Home > COVID (Page 6)

โควิดระลอกสามทุบตลาดอีเวนต์ รายได้หายกว่าหมื่นล้านบาท

อีกหนึ่งอุตสาหกรรมที่ถูกพิษโควิด-19 เล่นงานอย่างหนัก คือ ธุรกิจอีเวนต์ นับตั้งแต่เริ่มมีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสในช่วงต้นปี 2563 และรัฐบาลประกาศใช้มาตรการต่างๆ เพื่อควบคุมไม่ให้เชื้อแพร่กระจายไปในวงกว้าง ในแต่ละปีตลาดธุรกิจอีเวนต์มีมูลค่าสูงกว่าหนึ่งหมื่นล้านบาท แม้สภาพของเศรษฐกิจไทยในช่วง 5-10 ปีหลังจะอยู่ในภาวะลุ่มๆ ดอนๆ ก็ตาม แต่ในช่วงปลายปี 2560 ธุรกิจอีเวนต์เริ่มส่งสัญญาณกลับมาคึกคักอีกครั้ง ซึ่งนั่นส่งผลให้ภาพรวมธุรกิจอีเวนต์ในปี 2561 ฟื้นตัวในทิศทางที่ดีขึ้น ปี 2562 มูลค่าตลาดรวมของธุรกิจอีเวนต์อยู่ที่ประมาณ 12,000 ล้านบาท ในปีนั้นแม้จะมีปัจจัยลบหลายด้านมากระทบ แต่ยังมีแนวโน้มที่สดใสต่อเนื่อง ขณะที่ปี 2563 เป็นปีที่แทบทุกอุตสาหกรรมหยุดชะงัก ในด้านของธุรกิจอีเวนต์ บริษัทออแกไนเซอร์ทั้งขนาดเล็ก ขนาดกลาง และขนาดใหญ่ ได้รับผลกระทบเนื่องจากไม่สามารถจัดงานส่งเสริมการขาย หรืองานแสดงสินค้าใดๆ ได้ ตามคำสั่งของ ศบค. ส่งผลให้รายได้หลักของผู้ประกอบการเหล่านี้หายไปกว่าครึ่ง ธุรกิจอีเวนต์เป็นธุรกิจที่ได้รับผลกระทบค่อนข้างมากรองจากธุรกิจท่องเที่ยว สถานการณ์โควิด-19 ในไทยช่วงกลางปี 2563 เริ่มผ่อนคลายลง มาตรการหลายอย่างถูกยกเลิกเพื่อให้เศรษฐกิจสามารถเดินหน้าต่อไปได้ บรรยากาศการจัดอีเวนต์เริ่มกลับมามีให้เห็นอีกครั้ง จนผู้ประกอบการหลายรายคาดหวังว่าบรรยากาศการจัดงานอีเวนต์จะมีมาอย่างต่อเนื่องจนถึงปี 2564 ทว่า จุดพลิกผันที่ส่งผลให้ยอดจองสถานที่จัดงานและกิจกรรม รวมไปถึงการจ้างงานของบริษัทออแกไนซ์ต้องถูกเลื่อนออกไปอย่างไม่มีกำหนด คือการระบาดระลอกสาม ที่ดูจะสร้างบาดแผลสาหัสกว่าสองครั้งที่ผ่านมา แน่นอนว่า

Read More

เซ็นทรัลเดินหน้าฉีดวัคซีนช่วยชาติ เร่งสร้างความมั่นใจให้คนไทย ประเดิมเซ็นทรัลลาดพร้าวเป็นที่แรก

