ประเมินกันว่า ตลาดค้าปลีกของไทยปี 2572 จะมีมูลค่าสูงถึง 5.61 ล้านล้านบาท และแม้ยอดขายส่วนใหญ่ยังมาจากช่องทางออฟไลน์เป็นหลัก แต่เติบโตเฉลี่ย 1-5% เมื่อเทียบกับช่องทางออนไลน์ที่เติบโตทุกปี จาก 20.45% ในปี 2565 เป็น 23.50% ในปี 2567 และปี 2568 จะเติบโตสูงมากจากการแข่งขันช่วงชิงลูกค้าของผู้เล่นทุกค่าย โดยเฉพาะเซกเตอร์ Food Retail ที่เปิดศึกดุเดือดระหว่าง 2 ยักษ์ใหญ่ อย่างเครือซีพีที่มีทั้งโลตัส แม็คโคร เซเว่นอีเลฟเว่น กับค่ายบิ๊กซีของบีเจซี
เมื่อเร็วๆ นี้ บริษัท ซีพี แอ็กซ์ตร้า จำกัด (มหาชน) หรือ CPAXT ผู้บริหารธุรกิจค้าส่งค้าปลีก “แม็คโคร-โลตัส” รายงานผลประกอบการไตรมาส 1 ของปี 2568 มีรายได้รวม 129,950 ล้านบาท และกำไรสุทธิหลังรายการปรับปรุงเติบโตขึ้น 10.3% เป็นผลจากยอดขายที่เติบโตขึ้นทั้งในธุรกิจค้าส่งและค้าปลีก จากการเปิดสาขาใหม่ การขายนอกร้าน และการขายออนไลน์ที่เติบโตแข็งแกร่ง โดยเฉพาะกลุ่มสินค้าอาหารสด กลุ่มสินค้าเฮาส์แบรนด์ และสินค้าแบรนด์ที่มีจำหน่ายเฉพาะที่แม็คโคร-โลตัสเท่านั้น (Exclusive brand) อีกทั้งการผนึกกำลังเพื่อเพิ่มมูลค่าและประสิทธิภาพในการดำเนินงาน หลังการปรับโครงสร้างภายในกลุ่มธุรกิจ (Synergistic value) ยังช่วยสนับสนุนอัตรากำไรขั้นต้นปรับตัวดีขึ้น
สิ่งที่สะท้อนกลับมาชัดเจน คือ Euromonitor International จัดอันดับ Makro PRO เป็นแพลตฟอร์ม Grocery E-Commerce อันดับ 1 ของประเทศไทย ด้วยส่วนแบ่งตลาดยอดขายในปี 2567 ที่ 39.5% และ Lotus’s SMART App มีส่วนแบ่งตลาดยอดขายตามมาเป็นอันดับ 2 ที่ 19.5% จากตลาด Grocery E-Commerce ของประเทศไทย ซึ่งมีมูลค่า 64,000 ล้านบาท
ธานินทร์ บูรณมานิต ประธานคณะผู้บริหาร CPAXT กล่าวว่า ปี 2568 บริษัทจะเร่งผลักดันกลยุทธ์หลักเติบโตทุกช่องทางจำหน่าย โดยเฉพาะการขายผ่านออนไลน์และการขายนอกร้าน โดยพัฒนาเทคโนโลยีและแพลตฟอร์ม รวมถึงการนำ AI วิเคราะห์พฤติกรรมลูกค้าแบบ Hyper-Personalization เพื่อนำเสนอสินค้าโดนใจและเพิ่มอัตราการตัดสินใจซื้อ
ล่าสุด โลตัสงัดแคมเปญ “Lotus’s Shop Online ใจถึงทุกเรื่องช้อป” ดึงหนุ่มๆ วง PERSES บอยแบนด์ขวัญใจวัยรุ่นสาย T-POP ที่มีกลุ่มแฟนเหนียวแน่นในกลุ่มวัยรุ่นและ Gen Z มาเป็น “Friend of Lotus’s Shop Online” ให้ PERSES เป็นตัวแทนเชื่อมโยงระหว่างแบรนด์กับกลุ่ม Gen Z ตั้งแต่การปล่อยวิดีโอเพลง “ใจถึง” อัปเกรดดีไซน์หน้าแอป Lotus’s และเมื่อวันที่ 12 มิถุนายนที่ผ่านมา อัดกิจกรรม PERSES Delivery Surprise เมื่อสมาชิกมายโลตัสสั่งซื้อสินค้าแบบ Same-Day Delivery ซึ่งพร้อมส่งทันทีภายใน 1 ชั่วโมง เฉพาะสาขาในกรุงเทพฯ และใส่ข้อความในช่อง Note to store ตอนกดสั่งสินค้าว่า “อยากเจอไรเดอร์พี่เพอ” ในช่วงเวลา Happy Hour ตั้งแต่ 08.00-11.00 น. ลุ้นเซอร์ไพรส์สุดเอ็กซ์คลูซีฟจากหนุ่มๆ PERSES บุกไปส่งของถึงหน้าบ้าน
