Home > Vanida Toonpirom (Page 7)

ปมขัดแย้ง “ณุศาศิริ” ความท้าทายระลอกใหม่

นี่อาจเป็นการเริ่มต้นปีที่ไม่ค่อยผ่อนคลายนักสำหรับบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่อย่าง “ณุศาศิริ” ที่กำลังเผชิญความท้าทายระลอกใหม่จากปมขัดแย้งของสองกลุ่มผู้บริหารที่ส่อแววมาตั้งแต่ปลายปี 2566 ข่าวคราวความขัดแย้งของสองกลุ่มผู้บริหาร บริษัท ณุศาศิริ จำกัด (มหาชน) หรือ NUSA อย่างนายวิษณุ เทพเจริญ ผู้ก่อตั้งณุศาศิริ และยังเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่มาแต่เดิม กับ นายประเดช กิตติอิสรานนท์ ผู้บริหารจากบริษัทพลังงานรายใหญ่ “วิน เอ็นเนอร์ยี่ โฮลดิ้ง” หรือ WEH ที่เพิ่งเข้ามาถือหุ้นใหญ่ของณุศาศิริเมื่อไม่นานมานี้ ส่อเค้าความขัดแย้งในการบริหารณุศาศิริจนเป็นข่าวดังบนหน้าสื่อและวงการหุ้นในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา ในประเด็นที่นายประเดช กิตติอิสรานนท์ นำทีม 6 กรรมการ เป็นโจทก์ยื่นฟ้องบริษัท ณุศาศิริ จำกัด (มหาชน) และกรรมการอีก 7 คนของบริษัทฯ ที่นำโดย “วิษณุ เทพเจริญ” ในการที่สนับสนุนให้ผู้บริหารเทขายทรัพย์สินบริษัทล็อตใหญ่ 6 รายการ มูลค่ากว่า 1.1 หมื่นล้านบาท หรือเกือบ 70% ของทรัพย์สินทั้งหมด โดยไม่มีอำนาจและแผนรองรับที่ชัดเจน

Read More

MR. D.I.Y. ค้าปลีกจากกัวลาลัมเปอร์ กับเป้า 1,000 สาขา ทั่วเมืองไทย

เผลอแป๊บเดียว ร้านค้าปลีกสินค้าตกแต่งและซ่อมแซมบ้านจากกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย ที่มาพร้อมกับคำว่า “Always Low Prices” อย่าง MR. D.I.Y. ก็เข้ามาบุกตลาดในเมืองไทยครบ 7 ปีไปหมาดๆ และยังขยายสาขาอย่างรวดเร็วจนทะลุ 700 สาขาเป็นที่เรียบร้อย และที่สำคัญยังตั้งเป้าเปิดให้ครบ 1,000 สาขาภายในปี 2568 อีกด้วย เส้นทางการเติบโตของ MR. D.I.Y. เป็นอย่างไร และอะไรคือเคล็ดลับความสำเร็จของแบรนด์ค้าปลีกสัญชาติมาเลเซียแบรนด์นี้ MR. D.I.Y. (มิสเตอร์. ดี.ไอ.วาย.) ถือกำเนิดขึ้นครั้งแรกในกรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย เมื่อปี 2548 โดยผู้ก่อตั้งอย่าง Mr. Tan Yu Yeh ที่ต้องการแก้เพนพอยต์ของผู้คนในมาเลเซียที่ต้องการซ่อมแซมบ้านด้วยตัวเอง แต่กว่าจะซ่อมบ้านได้แต่ละครั้งต้องเสียเวลาทั้งวันในการตระเวนหาซื้ออุปกรณ์ที่ต้องการจากหลายๆ ร้าน เพราะยังไม่มีร้านที่รวบรวมอุปกรณ์ต่างๆ มาไว้ในที่เดียวกัน นั่นทำให้ Tan Yu Yeh ตัดสินใจเปิดร้าน MR. D.I.Y.