เซ็นทรัลพัฒนา เดินหน้าฉีดวัคซีนช่วยชาติ เร่งสร้างความมั่นใจให้คนไทย ร่วมใจฉีดวัคซีน เปิดหน่วยบริการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ในศูนย์การค้าเป็นแห่งแรกในกรุงเทพฯ ที่เซ็นทรัล ลาดพร้าว บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) ผู้บริหารศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์, เซ็นทรัลพลาซา, เซ็นทรัลเฟสติวัล, เซ็นทรัล ภูเก็ต และ เซ็นทรัล วิลเลจ ลักชูรี่เอาท์เล็ตแห่งแรกของไทย เตรียมสนับสนุนพื้นที่รวมกว่า 17,500 ตร.ม. ในกว่า 8 สาขาทั่วประเทศ และคิดเป็นมูลค่าพื้นที่เช่ากว่า 300 ล้านบาท เพื่อเป็นหน่วยบริการฉีดวัคซีน โดยในวันนี้เป็นวันแรกของการ เปิดหน่วยความร่วมมือบริการฉีดวัคซีนโควิด-19 เซ็นทรัลลาดพร้าว-โรงพยาบาลรามาธิบดี-โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า ซึ่งเป็นศูนย์การค้าแห่งแรกในกรุงเทพฯ และ 1 ในสถานที่ฉีดวัคซีนที่ได้รับการคัดเลือกจากกรุงเทพมหานคร, คณะกรรมการควบคุมโรค กรุงเทพมหานคร และ หอการค้าไทย ตามแผนโรดแมปที่ภาคเอกชนของทีมสนับสนุนการกระจายและการฉีดวัคซีน นำโดยกลุ่มเซ็นทรัล เซ็นทรัลพัฒนา และเซ็นทรัลรีเทล จับมือ พันธมิตรชั้นนำ อาทิ AIS, และเซ็นทารา

Read More

เหตุ COVID ระลอกใหม่ฉุด ธุรกิจการบินของไทยทรุดหนัก

ความเป็นไปของการระบาดระลอกใหม่ของ COVID-19 ที่เกิดขึ้นในเดือนเมษายนที่ผ่านมา นอกจากจะส่งผลให้เกิดความตระหนกและความกังวลใจว่าด้วยความรุนแรงและรวดเร็วของการแพร่ระบาดครั้งใหม่ท่ามกลางกระแสข่าวว่าด้วยการกลายพันธุ์ของเชื้อไวรัสแล้ว ความล่าช้าของระบบการจัดการและกระจายวัคซีนซึ่งหลายฝ่ายหวังว่าจะเป็นเครื่องมือที่เสริมสร้างความมั่นใจและนำพาเศรษฐกิจสังคมไทยให้กลับมาฟื้นคืนชีวิตได้โดยเร็วอีกครั้ง ก็ดูจะอันตรธานหายไปพร้อมกับสายลมร้อนแห่งคิมหันตฤดูด้วย การระบาดระลอกใหม่ทำให้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจหลายประการของรัฐที่เคยวางไว้ว่ามีผลต้องเลื่อนหรือระงับออกไปโดยปริยาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งแผนการที่จะเปิดประเทศให้นักท่องเที่ยวจากต่างประเทศได้เดินทางเข้ามาภายใต้มาตรการผ่อนปรนด้วยหวังว่ากรณีดังกล่าวจะเป็นส่วนหนึ่งในการเร่งฟื้นฟูเศรษฐกิจไทย หรือการกระตุ้นให้ประชาชนคนไทยเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศเพื่อเสริมพลวัตทางเศรษฐกิจให้ดำเนินไป กลับต้องตกอยู่ในภาวะชะงักงันไปโดยปริยาย มาตรการของรัฐไม่ว่าจะเป็นคำสั่งห้าม รวมถึงการขอความร่วมมือ เพื่อป้องกันและยับยั้งการแพร่ระบาดระลอกใหม่ทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจของไทยในช่วงหนึ่งเดือนที่ผ่านมาตกอยู่ในภาวะจมปลักชะงักงันในลักษณะที่ไม่ต่างจากการติดหล่มขยับเขยื้อนไปไหนไม่ได้ นอกเหนือจากการจมดิ่งลงไปในบ่อโคลนที่ยากจะนำพาองคาพยพนี้ให้ขับเคลื่อนต่อไปได้ ข้อเท็จจริงที่น่าสนใจก็คือ ก่อนหน้านี้กลไกรัฐไทยเคยกำหนดแผนที่จะเปิดประเทศเป็น 4 ระยะด้วยการเริ่มจากระยะที่หนึ่ง ลดการกักตัวของนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้ามาในประเทศจาก 14 วัน เหลือ 7 วัน ภายในโรงแรมที่เข้าร่วมโครงการหรือ “แอเรีย ควอรันทีน” (Area Quarantine) โดยนักท่องเที่ยวเหล่านี้ต้องมีการฉีดวัคซีนโควิดและมีเอกสารรับรองฉีดโควิด และจะนำร่องในพื้นที่ 6 จังหวัดท่องเที่ยวสำคัญ ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายนที่ผ่านมา ขณะที่แผนระยะที่ 2 ซึ่งจะเริ่มวันที่ 1 กรกฎาคม จะเปิดให้นักท่องเที่ยวที่ได้รับวัคซีนครบ 2 โดสเข้ามาในจังหวัดภูเก็ตได้โดยไม่ต้องกักตัว ก่อนเข้าสู่ระยะสาม เริ่มวันที่ 1 ตุลาคม จะเปิดให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าพื้นที่ 5 จังหวัดนำร่องที่เหลือ ไม่ต้องกักตัว หากฉีดวัคซีนโควิด มีเอกสารรับรองฉีดวัคซีน

