Home > โควิด-19

รับมือข่าวลวง! สังคมออนไลน์ทำคนลังเลฉีดวัคซีน เร่งเสริมความรู้ ป้องกันภัยข้อมูลเท็จ

โควิด-19 ทำให้เกิดข่าวลวงและข้อมูลที่บิดเบือนมากที่สุดเป็นประวัติการณ์ โดยเฉพาะเรื่องวัคซีน ทำให้คนลังเลในการรับวัคซีน เกิดอัตราการฉีดวัคซีนต่ำ ส่งผลให้โรคที่สามารถป้องกันได้กลับมาระบาด แพทย์และผู้เชี่ยวชาญด้านการสื่อสารแนะนำให้หน่วยงานสาธารณสุขเร่งจัดการข้อมูลบิดเบือน เสริมสร้างความเข้าใจที่ถูกต้อง พร้อมฟื้นฟูความเชื่อมั่นของประชาชนอย่างเร่งด่วน ในการประชุมวิชาการวัคซีนแห่งชาติ ครั้งที่ 11 ภายใต้แนวคิด “วัคซีนภายใต้บริบทโลกไร้พรมแดน” ของสถาบันวัคซีนแห่งชาติ ได้มีการจัดเสวนา หัวข้อ “ข้อมูลบิดเบือนบนสังคมออนไลน์ ส่งผลต่อการตัดสินใจรับวัคซีนอย่างไร” โดยได้เชิญผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์ สื่อสารมวลชน และอินฟลูเอนเซอร์ด้านสุขภาพ มาร่วมอภิปรายถึงสถานการณ์การรับข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับวัคซีนในสังคมไทย ซึ่งปัจจุบันประชาชนสามารถเข้าถึงข้อมูลผ่านแพลตฟอร์มที่หลากหลาย เพื่อหาแนวทางการจัดการหรือการให้ข้อมูลเกี่ยวกับการรับวัคซีนที่ถูกต้องแก่ประชาชน นายพีรพล อนุตรโสตถิ์ ผู้จัดการศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์ บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงที่มาของความเข้าใจผิดและการรับข่าวสารข้อมูลที่บิดเบือนเกี่ยวกับวัคซีนที่ปรากฏตามสื่อและโซเชียลมีเดียต่างๆ ว่า “ก่อนที่จะเกิดโรคระบาดครั้งใหญ่อย่างโควิด-19 ขึ้น ข้อมูลข่าวสารที่มีการบิดเบือนมักเป็นประเด็นสังคม เช่น ความเชื่อด้านการเมืองหรือศาสนา จนกระทั่งเกิดสถานการณ์โควิด-19 ขึ้นทั่วโลก ทำให้เราพบว่า โควิด-19 ทำให้เกิดข่าวลวงและข้อมูลที่บิดเบือนมากที่สุดเป็นประวัติการณ์ โดยเฉพาะข้อมูลข่าวสารด้านสุขภาพและวัคซีน คำว่าบิดเบือนก็คือ การทำให้สิ่งที่เป็นจริงกลายเป็นเรื่องผิดและทำให้คนมองผิดจุด ซึ่งหลักการในการสร้างข้อมูลเท็จและข่าวลวงหรือ fake news ที่ทำให้ผู้รับสารปฏิเสธหลักการทางวิทยาศาสตร์ ด้วยการสร้างผู้เชี่ยวชาญปลอมขึ้น

