Home > 2019 (Page 9)

ชุมชนมีวนา มีคน มีป่า มีกิน เพื่อชีวิตที่ยั่งยืน

ปี พ.ศ. 2504 ประเทศไทยมีพื้นที่ป่าไม้ 171.2 ล้านไร่ จากพื้นที่ประเทศไทยทั้งสิ้น 321 ล้านไร่ แต่ชั่วระยะเวลาเพียง 50 ปี พื้นที่ป่าไม้ถูกทำลายไปมากกว่า 98 ล้านไร่ ซึ่งการสูญเสียพื้นที่ป่าไม้ที่เกิดขึ้นนั้น นอกจากการลักลอบตัดไม้ทำลายป่าที่ยังคงปรากฏเป็นข่าวให้เห็นอยู่บ่อยครั้ง สาเหตุส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากความต้องการพื้นที่ในการทำเกษตรกรรมของชาวบ้านด้วยเช่นกัน ความต้องการพื้นที่ทำกินของเกษตรกรเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดการรุกล้ำพื้นที่ป่าและนำไปสู่ปัญหาความขัดแย้งระหว่างชุมชนกับหน่วยงานภาครัฐที่ทำหน้าที่พิทักษ์ป่า ซึ่งไม่เพียงทำให้พื้นที่ป่าไม้ลดลงจนส่งผลต่อระบบนิเวศ เกิดภัยพิบัติทางธรรมชาติที่รุนแรงเท่านั้น แต่วิถีการเกษตรที่ใช้สารเคมีดังที่เป็นอยู่ในปัจจุบันยังส่งผลกระทบต่อธรรมชาติโดยรวม เกิดการปนเปื้อนของสารเคมีในแหล่งน้ำ ส่งผลต่อมนุษย์และสิ่งมีชีวิตอย่างยากที่จะหลีกเลี่ยง ปัจจุบันปัญหาการลดจำนวนลงของพื้นที่ป่า ตลอดจนการใช้สารเคมีในแวดวงการเกษตรที่ส่งผลต่อธรรมชาติเริ่มเป็นที่ตระหนักรู้ของสังคมมากขึ้น ประชาชน ภาครัฐ รวมถึงภาคเอกชนต่างเล็งเห็นความสำคัญและพยายามหาทางแก้ไขปัญหาดังกล่าว “โครงการกาแฟอินทรีย์รักษาป่า” หรือที่รู้จักในชื่อ “กาแฟมีวนา” คือหนึ่งในความเคลื่อนไหวภาคเอกชนที่ไม่เพียงเห็นความสำคัญของการอนุรักษ์และฟื้นฟูป่าเท่านั้น แต่ยังต้องการส่งเสริมความเป็นอยู่ของเกษตรกรให้อยู่ดีกินดีอย่างยั่งยืนอีกด้วย ปี พ.ศ. 2553 มูลนิธิสายใยแผ่นดินได้เริ่มโครงการกาแฟอินทรีย์รักษาป่าขึ้นที่ป่าต้นน้ำแม่ลาว จังหวัดเชียงราย ซึ่งนับเป็นจุดเริ่มต้นหนึ่งของภาคเอกชนที่เล็งเห็นความสำคัญของการอนุรักษ์ฟื้นฟูป่าและปัญหาสิ่งแวดล้อม ป่าต้นน้ำแม่ลาวถือเป็นป่าที่มีความอุดมสมบูรณ์มากที่สุดของจังหวัดเชียงราย วิถีดั้งเดิมของชาวบ้านคือการปลูกชาทำเมี่ยงเพื่อเลี้ยงชีพ แต่เมื่อการเกษตรแบบใหม่ที่นิยมใช้สารเคมีเข้ามา บวกกับความต้องการของตลาดทำให้ชาวบ้านหันมาปลูกเสาวรสซึ่งเป็นไม้เลื้อยและต้องการแสงในการเจริญเติบโตสูง ชาวบ้านต้องตัดไม้ทำลายป่าเพื่อเปิดพื้นที่รับแสง อีกทั้งการปลูกเสาวรสยังต้องใช้สารเคมีอย่างมากในการดูแลรักษาให้ปลอดโรคและแมลง ทำให้ป่าต้นน้ำแม่ลาวอยู่ในภาวะที่น่าเป็นห่วง มูลนิธิสายใยแผ่นดินพยายามศึกษาเพื่อหาทางแก้ไข พบว่า “กาแฟ” เป็นพืชเศรษฐกิจที่สามารถสร้างรายได้ให้กับชาวบ้าน และสามารถปลูกอยู่ร่วมกับป่าได้โดยไม่ต้องตัดไม้ทำลายป่า เพราะกาแฟเป็นพืชที่ต้องการร่มเงาสูง เติบโตได้ดีในพื้นที่ใต้ร่มไม้ จึงได้ริเริ่มโครงการกาแฟอินทรีย์รักษาป่าขึ้นที่ป่าต้นน้ำแม่ลาว เป็นอันดับแรก