Read More

ถอดรหัสความสำเร็จ BIODERMA ตำนานคลีนซิ่งฝาชมพู กับการปักหมุดในไทย

ถ้าพูดถึง BIODERMA Sensibio H2O (ไบโอเดอร์มา เซ็นซิบิโอ เอชทูโอ) เชื่อว่าต้องเป็นที่รู้จักของใครหลายๆ คน โดยเฉพาะสาวๆ ที่ชอบการแต่งหน้า ด้วยความเป็นผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวคุณภาพดี หรือคลีนซิ่งฝาสีชมพูในตำนาน ที่ครองใจผู้ใช้ชาวไทยมามากกว่า 10 ปี นับตั้งแต่ยุคที่ต้องหิ้วมาจากต่างประเทศเพราะยังไม่มีขายในไทย กระทั่งผู้ผลิตอย่าง NAOS GROUP ตัดสินใจปักหมุดบุกตลาดไทยจริงจังเมื่อ 7 ปีก่อน ภายใต้บริษัท นาโอส (ประเทศไทย) จำกัด (NAOS) NAOS GROUP (นาโอส) บริษัทผลิตภัณฑ์ดูแลผิวสัญชาติฝรั่งเศส ที่ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2520 โดย ฌอง โนเอล โทเรล (Jean-Noël Thorel) เภสัชกรและผู้เชี่ยวชาญด้านชีววิทยาชาวฝรั่งเศส ปัจจุบันมีแบรนด์ที่พัฒนาภายใต้บริษัททั้งสิ้น 3 แบรนด์ ได้แก่ BIODERMA, INSTITUT ESTHEDERM และ

Read More

อัปเดตความคืบหน้า Dusit Central Park โปรเจกต์ยักษ์ บนสุดยอดทำเลทอง

บนถนนพระราม 4 กำลังมีการก่อสร้าง 2 โครงการอสังหาริมทรัพย์ขนาดใหญ่จาก 2 ค่ายยักษ์ ที่ขับเคี่ยวกันมาอย่างดุเดือดและเป็นที่จับตาของแวดวงอสังหาริมทรัพย์ของไทย โครงการแรก “วัน แบงค็อก” (One Bangkok) ภายใต้การดำเนินงานของบริษัท วัน แบงค็อก โฮลดิ้งส์ จำกัด ซึ่งเป็นการร่วมทุนระหว่างบริษัท ทีซีซี แอสเซ็ทส์ (ประเทศไทย) จำกัด และบริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ โฮลดิ้งส์ (ประเทศไทย) ซึ่งเป็นกลุ่มบริษัทของ “เจริญ สิริวัฒนภักดี” “วัน แบงค็อก” เป็นโครงการพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชยกรรมแบบผสม (Mixed-Use) ขนาดใหญ่ตั้งอยู่บนพื้นที่ 104 ไร่ บนถนนพระราม 4 และถนนวิทยุ เดิมเคยเป็นที่ตั้งของโรงเรียนเตรียมทหาร สนามมวยเวทีลุมพินี และสวนลุมไนท์บาซาร์  ซึ่งเป็นพื้นที่ของสำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ ตัวโครงการใช้เงินลงทุนสูงถึง 120,000 ล้านบาท พื้นที่อาคารรวม 1.83 ล้าน ตร.ม.