Read More

พักเบรคระหว่างวันกับ 5 ท่าโยคะสไตล์เจ็ทส์ ปรับสมดุลร่างกาย แก้ปวดเมื่อยง่ายๆ ช่วง Work from Home

ในช่วงนี้ที่สถานการณ์แพร่ระบาดของโรคโควิด-19 กลับมาทำให้เราต้องกักตัวอยู่บ้านกันอย่างต่อเนื่องอีกครั้ง แน่นอนว่าสิ่งที่มักจะมาคู่กับการนั่งทำงานหรือเรียนออนไลน์ที่บ้านเป็นติดต่อกันระยะเวลานานคืออาการปวดเมื่อยทั่วทั้งร่างกาย ทั้งปวดคอ ปวดไหล่ ปวดหลัง ซึ่งทางแก้ของอาการเหล่านี้ นอกจากจะต้องปรับเปลี่ยนท่านั่งให้ถูกต้องแล้ว ยังต้องหมั่นเสริมความแข็งแกร่งให้กับกล้ามเนื้อและร่างกายด้วยการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ วันนี้ เจ็ทส์ ฟิตเนส จึงมาแนะนำ 5 ท่าโยคะที่สามารถทำได้ง่ายๆ ระหว่างวัน ซึ่งไม่เพียงช่วยคลายอาการปวดเมื่อยและยืดกล้ามเนื้อให้แข็งแรงขึ้นเท่านั้น แต่ยังช่วยปรับสมดุลทั้งร่างกายและจิตใจให้สดชื่นพร้อมต้านโรคร้ายไปด้วยกัน ก่อนเริ่มฝึกโยคะท่าต่างๆ เราขอแนะนำให้ทุกคนลองเริ่มจากการนั่งทำสมาธิง่ายๆ กำหนดลมหายใจเข้าออกให้สม่ำเสมอ เพื่อเตรียมร่างกายและจิตใจให้สงบนิ่ง พร้อมโฟกัสกับการฟื้นฟูร่างกายอย่างเต็มที่ นอกจากนี้ ใครที่เตรียมเสื่อโยคะไว้พร้อมแล้วยังสามารถลองฝึกแต่ละท่าอย่างต่อเนื่องไปพร้อมๆ กับเทรนเนอร์ของเจ็ทส์ ที่จะมาสาธิตการฝึกท่าอย่างละเอียดตั้งแต่ระดับง่าย กลาง ไปจนถึงระดับยากทีละขั้นตอน โดยสามารถรับชมวีดีโอได้ทางช่อง YouTube ของเจ็ทส์ ประเทศไทยหรือคลิกที่นี่ (https://youtu.be/J83H022XWHE) ท่า Cobra Pose ท่า Cobra Pose เป็นท่าที่ช่วยสร้างความแข็งแกร่งให้กับหลายส่วนของร่างกาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริเวณหลังส่วนล่าง ช่วยคลายความปวดเมื่อยและสร้างความแข็งแรงให้กับกล้ามเนื้อตามแนวกระดูกสันหลัง กระชับสะโพก กระตุ้นการทำงานของปอดและอวัยวะภายในต่าง ๆ โดยเริ่มจากท่า Downward-Facing Dog จากนั้นเลื่อนลำตัวไปด้านหน้าและวางลำตัวราบลงไปกับพื้น วางฝ่ามือทั้งสองข้างในแนวระนาบเดียวกับไหล่ ดึงหัวไหล่ไปด้านหลัง ดันลำตัวส่วนบนตั้งแต่ศีรษะจนถึงเอวขึ้นช้า