Read More

‘โค้ก’ ส่งแคมเปญชวนผู้บริโภค “เปลี่ยนมื้อธรรมดา เป็นช่วงเวลาพิเศษ” ร่วมฉลองช่วงเวลาของความสุขผ่านมื้ออาหาร

‘โค้ก’ ส่งแคมเปญชวนผู้บริโภค “เปลี่ยนมื้อธรรมดา เป็นช่วงเวลาพิเศษ” ร่วมฉลองช่วงเวลาของความสุขผ่านมื้ออาหาร กับกิจกรรมการตลาดเน้นสร้างประสบการณ์ครบ 360 องศา เครื่องดื่ม ‘โค้ก’ โดยกลุ่มธุรกิจโคคา-โคล่า ในประเทศไทย ส่งแคมเปญ ‘เปลี่ยนมื้อธรรมดา เป็นช่วงเวลาพิเศษ’  ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการฉลองช่วงเวลาของความสุขระหว่างมื้ออาหาร จับอินไซต์ ‘เรื่องกินเรื่องใหญ่’ ชูความผูกพันระหว่างวัฒนธรรมอาหารกับคนไทยพร้อมเป็นสื่อกลางในการร่วมสร้างช่วงเวลาดีๆ ระหว่างมื้ออาหารกับเพื่อน ครอบครัว หรือคนที่รัก เตรียมสื่อสารและสร้างเอนเกจเม้นต์กับผู้บริโภคผ่านทางกิจกรรมทางการตลาดสุดยิ่งใหญ่ครบ 360 องศา เต็มรูปแบบทั้งออฟไลน์และออนไลน์ รวมถึงอีเวนต์สุดพิเศษที่ ‘โค้ก’ เตรียมชูความพิเศษของอาหารสตรีทฟู้ดของไทย มาเป็นความภาคภูมิใจในการสร้างความความเชื่อต่อความสัมพันธ์บนโต๊ะอาหารที่ยาวที่สุดในโลก ท้าทายสถิติจากกินเนสส์ เวิลด์ เร็คคอร์ด (Guinness Book of World Record) ไปจนถึงเทศกาลดนตรีสุดยิ่งใหญ่ใจกลางกรุงเทพฯ ‘Coca-Cola Presents Siam Music Festival 2019’ สิ้นปีนี้ นางสาวมัณฑนา หล่อไกรเลิศ ผู้อำนวยการการตลาด บริษัท โคคา-โคล่า (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า

Read More

ถอดรหัสผลกระทบและการเปลี่ยนแปลงของภาคอุตสาหกรรมไอทีในระดับประเทศ จากเมกะเทรนด์ “ดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชั่น” และ “สมาร์ทซิตี้”

“ดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชั่น” และ “สมาร์ทซิตี้” คือกระแสระดับเมกะเทรนด์ที่ทั่วโลกต้องเผชิญอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ และเราก็กำลังก้าวเข้าสู่โลกอันชาญฉลาดที่ทุกสิ่งเชื่อมต่อกันอย่างสมบูรณ์ด้วยเทคโนโลยีไอซีที ทั้งภาครัฐและเอกชนจึงต้องปรับตัวมาใช้เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้กับระบบการทำงานในองค์กร พัฒนาเศรษฐกิจ และพัฒนาคุณภาพงานอย่างต่อเนื่อง แต่อะไรคือความหมายที่แท้จริงของดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชั่นและสมาร์ทซิตี้ เมกะเทรนด์เหล่านี้จะส่งผลต่อสังคมอย่างไร และที่สำคัญที่สุดคือประเทศไทยมีความพร้อมแค่ไหนกับเมกะเทรนด์ดังกล่าว นายเอ็ดวิน เดียนเดอร์ หัวหน้าคณะผู้บริหารฝ่ายดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชั่น และรองประธานธุรกิจภาครัฐกลุ่มธุรกิจเอ็นเตอร์ไพรส์ บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี่ ได้ให้ข้อมูลไว้ในโอกาสที่มาร่วมเวทีงาน Digital Thailand Big Bang 2019 ในหัวข้อ “องค์ความรู้อันก้าวหน้า – รากฐานของโลกดิจิทัล” เพื่อถอดรหัสว่าภาพรวมของอุตสาหกรรมไอซีทีของไทยและของโลกจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไรในอนาคตอันใกล้นี้ อะไรคือ “ดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชั่น” ดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชั่นไม่ใช่แพลตฟอร์มไอที แต่คือเมกะเทรนด์ที่เป็นแนวคิด เป็นไอเดียที่จะช่วยให้องค์กร รัฐบาล หรือแม้แต่ประเทศยกระดับมูลค่าทางเศรษฐกิจให้กับตัวเองได้ หากมองภาพรวมของอุตสาหกรรมต่างๆ ในปัจจุบันนี้ เราจะเห็นว่ามีองค์กรจำนวนไม่น้อยที่แรกเริ่มไม่ได้มาจากธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับด้านดิจิทัล แต่ผันตัวเองมาเป็นบริษัทด้านดิจิทัลในภายหลัง ตัวอย่างที่ชัดเจนก็คือ บริษัทหัวเว่ยที่หลังจากการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัล บริษัทมีบุคลากรเพิ่มขึ้นมากกว่า 16,000 คนภายในเวลาไม่ถึง 5 ปี ซึ่งเรื่องนี้จะเกิดขึ้นไม่ได้เลยหากบริษัทไม่ตอบรับกับเทรนด์ดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชั่น ข้อมูลจากไอดีซีระบุว่า การลงทุนด้านดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชั่นทั่วโลกจะมีมูลค่ากว่า 2 ล้านล้านดอลลาร์ ภายในปี 2563

