ภูเก็ต เป็นจังหวัดที่ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์มีการแข่งขันดุเดือด โดยเฉพาะบริเวณหาดบางเทา ที่ผู้ประกอบการอสังหาฯ มักจะเลือกเป็นเวทีประลองสรรพกำลัง เร่งผลิตซัปพลายที่อยู่อาศัยป้อนเข้าตลาดซึ่งมีดีมานด์สูงมาก เห็นได้จากการเติบโตที่สวนทางกับเศรษฐกิจ ในภาพรวม ปี 2567มูลค่าการโอนและเช่าอสังหาฯ ในภูเก็ตสูงถึง 55,000 ล้านบาท โดยเฉพาะตลาดในกลุ่มวิลลาและคอนโดมิเนียมที่มีความต้องการสูงทั้งจากคนไทยและต่างชาติ
หนึ่งในนั้นคือ บริษัท แค๊ปสโตน แอสเสท จำกัด ที่เลือกจะเข้าไปร่วมบนสังเวียนอันร้อนระอุของอุตสาหกรรมอสังหาฯ บนฝั่งทะเลอันดามัน หลังจากที่ผ่านมาประสบความสำเร็จกับโครงการที่อยู่อาศัยในพื้นที่กรุงเทพฯ เช่น โครงการต้นสน วัน เรสซิเดนซ์ ที่เป็นโครงการร่วมทุนกับ บริษัท แอสเซท ไฟว์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน)
หัวหอกคนสำคัญของแค๊ปสโตน แอสเสท ยังคงเป็น ฐิติวัฒน์ คูวิจิตรสุวรรณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แค๊ปสโตน แอสเสท จำกัด ที่เปิดเผยกับ “ผู้จัดการ 360 องศา” ว่า ล่าสุดเตรียมปักหมุดโครงการใหม่บนพื้นที่ที่เรียกว่า “ทองหล่อภูเก็ต” ทำเลยอดฮิตอย่างหาดบางเทา บนเนื้อที่ประมาณ 12 ไร่ ใช้ชื่อว่า “เพย์ลา ภูเก็ต บางเทา”
“แค๊ปสโตน แอสเสท คร่ำหวอดอยู่ในวงการอสังหาริมทรัพย์มายาวนาน 21 ปี เราเป็นทั้งนักพัฒนา นักลงทุน งานก่อสร้าง งานขาย เรียกว่าทำแบบครบวงจร โครงการที่ประสบความสำเร็จอย่างมาก เช่น ต้นสน วัน เรสซิเดนซ์, โครงการคอนโดมิเนียม Cooper Siam, Kimpton Kitalay สมุย, Quarter 3 โครงการ วานา เรสซิเดนซ์ และไม่ใช่แค่โครงการที่อยู่อาศัย แต่ยังมีโครงการมิกซ์ยูสที่อยู่ระหว่างดำเนินการก่อสร้าง อย่าง Canvas เพลินจิต”
“จากที่เราประสบความสำเร็จจากโครงการในพื้นที่กรุงเทพฯ ชั้นใน และสมุย เมืองท่องเที่ยว ภูเก็ตคืออีกจังหวัดหนึ่งที่เรามองเห็นโอกาส แม้ว่าพื้นที่นี้จะมีซัปพลายเดิมอยู่จำนวนไม่น้อย แต่ดีมานด์ยังคงมีอยู่ โดยเฉพาะทำเลทองอย่างหาดบางเทา และโครงการเพย์ลา ภูเก็ต บางเทา เป็นโครงการที่จะเกิดขึ้นภายใต้มาตรฐานใหม่สำหรับการอยู่อาศัยระดับลักชัวรี มุ่งเน้นที่จะส่งเสริมให้ผู้อยู่อาศัยได้หยุดพักและใช้ในทุกช่วงเวลาอย่างเต็มที่”
ฐิติวัฒน์เล่าว่า ชื่อโครงการเพย์ลา ได้แรงบันดาลใจมาจากคำว่า “เพ-ลา” ซึ่งมีความหมายว่า “เวลา” ในภาษาไทย และยังออกเสียงคล้ายคำว่า Perla ที่มีต้นกำเนิดคำจากภาษาสเปน ที่แปลว่า “ไข่มุก” และจังหวัดภูเก็ตมีสมญานามว่า “ไข่มุกอันดามัน”
โครงการเพย์ลา ภูเก็ต บางเทา บนเนื้อที่ประมาณ 10 ไร่ ประกอบด้วยอาคารพักอาศัยสูง 7 ชั้น จำนวน 3 อาคาร ขณะที่พื้นที่อีกประมาณ 2 ไร่ แค๊ปสโตน แอสเสท มีแผนที่จะพัฒนาเป็นโรงแรมและพื้นที่เชิงพาณิชย์ ซึ่งอยู่ติดกับโครงการหลัก นี่เป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์ในการสร้างความแตกต่างให้กับโครงการ ที่ฐิติวัฒน์ ระบุว่า เป็นการยกระดับประสบการณ์การอยู่อาศัยให้กับลูกค้าเมื่อโครงการทั้งหมดเสร็จสมบูรณ์