Read More

เทรนเนอร์ออนไลน์บูม โควิดระลอกไหนก็สยบไม่ลง

“ในวิกฤตมักมีโอกาสเสมอ” คำพูดนี้ดูจะเหมาะสมกับสถานการณ์อันยากลำบากนี้ยิ่งนัก เมื่อโลกต้องเผชิญหน้ากับเชื้อไวรัสโควิด-19 มานานกว่า 1 ปี หลายธุรกิจถูกคลื่นความร้ายกาจของไวรัสนี้กลืนกิน บางรายไม่สามารถกลับมาดำเนินธุรกิจได้ ในขณะที่อีกหลายธุรกิจพยายามเร่งปรับตัวเพื่อให้อยู่รอด วิถี New Normal คือกุญแจสำคัญของธุรกิจที่จะไปต่อได้ในช่วงเวลาอันแสนลำเค็ญ แน่นอนว่าการต่อยอดจากธุรกิจฟิตเนสแบบสาขา มาสู่รูปแบบออนไลน์ ก็เช่นเดียวกัน ธุรกิจฟิตเนสได้รับผลกระทบเกือบ 100 เปอร์เซ็นต์จากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด ไม่ว่าจะในประเทศหรือต่างประเทศ เพราะฟิตเนสคืออีกหนึ่งสถานที่ที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่เชื้อสูงมาก เนื่องจากผู้คนมีความใกล้ชิดกัน การหยิบจับและใช้อุปกรณ์ออกกำลังกายร่วมกัน เกือบทุกประเทศออกมาตรการคำสั่งเด็ดขาดให้ฟิตเนสปิดบริการในช่วงที่มีการแพร่ระบาดหนัก แม้ว่าต่อมาจะออกมาตรการผ่อนปรนให้สามารถเปิดบริการได้ แต่ยังมีการควบคุมจำนวนผู้เข้าใช้บริการ กำหนดเวลาเปิดปิด หรือเพิ่มข้อบังคับให้ผู้ใช้บริการต้องสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลาที่มาออกกำลังกาย แน่นอนว่าเป็นเรื่องยากมาก เพราะสำหรับผู้ที่ออกกำลังกายแล้ว จะเข้าใจได้เป็นอย่างดีว่า การใส่หน้ากากอนามัยเวลาออกกำลังกาย จะทำให้เหนื่อยเพิ่มขึ้น แม้จะปลอดภัยมากขึ้นก็ตาม เหตุผลข้างต้นอาจเป็นอีกหนึ่งตัวแปรสำคัญที่ทำให้ธุรกิจเทรนเนอร์ออนไลน์ ค่อยๆ กลับมาอยู่ในกระแสความนิยมอีกครั้ง แม้ว่าธุรกิจนี้จะมีมานานแล้วก็ตาม แต่ด้วยวิถี New Normal เป็นแรงขับเคลื่อนชั้นดี ที่เร่งเร้าให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่เร็วขึ้นในเวลาอันรวดเร็ว เมื่อสถานการณ์ที่ยังไม่มีใครสามารถให้คำตอบได้ว่า การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิดจะสิ้นสุดลงเมื่อไหร่ และกิจการฟิตเนสจะสามารถกลับมาดำเนินกิจการได้เมื่อใด ในเมื่อธุรกิจฟิตเนสยังต้องแสวงหารายได้เพื่อมารองรับกับค่าใช้จ่าย การปั้นธุรกิจเทรนเนอร์ออนไลน์ดูจะเป็นทางออกที่ดีที่สุด ธุรกิจเทรนเนอร์ออนไลน์ในไทยเกิดขึ้นมาสักระยะหนึ่งแล้ว และได้รับความนิยมไม่น้อย แม้จะเป็นเพียงลูกค้ากลุ่มเล็กๆ ก็ตาม แต่ด้วยสถานการณ์ของธุรกิจฟิตเนสที่ไม่สามารถเปิดบริการได้เต็มรูปแบบเช่นเดิม ส่งผลให้ธุรกิจนี้สามารถต่อยอดและค่อยๆ ขยายวงกว้างมากขึ้น บางรายเริ่มต้นธุรกิจนี้ด้วยการเป็น InFluencer

Read More

เดอะมอลล์ สนับสนุนงบกว่า 70 ล้านบาท เดินหน้าเตรียมสถานที่ฉีดวัคซีนป้องกันโควิด–19 พร้อมยก เดอะมอลล์ บางกะปิ เป็นโมเดลต้นแบบ