Read More

โอกาสและการเติบโต ธุรกิจกาแฟในไทย

เมล็ดกาแฟที่ผ่านการคั่วด้วยความร้อน ส่งกลิ่นโชยกรุ่น ปล่อยสารเคมีที่ชื่อว่า “กาเฟอีน” ปลุกผู้คนให้ตื่นจากภวังค์และการหลับใหลได้เป็นอย่างดี การบริโภคกาแฟของคนไทยไม่ใช่เพียงเพื่อใช้คุณสมบัติจากเครื่องดื่มชนิดนี้ เพื่อปลุกให้ตื่นจากความง่วงงุนยามเช้าหรือยามบ่ายเท่านั้น ทว่า กาแฟยังเป็นเครื่องดื่มที่บ่งบอกรสนิยมและความชอบของผู้บริโภคได้ชัดเจน และตัวเลขที่บอกว่า คนไทยบริโภคกาแฟประมาณ 300 แก้วต่อคนต่อปี หรือราว 0.5-1 กิโลกรัม ต่อคนต่อปี น่าจะทำให้เข้าใจอัตราการขยายตัวและเติบโตของธุรกิจกาแฟในไทยได้สูงถึง 15-30 เปอร์เซ็นต์ แม้ว่าตลาดการบริโภคกาแฟในไทยจะมีตัวเลขสูงขึ้นทุกๆ ปี แต่แท้จริงแล้วคนไทยยังมีการบริโภคกาแฟน้อยกว่าประเทศอื่นๆ เมื่อเปรียบเทียบกับประเทศอื่น อย่างสหรัฐอเมริกา ยุโรป ญี่ปุ่น ฯลฯ ถึงจะชัดเจนเรื่องปริมาณการบริโภคกาแฟของคนไทยที่ยังอยู่ในเกณฑ์ที่ไม่สูงนัก แต่ด้วยมูลค่าธุรกิจร้านกาแฟในไทยนับตั้งแต่ปี 2560 ที่มีมูลค่าสูงถึง 2.12 หมื่นล้านบาท และสูงขึ้นอีกในปี 2561 ที่ 2.34 หมื่นล้านบาท สำหรับปี 2562 ที่มีการคาดการณ์กันว่ามูลค่าธุรกิจร้านกาแฟอาจสูงถึง 2.58 หมื่นล้านบาท (ข้อมูลจากศูนย์อัจฉริยะ เพื่ออุตสาหกรรมอาหาร) แต่กลับมีผู้เล่นทั้งหน้าเก่า หน้าใหม่ พร้อมกระโจนเข้าร่วมแย่งชิงส่วนแบ่งทางการตลาดอย่างต่อเนื่อง ด้วยมูลค่าตลาดกาแฟที่สูงถึงหมื่นล้านบาท อาจจะเป็นสาเหตุให้นักลงทุนหันมาจับธุรกิจนี้มากขึ้น ส่งผลให้แบรนด์กาแฟทั้งจากต่างประเทศและโลคอลแบรนด์ ตบเท้าเข้ามาในตลาด และมีร้านกาแฟ หรือคาเฟ่กระจายตัวอยู่ทั่วทุกมุมของเมือง

