Home > Food

เสริมโภชนาการที่ดี ติดเกราะป้องกันให้ร่างกายสู้โควิด

เรียกว่าหายใจหายคอไม่ทั่วท้องกันเลยทีเดียว เพราะตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในแต่ละวันที่ยังคงเพิ่มขึ้นอย่างน่าเป็นห่วง ต่างคนต่างหาวิธีป้องกันตัวเองกันอย่างเข้มข้นเพื่อให้รอดปลอดภัยจากไวรัสตัวร้าย ทั้งการสวมหน้ากาก ล้างมือ เว้นระยะห่าง ลดการเดินทางและกักตัวอยู่กับบ้านเพื่อลดความเสี่ยง แต่นอกเหนือจากมาตรการป้องกันตัวเองข้างต้นแล้ว การเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายให้แข็งแรงเพื่อเป็นเกราะป้องกันเชื้อโรคก็สำคัญไม่น้อยไปกว่ากัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสภาวะที่โควิด-19 กำลังมาเคาะประตูบ้านอยู่ในขณะนี้ ระบบภูมิคุ้มกันที่ดีส่วนหนึ่งมาจากภาวะโภชนาการที่ดี โดยการเลือกรับประทานอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการเพื่อให้ได้รับปริมาณสารอาหารแต่ละชนิดให้เพียงพอกับความต้องการของร่างกายในแต่ละวัน ซึ่งการเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์และสมดุลเพื่อสร้างโภชนาการที่ดีนั้น เราสามารถทำได้ด้วยตัวเอง ดังนี้ ผักและผลไม้คือแหล่งวิตามินและใยอาหารชั้นดี ผักและผลไม้คือสิ่งที่ไม่ควรขาด และควรบริโภคให้ได้ครบทุกวัน เพราะอุดมไปด้วยวิตามิน แร่ธาตุ ใยอาหารที่จำเป็นต่อร่างกาย และนับเป็นความโชคดีที่เมืองไทยมีพืชผักและผลไม้หลายชนิดให้เลือกบริโภคได้ตลอดทั้งปี ผลไม้หลากชนิดไม่ว่าจะเป็น ส้ม ฝรั่ง แอปเปิล ส้มโอ กล้วย สับปะรด มะละกอ ผลเบอร์รี่ต่างๆ นับเป็นแหล่งวิตามินชั้นดี โดยเฉพาะอย่างยิ่ง “วิตามินซี” ที่ช่วยทำให้ระบบภูมิคุ้มกันร่างกายแข็งแรง ซึ่งผลไม้ที่อุดมไปด้วยวิตามินซีอันดับต้นๆ เมื่อเทียบน้ำหนักต่อ 100 กรัม คือ มะขามป้อม มีวิตามินซี 276 มิลลิกรัม, ฝรั่ง 160 มิลลิกรัม, กีวี 105 มิลลิกรัม, ลิ้นจี่ 71.5 มิลลิกรัม, มะละกอ 62

Read More

CPF โชว์ศักยภาพนวัตกรรมอาหาร ตอกย้ำความเป็นครัวของโลกที่ยั่งยืน ในงาน Makro HoReCa 2019

ซีพีเอฟร่วมออกบูธในงาน แม็คโคร มหกรรมครบเครื่องเรื่องอาหารและอุปกรณ์ครั้งที่ 14 หรือ Makro HoReCa 2019 ชูสินค้าคุณภาพและความปลอดภัยสูง มาตรฐานสากล ตอบโจทย์การทำครัวแบบมืออาชีพ เจาะกลุ่มผู้ประกอบการธุรกิจโรงแรม ร้านอาหาร และธุรกิจจัดเลี้ยง นายกฤษณ มรกต รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส ซีพีเอฟ เปิดเผยว่า ซีพีเอฟในฐานะผู้นำธุรกิจเกษตรอุตสาหกรรมและอาหารได้นำผลิตภัณฑ์นวัตกรรมอาหารที่โดดเด่น มานำเสนอภายใต้แนวคิด "Put Our Heart Into Food" บนพื้นฐานของ 3 เสาหลัก Innovation-People-Planet มาโชว์ศักยภาพการเป็นผู้ผลิตสินค้าอาหารแบบครบวงจร มีคุณภาพสูง ปลอดภัย ได้มาตรฐานสากล ตั้งแต่การเลี้ยงสัตว์ตามหลักสวัสดิภาพสัตว์ และพัฒนานวัตกรรมอาหารมาอย่างต่อเนื่อง อาทิ ผลิตภัณฑ์เนื้อไก่สด ไก่เบญจา (Benja Chicken) ภายใต้แบรนด์ยูฟาร์ม (U Farm) ซึ่งเป็นอาหารสดเพียงรายเดียวที่ได้รับเลือกให้เป็นหนึ่งใน 50 สุดยอดนวัตกรรม THAIFEX Taste Innovation Finalist