Read More

นักวิจัยไทยโชว์เก๋า พัฒนาสเปรย์พ่นจมูกแอนติบอดีหยุดเชื้อโควิด-19

ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2565 เป็นต้นไป กระทรวงสาธารณสุขประกาศให้ยกเลิกโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 จากโรคติดต่ออันตราย และกำหนดให้เป็นโรคติดต่อที่ต้องเฝ้าระวัง เนื่องจากสถานการณ์การระบาดทั่วโลกมีแนวโน้มจำนวนผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรงและอัตราการเสียชีวิตลดลง การแพร่ระบาดและความรุนแรงของโรคในต่างประเทศมีแนวโน้มลดลง ประกอบกับจำนวนวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ในประเทศมีเพียงพอกับความต้องการ ขณะที่ประชาชนได้รับวัคซีนในระดับความครอบคลุมสูง มีภูมิคุ้มกันโรคเพิ่มขึ้น ในห้วงเวลาที่โลกตกอยู่ภายใต้สถานการณ์การระบาดของโรคอุบัติใหม่ เหล่านักวิจัย นักวิทยาศาสตร์ ต่างระดมสรรพกำลัง ระดมสมองคิดค้นวิจัย พัฒนาวัคซีน ยา เพื่อมาช่วยป้องกันมนุษย์ให้รอดพ้นจากเชื้อไวรัสโควิด-19 นักวิจัยไทยไม่ได้นิ่งนอนใจ ซุ่มพัฒนานวัตกรรมที่จะมาสู้กับเชื้อไวรัสโควิดเช่นเดียวกัน ล่าสุดเมื่อวันที่ 26 กันยายน ที่ผ่านมา 5 ภาคีรัฐ-เอกชน แถลงข่าวเพื่อประกาศความสำเร็จให้ทั่วโลกได้รับรู้ โดย 5 ภาคีเครือข่ายประกอบด้วย คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยศิลปากร สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข (สวรส.) องค์การเภสัชกรรม และบริษัท ไฮไบโอไซ จำกัด (บริษัทย่อยของ บมจ. โรจูคิส อินเตอร์เนชั่นแนล) ร่วมมือพัฒนานวัตกรรมจนสามารถผลักดันงานวิจัยและพัฒนาจนเป็นผลิตภัณฑ์ “สเปรย์พ่นจมูกที่เป็นเกราะป้องกันทางกายภาพที่ช่วยดักจับและยับยั้งอย่างจำเพาะต่อเชื้อโควิด-19 ที่บริเวณโพรงจมูก ภายใต้แบรนด์

Read More

เปิดมุมมองใหม่กับนวัตกรรมการรักษาโควิด-19

สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่อยู่กับเรามากว่า 2 ปี และกลายพันธุ์อย่างรวดเร็วจนตามแทบไม่ทัน ทำให้หลายๆ ฝ่ายทั้งบุคลากรทางการแพทย์ ประชาชน และองค์กรต่างๆ ต้องเร่งปรับตัวเพื่อรับมือกับสิ่งที่เกิดขึ้น ทั้งแนวทางการรักษาและมุมมองโควิด-19 ต่อการปรับตัวสู่ชีวิตวิถีใหม่ ที่ผ่านมามีการจัดประชุมและเสวนาในเวทีต่างๆ ในประเด็นที่เกี่ยวเนื่องกับการแพร่ระบาดของโควิด-19 มาอย่างต่อเนื่อง รวมถึงงานเสวนาล่าสุดที่จัดขึ้นเมื่อต้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมาในหัวข้อ “เปิดมุมมองใหม่กับนวัตกรรมการรักษาโควิด-19” เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและข้อมูลเชิงลึกตลอดจนภาพรวมของการรับมือกับโควิด-19 ศาสตราจารย์ แพทย์หญิงศศิโสภิณ เกียรติบูรณกุล หัวหน้าสาขาวิชาโรคติดเชื้อ ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล แพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ในการทำการศึกษาวิจัยทางคลินิกและการดูแลรักษาผู้ป่วยโควิด-19 เป็นเวลากว่า 2 ปี เปิดเผยว่า สิ่งที่ท้าทายที่สุดสำหรับบุคลากรทางการแพทย์ คือการต้องทำให้ทุกอย่างเป็นไปได้แม้เป็นเรื่องที่ไม่เคยทำได้มาก่อน รวมทั้งต้องหาข้อมูลใหม่ๆ เพื่อรับมือกับสถานการณ์ให้ได้อย่างทันท่วงที “วัคซีน” และ “ยา” เพื่อป้องกันและรักษาคืออาวุธที่สำคัญ ศ.พญ.ศศิโสภิณ เน้นย้ำว่า ประเด็นสำคัญที่ต้องจับตามองคือ “การกลายพันธุ์ของเชื้อไวรัส” เพราะภายในระยะเวลา 2 ปี โลกต้องต้องเผชิญหน้ากับไวรัสที่กลายพันธุ์ไปถึง 5 สายพันธุ์ ทั้งอัลฟา เบตา แกมมา เดลตา จนมาถึงโอมิครอน เพราะฉะนั้นการมีวัคซีนเพื่อเป็นอาวุธในการต่อสู้กับการกลายพันธุ์ของไวรัสจึงเป็นสิ่งที่สำคัญเป็นอย่างมาก