แต่คำถามคือ กลยุทธ์การสร้างความแตกต่างด้วยการผสมโครงการมิกซ์ยูสเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ อาจจะยังไม่เพียงพอที่จะสร้างความแตกต่างให้แก่โครงการเพย์ลา ภูเก็ต บางเทา เนื่องจากที่นี่เป็นตลาดที่มีการแข่งขันสูง
“เรายังคงทำงานกับมืออาชีพที่มีความเชี่ยวชาญด้านอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งไม่ใช่แค่งานขายเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงแนวทางการออกแบบ ดีไซน์ที่น่าจะตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า ซึ่งบริษัท ซีบีอาร์อี เคยทำงานร่วมกันมาก่อน จากประสบการณ์และเครือข่ายในประเทศของซีบีอาร์อีจะมีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนความสำเร็จของโครงการ พร้อมกันนี้เรายังเปิดโอกาสต้อนรับตัวแทนขายชั้นนำรายอื่น ๆ ที่จะมาร่วมสนับสนุนความพยายามด้านการขายและการตลาดในระดับสากลด้วย” ฐิติวัฒน์อธิบาย
ขณะที่มุมมองของ อาทิตยา เกษมลาวัณย์ หัวหน้าแผนกซื้อขายโครงการที่พักอาศัย บริษัท ซีบีอาร์อี (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า “ความเชื่อมั่นของผู้ซื้อในตลาดที่อยู่อาศัยของเกาะภูเก็ตที่แข็งแกร่งเป็นผลมาจากชื่อเสียงของเกาะในฐานะแหล่งท่องเที่ยวพักผ่อนระดับโลก และปัจจัยพื้นฐานอื่นๆ ที่มั่นคง ภาคการท่องเที่ยวของภูเก็ตยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยพบว่าจำนวนนักท่องเที่ยวสิ้นไตรมาส 3/2567 มีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้าเกาะภูเก็ตเพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 42 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่อัตราการเข้าพักโรงแรม ครึ่งปีแรกของปีนี้อยู่ที่ร้อยละ 71.5 ซึ่งถือเป็นตัวเลขที่สูงที่สุดในรอบ 5 ปี ด้วยเหตุนี้ตลาดบ้านพักตากอากาศจึงมีการเติบโตที่สูง โดยมียอดขายของทั้งปี 2566 เพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 150 เมื่อเทียบกับปี 2565 ถือว่าเป็นสถิติยอดขายสูงที่สุดในประวัติศาสตร์ของเกาะภูเก็ต”
“ทั้งนี้เมื่อเทียบยอดขายครึ่งปีแรกของปี 2567 กับช่วงเดียวกันของปีก่อน พบว่ามียอดขายที่ทุบสถิติสูงขึ้นไปอีก โดยเพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 142 ผลการดำเนินงานที่โดดเด่นนี้ มาจากอัตราผลตอบแทนจากการปล่อยเช่าที่แข็งแกร่งในอดีต อัตราการเข้าพักโรงแรมที่สูง และมูลค่าทรัพย์สินที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งเสริมให้เกาะภูเก็ตมีชื่อเสียงในฐานะจุดหมายการลงทุนเพื่อความมั่งคั่ง”