Read More

บจธ. เร่งจัดตั้งธนาคารที่ดิน เพิ่มโอกาส ลดความเหลื่อมล้ำ

ที่ดินเป็นทรัพยากรที่มีอยู่อย่างจำกัดและมีบทบาทสำคัญ ทั้งเป็นปัจจัยการผลิตและศูนย์รวมของความเป็นครอบครัวและชุมชน การขาดแคลนที่ดินทำกินและไม่สามารถเข้าถึงที่ดินอันเกิดจากการกระจุกตัวในการถือครองที่ดินจึงสร้างความเหลื่อมล้ำและปัญหาให้เกิดขึ้นในสังคม โดยเฉพาะอย่างยิ่งความเหลื่อมล้ำในการถือครองที่ดินของภาคการเกษตรอันเป็นรากฐานของประเทศไทย ประเทศไทยมีเนื้อที่ประมาณ 321 ล้านไร่ แบ่งเป็นพื้นที่ทำการเกษตร 102.5 ล้านไร่ จากจำนวนประชากรทั้งหมดของประเทศ มีผู้ถือครองที่ดินเพียง 15 ล้านราย โดยที่ 20% แรกของกลุ่มผู้ร่ำรวยที่ดินเหล่านั้น ถือครองที่ดินรวมกันเกือบ 80% ของโฉนดที่ดินทั้งประเทศ บางรายครอบครองที่ดินมากถึง 600,000 ไร่ ขณะที่คนส่วนใหญ่อีก 80% ถือครองที่ดินรวมกันเพียง 20% เท่านั้น ปัญหาขาดแคลนที่ดินทำกินและโอกาสในการเข้าถึงที่ดิน ส่วนหนึ่งเกิดจากการกระจุกตัวของการถือครองและปัญหาการเก็งกำไรที่ดิน ทำให้ที่ดินถูกทิ้งร้างและไม่ได้ใช้ประโยชน์อย่างเต็มที่ สูญเสียพื้นที่ที่เหมาะสมสำหรับการทำการเกษตร เกษตรกรจำนวนไม่น้อยไม่มีที่ดินทำกินเป็นของตนเอง บางรายต้องเช่าที่ดินจากนายทุน บางรายมีที่ดินเป็นกรรมสิทธิ์อยู่เพียงเล็กน้อย เมื่อประสบกับปัญหาผลผลิตและนโยบายภาคการเกษตรที่ล้มเหลว ผลผลิตล้นตลาด ราคาตก ก่อให้เกิดภาวะหนี้สิน นำมาซึ่งการสูญเสียที่ดินทำกินในที่สุด เกษตรกรส่วนหนึ่งจำต้องละทิ้งถิ่นฐานและอาชีพเดิม เพื่อเข้ามาหางานทำในเมืองหลวงอย่างกรุงเทพมหานคร ชาวนาชาวไร่ที่ประสบปัญหาต่างเรียกร้องให้รัฐบาลผู้มีบทบาทหน้าที่โดยตรงเข้ามาดำเนินการแก้ไขปัญหาดังกล่าว ถือเป็นปัญหาสำคัญ เร่งด่วน และเป็นโจทย์หินของทุกรัฐบาล ที่ผ่านมาภาครัฐพยายามหาหนทางแก้ไข โดยผ่านกระบวนการจัดสรรที่ดินทำกินให้กับเกษตรกรรายย่อยและผู้ยากไร้ ปรับปรุงกฎหมายเกี่ยวกับที่ดิน ทั้งรูปแบบการให้เอกสารสิทธิ์ในการถือครองที่ดินแบบพิเศษ การให้สิทธิ์ในการใช้ที่ดินแบบมีเงื่อนไข การให้เช่าซื้อหรือผ่อนส่งระยะยาว ให้สิทธิ์เช่าที่ดินในราคาถูก โดยการนำที่ดินของรัฐบาล ที่สาธารณประโยชน์

Read More

“ไอคอนสยาม” ฉลองครบรอบ 1 ปีแห่งความสำเร็จในฐานะ Game Changer Destination

“ไอคอนสยาม” แลนด์มาร์คที่ได้รับการยกย่องระดับโลก ฉลองครบรอบ 1 ปีแห่งความสำเร็จในฐานะ Game Changer Destination จุดประกายแม่น้ำเจ้าพระยาและฝั่งธนบุรี ด้วยพลังของการร่วมมือครั้งยิ่งใหญ่ของทุกภาคส่วนที่ส่งมอบความรุ่งเรืองไปทั่วประเทศ ‘ไอคอนสยาม’ อภิมหาโครงการเมืองแห่งการใช้ชีวิตสู่โลกอนาคต สัญลักษณ์แห่งความรุ่งโรจน์ของไทยริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาประกาศความสำเร็จ 1 ปีในฐานะผู้พลิกเกมธุรกิจครั้งยิ่งใหญ่ที่ได้รับการยกย่องในระดับโลก โดยนางชฎาทิพ จูตระกูล กรรมการ บริษัท ไอคอนสยาม จำกัด และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด ซึ่งเป็นหนึ่งในพันธมิตรเจ้าของไอคอนสยาม กล่าวว่า “ไอคอนสยามมีความภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่งที่ได้ทำภารกิจสำคัญตามวิสัยทัศน์ที่ประกาศไว้เมื่อ 7 ปีก่อนทั้งหมดได้สำเร็จลุล่วงแล้วทุกประการ เราได้พิสูจน์แล้วว่าไอคอนสยามเป็น Game Changer Destination ที่สามารถสร้างศูนย์กลางธุรกิจและการท่องเที่ยวกลางเมืองของกรุงเทพฯ อยู่ที่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาและฝั่งธนบุรีได้สำเร็จ สร้างความเจริญรุ่งเรืองกระจายไปสู่บรรดาชุมชนและธุรกิจที่รายล้อมได้อย่างมาก รวมทั้งเป็นปัจจัยสำคัญที่พัฒนาธนบุรีให้ผงาดขึ้นเป็นมหานครอย่างรวดเร็ว” นางชฎาทิพ กล่าวเพิ่มเติมว่า “ไอคอนสยามได้รับการยอมรับว่ามีส่วนสำคัญในการช่วยกระตุ้นภาคการท่องเที่ยว ในฐานะเป็นแม่เหล็กของการท่องเที่ยวแห่งใหม่ที่ทรงพลัง เป็น Global Destination ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกและจากทั่วประเทศไทยให้เดินทางมาเยี่ยมชม จากการที่ไอคอนสยามลงทุนทำการเปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่และได้ทำการตลาดแพร่กระจายไปทั่วโลก ทำให้ไอคอนสยามกลายเป็นจุดหมายปลายทางที่พลาดไม่ได้ของนักท่องเที่ยว นอกจากนั้นไอคอนสยามยังถูกยกให้เป็นต้นแบบโครงการค้าปลีกที่บุกเบิกแนวความคิดที่แปลกใหม่ของการพัฒนาโครงการที่ตอบโจทย์อนาคตที่สามารถรวบรวมศิลปะ ประเพณีท้องถิ่น นวัตกรรม สถาปัตยกรรมระดับโลก