เดอะมอลล์ กรุ๊ป สนับสนุนงบกว่า 70 ล้านบาท จับมือ กรุงเทพมหานคร-จังหวัดนนทบุรี-จังหวัดนครราชสีมา เดินหน้าเตรียมสถานที่ฉีดวัคซีนป้องกันโควิด–19 พร้อมยก เดอะมอลล์ บางกะปิ เป็นโมเดลต้นแบบการเตรียมความพร้อมด้านสถานที่ และการบริหารจัดการ บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด สนับสนุนงบกว่า 70 ล้านบาท ร่วมแบ่งเบาการดำเนินงานของภาครัฐ ในการแก้ปัญหาวิกฤตโควิด-19 จับมือกับกรุงเทพมหานคร, จังหวัดนนทบุรี และ จังหวัดนครราชสีมา เดินหน้าเตรียมสถานที่ฉีดวัคซีนป้องกันโควิด–19 ให้กับประชาชน ที่ เดอะมอลล์ บางกะปิ, เดอะมอลล์ บางแค, เดอะมอลล์ไลฟ์สโตร์ งามวงศ์วาน และเดอะมอลล์ โคราช เพื่อเร่งฉีดวัคซีนให้ประชาชนอย่างรวดเร็วและทั่วถึงที่สุด โดย เดอะมอลล์ บางกะปิ ได้รับการคัดเลือกจากกรุงเทพมหานคร ให้เป็นโมเดลต้นแบบการเตรียมความพร้อมด้านสถานที่ และการบริหารจัดการการฉีดวัคซีนโควิด-19 ให้กับประชาชน เพื่อเป็นแนวทางให้กับพันธมิตรเครือข่าย และประเดิมฉีดวัคสาขาแรกที่สาขา เดอะมอลล์ บางกะปิ ในวันที่ 14

Read More

จาก “ทัวร์วัคซีน” ถึง “ย้ายประเทศ” ภาพสะท้อนความตกต่ำสังคมไทย?

กระแสข่าวว่าด้วยการเสนอจัดการท่องเที่ยวเดินทางไปต่างประเทศเพื่อรับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคระบาด COVID-19 ที่เกิดขึ้นในช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมา ในด้านหนึ่งนอกจากจะเป็นความพยายามของผู้ประกอบการในการดิ้นรนและปรับตัวเพื่อความอยู่รอดทางธุรกิจโดยอาศัยจังหวะโอกาสและช่องว่างว่าด้วยการจัดสรรวัคซีนที่ดำเนินอยู่ในต่างประเทศแล้ว ในอีกมิติหนึ่งได้สะท้อนความล้มเหลวของการจัดหาและจัดสรรวัคซีนในประเทศไทยอย่างชัดเจน ซึ่งกำลังกลายเป็นประเด็นที่สั่นคลอนความเชื่อมั่นของประชาชนต่อการบริหารจัดการของกลไกรัฐอย่างหนักหน่วง ข้อเท็จจริงที่น่าสนใจประการหนึ่งก็คือ “วัคซีน COVID-19” ได้รับการประเมินว่าเป็นทางรอดสำคัญสำหรับผู้คนจำนวนมากทั่วโลก ความล่าช้าหรือการเข้าถึงการฉีดวัคซีนที่ยากในบางประเทศ จึงทำให้มีหลายคนมองหาลู่ทางในการฉีดวัคซีนนอกเหนือจากที่มีอยู่ในประเทศ ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวสอดคล้องกับความต้องการของบางประเทศ ที่ต้องการฟื้นฟูเศรษฐกิจ ด้วยการดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวและวัคซีน COVID-19 ที่มีอยู่ในประเทศ ในฐานะที่เป็นดีลที่สมประโยชน์ (win-win) ทั้งสองฝ่าย กรณีการกระตุ้นการท่องเที่ยวควบคู่กับการฉีดวัคซีนที่ชัดเจนที่สุดกรณีหนึ่ง ดูจะเป็นยุทธศาสตร์ของ มัลดีฟส์ ที่ริเริ่มการฉีดวัคซีน COVID-19 ให้กับนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามา เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของโครงการริเริ่มมุ่งฟื้นฟูภาคการท่องเที่ยวที่ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการแพร่ระบาดของ COVID-19 ภายใต้กลยุทธ์ที่เรียกว่า “3V” ประกอบไปด้วย Visit (มาเยือน) - Vaccination (ฉีดวัคซีน) - Vacation (พักผ่อน) ซึ่งจะกระตุ้นให้นักท่องเที่ยวกลับเข้ามาในมัลดีฟส์ ประเด็นที่น่าสนใจก็คือ แนวความคิดที่จะนำวัคซีนมาฉีดให้ผู้มาเยือนเพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวนี้ ดำเนินไปหลังจากที่มัลดีฟส์ฉีดวัคซีนให้ประชากรในประเทศไปแล้วประมาณ 300,000 คน หรือคิดเป็น ร้อยละ 55 ของประชากรทั้งประเทศ โดยวัคซีนส่วนใหญ่ที่มัลดีฟส์ได้รับเป็นการจัดสรรจากโครงการ COVAX หรือวัคซีนกองกลางที่หลายประเทศนำมาบริจาคไว้แจกจ่ายให้ประเทศที่ขาดศักยภาพในการแย่งชิงวัคซีน COVID-19

