคัญคือเรื่องของ “ราคา” และ “ความคุ้มค่า” ซึ่งยังคงเป็นปัจจัยหลักในการเลือกติดโซลาร์รูฟท็อปของผู้ใช้ส่วนใหญ่ โดยปัจจุบัน EnergyLIB มีสินค้าทั้งสิ้น 4 SKU ได้แก่ EnergyLIB P1 All-In-One ใช้ไฟทั้งกลางวันและกลางคืน มี 2 ขนาด คือ 8kW ราคา 359,000 บาท ขนาด 15 kW ราคา 549,000 บาท และ EnergyLIB P1 Lite สำหรับผู้ที่ต้องการใช้ไฟฟ้าจากโซลาร์เฉพาะเวลากลางวัน (ไม่มีแบตเตอรี่) ขนาด 6kW ราคา 199,000 บาท และ 15 kW ราคา 399,000 บาท

ซึ่งเป็นราคาที่ทวนทองบอกว่า “ผมอยากให้มองว่านี่คือการลงทุน ที่สามารถคืนทุนได้เร็วกว่าในระยะเวลาเพียง 5-6 ปี และเป็นราคาที่ผู้บริโภคจะตัดสินใจได้ง่ายขึ้น”

นอกจากนี้ EnergyLIB ยังขยายความร่วมมือทางธุรกิจกับพาร์ตเนอร์และดีลเลอร์ในด้านการขาย การตลาด และบริการหลังการขาย โดยปูพรมดีลเลอร์รายใหญ่ทั่วประเทศกว่า 100 ราย รวมถึงหน้าร้านไอทีเบอร์ใหญ่อย่าง BaNANA ที่ถือเป็น Strategic Partner อีก 500 สาขา

เรียกได้ว่าคราวนี้ EnergyLIB บุกจริง แต่จะสร้างการเปลี่ยนแปลงในอุตสาหกรรมโซลาร์เซลล์สำหรับที่อยู่อาศัยได้มากน้อยแค่ไหน และครองใจผู้บริโภคได้หรือไม่คงต้องดูกันต่อไป แต่ที่แน่ๆ นี่ถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกของผู้บริโภคชาวไทย.