Read More

POUCHNATION จับมือไทยทิคเก็ตเมเจอร์ เอาใจคนไทยสายอีเว้นต์ ตอบรับเทรนกระแสไร้เงินสด

PouchNATION ผู้ให้บริการเทคโนโลยี และระบบการชำระเงินแบบไร้เงินสดในงานอีเวนต์ ร่วมกับไทยทิคเก็ตเมเจอร์ บริษัทผู้จำหน่ายตั๋วกิจกรรม คอนเสิร์ต ชั้นนำของประเทศไทย ผลักดันสังคมไร้เงินสดเพื่อขานรับนโยบายไทยแลนด์ 4.0 PouchNATION ผู้ให้บริการซอฟแวร์การชำระเงินแบบไร้เงินสดชั้นนำของเอเชีย และเจ้าของแพลตฟอร์มเทคโนโลยี ให้บริการในงานอีเวนต์ต่างๆ มาแล้วทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ร่วมมือกับไทยทิคเก็ตเมเจอร์ (ThaiTicketMajor) บริษัทจำหน่ายบัตรกิจกรรมอันดับหนึ่งของประเทศไทย นำโซลูชั่นของการชำระเงินแบบไร้เงินสดมาสนับสนุนกิจกรรมการแสดงต่างๆ ของอีเว้นต์โปรโมเตอร์ทั่วประเทศไทย มร. คูน แวน จีน ผู้อำนวยการบริษัท PouchNATION ประจำประเทศไทย กล่าวว่า PouchNATION สนับสนุนไทยทิคเก็ตเมเจอร์ด้วยการนำแพลตฟอร์มเทคโนโลยีซึ่งใช้งานผ่านสายรัดข้อมือที่มีเทคโนโลยี NFC โดยผู้ร่วมงานสามารถเติมเงินล่วงหน้าก่อนวันงาน เพื่อนำไปซื้อสินค้า อาหาร เครื่องดื่ม รวมถึงสินค้าอื่นๆ ภายในงาน ยิ่งไปกว่านั้นระบบของ PouchNATION เป็นระบบที่มีประสิทธิภาพมาก การทำธุรกรรมทางการเงินทั้งหมดสามารถทำได้ผ่านระบบออฟไลน์ ด้วยอุปกรณ์มีสักษณะคล้ายโทรโทรศัพท์มือถือ เหมาะสำหรับสถานที่ที่มีคนหนาแน่น ในพื้นที่ที่ห่างไกลและไม่มีสัญญาณอินเทอร์เน็ต นายคมกริช ศิริรัตน์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทยทิคเก็ตเมเจอร์ จำกัด กล่าวว่า เรารู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมมือและเชื่อมต่อเข้ากับแพลตฟอร์มเทคโนโลยีของ PouchNATION เพราะไทยทิคเก็ตเมเจอร์ให้ความสำคัญมากกับการพัฒนานวัตกรรมต่างๆ