Read More

ไอเคคร๊าฟพลิกวิกฤตสู่โอกาส สร้างนวัตกรรมเส้นใยฆ่าเชื้อไวรัส

หน้ากากอนามัย หน้ากากผ้า กลายเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการดำรงชีวิตของมนุษย์ในช่วงเวลาที่มีการระบาดของโรคโควิด-19 เพราะสามารถช่วยป้องกันการติดเชื้อ และการแพร่เชื้อในระยะต้นได้เป็นอย่างดี แม้ว่าเปอร์เซ็นต์การปกป้องจะไม่เต็มร้อยเปอร์เซ็นต์ก็ตาม โดยเฉพาะหน้ากากผ้า ที่ทางการแพทย์มักจะแนะนำว่า ผู้ใช้หน้ากากผ้าเพียงอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอต่อการป้องกันการติดเชื้อ จึงจำเป็นที่จะต้องใช้ควบคู่ไปกับหน้ากากอนามัยด้วย วิกฤตของโรคโควิด-19 ก่อให้เกิดการสร้างนวัตกรรมใหม่ๆ ที่เป็นโอกาสครั้งสำคัญให้แก่บริษัท ไอเคคร๊าฟท์ จำกัด ในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านการผลิตสิ่งทอคุณภาพสูง ดร.กฤษณา สุขบุญญสถิตย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไอเคคร๊าฟท์ จำกัด กล่าวว่า “เราประสบความสำเร็จและมีประสบการณ์มาอย่างยาวนานกว่า 30 ปี ในธุรกิจพรมทอมือและผลิตภัณฑ์สิ่งทอของบริษัทแม่ อย่างบริษัท คาร์เปท เมกเกอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในกลุ่มบริษัท อินเตอร์ไกร ที่มุ่งเน้นในเรื่องการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์คุณภาพชีวิต และตอบสนองความต้องการของลูกค้าให้ดีขึ้นด้วยนวัตกรรมที่ทันสมัย และมีทีมวิจัยของตัวเอง ทำให้เกิดความชำนาญในตลาดผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ มุ่งมั่นพัฒนานวัตกรรมสิ่งทอ เพื่อสร้างสรรค์สุขภาพ ความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นให้กับชีวิต และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน คือวิสัยทัศน์ของเรา” และในช่วงโควิด บริษัทแม่อย่าง คาร์เปท เมกเกอร์ ได้รับผลกระทบไม่ต่างจากผู้ประกอบการธุรกิจรายอื่นๆ ช่วงเวลานั้นผู้ประกอบการที่อยู่ในธุรกิจผ้าส่วนใหญ่จะหันมาตัดเย็บหน้ากากผ้า ทั้งเพื่อแจกจ่ายให้แก่บุคลากรภายในองค์กร ลูกค้า หรือประชาชนทั่วไป เพื่อลดค่าใช้จ่ายในการครองชีพที่มาจากการซื้อหน้ากากอนามัยเป็นประจำ ทว่า

