Home > 2019 > พฤศจิกายน (Page 4)

7 สาเหตุทำให้คันไร้ผื่น

Column: Well-being ถ้าคุณรู้สึกคันผิวหนัง ดร.เมแกน ฟีลี แพทย์ผิวหนังผู้ผ่านการรับรองแห่งรัฐนิวเจอร์ซีย์ และอาจารย์คลินิกประจำแผนกผิวหนัง โรงพยาบาลเมาต์ ไซนาย แห่งนิวยอร์กซิตี้ อธิบายว่า เมื่อมีผื่นขึ้นด้วยจะช่วยคุณระบุอาการได้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับผิวหนัง เช่น ถ้ามีตุ่มแดง สันนิษฐานว่าอาจเพราะยุงกัด หรือผิวเห่อแดงเยิ้ม อาจเพราะถูกไม้เลื้อยมีพิษ แต่ถ้าคันไร้ผื่นล่ะ บางครั้งกลายเป็นความท้าทายด้านการวินิจฉัยโรคได้ เพราะเหตุผลที่จะอธิบายอาการคันอย่างรุนแรงนั้นกว้างขวางและซับซ้อน มูลเหตุของอาการคันผิวหนังอาจมีตั้งแต่เพราะผิวแห้งไปจนถึงปัญหาสุขภาพที่หลากหลาย นิตยสาร Prevention จึงแจกแจงเหตุผลที่อธิบายว่า ทำไมคุณจึงเกิดอาการคันผิวหนังไร้ผื่น รวมทั้งวิธีหยุดอาการคันดังนี้ 1. ผิวแห้ง ดร.อลิกซ์ เจ.ชาร์ลส์ แพทย์ผิวหนังผู้ผ่านการรับรองกล่าวว่า “เหตุผลอันดับแรกที่อธิบายว่า ทำไมจึงมีอาการคันคือ “ผิวแห้ง” ภาวะผิวแห้งยิ่งย่ำแย่ลงเพราะสาเหตุจากผิวหนังลอกเพราะถูกแดดเผา สภาพภูมิอากาศ ความชื้นลดลง การใช้สบู่มากเกินไป (ซึ่งทำให้ผิวหนังสูญเสียน้ำมันตามธรรมชาติ) สารคลอรีนในสระว่ายน้ำ การถูกน้ำเป็นเวลานาน และอายุที่มากขึ้น (เพราะผิวหนังเริ่มบางลง) โดยเหตุที่ผิวแห้งมีหลากหลายสาเหตุ จึงแนะนำให้คิดว่า คุณสัมผัสอะไรบ่อยมากเป็นพิเศษ ให้ลดการสัมผัสกับปัจจัยที่ดึงความชื้นออกจากผิวหนัง ก็จะหยุดอาการคันได้ จากนั้นเพิ่มความชุ่มชื้นแก่ผิวหนังด้วยโลชั่นมอยเจอไรเซอร์ 2. แมลงกัดต่อย การถูกยุงกัดมักทำให้เราเกิดตุ่มแดงที่ง่ายต่อการระบุ แต่มีแมลงอีกหลายชนิดที่เรามองไม่เห็นด้วยตาเปล่า ซึ่ง ดร.ชาร์ลส์ระบุว่า อาจเป็นสาเหตุให้เกิดอาการคันไร้ผื่นได้ เช่น

Read More

นายกฯ ชื่นชมท่องเที่ยววิถีคลอง สกสว.พร้อมขยายผลทั่วประเทศ

พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เยี่ยมชมผลงานวิจัยการท่องเที่ยววิถีคลองในประเทศไทย สกสว. โดยมี ผศ.สุภาวดี โพธิยะราช ผอ.ภารกิจจัดทำแผนงบประมาณ สกสว. ผศ.ดร.ประทีป วจีทองรัตนา ผอ.แผนงานวิจัย จาก มรภ.สวนสุนันทา พร้อมด้วย ดร.นราวดี บัวขวัญ และคณะนักวิจัย ให้การต้อนรับและนำเสนอผลงาน ระหว่างลงพื้นที่ ครม.สัญจร จ.ราชบุรี โดยนายกรัฐมนตรีกล่าวถึงงานวิจัยของ สกสว. ว่าเป็นงานที่ดีมากและชื่นชมที่จะมีการขยายผลไปทั้วประเทศทั้ง 25 ลุ่มน้ำบนฐานทรัพยากรรายภูมิภาค ตามที่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีดำริเรื่องการพัฒนาและฟื้นฟูคลองให้เป็นแหล่งท่องเที่ยว โดยเลือก “คลองดำเนินสะดวก” เป็นพื้นที่นำร่องในการพัฒนา และมอบหมายให้ พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รองนายกรัฐมนตรีในขณะนั้น ซึ่งกำกับดูแล องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (องค์การมหาชน) หรือ อพท. เร่งดำเนินการ โดยมอบหมายให้ อพท.จัดทำเส้นทางท่องเที่ยวต้นแบบทางวัฒนธรรม “วิถีคลอง วิถีไทย ตามรอยคลองดำเนินสะดวก”