Read More

เจียไต๋ หารือพ่อเมืองศรีสะเกษ ลุยโครงการพริกปลอดภัย

เจียไต๋ ตอกย้ำพันธกิจในการยกระดับความเป็นอยู่ของพี่น้องเกษตรกรไทยผ่านการส่งเสริมอาชีพเพาะปลูกให้มีความมั่นคงและยั่งยืน นายมนัส เจียรวนนท์ ประธานคณะผู้บริหาร บริษัท เจียไต๋ จำกัด พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร ได้เข้าพบนายวัฒนา พุฒิชาติ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ เพื่อแสดงความยินดีในโอกาสเข้ารับตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษคนใหม่ พร้อมหารือแนวทางในการส่งเสริมการปลูกพริกปลอดภัย ผ่านนโยบายเกษตรแปลงใหญ่ในจังหวัดศรีสะเกษ และได้บริจาคเมล็ดพันธุ์คุณภาพเจียไต๋กว่า 3.5 ตัน เพื่อส่งเสริมอาชีพการเพาะปลูกให้กับเกษตรกรในจังหวัดศรีสะเกษ เจียไต๋ได้ริเริ่มโครงการพริกปลอดภัยขึ้น ที่จังหวัดศรีสะเกษ โดยมีวัตถุประสงค์ในการนำเทคโนโลยีเพื่อการเกษตรต่างๆ เช่น การวางระบบให้น้ำ การวิเคราะห์ข้อมูลสภาพดินและสภาพอากาศ ตลอดจนการส่งนวัตกรผู้มีความเชี่ยวชาญการเกษตร หรือ Chia Tai Agronomist ลงพื้นที่ทำงานร่วมกับเกษตรกร เพื่อผลักดันให้เกิดการทำเกษตรกรรมในรูปแบบ “เกษตรแปลงใหญ่” ซึ่งจะก่อให้เกิดการเชื่อมโยงข้อมูลห่วงโซ่อุปทาน (Supply Chain) ที่สามารถนำมาต่อยอดในกำหนดนโยบายการตลาดได้อย่างครบวงจร และเพื่อส่งเสริมการปลูกพริกให้ได้ทั้งคุณภาพและปริมาณ ทั้งยังช่วยให้เกษตรกรสามารถควบคุมต้นทุนการผลิต เพิ่มรายได้ให้มากขึ้น ในขณะเดียวกัน ก็ผลักดันให้เกิดผลผลิตที่ได้รับการรับรองตามแนวทางการปฏิบัติทางการเกษตรที่ดี (Good Agricultural Practices: GAPs) เพื่อให้ผู้บริโภคสามารถมั่นใจในการบริโภคพริกที่ปลอดภัย ในราคาสมเหตุสมผล ซึ่งในอนาคตผู้บริโภคจะสามารถตรวจสอบย้อนกลับไปถึงแหล่งที่มาของผลิตผลได้อีกด้วย นายมนัส เจียรวนนท์ ประธานคณะผู้บริหาร บริษัท