Read More

“น้อนบู้บี้ช่วยพี่หมอ” ส่งต่อ PPE 2,000 ชุด ให้บุคลากรด่านหน้าสู้ภัยโควิด-19

ซันโทรี่ เป๊ปซี่โค ประเทศไทย ชูความสำเร็จของโครงการ “น้อนบู้บี้ช่วยพี่หมอ” ส่งต่อ PPE 2,000 ชุด ให้บุคลากรด่านหน้าสู้ภัยโควิด-19 บริษัท ซันโทรี่ เป๊ปซี่โค เบเวอเรจ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายเครื่องดื่มภายใต้แบรนด์สินค้าของซันโทรี่และเป๊ปซี่โคในประเทศไทย เดินหน้าอย่างต่อเนื่องสนับสนุนการทำงานของบุคลากรทางการแพทย์ ที่ต้องเผชิญกับวิกฤตโควิด-19 ผ่านโครงการ “น้อนบู้บี้ช่วยพี่หมอ ภารกิจแยกขวดช่วยหมอ แปลงร่าง ขวด PET เป็นชุด PPE Level 2” โดยจับมือพันธมิตรเครือข่ายสังคมลดขยะ “Less Plastic Thailand” สามารถเก็บรวบรวมขวด PET ใช้แล้ว ได้ทั้งสิ้นกว่า 38,000 ขวด แปลงเป็นชุด PPE (Personal Protection Equipment) Level 2[1] จำนวน 2,000 ชุด ส่งต่อให้กับทีมแพทย์ พยาบาล

Read More

ท่องเที่ยว-โรงแรม สะดุด ดิ้นปลดล็อกขยายแซนด์บ็อกซ์

4 มกราคมนี้ธุรกิจท่องเที่ยวและโรงแรมต้องลุ้นอีกครั้งว่า รัฐบาลจะตัดสินใจปลดล็อกมาตรการคุมเข้มการระบาดของสายพันธุ์โอมิครอนตามมติของศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) ที่ให้ระงับการลงทะเบียนผู้เดินทางเข้าราชอาณาจักรประเภท Test & Go และแซนด์บ็อกซ์ (Sandbox) เป็นการชั่วคราว หรือไม่ ทั้งหมดขึ้นอยู่กับยอดผู้ติดเชื้อโควิดสายพันธุ์ใหม่ “โอมิครอน” จะพุ่งพรวดตามที่หลายฝ่ายหวั่นวิตกหรือไม่ เนื่องจากจังหวะเวลาไม่ต่างจากช่วงวันหยุดเทศกาลสงกรานต์ปี 2564 หากไม่มีการคุมเข้มตามมาตรการ Covid Free Setting กรณีเปิดสถานประกอบการในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวดมาตรการปลอดภัยสำหรับองค์กร รวมถึงมาตรการ Universal Prevention หรือการป้องกันการติดเชื้อแบบครอบจักรวาลขั้นสูงสุดตลอดเวลาของทุกคน การวมตัวกันเฉลิมฉลองเทศกาลปีใหม่อาจหมายถึงโอกาสเกิดสถานการณ์ซ้ำรอยการระบาดหนักในช่วงปีที่ผ่านมา ทั้งนี้ กระทรวงสาธารณสุขระบุว่า สถานการณ์โควิด-19 มาถึงทางแยกอีกครั้ง เพราะมีโอมิครอนเข้ามา ซึ่งมีการคาดการณ์ฉากทัศน์ 3 แบบ แบบที่ 1 รุนแรงที่สุด อัตราการแพร่เชื้อเพิ่มขึ้นจากการระบาดโอมิครอนในประเทศ มีการฉีดวัคซีนได้ใกล้เคียงกับช่วงเดือนพฤศจิกายน-ธันวาคม แต่ประชาชนให้ความร่วมมือน้อย หรือไม่ให้ความร่วมมือ ไม่มีการป้องกัน ไม่มีมาตรการมาก จะเกิดการระบาดและควบคุมยาก ต้องใช้เวลา 3-4 เดือนควบคุมโรคได้ จะมีผู้ติดเชื้อเฉลี่ย 30,000 รายต่อวัน เสียชีวิต 170-180 คนต่อวัน แบบที่

Read More

สสส. ปรับทัพสู้โควิด พร้อมใช้เทคโนโลยีดิจิทัลช่วยสื่อสาร ล่าสุดหนุนจัดงานไทยแลนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล เฮลท์ เอ็กซ์โป 2022