Read More

ฮอยอัน: ฉันรัก (อาหาร) เธอจัง

อาคารสไตล์โคโลเนียลสีเหลืองมัสตาร์ดที่เรียงรายอย่างเป็นระเบียบ อบอวลไปด้วยกลิ่นอายของประวัติศาสตร์ ผสานกับวิถีชีวิตดั้งเดิมอย่างมีชีวิตชีวาและกลมกลืน กลายเป็นมนตร์เสน่ห์ดึงดูดผู้คนต่างที่ต่างถิ่นมาเยือน สถานที่ที่ได้รับการขนานนามว่าเป็นเมืองมรดกโลกที่ยังมีลมหายใจ เมืองเล็กๆ ที่ตั้งอยู่ตอนกลางของเวียดนาม...ฮอยอัน.... ฮอยอัน (Hoi An) เมืองขนาดเล็กตั้งอยู่ริมฝั่งทะเลจีนใต้ทางตอนกลางของประเทศเวียดนาม ในอดีตเคยเป็นศูนย์กลางทางการค้าที่เจริญรุ่งเรืองและเป็นเมืองท่าใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีชาวต่างชาติทั้งจีน ญี่ปุ่น ดัตช์ และอินเดีย เข้ามาทำการค้าขายและตั้งถิ่นฐานอยู่จำนวนมาก จนเกิดการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมและความเป็นอยู่สืบทอดมาจนถึงปัจจุบัน ปี พ.ศ. 2542 องค์การยูเนสโก (UNESCO) ได้ขึ้นทะเบียนเขตเมืองเก่าของฮอยอันให้เป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรม เพราะถือเป็นตัวอย่างเมืองท่าในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในสมัยคริศต์ศตวรรษที่ 15-19 ที่มีการผสมผสานศิลปะและสถาปัตยกรรมของท้องถิ่นและต่างชาติได้อย่างมีเอกลักษณ์ อีกทั้งยังมีการอนุรักษ์อาคารบ้านเรือนให้คงอยู่ในสภาพเดิมไว้ได้อย่างดี จนได้รับการขนานนามว่าเป็น “เมืองมรดกโลกที่ยังคงมีลมหายใจ” ภายในเขตเมืองเก่าเรียงรายด้วยอาคารสีเหลืองมัสตาร์ดอันเป็นสถาปัตยกรรมที่เกิดจากการผสมผสานอาคารสไตล์โคโลเนียลฝรั่งเศสกับสถาปัตยกรรมแบบจีนที่สวยงามและเป็นเอกลักษณ์ กลางคืนเมืองจะสว่างไสวไปด้วยโคมกระดาษหลากสี สร้างบรรยากาศโรแมนติกและแสนจะมีเสน่ห์ นอกจากความงดงามของอาคารบ้านเรือนและวิถีชีวิตแล้ว อาหารการกินก็เป็นอย่างที่จะทำให้เราตกหลุมรักฮอยอันได้ง่ายๆ อาหารเวียดนามในแต่ละภาคมีเอกลักษณ์แตกต่างกัน อันเนื่องมาจากสภาพภูมิศาสตร์ของประเทศที่ทอดตัวยาวไปตามแนวชายฝั่งทะเล ผสานกับความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรธรรมชาติและพืชพรรณธัญญาหาร อีกทั้งได้รับอิทธิพลจากจีนและฝรั่งเศสสมัยที่เข้ามาปกครองเวียดนาม ที่ถ่ายทอดออกมาในรูปแบบของวัฒนธรรมการกินอีกด้วย สำหรับฮอยอันนั้นอุดมไปด้วยร้านอาหารตั้งแต่ร้านข้างทางหรือสตรีทฟู้ด แผงลอย ไปจนถึงร้านอาหารหรูๆ แทรกซึมอยู่ทุกพื้นที่ของเมือง อาหารหลากประเภท ที่สำคัญรสชาติถูกปากแทบทุกร้าน พอจะแนะนำให้ได้รู้จักได้บางส่วน เริ่มจากจานแรกถ้ามาฮอยอันแล้วไม่ควรพลาด นั่นคือ “Cao Lâu” (เกาเลา) เป็นก๋วยเตี๋ยวซิกเนเจอร์ของฮอยอัน ประกอบด้วยหมูปรุงรสคล้ายหมูแดง (หมักด้วยน้ำตาล เกลือ พริกไทย