Read More

Coty ยักษ์ใหญ่ด้านความงามโลก ได้เวลาจัดทัพบุกตลาดเมืองไทย

เชื่อว่าถ้าเอ่ยชื่อของแบรนด์น้ำหอมอย่าง Gucci, Burberry, Chloé, HUGO BOSS, Marc Jacobs ไปจนถึง Calvin Klein ย่อมเป็นที่รู้จักกันดีของใครหลายๆ คน แต่ส่วนใหญ่อาจจะไม่รู้ว่าน้ำหอมแบรนด์ดังเหล่านี้ล้วนอยู่ภายใต้บริษัทด้านความงามยักษ์ใหญ่ของโลกที่อยู่มานานกว่า 120 ปี อย่าง “Coty” ทั้งสิ้น และที่น่าสนใจมากไปกว่านั้น คือ ยักษ์ใหญ่รายนี้กำลังจัดทัพปรับขบวนเพื่อเข้ามาบุกตลาดความงามเมืองไทยอย่างเต็มตัว ด้วยการเปิดสำนักงานและแต่งตั้งผู้นำคนใหม่ที่มาพร้อมกลยุทธ์สร้างการเติบโต เพื่อชิงส่วนแบ่งการตลาดความงามและน้ำหอมที่เติบโตไม่หยุด Coty (โคตี้) ถือเป็นบริษัทด้านความงามที่อยู่ในทอป 5 ของโลก ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 2447 ณ ปารีส ประเทศฝรั่งเศส โดยเริ่มจากการเป็นผู้ผลิตน้ำหอม และถือเป็นเจ้าแรกที่เริ่มทำน้ำหอมในตลาดแมส เพราะก่อนหน้านั้นน้ำหอมคือสินค้าสำหรับชนชั้นสูงเท่านั้น ซึ่งจุดเปลี่ยนสำคัญคือการเปิดตัวน้ำหอม Calvin Klein ในปี 2537 ที่ทำให้ Coty นิยามตัวเองว่าเป็น Mass Fragrance หรือผู้ที่ทำให้น้ำหอมเป็นสิ่งที่ทุกคนสามารถเข้าถึงได้ แม้จะเริ่มจากการผลิตน้ำหอม แต่ปัจจุบัน Coty ได้พัฒนาผลิตภัณฑ์จนครอบคลุมทั้งน้ำหอม เครื่องสำอาง

Read More

MITH – PROAD – PRANN การเดินทางของน้ำหอมแบรนด์ไทย

ถ้าพูดถึง “น้ำหอม” แน่นอนว่าย่อมเป็นที่ชื่นชอบของใครหลายๆ คน ถึงขนาดที่ว่า ถ้าวันไหนไม่ได้ฉีดน้ำหอมเหมือนมันขาดอะไรไปสักอย่าง นั่นทำให้ตลาดน้ำหอมเป็นอีกหนึ่งตลาดที่คึกคักและน่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว ทั้งแบรนด์ชั้นนำระดับโลกที่ต่างพัฒนากลิ่นใหม่ๆ ออกสู่ตลาดกันอย่างต่อเนื่อง รวมไปถึงน้ำหอมแบรนด์ไทยที่ในระยะหลังมานี้มีหลากหลายแบรนด์และพัฒนาคุณภาพจนกล้าท้าชนกับโกลบอลแบรนด์ “ผู้จัดการ 360 องศา” มีโอกาสได้คุยกับ “จุติณัฏฐ์ ปิยวีรวงศ์” เจ้าของแบรนด์  MITH น้ำหอมแบรนด์ไทยที่อยู่ในตลาดมานานกว่า 8 ปี ด้วยน้ำหอมกว่าร้อยกลิ่น อีกทั้งยังพัฒนาแตกแบรนด์เพิ่มเติมจากน้ำหอมระดับแมสสู่น้ำหอมระดับพรีเมียมที่มีคุณภาพไม่แพ้แบรนด์ชั้นนำ “จุดเริ่มต้นก็เหมือนหลายๆ แบรนด์ คือเริ่มจาก passion เอาสิ่งที่ตัวเองรักมาต่อยอดเป็นธุรกิจ ผมเป็นคนที่หลงรักน้ำหอมมาก ตอนแรกก็ใช้แบรนด์ต่างประเทศทั่วไปที่ราคามันก็ค่อนข้างสูง เราก็พยายามหาว่าแบรนด์ไทยมีใครบ้างที่ทำได้ระดับนั้น ซึ่งมันก็ยังไม่เจอ เลยตัดสินใจลุยธุรกิจนี้ อีกอย่างผมมองว่ามันน่าจะไปได้ เพราะขนาดตลาดใหญ่มากเราสามารถไปแชร์มาได้ และแนวโน้มการเติบโตในธุรกิจนี้มีสูง เพราะน้ำหอมมันแทรกซึมอยู่กับทุกคน” จุติณัฏฐ์เล่าถึงจุดเริ่มต้นในการเข้าสู่ธุรกิจน้ำหอม โดยการเปิดตัวน้ำหอมแบรนด์ MITH ขึ้นเป็นครั้งแรกเมื่อ 8 ปีก่อน ถ้าย้อนไป ณ จุดเริ่มต้นในการทำธุรกิจ จุติณัฏฐ์บอกกับเราว่า มันคือ “การดับเครื่องชน” เพราะเขาเริ่มต้นในการทำธุรกิจด้วยต้นทุนจากทุกสิ่งที่มี ทั้งการใช้เงินเก็บจากการเป็นนักออกแบบตกแต่งภายในมาหลายปี อีกทั้งทรัพย์สินที่มีอยู่ก็ถูกนำไปเข้าธนาคารเพื่อนำเงินมาเป็นต้นทุนในการทำน้ำหอมเช่นกัน “ดับเครื่องชนจริงๆ เรียกว่าทุบหม้อข้าวเพื่อมาทำแบรนด์น้ำหอมขายเลยทีเดียว