Read More

เดอะมอลล์ จัดโครงการ “ถุงน้ำใจ หัวใจไทย ไทยช่วยไทย ไทยสู้สู้” มอบถุงน้ำใจให้กับประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ใน 5 พื้นที่

เดอะมอลล์ กรุ๊ป จัดโครงการ “ถุงน้ำใจ หัวใจไทย ไทยช่วยไทย ไทยสู้สู้” เพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการแบ่งปัน ดูแล ตลอดจนเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์วิกฤตโควิด-19 เดินหน้ามอบถุงน้ำใจให้กับประชาชนที่พำนักอาศัยอยู่ในชุมชน 5 พื้นที่โดยรอบศูนย์การค้าเดอะมอลล์ บางแค, บางกะปิ, ท่าพระ, เดอะมอลล์ ไลฟ์สโตร์ งามวงศ์วาน และเดอะมอลล์ โคราชรวม 5,000 ถุง พร้อมให้คำมั่นสัญญาว่าจะเดินหน้าให้ความช่วยเหลือในทุกมิติเพื่อให้ประเทศไทยปลอดโควิด-19 และจะยืนหยัดเคียงข้างประเทศไทยและประชาชนคนไทยในทุกสถานการณ์ นางสาววรลักษณ์ ตุลาภรณ์ ผู้บริหารสูงสุดฝ่ายการตลาด บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด เปิดเผยว่า “ท่ามกลางสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในปัจจุบัน ทำให้มีผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ดังกล่าวเป็นจำนวนมาก เดอะมอลล์ กรุ๊ป ในฐานะองค์กรเอกชนของคนไทยที่ยืนหยัดเคียงข้างประเทศไทยมาโดยตลอด เรามีความห่วงใยและขอร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการแบ่งปัน ดูแล ตลอดจนเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์วิกฤตโควิด-19 โดยจัดโครงการ “ถุงน้ำใจ หัวใจไทย ไทยช่วยไทย ไทยสู้สู้” นำถุงน้ำใจ ที่ภายในประกอบด้วยเครื่องอุปโภคบริโภคและสิ่งจำเป็นในการดำรงชีวิตประจำวัน อาทิ ข้าวสาร,อาหารกระป๋อง,

