ปัญญาประดิษฐ์ หรือ Artificial Intelligence (AI) เป็นโปรแกรมที่ถูกเขียนและพัฒนาให้มีความฉลาด สามารถคิดวิเคราะห์ วางแผน ตัดสินใจได้ โดยการประมวลผลจากฐานข้อมูลขนาดใหญ่ และยิ่งไปกว่านั้นยังสามารถดัดแปลงการประมวลผลประยุกต์ให้เป็นไปตามสถานการณ์ต่างๆ ได้
ปัจจุบัน Artificial Intelligence (AI) หรือปัญญาประดิษฐ์ ไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไป ด้วยราคา และความง่ายในการใช้งาน และงานที่มีการทำงานเป็นรูปแบบสามารถใช้ปัญญาประดิษฐ์เข้ามาทำแทนมนุษย์ได้ เช่น งานบัญชี การเงิน การลงทุน หรือแม้แต่งานที่ซับซ้อน ที่ต้องใช้ความคิดวิเคราะห์ ก็สามารถใช้ปัญญาประดิษฐ์ให้ทำงานแทนได้เช่นกัน
บริษัทหลักทรัพย์หลายแห่งนำเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ มาพัฒนาให้ช่วยวิเคราะห์ข้อมูลจำนวนมาก เพื่อเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกแก่นักลงทุน
เช่นเดียวกับที่ วิธาน มีนาภินันท์ ผู้ก่อตั้ง Investic ใช้ AI เป็นเครื่องมือสำคัญในการสร้างบทวิเคราะห์ข้อมูล สำหรับนักลงทุนรายย่อย “ในยุคที่ตลาดมีความผันผวนสูง นักลงทุนที่ใช้ General AI สามารถวิเคราะห์แนวโน้มตลาด คาดการณ์ความเสี่ยง และช่วยในการตัดสินใจได้แม่นยำยิ่งขึ้น นี่จะเป็นกุญแจสำคัญของการลงทุนยุคใหม่ ที่ก้าวข้ามการใช้ Quant Model และ AI แบบเดิมๆ”
วิธานมีประสบการณ์จากที่เคยเป็น Data Scientist คร่ำหวอดอยู่ในแวดวงการลงทุนและเทคโนโลยี จึงเห็นความสำคัญของกำลังคนผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยี ที่เป็นหัวใจสำคัญในการขับเคลื่อนองค์กรให้ไปถึงเป้าหมาย และเป็นพลังที่นำมาซึ่งขุมทรัพย์ในการลงทุนอย่าง Meaningful Data ข้อมูลล้ำค่าที่มีประสิทธิภาพและแม่นยำ
ข้อดีของการใช้ General AI คือ 1. นักลงทุนรายย่อยสามารถเข้าถึงข้อมูลได้ง่ายขึ้นและมีราคาถูกลง ลดความเสียเปรียบเมื่อเทียบกับนักลงทุนรายใหญ่ 2. เพิ่มความแม่นยำในการตัดสินใจ เพิ่มโอกาสทำกำไร และ 3. อำนวยความสะดวก ลดเวลาการหาข้อมูลไปจนถึงคอยอัปเดตแจ้งเตือนข้อมูลการลงทุน ทำให้นักลงทุนมีเครื่องมือที่ทันสมัยและมีประสิทธิภาพในการวางแผนการลงทุนมากขึ้น
ซึ่งตามหลักแล้ว Quant Model หรือ AI ไม่ได้คัดสรรสินทรัพย์ที่น่าลงทุน แต่การใช้ข้อมูลทางสถิติและอัลกอริทึม และข้อดีตรงที่ AI สามารถประมวลผลข้อมูลทางสถิติได้รวดเร็ว ซึ่งสามารถปรับเปลี่ยนเงื่อนไขตามวัตถุประสงค์ของสินทรัพย์นั้นๆ ทำให้นักลงทุนรายย่อยสามารถตัดสินใจเลือกการลงทุนได้อย่างแม่นยำบนฐานข้อมูล และที่สำคัญ คือ ลบจุดอ่อนด้านอารมณ์ความรู้สึกที่มีเฉพาะในมนุษย์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