Read More

สหฟาร์ม (เตรียม) come back ทวงบัลลังก์เบอร์ 1 ผู้ส่งออกไก่สด

หลังเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูกิจการมานานกว่า 7 ปี ในที่สุด “สหฟาร์ม” ผู้ผลิตและส่งออกไก่เนื้อรายใหญ่ ได้กลับคืนสู่ตระกูล “โชติเทวัญ” อีกครั้ง เมื่อศาลล้มละลายกลางมีคำสั่ง “ยกเลิก” การฟื้นฟูกิจการตั้งแต่วันที่ 18 สิงหาคม 2565 ที่ผ่านมา ซึ่งการกลับมาครั้งนี้นอกจากจะเป็นการกลับเข้ามาบริหารสหฟาร์มอีกครั้งของโชติเทวัญแล้ว ยังเป็นการกลับมาเพื่อทวงบัลลังก์ของผู้ส่งออกไก่สดของไทย ผ่านแผนธุรกิจและการลงทุนใหม่ๆ ในรอบ 7 ปีอีกด้วย ดร.ปัญญา โชติเทวัญ เริ่มก่อตั้งบริษัท สหฟาร์ม จำกัด ขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2512 ด้วยเงินลงทุนเพียง 5,000 บาท จากการเลี้ยงไก่สัปดาห์ละ 500 ตัว โดยพื้นเพของเขาเป็นชาวอำเภอวิเศษไชยชาญ จังหวัดอ่างทาง สําเร็จการศึกษาวิชาเสนารักษ์ จากกรมการแพทย์ทหารเรือ เมื่อปี พ.ศ. 2494 ภายหลังจบการศึกษาเขาเข้ารับราชการตำแหน่งพยาบาลในกองทัพเรือถึง 11 ปี (ตั้งแต่ปี 2495-2506) จากนั้นรับราชการในตำแหน่งพนักงานสุขาภิบาลกรุงเทพมหานคร เป็นเวลา 12

Read More

น้ำผึ้ง-จารุวรรณ โชติเทวัญ ทายาทสหฟาร์มกับการพลิกฟื้นธุรกิจ

“ตั้งแต่เด็ก เวลาที่ใครๆ ถามว่าโตขึ้นมาอยากเป็นอะไร ทุกคนก็จะมีความคิดเป็นของตัวเอง แต่น้ำผึ้งไม่เคยโดนคำถามแบบนั้นเลย แต่เราโตมากับคำพูดที่ว่า โตขึ้นมาน้ำผึ้งต้องมาทำงานช่วยสหฟาร์ม มันเลยเป็นจุดเริ่มต้นว่าเวลาที่เราเรียน เราต้องเลือกเรียนในสิ่งที่มันเกี่ยวข้องกับการทำงานของสหฟาร์ม เหมือนเราโตมาเพื่อสหฟาร์ม” น้ำผึ้ง-จารุวรรณ โชติเทวัญ ทายาทหมื่นล้านของสหฟาร์ม กล่าวกับ “ผู้จัดการ 360 องศา” ในวันที่สหฟาร์มกลับคืนสู่ครอบครัว “โชติเทวัญ” อีกครั้ง หลังอยู่ภายใต้แผนฟื้นฟูกิจการมานานกว่า 7 ปี  จารุวรรณ โชติเทวัญ หรือ “น้ำผึ้ง” เป็นลูกสาวคนเดียวท่ามกลางพี่ชายและน้องชายทั้ง 4 คนของ ดร.ปัญญา โชติเทวัญ กับ ดร.มนูญศรี โชติเทวัญ เจ้าของธุรกิจหมื่นล้านแห่งสหฟาร์ม ที่ประกอบธุรกิจผู้ผลิตและส่งออกไก่รายใหญ่ของประเทศ และเจ้าของอาณาจักร “บ้านสุขาวดี” แลนด์มาร์กและแหล่งท่องเที่ยวสุดอลังการของ จ.ชลบุรี ที่สร้างบนเนื้อที่กว่า 80 ไร่ น้ำผึ้งใช้เวลาเกือบ 10 ปี ในการศึกษาที่ประเทศอังกฤษตั้งแต่ระดับมัธยมจนถึงปริญญาโท โดยเริ่มที่ Trent College