ส่วนคนที่ไม่ได้รับการจัดส่งจากศิลปิน โลตัสได้ส่ง e-Thank You Card แทนคำขอบคุณ ซึ่งปรากฏว่าได้รับความสนใจและเสียงตอบรับอย่างล้นหลาม ขึ้นติดเทรนด์ X ภายใน 3 ชั่วโมง รวมทั้งจัดรายการ เพอร์เชส กล่องสุ่มของขวัญ ให้ลูกค้าสะสมยอดสั่งซื้อครบ 999 บาท ตั้งแต่วันที่ 16 มิถุนายน-15 กรกฎาคม มีสิทธิ์รับ PERSES Secret Gift 1 ชิ้น นอกจากนั้น เพิ่มสิทธิพิเศษให้สมาชิกมายโลตัสเล่นเกมรับเหรียญ (Coin) เพิ่มเติมจากปกติที่จะได้รับตามยอดสั่งซื้อ เพื่อใช้แลกส่วนลดเงินสดมากขึ้น
ทั้งนี้ โลตัสยังชูจุดขายการส่งด่วนถึงหน้าบ้านภายใน 1 ชั่วโมงจากสาขาขนาดเล็กใกล้บ้านและภายใน 3 ชั่วโมงจากสาขาขนาดใหญ่ ซึ่งการเปิดแคมเปญ PERSES เป็นหนึ่งในกลยุทธ์ SMART Life Solution เจาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ โดยใช้เครือข่ายสาขาทั่วประเทศมากกว่า 2,000 สาขาเป็นฮับเชื่อมโยงช่องทางออนไลน์และออฟไลน์ผ่านแอปพลิเคชัน Lotus’s
ด้านบริษัท บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) ในกลุ่มเบอร์ลี่ ยุคเกอร์ (บีเจซี) หลังประกาศทุ่มงบลงทุนตลอดปี 2568 มากกว่า 6,000 ล้านบาท ปูพรมเปิดสาขาใหม่ 207 แห่ง ได้แก่ สาขาขนาดใหญ่ 7 สาขา และสาขาขนาดเล็ก 200 สาขา เช่น ในบลูพอร์ต หัวหิน, Phenix ประตูน้ำ, สวนนงนุช, โครงการเพชรไพบูลย์, จตุจักร และพาร์ค บางนา ซึ่งเป็นทำเลใหม่ที่บิ๊กซีต้องการขยายการบริการครอบคลุมกลุ่มลูกค้าพื้นที่ต่างๆ มากขึ้น รวมทั้งลุยรีโนเวตสาขาปัจจุบันอีก 117 สาขา ได้แก่ สาขาขนาดใหญ่ 17 สาขา และสาขาขนาดเล็กอีก 100 สาขา ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด ซึ่งทั้งหมดเป็นยุทธศาสตร์การดึงดูดลูกค้าผ่านหน้าร้าน หรือช่องทางออฟไลน์
สำหรับช่องทางออนไลน์ บิ๊กซีพยายามแก้เกมเกมส่งด่วนของคู่แข่งผ่านแอปพลิเคชัน Big C Plus โดยให้สาขาที่อยู่ใกล้กลุ่มลูกค้าเป็นเครือข่ายบริการส่งสินค้าทันทีและส่งฟรี เมื่อมียอดสั่งซื้อตั้งแต่ 399 บาท ขณะที่สาขาขนาดใหญ่ที่มีสินค้าครบทุกหมวดจะรองรับกลุ่มลูกค้าที่มียอดสั่งซื้อจำนวนมาก แต่รับสินค้าในวันถัดไป โดยใช้รถยนต์จัดส่งสินค้า
แน่นอนว่า บิ๊กซีพยายามเพิ่มสิทธิพิเศษ เพื่อเพิ่มยอดขายผ่านช่องทางออนไลน์ ทั้งสะสมแต้มแลกส่วนลดเงินสด อัดโปรโมชั่นสินค้าราคาพิเศษ ให้คูปองกระตุ้นการสั่งซื้อแยกหมวดสินค้า เช่น ส่วนลดสินค้าผักผลไม้สด 10 บาท เมื่อซื้อครบ 150 บาท ส่วนผลผลิตภัณฑ์จากนม 25 บาท เมื่อสั่งซื้อครบ 299 บาท และเพิ่มโปรภารกิจให้ลูกค้าสะสมยอดสั่งซื้อ เมื่อช้อปครบ 200 บาทขึ้นไปต่อใบเสร็จต่อวัน ครบ 3 ครั้ง รับโค้ดคูปองส่วนลด 40 บาท และรับเพิ่ม 100 บาท เมื่อช้อปครบอีก 5 ครั้ง หรือรวม 140 บาท ซึ่งต้องดูผลตอบรับจะแปรเป็นยอดขายเพิ่มขึ้นอย่างไร.