Read More

เจียไต๋ ลงนามความร่วมมือกับจังหวัดศรีสะเกษ ขับเคลื่อนโครงการเกษตรแปลงใหญ่เพื่อการปลูกพริกปลอดภัยอย่างยั่งยืน

นายวัฒนา พุฒิชาติ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ และนายมนัส เจียรวนนท์ ประธานคณะผู้บริหาร บริษัท เจียไต๋ จำกัด ลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) โครงการเกษตรแปลงใหญ่เพื่อการปลูกพริกปลอดภัย โดยมีพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ ดร. เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ร่วมให้เกียรติเป็นสักขีพยาน ณ กลุ่มวิสาหกิจชุมชนศูนย์ข้าวชุมชนบ้านอุ่มแสง จังหวัดศรีสะเกษ บันทึกข้อตกลงฉบับนี้แสดงให้เห็นถึงการผนึกความร่วมมือระหว่างภาครัฐ และเอกชน ตลอดจนเกษตรกรที่เกี่ยวข้องเพื่อผลักดันให้เกิดการขับเคลื่อนด้านนวัตกรรมเกษตรผ่านโครงการเกษตรแปลงใหญ่เพื่อการปลูกพริกปลอดภัย ในจังหวัดศรีสะเกษ นายมนัส เจียรวนนท์ ประธานคณะผู้บริหาร บริษัท เจียไต๋ จำกัด กล่าวถึงการลงนามความร่วมมือโครงการเกษตรแปลงใหญ่เพื่อการปลูกพริกปลอดภัยครั้งนี้ว่า “พริกถือเป็นหนึ่งในพืชผักที่อยู่คู่ครัวคนไทยมาช้านาน เพราะคนไทยนิยมบริโภคอาหารรสจัด เราทานพริกกันมาก แต่พริกก็เป็นพืชอีกชนิดหนึ่งที่มีสารเคมีตกค้างมากที่สุด นอกจากนี้ ปัจจุบันการปลูกพริกของไทยยังเป็นการเพาะปลูกตามฤดูกาล ทำให้ได้ผลผลิตไม่ต่อเนื่อง จึงเกิดความขาดแคลนพริกในบางช่วง จนต้องมีการนำเข้าจากต่างประเทศ เช่น จีน พม่า เวียดนาม ซึ่งมีราคาถูกกว่า ซึ่งนอกจากจะส่งผลกระทบต่อผู้บริโภคที่อาจจะเจอพริกที่ไม่ปลอดภัยแล้ว การนำเข้าพริกยังส่งผลกระทบกับอาชีพเกษตรกรของไทยเป็นอย่างมาก เพราะหากมีการนำเข้าพริกอย่างต่อเนื่องแล้ว เป็นไปได้ว่า

Read More

สกสว.เดินหน้าหนุนงานศิลปวัฒนธรรมย่านเยาวราช เตรียมทำฝาท่อติดคิวอาร์โค้ดบอกเล่าเรื่องราวชุมชน