Read More

เป็นมิตรกับไขมันกันดีกว่า & กินมากไปทำไงดี

Column: Well – Being ที่พูดกันว่า ไขมันทำให้คุณอ้วนได้นั้น เป็นความจริงที่ไม่อาจปฏิเสธได้ เพราะไขมันให้พลังงานสูงกว่าคาร์โบไฮเดรตหรือโปรตีน แต่ร่างกายของคุณจำเป็นต้องได้รับไขมันเพื่อทำหน้าที่ให้ได้ดีที่สุด และไขมันบางชนิดก็มีคุณสมบัติและคุณภาพดีกว่าชนิดอื่นๆ ในการช่วยค้ำจุนสุขภาพโดยรวมของคุณ การตรวจสอบปริมาณไขมันที่กินเข้าไปอย่างระมัดระวังจึงเป็นสิ่งสำคัญ โดยเฉพาะเมื่อคุณกำลังพยายามลดน้ำหนักตัว แต่การกินอะโวคาโดสักสองสามชิ้น เนยถั่วสักหนึ่งช้อนพูน หรือเหยาะน้ำมันมะกอกลงในสลัดสักหน่อย สามารถทำให้คุณรู้สึกอิ่มนานขึ้น หรือสามารถช่วยให้ร่างกายของคุณเผาผลาญไขมันได้มากขึ้นด้วยซ้ำ และที่ไม่อาจปฏิเสธได้อีกอย่างหนึ่งก็คือ ไขมันทำให้อาหารมีรสชาติดีขึ้นเสียด้วย หนังสือ Prevention Guide: Eat Clean กล่าวว่า หัวใจสำคัญอยู่ที่การเลือกกินไขมันให้ถูกชนิด เพราะไขมันที่มีอยู่ทั้งหมดไม่ได้ถูกผลิตขึ้นอย่างเท่าเทียมหรือเหมือนกัน แล้วคุณจะแยกแยะได้อย่างไรล่ะว่าไขมันชนิดไหนดีหรือไม่ดีอย่างไร วิธีที่ง่ายที่สุดคือ นึกถึงไขมันในรูปของสัญญาณไฟจราจรนั่นเอง ไขมันบางชนิดจัดอยู่ในประเภทไฟเขียว บางชนิดเป็นไฟเหลือง และบางชนิดเป็นไฟแดง ไขมันประเภทไฟเขียว เป็นไขมันไม่อิ่มตัว เช่น ไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยว (monounsaturated fat) ไขมันไม่อิ่มตัวเชิงซ้อน (polyunsaturated fat) และกรดไขมันโอเมก้า–3 ซึ่งสามารถช่วยให้คุณลดความเสี่ยงจากโรคหัวใจได้ ทั้งยังมีบทบาทสำคัญในการรักษาระดับน้ำตาลในเลือดของคุณให้คงที่ ซึ่งช่วยลดอาการอยากอาหารขยะที่มีรสหวานได้ด้วย คุณแสวงหาไขมันประเภทไฟเขียวนี้ได้จากอาหารที่ไม่ผ่านการแปรรูปที่มีอยู่มากมาย รวมทั้งอาหารประเภทธัญพืชเต็มเมล็ดด้วย ไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยว ได้แก่ น้ำมันมะกอก ผลมะกอก อะโวคาโด ถั่วเปลือกแข็ง และเนยถั่ว ไขมันไม่อิ่มตัวเชิงซ้อน

Read More

เอ็ม บี เค เซ็นเตอร์ จับมือ ดีเคเอสเอช เปิดตัวแฟล็กชิพสโตร์ Famous Amos คุกกี้แบรนด์ดังนำเข้าจากอเมริกา ส่งมอบความอร่อยอบสดใหม่จากเตาทุกวัน

เอ็ม บี เค เซ็นเตอร์ ตอกย้ำความเป็นศูนย์รวมความอร่อยเดินหน้าพาเหรดแบรนด์อาหารและร้านดังเจ้าอร่อยมาไว้ในแห่งเดียว ดึงดูดลูกค้าคนไทยและนักท่องเที่ยวต่างชาติสู่จุดหมายปลายทางความอร่อย (FOOD DESTINATION) โดยล่าสุดจับมือ บริษัท ดีเคเอสเอช (ประเทศไทย) จำกัด เปิดตัวแฟลกชิพสโตร์ (Flagship Store) สาขาแรกในประเทศไทยของร้าน “เฟมัส เอมอส” (Famous Amos) คุกกี้แบรนด์นำเข้าจากอเมริกา ซึ่งคัดสรรวัตถุดิบชั้นเลิศผ่านกรรมวิธีการอบสดใหม่หอมกรุ่นจากเตาทุกวัน พร้อมส่งมอบความอร่อยแล้ววันนี้ที่ชั้น 5 โซน A และยังอำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าด้วยจุดจำหน่ายอีกแห่งที่โซน TAKE HOME ชั้น G ผู้ที่สนใจสามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมและกิจกรรมต่างๆ ได้ที่ www.mbk-center.co.th และ www.facebook.com/mbkcenterth