Read More

โควิดระลอก 3 หายนะทางเศรษฐกิจ ธุรกิจร้านอาหารช้ำกระอัก

โลกได้พบเจอกับมหันตภัยของเชื้อไวรัสโควิด-19 นับตั้งแต่ปลายปี 2562 ในขณะที่ไทยพบการแพร่ระบาดภายในประเทศในช่วงต้นปี 2563 ผลกระทบที่เกิดขึ้นไม่ใช่เพียงบททดสอบการรับมือกับวิกฤตของระบบสาธารณสุขของไทยเท่านั้น แต่เป็นที่ประจักษ์แล้วว่า ความร้ายกาจของเชื้อไวรัสได้ขยายวงไปสู่เศรษฐกิจทั้งประเทศ ภาคการส่งออกติดลบ ภาคธุรกิจไม่มีการขยายตัว การลงทุนหยุดชะงัก ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมติดลบ เส้นกราฟอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจไต่ระดับลงอย่างต่อเนื่อง แม้ในช่วงที่ไทยสามารถควบคุมวงจรการแพร่ระบาดได้ในช่วงเวลาหนึ่ง รัฐบาลประกาศใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้นหลายตัว เพื่อหวังให้เครื่องจักรทางเศรษฐกิจในระดับฐานรากขับเคลื่อนไปได้ แน่นอนว่าหลังประกาศใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ บรรยากาศในหลายมิติดูมีชีวิตชีวามากขึ้น สถานการณ์ความเป็นไปในสังคมดำเนินไปตามปกติด้วยรูปแบบ New Normal ประชาชนส่วนใหญ่ยังคงใช้ชีวิตด้วยความระมัดระวัง เมื่อมนุษย์ยังไม่อาจประกาศชัยชนะเหนือเชื้อไวรัสร้ายนี้ได้ หลายคนเริ่มยิ้มได้มากขึ้นภายใต้หน้ากากอนามัย เมื่อสถานการณ์เริ่มดีขึ้นจากการที่มีผู้ติดเชื้อภายในประเทศลดลง กระทั่งเป็นศูนย์ในบางวัน และวัคซีนเดินทางมาถึงไทย พร้อมกับได้ฉีดให้กับบุคลากรทางการแพทย์ด่านหน้า และผู้ที่มีความเสี่ยงสูงในหลายพื้นที่ ทว่ารอยยิ้มอยู่ได้ไม่นาน เมื่อการติดเชื้อระลอก 3 เกิดขึ้น เส้นกราฟทางเศรษฐกิจที่กำลังกลับมาไต่ระดับสูงขึ้นอย่างช้าๆ กลับถูกดึงให้ดิ่งลงอย่างรวดเร็ว เมื่อสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ทวีความรุนแรงมากขึ้น ยอดผู้ติดเชื้อรายวันพุ่งสูงขึ้นและทำนิวไฮอย่างต่อเนื่อง รวมไปถึงยอดผู้เสียชีวิตรายวันที่เพิ่มจำนวนอย่างน่าตกใจ ศบค. ประกาศยกระดับมาตรการในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด (พื้นที่สีแดงเข้ม) ประกอบด้วย 6 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร ชลบุรี เชียงใหม่ นนทบุรี ปทุมธานี และสมุทรปราการ โดยห้ามจัดกิจกรรมที่มีการรวมกลุ่มของบุคคลที่มีจำนวนรวมกันมากกว่า 20 คน ร้านจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่มให้จำหน่ายในลักษณะการนำกลับไปบริโภคที่อื่นได้เท่านั้น

Read More

แมคโดนัลด์ส่งแคมเปญแทนคำขอบคุณจากใจ มอบกาแฟฟรี แก่บุคลากรทางการแพทย์ทั่วประเทศ

ท่ามกลางสถานการณ์ยากลำบากที่ทั่วโลกต้องเผชิญกับวิกฤตโควิด-19 นี้ บุคลากรทางการแพทย์คือบุคคลสำคัญที่เสียสละทุ่มเททำงานอย่างหนัก เพื่อดูแลรักษาผู้ป่วยอย่างไม่มีวันหยุด บริษัท แมคไทย จำกัด ผู้นำธุรกิจอาหารบริการด่วน ภายใต้แบรนด์ แมคโดนัลด์ ในประเทศไทย ขอร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการส่งกำลังใจ เติมพลังแรงกาย ภายใต้แคมเปญ ‘แทนคำขอบคุณจากใจแมคโดนัลด์ เพื่อบุคลากรทางการแพทย์’ มอบกาแฟฟรี ให้แก่ฮีโร่ทุกท่าน ที่ร้านแมคโดนัลด์ทุกสาขาทั่วประเทศ จำนวน 20,000 แก้ว รวมมูลค่ากว่า 1.1 ล้านบาท นายธันยเชษฐ์ เอกเวชวิท กรรมการผู้จัดการ บริษัท แมคไทย จำกัด กล่าวว่า “แมคโดนัลด์ต้องการขอบคุณบุคลากรแนวหน้าในการรับมือกับการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในครั้งนี้ ซึ่งไม่จำกัดเพียงแต่คุณหมอ คุณพยาบาล ในโรงพยาบาลของภาครัฐ และเอกชนเท่านั้น แต่ยังรวมถึงอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) และเจ้าหน้าที่โรงพยาบาล ส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) ด้วยเช่นกัน” บุคลากรทางการแพทย์ทุกท่าน สามารถมาชาร์จพลัง เติมความสดชื่นกับกาแฟหอมกรุ่นได้ทุกเวลา เพียงแสดงบัตรประจำตัวพนักงาน รับฟรี! กาแฟลองแบล็คร้อน ขนาด 8

Read More