สสส. ปรับทัพสู้โควิด-19 เน้นงานเชิงรุกมุ่งเสริมพลังแก่องค์กรและชุมชน พร้อมใช้เทคโนโลยีดิจิทัลช่วยสื่อสาร-ให้ความรู้ ล่าสุดหนุนจัดงานไทยแลนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล เฮลท์ เอ็กซ์โป 2022 สร้างการเรียนรู้ ความเข้าใจในการสร้างเสริมสุขภาพผ่าน สุขภาวะทุกมิติ ดร.สุปรีดา อดุลยานนท์ ผู้จัดการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กล่าวถึงแนวทางการดำเนินงานในช่วงวิกฤตโควิด-19 ว่า สสส. ได้มีการปรับแนวทางทำงานโดยมุ่งเสริมพลังให้แก่ทั้งองค์กรและชุมชน โดยร่วมกับภาคีเครือข่ายในการดำเนินงาน 3 ด้านสำคัญ คือ การทำงานร่วมกับหน่วยงานในระบบสุขภาพ ผลักดันนโยบายและมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดสู่การปฏิบัติจริง การทำงานร่วมกับชุมชน โดยให้มีส่วนร่วมเฝ้าระวัง ดูแล และฟื้นฟูสุขภาพของคนในชุมชนจัดตั้ง Home Isolation และการพัฒนาระบบการสื่อสารสุขภาพ ให้มีรูปแบบที่เข้าถึงง่าย เหมาะกับทุกกลุ่มเป้าหมาย พร้อมทั้งพัฒนาสื่อรณรงค์ภายใต้โครงการ “ชีวิตวิถีใหม่ ชีวิตดีเริ่มที่เรา” เช่น หนังสือคู่มือชีวิตวิถีใหม่ ชีวิตดีเริ่มที่เรา โปสเตอร์ตลาด วัด บ้าน พร้อมร่วมพัฒนากลไกและองค์ความรู้ เพิ่มความรอบรู้ด้านสุขภาพ ผ่านช่องทางเฟซบุ๊กแฟนเพจ “ไทยรู้สู้โควิด” และแอปพลิเคชัน “หมอพร้อม” ซึ่งในยุคที่เทคโนโลยีหรือนวัตกรรมใหม่ๆ เข้ามามีบทบาทมากขึ้นจนส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตและสังคมมากขึ้น