Read More

‘ดุสิตธานี’ เดินหน้าสร้างความเติบโตให้ธุรกิจอาหารเข้าซื้อหุ้น ‘เอ็บเพอคิวร์’

‘ดุสิตธานี’ เดินหน้าสร้างความเติบโตให้ธุรกิจอาหาร เข้าซื้อหุ้น ‘เอ็บเพอคิวร์’ ผู้นำธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มโรงเรียนนานาชาติในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เพื่อขยายธุรกิจ ‘เคเทอริ่ง’ บริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) หรือ DTC ประกาศเข้าซื้อหุ้นในสัดส่วน 51% ในบริษัท เอ็บเพอคิวร์ เคเทอริ่ง จำกัด (ECC) ผู้นำธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มโรงเรียนนานาชาติในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ผ่านบริษัทดุสิต ฟู้ดส์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ DTC เพื่อขยายโอกาสการลงทุนตามยุทธศาสตร์กระจายการลงทุน แสวงหาโอกาสและผลตอบแทนจากการลงทุน ตอกย้ำการสร้างธุรกิจอาหารให้เติบโตอย่างแข็งแกร่ง และเพิ่มศักยภาพการบริการที่ครบวงจรให้กับกลุ่มบริษัทฯ นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บมจ.ดุสิตธานี กล่าวว่า วัตถุประสงค์ของการลงทุนครั้งนี้เป็นการเดินตามยุทธศาสตร์การเติบโตในส่วนของการกระจายการลงทุน หลังจากที่ดุสิตธานีได้ขยายไปสู่การลงทุนในธุรกิจอาหารผ่านบริษัท ดุสิต ฟู้ดส์ เพื่อลงทุนในบริษัท เอ็นอาร์ อินสแตนท์ โพรดิวซ์ ซึ่งเป็นผู้ผลิตและส่งออกอาหารสำเร็จรูปพร้อมทาน เครื่องปรุงรส ซอส เครื่องดื่มและน้ำผลไม้ และจัดตั้งบริษัท ดุสิต กูร์เมต์ เพื่อต่อยอดการทำการตลาดผลิตภัณฑ์อาหารภายใต้แบรนด์ของดุสิตในช่วงก่อนหน้านี้ และดังนั้นการลงทุนในครั้งนี้ ถือเป็นการตอกย้ำว่า

