ย้อนกลับไปเมื่อ 60 ปีก่อน บริษัท ยูไนเต็ดฟลาวมิลล์ จำกัด มหาชน (UFM) เปิดโรงงานแป้งข้าวสาลีเจ้าแรกในประเทศไทย โดยมีจอมพลอากาศฟื้น รณภากาศ ฤทธาคนี ดำรงตำแหน่งประธานกรรมการคนแรก และถือเป็นปีแรกที่ประเทศไทยผลิตแป้งข้าวสาลีได้เอง หลังจากต้องนำเข้ามาอย่างยาวนาน
ข้อมูลจากหนังสือสารานุกรมไทยสำหรับเยาวชนฯ ระบุว่าคนไทยเริ่มรู้จักใช้แป้งสาลีประกอบอาหารตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา จากจดหมายเหตุการเดินทางสู่ประเทศสยามของบาทหลวงตาชาร์ด เมื่อปี พ.ศ. 2228 สมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช กล่าวว่า ขนมปังหาซื้อได้ยากและมีราคาแพง เพราะต้องซื้อแป้งสาลีจากเมืองสุหรัด รัฐคุชราต ประเทศอินเดีย หรือจากญี่ปุ่น
กระทั่งปี 2399 ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 กัปตันเทาน์เซนต์ แฮริส ต้องนำแป้งสาลีมาจากฮ่องกง เพื่อทำขนมปังสำหรับงานเลี้ยงในพระบรมมหาราชวัง เพราะจะหาขนมปังและแป้งสาลีที่กรุงเทพฯ ไม่ได้
ปี 2477 นายอาริยันต์ มันยีกุล ข้าราชการกรมเกษตร ไปราชการที่จังหวัดแพร่ระหว่างฤดูหนาวและสังเกตสภาพภูมิประเทศ น่าจะปลูกข้าวสาลีได้ จึงทดลองปลูกข้าวสาลี จำนวน 4 พันธุ์ จากประเทศออสเตรเลีย และจากภาคกลางของอินเดีย โดยปลูกที่โรงเรียนกสิกรรมจังหวัดแพร่ และที่ ต.บ้านหนองวังดิน อ.บ้านกลาง จ.แพร่ ปรากฏว่า ขึ้นงอกงามดี นายอาริยันต์จึงอยากส่งเสริมการปลูกข้าวสาลีในประเทศไทย เพื่อออมเงินของประเทศ ไม่ต้องนำเข้าจากต่างชาติ แต่ยังไม่สำเร็จ
ปี 2485-2487 พระยาพหลพลพยุหเสนา นำพันธุ์ข้าวสาลีมาจากญี่ปุ่น 4 พันธุ์ ทดลองปลูกข้าวสาลีที่สถานีกสิกรรมฝาง จ.เชียงใหม่ ระหว่างสงครามเอเชียบูรพา ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ประเทศไทยขาดแคลนแป้งสาลีอย่างมาก และ ร.ท.ขุนณรงค์ชวนกิจ (ชวน ณรงคะชวนะ) พยายามจัดตั้งบริษัทปลูกข้าวสาลี โรงงานโม่แป้งสาลีขึ้น ที่ อ.ฝาง โดยติดต่อแหล่งขายเมล็ดพันธุ์ข้าวสาลี และเครื่องจักรโม่แป้งไว้แล้วจากญี่ปุ่น แต่ไม่มีผู้ใดสนใจ เรื่องจึงไม่สำเร็จอีก
ต่อมา กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เริ่มงานวิจัยข้าวสาลีเมื่อปี 2503 กระทั่งยูไนเต็ดฟลาวมิลล์เปิดโรงงานแป้งข้าวสาลีเจ้าแรกในประเทศไทย ซึ่งครั้งนั้น จอมพลอากาศฟื้นกล่าวว่า “หากนับถอยหลังย้อนกลับไปในอดีต ครั้งที่ยังไม่สามารถผลิตแป้งข้าวสาลีเองได้ ทุกคนในประเทศล้วนบริโภคแป้งข้าวสาลีนำเข้าทั้งสิ้น จะดีกว่าไหมหากประเทศไทยสามารถผลิตแป้งข้าวสาลีได้ด้วยเราเอง” เป็นจุดเริ่มต้นของบริษัท ยูไนเต็ดฟลาวมิลล์ จำกัด มหาชน หรือยูเอฟเอ็ม เมื่อปี 2507
อย่างไรก็ตาม ชื่อเสียงของจอมพลอากาศ ฟื้น รณนภากาศ ฤทธาคนี ไม่ใช่นักธุรกิจ แต่เป็นนายทหารและนักการเมืองที่มีบทบาทสำคัญในประวัติศาสตร์ เป็นอดีตผู้บัญชาการทหารอากาศ เป็น “จอมพลอากาศ” ของกองทัพอากาศไทย เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข
จอมพลอากาศ ฟื้น เกิดเมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2443 ณ วังหม่อมเจ้าแดง ในตระกูลทหาร ซึ่งรับใช้แผ่นดินมาตั้งแต่บรรพบุรุษ คือ นายฟุ้ง ผู้เป็นบิดา เป็นข้าราชการพลเรือน ตำแหน่งวิศวกรโยธาในพลเอกสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอเจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์ มารดาชื่อพุดตาน เกิดในสกุลจุณณะเวส