ซีบีอาร์อี คือบริษัทที่ให้บริการด้านการลงทุนอสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์ ทั้งข้อมูลเชิงลึก ข้อมูลที่ครอบคลุมทุกมิติของอุตสาหกรรม นอกจากโซลูชันที่มีพร้อมสำหรับลูกค้าทุกขนาด ยังมีทีมวิจัยที่คอยรวบรวมข้อมูลทั้งระดับท้องถิ่นและระดับโลกเพื่อนำข้อมูลเหล่านั้นไปใช้ประโยชน์กับลูกค้าผู้ประกอบการ
“แม้ว่าหาดบางเทาจะมีการแข่งขันสูง แต่ด้วยทำเลที่ค่อนข้างมีศักยภาพ ผสมกับการออกแบบที่ล้ำสมัย และแนวคิดที่อยู่อาศัยแบบโลว์เดนซิตี้ ซีบีอาร์อีจึงมั่นใจว่าโครงการเพย์ลา ภูเก็ต บางเทา จะตอบโจทย์ความต้องการของผู้ซื้อได้อย่างสมบูรณ์ ไม่ว่าจะเป็นเพื่ออยู่อาศัยส่วนตัวหรือเพื่อลงทุน ด้วยราคาช่วงเปิดตัวที่น่าสนใจในตลาดที่มีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง คาดว่าโครงการนี้จะได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้าของเรา”
ดูเหมือนหน้าที่การขายจะเป็นของซีบีอาร์อี ทำให้ยิ่งน่าสนใจว่าผู้เชี่ยวชาญด้านอสังหาฯ ที่ขายปิดโครงการไปแล้วจำนวนไม่น้อย จะมีกลยุทธ์และมองโอกาสของโครงการเพย์ลา ภูเก็ต บางเทา อย่างไรบ้าง ท่ามกลางตลาดที่มีการแข่งขันสูง อีกทั้งสถานการณ์ด้านเศรษฐกิจทั้งไทยและโลกยังไม่อยู่ในภาวะที่น่าวางใจ
“ด้วยทำเลที่มีการแข่งขันสูง แต่ศักยภาพของทำเลที่มีความพร้อมไปด้วยโครงสร้างพื้นฐาน ใกล้สถานที่สำคัญอย่าง โรงพยาบาล โรงเรียน ห้างสรรพสินค้า ทรัพยากรธรรมชาติ แม้จะมีซัปพลายเกิดขึ้นมากมาย แต่ดีมานด์ก็ยังคงมีอยู่ และเราคิดว่าการออกแบบของโครงการจะตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้อย่างแท้จริง
“นอกจากนี้ ราคาเป็นอีกหนึ่งตัวแปรสำคัญ เพราะราคาเริ่มต้นที่ 5.5 ล้านบาท เป็นราคาที่เรามองว่าจะสร้างความได้เปรียบให้โครงการได้ แม้ว่าตลาดอสังหาฯ ภูเก็ต จะเป็นที่หมายปองของนักลงทุนจากต่างชาติเป็นส่วนใหญ่ เช่น รัสเซีย จีน อเมริกา แต่กลุ่มเป้าหมายของโครงการนี้คือ คนไทย 50% ต่างชาติ 50% แม้ว่าทำเลจะมีศักยภาพในการเติบโต แต่การอิงกับต่างชาติมากไปก็ไม่ดีนัก
“สำหรับสถานการณ์เศรษฐกิจที่ไทยยังประสบกับภาวะชะลอตัว กำลังซื้อลดลง หนี้ครัวเรือนเพิ่มสูงขึ้น แต่กับกลุ่มเป้าหมายของเราไม่ได้รับผลกระทบมากนัก อาจส่งผลต่ออารมณ์การตัดสินใจซื้ออยู่บ้าง แต่เรามองที่กลุ่มลักชัวรี หรือนักลงทุน” อาทิตยาให้ข้อมูล
เพย์ลา ภูเก็ต บางเทา น่าจะเป็นตัววัดความสามารถทั้งของฐิติวัฒน์และซีบีอาร์อี เลยก็ว่าได้ ว่าโครงการมูลค่ากว่า 3 พันล้านจะตอบโจทย์ความต้องการ และชิงส่วนแบ่งบนพื้นที่ไข่มุกอันดามันได้หรือไม่ ก่อนที่ฐิติวัฒน์จะเปรยแผนในอนาคตว่า เริ่มมองทำเลที่อื่นไว้บ้างแล้ว “สำหรับโครงการในอนาคต ยังคงโฟกัสพื้นที่กรุงเทพฯ และภูเก็ตเป็นหลัก และมองหา Destination ใหม่ๆ ภาคใต้ เช่น พังงา รวมถึงพื้นที่ในเกาะสมุยด้วย”
ภูเก็ตยังคงเนื้อหอมและเป็นเวทีที่ดุเดือดสำหรับอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ การเข้ามาของนักลงทุน นักพัฒนาอสังหาฯ ทำให้ฉากทัศน์ของไข่มุกอันดามันเปลี่ยนไปจากเมื่อหลายสิบปีก่อนอย่างสิ้นเชิง.