สกสว.พร้อมหนุนทีมวิจัยจากศิลปากรเดินหน้าพัฒนาทุนทางศิลปวัฒนธรรมย่านเยาวราช เตรียมทำฝาท่อติดคิวอาร์โค้ดบอกเล่าเรื่องราวของชุมชน หลังประสบความสำเร็จจากงานประติมากรรมฝาท่อระบายน้ำคลองโอ่งอ่าง สานพลังวิทย์ วิศวะ และศิลปะ เพื่อต่อยอดให้เกิดการวิจัยอย่างสร้างสรรค์และเหมาะสมที่สุดกับชุมชน รองศาสตราจารย์ ดร.ณัฐมา พงศ์ไพโรจน์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.) นำสื่อมวลชนชมอาคารและชุมชนบนเส้นทางเดินริมคลองโอ่งอ่าง จากสะพานดำรงสถิต (สะพานเหล็ก) ถึงสะพานโอสถานนท์ พร้อมทั้งชมผลงานศิลปะบนฝาท่อระบายน้ำ 5 จุด ในโครงการวิจัย “การออกแบบประติมากรรมบนที่สาธารณะกับการมีส่วนร่วมของชุมชน” ซึ่งมี รองศาสตราจารย์จักรพันธ์ วิลาสินีกุล อาจารย์ประจำภาควิชาประติมากรรม คณะจิตรกรรม ประติมากรรมและภาพพิมพ์ มหาวิทยาลัยศิลปากร เป็นหัวหน้าโครงการ ภายใต้การสนับสนุนของฝ่ายมนุษยศาสตร์ สังคมศาสตร์และศิลปกรรมศาสตร์ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) หรือ สกสว.ในปัจจุบัน นักวิจัยได้เสนอแนวทางการออกแบบงานศิลปะประเภทต่าง ๆ ทั้งงานประติมากรรมและงานออกแบบศิลปะ 3 มิติ โดยสำนักผังเมือง กรุงเทพมหานคร ได้นำไปใช้ในการปรับปรุงภูมิทัศน์เพื่อส่งเสริมอัตลักษณ์ชุมชนใน “โครงการปรับปรุงภูมิทัศน์ริมคลองโอ่งอ่าง” และโครงการศิลปะชุมชน “กิจกรรมแต้มสี กรุงเทพฯ” ปี 2561 นอกจากนี้ในโครงการส่วนต่อจากคลองโอ่งอ่างที่กรุงเทพมหานครมีแผนในการดำเนินการต่อไปนั้น การใช้งานศิลปะโดยให้ชุมชนมีส่วนร่วมก็เป็นแนวทางหนึ่งในการแสวงหาความร่วมมือจากชุมชน ล่าสุด

Read More

สิงห์-ช้าง รุกหนักขยายแนวรบ “ฟู้ดรีเทล”

2 ยักษ์ใหญ่ธุรกิจเครื่องดื่ม “สิงห์-ช้าง” กำลังเร่งขยายแนวรบธุรกิจร้านอาหารอย่างเข้มข้น โดยเฉพาะเกมการไล่ล่าซื้อกิจการ เพิ่มแบรนด์ในพอร์ต สร้างเครือข่ายอาณาจักรให้แข็งแกร่งที่สุด เพื่อช่วงชิงเม็ดเงินในตลาดที่มีมากกว่า 4 แสนล้านบาท ที่สำคัญ ธุรกิจร้านอาหารกลายเป็นทั้งพระเอก ตัวชูโรงและจิ๊กซอว์เชื่อมโยงตลาดสินค้าอุปโภคบริโภค ทั้งเครื่องดื่ม อาหาร สแน็ก ซอส และยังหมายถึงแผนรุกเครือข่ายช่องทางสมัยใหม่ ตั้งแต่หน้าร้าน บริการเดลิเวอรี่ และแอปพลิเคชันสั่งอาหาร ถือเป็นบลูโอเชียนที่บรรดาคู่แข่งขันต้องรีบวางโครงสร้างธุรกิจครอบคลุม 360 องศา เพราะหากใครทำได้เหนือกว่าย่อมหมายถึงโอกาสการต่อยอดเติบโตไม่รู้จบ สำหรับค่ายสิงห์ หรือกลุ่มบุญรอดบริวเวอรี่ หลังจากปรับโครงสร้างธุรกิจครั้งใหญ่ภายใต้ธุรกิจ 6 เสาหลัก 1. ธุรกิจเบียร์ โซดา และน้ำดื่ม 2. ธุรกิจบรรจุภัณฑ์บางกอกกล๊าส 3. ธุรกิจระดับภูมิภาค (รีจินัล) ภายใต้กลุ่มสิงห์ เอเชีย โฮลดิ้ง 4. ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ โดยสิงห์เอสเตท 5. ธุรกิจซัปพลายเชน ภายใต้บุญรอดซัพพลายเชน และ 6. ธุรกิจอาหาร โดยฟู้ด แฟคเตอร์