วิธานเคยให้ความเห็นไว้ว่า การลงทุนให้สำเร็จต้องเกิดจาก 2 สิ่ง คือ framework วิธีคิดของการลงทุน และการใช้ข้อมูลกับเทคโนโลยี ซึ่งเป็นสิ่งที่มีราคาสูง ประกอบกับนักลงทุนไทยยังขาดองค์ความรู้ด้านการลงทุนที่เหมาะสม และเคยจัดตั้ง Investic Academy เพื่อถ่ายทอดความรู้ด้าน Quant Programming AI และ Python ในการลงทุนโดยเฉพาะ โดยมุ่งให้ความรู้เชิงลึกแก่นักลงทุนไทย หรือผู้ที่ต้องการ Up-Skill หรือ Re-Skill ที่จะช่วยให้นักลงทุนเข้าใจและสามารถพัฒนาเครื่องมือ AI ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อสมัครเข้าทำงานในสถาบันการเงิน หรือแม้แต่ใช้ในการบริหารพอร์ตการลงทุนของตัวเอง
“Investic มีเป้าหมายหลักสำคัญ คือ ต้องการสร้างชีวิตการลงทุนที่ดีขึ้นให้แก่นักลงทุนรายย่อย ไม่เสียเปรียบนักลงทุนรายใหญ่หรือแม้แต่นักลงทุนต่างชาติ”
ปัจจัยทางเศรษฐกิจโลกยังคงมีความไม่แน่นอน โดยเฉพาะผลกระทบจากยุคทรัมป์ 2.0 ที่เข้ามากดดันตลาดโลกให้มีความผันผวนหนักขึ้น นักลงทุนต้องเผชิญหน้ากับความไม่แน่นอนจากหลายด้าน ทั้งความขัดแย้งทางภูมิศาสตร์ที่รุนแรงขึ้น และสงครามการค้าระหว่างมหาอำนาจ ส่งผลกระทบโดยตรงต่อตลาดหุ้น ทองคำ และสินทรัพย์ดิจิทัล ทำให้การบริหารความเสี่ยงและการเข้าถึงข้อมูลที่แม่นยำเป็นสิ่งสำคัญกว่าที่เคย
วิธานขยายความว่า “และเพื่อช่วยให้นักลงทุนรับมือกับตลาดที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว Investic ได้พัฒนาแพลตฟอร์มการลงทุนที่ผสาน Quant และ General AI ตั้งเป้าเป็น AI Application ด้านการลงทุนอันดับหนึ่งของไทย โดยให้ข้อมูลที่มีความแม่นยำในระดับเดียวกันกับสถาบันการเงินชั้นนำ ช่วยลดความเสี่ยง และเพิ่มโอกาสทำกำไรให้นักลงทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ”
Investicใช้หลักคณิตศาสตร์และสถิติขั้นสูงในการวิเคราะห์ตลาด ผสานกับGeneral AIที่สามารถประมวลผลข้อมูลมหาศาลได้อย่างรวดเร็ว แม้แต่ข้อมูลรูปภาพและตัวอักษร วิดีโอ แถมยังสามารถปรับจูนวิธีการคิดวิเคราะห์ได้ ทำให้พัฒนามาเป็นเครื่องมือมาช่วยนักลงทุนสามารถวิเคราะห์แนวโน้มตลาด หาจุดเข้าซื้อ หรือจุด Cut loss หรือจุด Take Profit ที่เหมาะสม การคัดเลือกสินทรัพย์ และบริหารพอร์ตการลงทุนได้อย่างแม่นยำมากขึ้น เปลี่ยนข้อได้เปรียบที่เคยมีเฉพาะนักลงทุนสถาบันให้สามารถเข้าถึงได้โดยนักลงทุนรายย่อย
ขณะที่เป้าหมายของ Investic ที่วิธานวางไว้ คือ ขับเคลื่อนวงการนักลงทุนไทย ผลักดันประสิทธิภาพการใช้ AI ให้ดีขึ้น “เราหวังจะเป็นเบอร์หนึ่งของไทย ในฐานะผู้พัฒนาแพลตฟอร์ม AI ที่มีกระบวนการคิด วิเคราะห์ และเทคโนโลยี ที่ล้ำลึกกว่าใคร ยกระดับชีวิตการลงทุนที่ดีกว่าเดิม” วิธานทิ้งท้าย.