Read More

เมื่อโควิดทำให้เราโหยหาการเดินทาง

“อยากไปนั่งชิลล์ริมทะเล” “อยากไปเดินป่า” “คิดถึงภูเขา” “เปิดประเทศเมื่อไหร่จะไปญี่ปุ่น” (และนานาประเทศ) รวมถึงการโพสต์ภาพท่องเที่ยวแล้วตบท้ายด้วยคำว่า “เที่ยวทิพย์” และอีกหลากหลายประโยคบนโซเชียลมีเดียที่บ่งบอกถึงการโหยหาการท่องเที่ยว ในยุคที่โควิด-19 ทำให้การเดินทางท่องเที่ยวไม่สามารถทำได้ดั่งใจหวัง เป็นเวลากว่า 2 ปี ที่เราต้องเผชิญกับการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่เป็นภัยพิบัติของทั้งโลก การเดินทางไปมาหาสู่ระหว่างกันถูกระงับเพื่อป้องกันการแพร่ระบาด ไม่ต้องพูดถึงการเดินทางท่องเที่ยว แม้แต่การเดินทางกลับไปเยี่ยมบ้านที่ต่างจังหวัดยังเป็นไปได้ยาก หลายคนต้องกักตัวอยู่ในบ้าน ลดการเดินทาง กิจกรรมที่เคยทำไม่สามารถทำได้ บางคน work from home มาหลายระลอกตั้งแต่การระบาดรอบแรกเมื่อปีที่แล้ว ไม่ได้ออกไปไหนไกล ไม่ได้ไปเที่ยว ต้องอยู่แต่ในบ้าน และยิ่งแล้วใหญ่เมื่อผนวกกับไลฟ์สไตล์คนยุคใหม่ที่นิยมอยู่คอนโดมิเนียม กลายเป็นโดนจำกัดให้อยู่ในห้องสี่เหลี่ยมไปเสียอย่างนั้น ทำให้หลายคนเกิดความรู้สึกเครียด กังวล เบื่อหน่าย และไร้พลัง จนโหยหาการเดินทางท่องเที่ยวเพื่อมาเยียวยาหัวใจและคลายความเครียด การท่องเที่ยวเป็นกิจกรรมที่สร้างความเพลิดเพลิน ผ่อนคลาย เพิ่มความสุข และช่วยให้เราสามารถหลีกหนีจากความเครียดในชีวิตได้ แต่ไม่เพียงเท่านั้น ในทางจิตวิทยาการท่องเที่ยวยังช่วยเสริมประสิทธิภาพการทำงานของสมอง ช่วยพัฒนากระบวนการคิด ส่งผลดีต่อทั้งสุขภาพกายและสุขภาพใจ การท่องเที่ยวส่งผลดีต่อหัวใจ การท่องเที่ยวไม่ว่าจะเป็นเที่ยวชมเมืองหรือชมวิวธรรมชาติ ทำให้เราได้เดิน ได้ทำกิจกรรมอื่นๆ ที่ต้องออกแรง เป็นการได้ออกกำลังกายไปในตัว ซึ่งส่งผลดีต่อสุขภาพของหัวใจและสุขภาพโดยรวม เพิ่มสารแห่งความสุขและเติมเต็มรอยยิ้มให้กับชีวิต เพราะการท่องเที่ยวคือความสนุก ยามที่เราได้ออกไปเที่ยว เพลิดเพลินกับการทำกิจกรรมใหม่ๆ พบเจอวิวทิวทัศน์ที่สวยงาม แม้กระทั่งได้กินอาหารอร่อยๆ ร่างกายจะหลั่งสารเอ็นโดรฟิน หรือสารแห่งความสุขออกมา ทำให้เราผ่อนคลายสบายใจ และแน่นอนว่ารอยยิ้มย่อมเกิดขึ้นได้อย่างแน่นอน และยิ่งยิ้มมากเท่าไรชีวิตก็สดใสมากขึ้นเท่านั้น ช่วยเพิ่มประสิทธิผลการทำงาน ความเหนื่อยล้าจากการทำงานเป็นสิ่งที่ประสบพบเจอได้เป็นประจำ

Read More

“กองทุนมิตรผล-บ้านปูฯ” เพิ่มงบช่วยไทยอีก 500 ล้านบาท รวมเป็น 1 พันล้านบาท

“กองทุนมิตรผล-บ้านปูฯ” เพิ่มงบช่วยไทยอีก 500 ล้านบาท รวมเป็น 1 พันล้านบาท แจง 7 หมวดหมู่ความช่วยเหลือ เคียงข้างคนไทยก้าวผ่านวิกฤติ ภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในประเทศไทย ที่ยังคงส่งผลกระทบเป็นวงกว้างกับทุกภาคส่วน ไม่ว่ากับผู้ประกอบการ สังคม ชุมชน และประชาชนทั่วไป ‘กองทุนมิตรผล-บ้านปู รวมใจช่วยไทย สู้ภัย COVID-19’ เล็งเห็นถึงความเดือดร้อนที่เกิดขึ้น จึงมุ่งเดินหน้าสานต่อภารกิจเคียงข้างคนไทย ฝ่าวิกฤติโควิด-19 โดยเพิ่มงบประมาณอีก 500 ล้านบาท รวมทั้งสิ้นเป็น 1,000 ล้านบาท พร้อมกลยุทธ์ 7 หมวดหมู่ของการส่งมอบความช่วยเหลือ โดยส่วนหลักจะมุ่งเน้นไปที่การช่วยเหลือภาคประชาชนที่ได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจ ทั้งในเรื่องชีวิตความเป็นอยู่และสุขภาวะ อีกส่วนหนึ่งจัดสรรไว้สำหรับการช่วยเหลือด้านสาธารณสุขในการสนับสนุนอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่จำเป็นเพื่อป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 จนกว่าสถานการณ์ในประเทศจะกลับสู่ภาวะปกติอีกครั้ง ในงานแถลงข่าวออนไลน์ “มิตรผล-บ้านปู เคียงข้างคนไทย เติมพลังใจก้าวผ่านวิกฤติ” กลุ่มมิตรผลและบริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) ยืนยันเจตนารมณ์ของ “กองทุนมิตรผล-บ้านปู รวมใจช่วยไทย สู้ภัย COVID-19” ที่จะสานต่อภารกิจเคียงข้างคนไทย