Read More

“โออาร์” เร่งปลุกภาพลักษณ์ ปูพรมแดงเข้าตลาดหลักทรัพย์

ยักษ์ใหญ่ ปตท. ถือฤกษ์ 1 พฤศจิกายน 2562 เปิดตัวบริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ “โออาร์” อย่างเป็นทางการ ภายใต้แนวคิดหลัก TOGETHER FOR BETTERMENT พร้อมๆ กับประกาศเดินหน้าเข้าตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ในฐานะบริษัทเรือธง (Flagship) ด้านการดำเนินธุรกิจน้ำมันและธุรกิจค้าปลีกทั้งในประเทศและยกระดับเป็นแบรนด์ไทยชั้นนำระดับโลก ที่สำคัญ โออาร์ต้องการตอบโจทย์ใหญ่อีก 3 ข้อ ซึ่งรัฐบาลกำหนดเป็นเงื่อนไขการเข้าระดมทุน ข้อ 1 การสร้างความมั่นคงทางด้านพลังงาน ข้อ 2 การดูแลสนับสนุนเศรษฐกิจฐานรากตามนโยบายหลักของรัฐบาล และ ข้อ 3 การเข้าตลาดของโออาร์ สร้างความแข็งแกร่งในตลาดต่างประเทศ พาผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) เติบโตได้ นั่นทำให้การเปิดตัวบริษัทไม่ได้เน้นหนักเฉพาะแผนการขยายอาณาจักรธุรกิจ แต่ทีมผู้บริหาร โดยเฉพาะนายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการกลุ่มธุรกิจปิโตรเลียมขั้นปลาย บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ในฐานะประธานกรรมการ และนางสาวจิราพร ขาวสวัสดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่

Read More

ไอ.ซี.ซี.ฯ รุก-ขยายฐานตลาดกลุ่มรองเท้าสตรี ชนกลุ่มตลาดรองเท้าสปอร์ตที่ยึดฐานลูกค้าถึง 50%

ไอ.ซี.ซี.ฯ รุก-ขยายฐานตลาดกลุ่มรองเท้าสตรี ชนกลุ่มตลาดรองเท้าสปอร์ตที่ยึดฐานลูกค้าถึง 50% เตรียมปรับตัวหาสิ่งใหม่ๆ มานำเสนอลูกค้าอยู่ตลอดเวลา หวังตั้งเป้ายอดรองเท้าระดับตำนาน อย่างแนทเธอร์ไลค์เซอร์ (Naturalizer) ไว้ที่ 300 กว่าล้านบาท เสริมทัพสู่ตลาดออนไลน์มากขึ้นเพื่อเจาะกลุ่มฐานลูกค้าเด็กเพิ่ม บวกกับไลฟ์สไตล์ของลูกค้าที่เปลี่ยนไป หลังเน้นกลุ่มฐานลูกค้าวัย 35 ปี ขึ้นไปมาตลอดหลายสิบปี นอกจากนี้ยังเตรียมขยายฐานตลาดรองเท้าสตรีของ ไอ.ซี.ซี.ฯ อย่างแบรนด์รองเท้ารีกัล ผู้หญิง (Regal Ladies) แบรนด์ดังจากญี่ปุ่น เบล์ล แอนด์ โซฟา (Belle&Sofa) แอลล์ (Elle) บีเอสซี (BSC) เพิ่มมากขึ้นด้วยการเปิดร้าน Shop in Shop เป็น Multi Brand Shop ที่ห้างสยามทาคาชิมายะ ดิไอคอนสยาม ชั้น 2 แผนกรองเท้าสตรี พร้อมเปิดให้บริการรูปแบบใหม่ “Easy Order”เป็นครั้งแรกของ ไอ.ซี.ซี. เมื่อวันพฤหัสบดีที่

Read More

เมอร์เซอร์เผย อัตราการขึ้นเงินเดือนของไทยยังคงตัว ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงในตลาดแรงงาน

-ตัวเลขคาดการณ์การขึ้นเงินเดือนของอุตสาหกรรมต่างๆ ในประเทศไทยยังคงตัวที่ 5% -อุตสาหกรรมยานยนต์ได้รับการคาดการณ์ว่าจะมีอัตราการขึ้นเงินเดือนสูงสุด คือ 5.5% - อุตสาหกรรมไฮเทคมีอัตราการออกจากงานโดยไม่สมัครใจสูงสุดที่ 7% เมอร์เซอร์ เผยผลการศึกษาจาก ‘โครงการสำรวจค่าตอบแทนและสวัสดิการของประเทศไทย ประจำปี 2562’ พร้อมแนวโน้มค่าตอบแทน รวมถึงคาดการณ์ถึงการเติบโตของอัตราการจ้างงานและเงินเดือนสำหรับปี 2563 โดยตัวเลขและการคาดการณ์มาจากผลการสำรวจอัตราค่าตอบแทนและสวัสดิการ ซึ่งเป็นการศึกษาถึงค่าตอบแทนและสิทธิประโยชน์ประจำปีของเมอร์เซอร์ โดยในปีนี้มีบริษัทที่เข้าร่วมโครงการศึกษาเพิ่มขึ้นเป็น 607 บริษัท จากหลากหลายอุตสาหกรรมในประเทศไทย นอกจากนี้ เมอร์เซอร์ยังได้จัดทำการสำรวจแบบ Pulse อย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปีเพื่อติดตามผลกระทบจากความเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในธุรกิจต่าง ๆ และศึกษาแนวโน้มของอัตราค่าตอบแทนและตลาดแรงงาน ในปี 2563 ตัวเลขคาดการณ์ของการขึ้นเงินเดือนของอุตสาหกรรมหลักในประเทศไทยยังคงตัวอยู่ที่ 5% สอดคล้องกับอัตราเงินเฟ้อที่อยู่ในระดับต่ำที่ 1.1% (1.0% ในปี 2562)[1] โดยอุตสาหกรรมที่ได้รับการคาดการณ์ว่าจะมีการขึ้นเงินเดือนสูงสุดคืออุตสาหกรรมยานยนต์ซึ่งอยู่ที่ 5.5% ในขณะที่อุตสาหกรรมเคมีมีความเป็นไปได้ว่าจะมีการปรับเงินเดือนอยู่ที่ 5.2% แนวโน้มการจ่ายโบนัสผันแปรสำหรับปี 2562 นี้ ยังคาดว่าจะอยู่ที่ 2.3 เท่าของเงินเดือนในภาพรวมของทุกอุตสาหกรรม โดยในอุตสาหกรรมยานยนต์จะมีการจ่ายโบนัสสูงสุดที่ 3.6 เท่าของเงินเดือนเมื่อเทียบกับอุตสาหกรรมอื่นๆ ตามมาด้วยอุตสาหกรรมประกันชีวิตและอุตสาหกรรมไฮเทค ซึ่งคาดว่าจะจ่ายโบนัสอยู่ที่ 2.5 เท่าของเงินเดือน แนวโน้มอัตราการออกจากงานโดยสมัครใจ ผลการสำรวจยังชี้ให้เห็นว่า จากภาพรวมของภาคอุตสาหกรรม

Read More

วิวาทะเรื่องดาวมิชแลง

Column: From Paris Michelin เป็นบริษัทผลิตยางรถยนต์ของฝรั่งเศส และยางสำหรับพาหนะอื่นๆ ด้วย รวมทั้งเครื่องบิน พนักงานขายของ Michelin ต้องเดินทางไปทั่วประเทศ จึงคิดทำแผนที่สำหรับการขับรถ และทำหนังสือคู่มือสำหรับนักท่องเที่ยวที่มีปกสีเขียว จึงเรียกว่า Guide vert แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวในแต่ละเมือง และไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว พนักงานเหล่านี้ต้องไปพักแรมและรับประทานตามเมืองต่างๆ ที่เดินทางไป จึงเกิด Guide Michelin หรือที่เรียกกันว่า Guide rouge เพราะปกสีแดง แนะนำร้านอาหารตามหมู่บ้าน ตำบลหรือจังหวัดต่างๆ ของฝรั่งเศส และที่พัก ทั้งนี้ โดยแสดงความคิดเห็นด้วย กลายเป็นคู่มือของบรรดานักชิมอาหาร นับตั้งแต่ปี 1900 ถึง 2007 ขายได้ถึง 35 ล้านเล่ม ต่อมามีการให้ดาว Michelin สำหรับร้านอาหารอร่อย บรรยากาศดี การบริการยอดเยี่ยมในฝรั่งเศสและโมนาโก เฉพาะในปี 2016 มีร้านสามดาว 25

