ส่วนหนึ่งในหนังสือรวบรวมบทกวี Haiku ชื่อ Oku no Hosomichi ซึ่งเป็นผลงานชิ้นโบแดงของ Matsuo Basho (ชื่อจริง Matsuo Munefusa) กวีเอกในสมัยเอโดะ (ค.ศ.1603-1868) ได้พรรณนาความงดงามของทัศนียภาพหมู่เกาะ Matsushima ที่แต่งขึ้นในปี 1689 เมื่อครั้งเดินเท้าท่องเที่ยวไปในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของญี่ปุ่นไว้ดังนี้matsushima yaa-a matsushima yamatsushima yaโครงสร้างของกวี Haiku หนึ่งบทประกอบด้วย 17 พยางค์แบ่งออกเป็นสามวรรคในลักษณะ 5-7-5 เป็นกฎเกณฑ์ที่ท้าทายทักษะ การประพันธ์ด้วยคำที่สั้น, กระชับ และเรียบง่ายแต่แฝงไปด้วยปรัชญาซึ่งสะท้อนอารมณ์ความรู้สึกของกวีต่อสิ่งที่ได้สัมผัสรับรู้ในขณะนั้น ปัจจุบัน กวี Haiku ไม่ได้จำกัดเฉพาะภายในญี่ปุ่นเท่านั้นทว่าเป็นที่นิยมในต่างประเทศซึ่งได้ดัดแปลงการแต่งกวี Haiku เป็นภาษาอังกฤษอีกด้วยความสละสลวยของกวี Haiku บทดังกล่าวข้างต้นนี้อยู่ที่การเลือกเพียงคำลงท้ายคำนาม “ya” กับคำอุทาน “a-a” มาร้อยเรียงกับ “matsushima” ของทุกวรรคซึ่งสะท้อนความประทับใจต่อทิวทัศน์ที่ประจักษ์อยู่เบื้องหน้าอันยากจะสรรหาคำวิเศษณ์ใดๆ มาอรรถาธิบายได้ท้องทะเลภายในอ่าว Matsushima เป็นเสมือนแผ่นผ้าใบสีครามผืนใหญ่ที่ธรรมชาติบรรจงแต่งแต้มสีเขียวเข้มของต้นสนญี่ปุ่นบนเกาะแก่งสีขาว-เทารูปทรงแปลกตาราวกับงานศิลปะชิ้นเอกที่ติดตรึงใจผู้มาเยือนและเป็นแรงบันดาลใจให้ศิลปินสร้างสรรค์เพลงพื้นบ้าน,โคลงกลอน, ภาพเขียนโบราณซึ่งปรากฏหลักฐานมาแต่สมัยเฮอัน (ค.ศ.794-1192)บริบทความงามของสถานที่แห่งนี้ได้รับการสำทับอีกครั้งในบันทึกการสัญจรทั่วญี่ปุ่น (Nihon Kokujisekikou) ของ Shunsai Hayashi นักปราชญ์ ผู้ศึกษาลัทธิขงจื๊อในต้นสมัยเอโดะซึ่งระบุถึงสถานที่ 3 แห่งที่สวยงามที่สุดในญี่ปุ่นอันได้แก่ Matsushima, Amanohashidate และ Miyajima (ซึ่งอีก 2 แห่งหลังนั้นจะนำเสนอรายละเอียดในฉบับต่อๆ ไป)ในเวลาต่อมา Matsushima เป็นที่รู้จักไปทั่วญี่ปุ่นต่อเนื่องจวบจนทุกวันนี้และยังคงเป็นจุดหมายปลายทางสำหรับนักท่องเที่ยวทั้งชาวญี่ปุ่นและชาวต่างชาติที่ต่างต้องการพิสูจน์และสัมผัสความงดงามของธรรมชาติตามคำร่ำลืออัศจรรย์ธรรมชาติของหมู่เกาะ Matsushima ทางตะวันออกเฉียงเหนือของจังหวัด Miyagi สันนิษฐาน ตามหลักฐานทางธรณีวิทยาว่าเดิมทีเมื่อหลายล้านปีก่อนบริเวณนี้เคยเป็นหน้าผาชายฝั่งทะเลที่เว้าแหว่งในลักษณะคล้ายกับชายฝั่งฟยอร์ด (Fjord) ของประเทศนอร์เวย์ซึ่งค่อยๆ ยุบตัวลงสู่ท้องสมุทรเบื้องล่างทีละน้อย เนื่องด้วยแรงสั่นสะเทือนของแผ่นดินไหวครั้งแล้วครั้งเล่าแปรสภาพจากยอดเขาไปเป็นเกาะเหนือระดับน้ำทะเลซึ่งยืนหยัดรับแรงกัดเซาะของคลื่นและลมเป็นเวลาเนิ่นนานจนกลายเป็นผลงานประติมากรรมลอยตัวหลากรูปทรงสีนวลตา 260 เกาะที่ปกคลุมไปด้วยต้นสนญี่ปุ่น (Matsu) อันเป็นที่มาของชื่อเรียกอาณาบริเวณแถบนี้โดยการสมาสเข้ากับคำว่า Shima ที่แปลว่าเกาะด้วยลักษณะภูมิประเทศเช่นนี้การล่องเรือออกไปชมวิวหมู่เกาะรอบนอกจากท่าเรือใกล้สถานี JR Matsushima Kaikan ซึ่งใช้เวลาราว 1 ชั่วโมงสร้างความตื่นตาตื่นใจท่ามกลางธรรมชาติได้ไม่แพ้วิวพาโนรามา Shitaikan จากเนินเขาที่โอบล้อมอ่าว Matsushima อยู่รอบด้านอันได้แก่ Tomiyama ทางเหนือ, Ootakamori ทางตะวันออก, Ougidani ทางตะวันตก และ Tamonzan ทางใต้ซึ่งเป็นจุดชมหมู่เกาะ Matsushima แบบสามมิติจาก 4
Read More