Read More

“ขันเงิน เนื้อนวล” เราจะเป็นสปริงบอร์ดของธุรกิจบันเทิง

เดือนพฤษภาคมที่ผ่านมามีข่าวใหญ่ในแวดวงธุรกิจและวงการบันเทิง เมื่อบริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป จำกัด (มหาชน) หรือ Major แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยว่า “ขันเงิน เนื้อนวล” หรือที่รู้จักกันดีในชื่อ “ขัน ไทยเทเนี่ยม” ศิลปินและผู้ก่อตั้ง ‘ไทยเทเนี่ยม’ วงดนตรีแนว Hip Hop ได้เข้าซื้อหุ้นของบริษัท เอ็ม พิคเจอร์ส เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จํากัด (มหาชน) (“MPIC”) ที่เมเจอร์ถือไว้ โดยขันเงินเข้าซื้อหุ้นเป็นจำนวน 1,202,130,480 หุ้น คิดเป็น 92.46% ของจำนวนหุ้นทั้งหมด มูลค่าหุ้นละ 0.54 บาท และใช้เม็ดเงินถึง 650 ล้านบาท ส่งผลให้ขันเงินขึ้นแท่นผู้ถือหุ้นใหญ่ของเอ็ม พิคเจอร์ส เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ ในทันที หลังจากนั้นปลายเดือนกันยายนขันเงินออกมาเคลื่อนไหวอีกครั้ง ด้วยการประกาศรีแบรนด์จากบริษัท เอ็ม พิคเจอร์ส เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จํากัด (มหาชน)

Read More

ความสามารถในการแข่งขันของไทย ผ่านมุมมองของ “ธีรนันท์ ศรีหงส์” แห่ง TMA

เป็นประจำทุกปีที่สถาบัน IMD (International Institute for Management Development) แห่งประเทศสวิตเซอร์แลนด์ จะออกมาเผยผลการจัดอันดับความสามารถในการแข่งขันของโลก (World Competitiveness Ranking) ซึ่งผลการจัดอันดับประจำปี 2566 พบว่า เดนมาร์กยังคงได้รับการจัดอันดับเป็นเขตเศรษฐกิจที่มีขีดความสามารถในการแข่งขันสูงที่สุดในบรรดา 64 เขตเศรษฐกิจทั่วโลก ต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน ในขณะที่ประเทศไทยอยู่ที่อันดับ 30 ปรับดีขึ้น 3 อันดับจากอันดับที่ 33 ในปีที่แล้ว โดยมีผลคะแนนสุทธิดีขึ้นจาก 68.67 มาอยู่ที่ 74.54 ในปีนี้ ในขณะที่สิงคโปร์ยืนหนึ่งในภูมิภาคอาเซียน ด้วยอันดับที่ 4 ตามมาด้วยมาเลเซียในอันดับที่ 27 ปรับขึ้นมา 5 อันดับ ส่วนอินโดนีเซียอยู่ในอันดับที่ 34 ปรับขึ้นมาถึง 10 อันดับจากอันดับที่ 44 ในปี 2565 และฟิลิปปินส์อยู่ในอันดับที่ 52

Read More