Read More

ชุมชนมีวนา มีคน มีป่า มีกิน เพื่อชีวิตที่ยั่งยืน

ปี พ.ศ. 2504 ประเทศไทยมีพื้นที่ป่าไม้ 171.2 ล้านไร่ จากพื้นที่ประเทศไทยทั้งสิ้น 321 ล้านไร่ แต่ชั่วระยะเวลาเพียง 50 ปี พื้นที่ป่าไม้ถูกทำลายไปมากกว่า 98 ล้านไร่ ซึ่งการสูญเสียพื้นที่ป่าไม้ที่เกิดขึ้นนั้น นอกจากการลักลอบตัดไม้ทำลายป่าที่ยังคงปรากฏเป็นข่าวให้เห็นอยู่บ่อยครั้ง สาเหตุส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากความต้องการพื้นที่ในการทำเกษตรกรรมของชาวบ้านด้วยเช่นกัน ความต้องการพื้นที่ทำกินของเกษตรกรเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดการรุกล้ำพื้นที่ป่าและนำไปสู่ปัญหาความขัดแย้งระหว่างชุมชนกับหน่วยงานภาครัฐที่ทำหน้าที่พิทักษ์ป่า ซึ่งไม่เพียงทำให้พื้นที่ป่าไม้ลดลงจนส่งผลต่อระบบนิเวศ เกิดภัยพิบัติทางธรรมชาติที่รุนแรงเท่านั้น แต่วิถีการเกษตรที่ใช้สารเคมีดังที่เป็นอยู่ในปัจจุบันยังส่งผลกระทบต่อธรรมชาติโดยรวม เกิดการปนเปื้อนของสารเคมีในแหล่งน้ำ ส่งผลต่อมนุษย์และสิ่งมีชีวิตอย่างยากที่จะหลีกเลี่ยง ปัจจุบันปัญหาการลดจำนวนลงของพื้นที่ป่า ตลอดจนการใช้สารเคมีในแวดวงการเกษตรที่ส่งผลต่อธรรมชาติเริ่มเป็นที่ตระหนักรู้ของสังคมมากขึ้น ประชาชน ภาครัฐ รวมถึงภาคเอกชนต่างเล็งเห็นความสำคัญและพยายามหาทางแก้ไขปัญหาดังกล่าว “โครงการกาแฟอินทรีย์รักษาป่า” หรือที่รู้จักในชื่อ “กาแฟมีวนา” คือหนึ่งในความเคลื่อนไหวภาคเอกชนที่ไม่เพียงเห็นความสำคัญของการอนุรักษ์และฟื้นฟูป่าเท่านั้น แต่ยังต้องการส่งเสริมความเป็นอยู่ของเกษตรกรให้อยู่ดีกินดีอย่างยั่งยืนอีกด้วย ปี พ.ศ. 2553 มูลนิธิสายใยแผ่นดินได้เริ่มโครงการกาแฟอินทรีย์รักษาป่าขึ้นที่ป่าต้นน้ำแม่ลาว จังหวัดเชียงราย ซึ่งนับเป็นจุดเริ่มต้นหนึ่งของภาคเอกชนที่เล็งเห็นความสำคัญของการอนุรักษ์ฟื้นฟูป่าและปัญหาสิ่งแวดล้อม ป่าต้นน้ำแม่ลาวถือเป็นป่าที่มีความอุดมสมบูรณ์มากที่สุดของจังหวัดเชียงราย วิถีดั้งเดิมของชาวบ้านคือการปลูกชาทำเมี่ยงเพื่อเลี้ยงชีพ แต่เมื่อการเกษตรแบบใหม่ที่นิยมใช้สารเคมีเข้ามา บวกกับความต้องการของตลาดทำให้ชาวบ้านหันมาปลูกเสาวรสซึ่งเป็นไม้เลื้อยและต้องการแสงในการเจริญเติบโตสูง ชาวบ้านต้องตัดไม้ทำลายป่าเพื่อเปิดพื้นที่รับแสง อีกทั้งการปลูกเสาวรสยังต้องใช้สารเคมีอย่างมากในการดูแลรักษาให้ปลอดโรคและแมลง ทำให้ป่าต้นน้ำแม่ลาวอยู่ในภาวะที่น่าเป็นห่วง มูลนิธิสายใยแผ่นดินพยายามศึกษาเพื่อหาทางแก้ไข พบว่า “กาแฟ” เป็นพืชเศรษฐกิจที่สามารถสร้างรายได้ให้กับชาวบ้าน และสามารถปลูกอยู่ร่วมกับป่าได้โดยไม่ต้องตัดไม้ทำลายป่า เพราะกาแฟเป็นพืชที่ต้องการร่มเงาสูง เติบโตได้ดีในพื้นที่ใต้ร่มไม้ จึงได้ริเริ่มโครงการกาแฟอินทรีย์รักษาป่าขึ้นที่ป่าต้นน้ำแม่ลาว เป็นอันดับแรก

Read More