Read More

การขริบอวัยวะเพศหญิงที่เพิ่มจำนวนขึ้นในทุกปี

Column: Women in Wonderland การขริบอวัยวะเพศหญิง (Female Genital Mutilation หรือเรียกสั้นๆ ว่า FGM) เป็นขนบที่สืบต่อกันมาเป็นเวลานาน เกิดขึ้นในหลายประเทศในทวีป แอฟริกา ตะวันออกกลาง และเอเชีย ยกตัวอย่างเช่น คองโก โซมาเลีย แทนซาเนีย เคนยา อินเดีย อินโดนีเซีย มาเลเซีย ศรีลังกา ปากีสถาน อิรัก อิหร่าน โอมาน เยเมน ปาเลสไตน์ และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เป็นต้น จากการประเมินขององค์การสหประชาชาติเมื่อต้นปี ค.ศ. 2019 พบว่า มีผู้หญิงและเด็กประมาณ 200 ล้านคน หรือ 1 ใน 20 ของผู้หญิงและเด็กจากทั่วโลกตกเป็นเหยื่อการขริบอวัยวะเพศหญิง องค์การอนามัยโลกแบ่งรูปแบบการขริบอวัยวะเพศออกเป็น 4 ประเภท 1. การตัดปุ่มคลิตอริส 2. การตัดปุ่มคลิตอริสและแคมเล็ก 3. การตัดทั้งแคมใหญ่และแคมเล็ก แล้วเย็บปิดอวัยวะเพศให้เหลือเพียงช่องเล็กๆ เท่านั้น 4.

Read More

สกสว.จับมือกระทรวงพาณิชย์ ดันงานวิจัยข้าม‘หุบเหวมรณะ’

สกสว.พร้อมจับมือ สนค. กระทรวงพาณิชย์ เป็นสะพานเชื่อมงานวิจัยก้าวข้ามหุบเหวมรณะไปสู่การใช้ประโยชน์เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจภาพรวมของประเทศและสร้างความสามารถในการแข่งขันในตลาดโลก โดยภาครัฐจะต้องช่วยออกแบบงานวิจัยตั้งแต่ต้นทาง โครงการกิจกรรมการเชื่อมโยงงานวิจัยภาคนโยบาย ฝ่ายบริหาร ภายใต้ภารกิจส่งเสริมการนำผลงานวิจัยและนวัตกรรมไปใช้ประโยชน์ สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม (สกสว.) ร่วมกับสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า กระทรวงพาณิชย์ (สนค.) จัดการสัมมนาเชิงปฏิบัติการการเชื่อมโยงการวิจัยและนโยบายสู่เชิงพาณิชย์ เพื่อส่งผ่านงานวิจัยไปสู่ฝ่ายนโยบายอย่างเป็นรูปธรรม ณ ห้องประชุม สกสว. โดยนำเสนองานวิจัยที่มีศักยภาพโดดเด่นและสามารถนำไปประยุกติ์ใช้ในเชิงพาณิชย์ตั้งแต่ระดับนโยบายไปจนถึงการนำไปใช้โดยภาคเอกชน ซึ่งจะเป็นประโยชน์ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจภาพรวมของประเทศ อีกทั้งนำความรู้ไปพัฒนาศักยภาพของผู้ประกอบการและผู้ผลิตเพื่อเสริมความสามารถในการแข่งขันในตลาดโลก น.ส.พิมพ์ชนก วอนขอพร ผู้อำนวยการ สนค. กล่าวถึงเศรษฐกิจไทย-เศรษฐกิจโลกภายใต้พลวัตว่าการค้าและเศรษฐกิจมีการเปลี่ยนแปลงหลายด้าน ประเทศกำลังพัฒนามีความสำคัญมากขึ้น โดยเฉพาะทางฝั่งเอเชียที่อยู่ท่ามกลางศักยภาพทางเศรษฐกิจและสงครามการค้าโลก เราต้องยืดหยัดได้ด้วยตัวเอง ปัจจุบัน สนค.ได้ตกผลึกมาระยะหนึ่งแล้วว่าแนวโน้มหลักในอนาคตจะประกอบด้วย (1) การเปลี่ยนขั้วทางเศรษฐกิจและการเมืองของประเทศต่าง ๆ ที่จะส่งผลกระทบต่อประเทศไทย (2) แนวโน้มนวัตกรรม ซึ่งเป็นทั้งโอกาสและความท้าทาย ได้แก่ ABCDE (AI, Blockchain, Cloud, Data, E-business) รวมถึง IoT และ E-commerce (3) โครงสร้างสังคมเมืองโดยเฉพาะการเปลี่ยนแปลงทางประชากรศาสตร์ สังคมสูงวัย และการเปลี่ยนแปลงสังคมเมือง

Read More