Read More

41 CEO จับมือร่วมแคมเปญประวัติศาสตร์ “รวมพลังลดใหญ่ พาไทยฝ่าวิกฤต” ส่งสินค้ากว่า 400 รายการ ลดราคาสูงสุดกว่า 60% ลดค่าครองชีพจากผลกระทบโควิด-19

โลตัส จับมือพันธมิตรคู่ค้า 40 บริษัทผู้ผลิตสินค้าแบรนด์ดังและธุรกิจชั้นนำในประเทศ ส่งแคมเปญประวัติศาสตร์ “รวมพลังลดใหญ่ พาไทยฝ่าวิกฤต” ช่วยบรรเทาผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 ลดราคาสินค้าครั้งใหญ่ที่สุดแห่งปี 2021 ตอกย้ำความร่วมมือและความมุ่งมั่นของทุกแบรนด์ในการช่วยลดภาระค่าครองชีพประชาชน อีกทั้งร่วมกันมอบเงินบริจาคสนับสนุนบุคลากรด่านหน้าและผู้ป่วยโควิด-19 นายสมพงษ์ รุ่งนิรัติศัย ประธานคณะผู้บริหาร ธุรกิจโลตัส ประเทศไทย กล่าวว่า “ผลกระทบทางด้านเศรษฐกิจจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในประเทศไทยส่งผลให้ลูกค้าและประชาชนต้องรัดเข็มขัดเนื่องจากครอบครัวมีรายได้ลดลง ที่ผ่านมาโลตัสก็ได้ช่วยเหลือลูกค้าในการประหยัดค่าครองชีพโดยมีการทำโปรโมชั่นและลดราคาสินค้าที่จำเป็นต่อการดำรงชีพมาโดยตลอด วันนี้เรามีความยินดีที่ได้ผนึกกำลังกับคู่ค้าของเราจาก 40 บริษัทชั้นนำของประเทศไทย ทั้งผู้ผลิตสินค้าแบรนด์ดัง ร้านอาหารและร้านค้าในพื้นที่ศูนย์การค้า ในแคมเปญที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งปี “รวมพลังลดใหญ่ พาไทยฝ่าวิกฤต” ลดราคาสินค้าอุปโภคบริโภคครอบคลุมทุกหมวดหมู่ ทั้งอาหารสด อาหารแห้ง เครื่องใช้ไฟฟ้า ของใช้ในบ้าน เสื้อผ้า กว่า 400 รายการ เพื่อช่วยคนไทยประหยัดค่าครองชีพ ความร่วมมือในครั้งนี้แสดงออกถึงความมุ่งมั่นและตั้งใจของทั้ง 41 บริษัท ในการร่วมแรงร่วมใจกันเพื่อช่วยพี่น้องประชาชนให้ผ่านวิกฤตครั้งนี้ไปได้ด้วยกัน นอกจากโปรโมชั่นและการลดราคาสินค้าแล้ว แคมเปญ “รวมพลังลดใหญ่ พาไทยฝ่าวิกฤต” ยังรวมพลังโลตัสและพันธมิตรมอบเงินบริจาคให้กับมูลนิธิที่สนับสนุนบุคลากรด่านหน้าและผู้ป่วยโควิด-19 อีกด้วย” CEO ของทั้ง 41

Read More