เมื่อเยาว์วัยได้รับการเลี้ยงดูโดยเจ้านายสตรีพระองค์หนึ่ง จนเข้าเรียนที่โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัยและเรียนที่โรงเรียนนายร้อยทหารบก (โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า) รับราชการทหารครองยศร้อยตรีในกองทัพบก และเป็นทหารพรานที่กองพลที่ 9 จังหวัดจันทบุรี ต่อมาสมัครเป็นศิษย์การบินโรงเรียนการบิน กองบินทหารบกเป็นนักบินประจำกองบินทหารบกในปี 2466 หมายเลขนักบิน 136
ถือเป็นคนเก่งกาจ สอบคัดเลือกได้ที่ 1 เข้ารับการศึกษาที่โรงเรียนเสนาธิการทหารบกและสำเร็จการศึกษาเป็นอันดับที่ 1 ในปี 2474 ได้รับตำแหน่งเป็นนายทหารฝ่ายเสนาธิการประจำกรมยุทธการ ทั้งเป็นครูสอนวิชายุทธวิธีที่โรงเรียนนายร้อยทหารบกอีกด้วย จนเกิดการเปลี่ยนแปลงการปกครองในปี 2475
ต่อมาเกิดกบฏบวรเดช ซึ่งเป็นการกบฏด้วยกำลังเพื่อล้มล้างรัฐบาลพระยาพหลพลพยุหเสนา เริ่มขึ้นเมื่อวันที่ 11 ตุลาคม 2476 ท่านได้ปฏิบัติหน้าที่ในกองบัญชาการปราบกบฏจนได้รับความชอบประกอบกับเคยสอบได้ที่ 1 ในโรงเรียนเสนาธิการทหารบกจึงได้ทุนไปเรียนต่อวิชาการบินชั้นสูงและหลักสูตรครูการบินที่ Central Flying School ประเทศอังกฤษ ช่วงปี 2477-2480 กระทั่งนำความรู้ยุทธวิธีการบินรบที่ทันสมัยมาพัฒนากองทัพอากาศ
ช่วงปี 2483-2484 เกิดการเรียกร้องดินแดนคืนจากฝรั่งเศส ซึ่งฝรั่งเศสนำเครื่องบินมาทิ้งระเบิดหลายจังหวัดในภาคอีสาน รัฐบาลจึงเข้าร่วมสงครามกับอินโดจีน ซึ่งฝรั่งเศสเรียกว่าสงครามกรณีพิพาทอินโดจีน- ฝรั่งเศส จอมพลอากาศ ฟื้น ขณะนั้นเป็นผู้บังคับการกองบินใหญ่ภาคใต้ ยศนาวาอากาศโท นำกำลังเข้าสู้รบทางอากาศ เล่ากันว่า แม้เครื่องบินรบไทยด้อยกว่าฝรั่งเศส แต่กองทัพอากาศ ซึ่งได้รับการพัฒนาให้มีประสิทธิภาพสามารถบินรบได้ชัยชนะ นอกจากนั้น มีบทบาทในเหตุการณ์การสู้รบอีกหลายครั้ง
ปี 2492 ดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการทหารอากาศ เป็นผู้สถาปนาโรงเรียนนายเรืออากาศ และปี 2497 เป็นทหารอากาศไทยคนแรกที่ได้รับพระราชทานยศ “จอมพลอากาศ”
ส่วนบทบาททางการเมือง เริ่มจากการดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ปี 2494-2498 เป็นรองนายกรัฐมนตรี ปี 2498-2500 และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ช่วงสั้น ๆ ในปี 2500 สมัยรัฐบาลจอมพล ป. พิบูลสงคราม ก่อนเกษียณอายุราชการที่กองบัญชาการทหารสูงสุด ในปี 2504 และถึงแก่อสัญกรรมลงเมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม 2530
ปัจจุบัน บ้านของท่านถูกปรับเปลี่ยนเป็นคอมมูนิตี้มอลล์ขนาด 2 ไร่ ชื่อ Heritage Ville มีสนามหญ้าและลานคอร์ตยาร์ดขนาดใหญ่ โดยมีร้านอาหาร The Marshal Social Cafe ที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์มากมาย ตั้งอยู่ในอาคารเก่าสไตล์ Art Deco ซึ่งก่อสร้างเมื่อปี 2498 และแล้วเสร็จในปี 2500 ตกแต่งภายในด้วยสไตล์ Modern Classic ไม้สักทองและหินอ่อน ต่อมามีการบูรณะอาคารเมื่อปี 2562 และเปิดคอมมูนิตี้มอลล์เมื่อปี 2564 ซึ่งบริเวณโถงด้านล่างที่เป็นคาเฟ่เคยเป็นห้องนอนของจอมพลอากาศฟื้นมาก่อน
หมายเหตุ: ภาพจากเพจ The Marshal Social Cafe