Read More

อาหารกระตุ้นโรควิตกกังวล

Column: Well – Being คุณเคยรู้หรือไม่ว่า สิ่งที่คุณรับประทานสามารถส่งผลต่ออารมณ์และโรควิตกกังวลของคุณได้เช่นกัน ดังที่นิตยสาร Prevention :Relieve Anxiety Naturally แจกแจงดังนี้ พาสต้า คาร์โบไฮเดรตที่ผ่านการขัดขาว เช่น พาสต้าสีขาว ขนมปังขาว โดนัท ลูกกวาด และเครื่องดื่มใส่น้ำตาล สามารถทำลายอารมณ์ของคุณด้วยการทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดพุ่งสูงขึ้นและลดระดับลงอย่างรวดเร็ว เมื่อไม่นานมานี้ กลุ่มนักวิจัยประจำมหาวิทยาลัยโคลัมเบียพบว่า ยิ่งผู้หญิงที่บริโภคน้ำตาลและธัญพืชขัดขาวแล้วมีระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้นมากเท่าไร ก็ยิ่งมีความเสี่ยงเป็นโรคซึมเศร้ามากขึ้นเท่านั้น และนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยพรินซ์ตันยังพบด้วยว่า หนูที่เลี้ยงด้วยอาหารรสหวานจะมีอาการตื่นตระหนกและวิตกกังวลเมื่อดึงน้ำตาลออกจากอาหาร ซึ่งคล้ายกับประสบการณ์ของคนเมื่อถูกให้ถอนตัวจากยาเสพติด อย่างไรก็ตาม ข่าวดีคือ มหาวิทยาลัยโคลัมเบียยังพบด้วยว่า อาหารที่มีธัญพืชเต็มเมล็ดสูง (เช่น ข้าวกล้อง และควินัว) รวมทั้งมีผักและผลไม้หลากหลายชนิด ยังช่วยลดความเสี่ยงของผู้หญิงจากโรคซึมเศร้าได้ กาแฟ เราไม่ได้บอกให้คุณหยุดดื่มกาแฟหรือเครื่องดื่มกาเฟอีนอื่นๆ แต่ถ้าคุณรู้สึกวิตกกังวลอาจโทษว่าเป็นเพราะการดื่มเครื่องดื่มประเภทนี้หลายๆ แก้วติดต่อกันก็ได้ อาลี มิลเลอร์ นักกำหนดอาหาร อธิบายว่า กาเฟอีนมีผลกระตุ้นระบบประสาท ทั้งยังเป็นสาเหตุให้ร่างกายหลั่งฮอร์โมนความเครียด คือ คอร์ติซอล ที่ทำให้โรควิตกกังวลแย่ลง และทำให้มีปัญหาการนอน โดยเฉพาะในผู้ป่วยโรคตื่นตระหนกและโรคกลัวการเข้าสังคม แม้จะมีข้อเท็จจริงอันหนึ่งที่กล่าวว่า กาเฟอีนช่วยเพิ่มระดับฮอร์โมนเซโรโทนินที่ทำให้คุณรู้สึกดี แต่การหลั่งเซโรโทนินตลอดเวลาอันเป็นผลจากการบริโภคกาแฟมากเกินไปในช่วงเวลาหนึ่งนั้น แท้จริงแล้วสามารถทำให้คุณเกิดอาการสารสื่อประสาทด้อยประสิทธิภาพได้ จึงควรลดอิทธิพลของกาเฟอีนด้วยการดื่มกาแฟถ้วยขนาด

Read More

ยกเครื่องติมซ่ำ ‘แฟมิลี่มาร์ท’ ผนึก ‘เชฟแมน’ รุกสร้างประสบการณ์ใหม่ ระดับมิชลิน

‘แฟมิลี่มาร์ท’ จับมือ ‘เชฟแมนกรุ้ป’ ยกเครื่องเมนูติ่มซ่ำ พร้อมเสิร์ฟที่ร้านสะดวกซื้อ การันตีความอร่อยระดับมิชลิน ในราคาที่เข้าถึง สร้างประสบการณ์ใหม่ด้วยรสชาติในตำนาน กับซาลาเปาเนื้อแป้งนุ่มมาพร้อมไส้อัดแน่นถึงรสชาติเครื่องเทศ สูตรต้นตำรับฮ่องกงแท้ พร้อมให้ลิ้มลองสุดเอ็กซ์คลูซีฟ ที่แฟมิลี่มาร์ท จิรนันท์ ผู้พัฒน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เซ็นทรัลแฟมิลี่มาร์ท จำกัด เปิดเผยว่า อาหารประเภทนึ่งเป็นเมนูคู่ร้านสะดวกซื้อที่ทุกคนคุ้นเคย โดยเฉพาะซาลาเปา ซึ่งเป็นเมนูที่หารับประทานง่ายเหมาะสําหรับทุกมื้อ ทั้งเป็นอาหารว่างและอาหารหลัก อีกทั้งเป็นสินค้าที่ได้รับความนิยมของลูกค้าแฟมิลี่มาร์ทจึงเร่งพัฒนาและปรับปรุงคุณภาพโดยผนึกจุดแข็งกับคู่ค้า ‘เชฟแมนกรุ๊ป’ นำเสนอสินค้าที่สร้างความโดดเด่นในด้านรสชาติและรูปแบบ เพื่อลูกค้าได้เข้าถึงอาหารแบบต้นตำรับสูตรภัตตาคารฮ่องกงในราคาที่เข้าถึงได้ โดยเชฟแมนผู้ซึ่งมีประสบการณ์การทำอาหารจีนมานานกว่า 30 ปี นางจิรนันท์ กล่าวเสริมอีกว่า สำหรับการร่วมมือครั้งนี้ เราได้มีการปรับปรุงทั้งในเรื่องของรสชาติและความหลากหลายของเมนู เพื่อสร้างความสนุกและแตกต่างให้กับลูกค้า โดยเราให้ความสำคัญกับการทำงานร่วมกับพันธ์มิตรคู่ค้าที่สามารถนำเสนอและรังสรรค์เมนูเหมาะกับกลุ่มเป้าหมายทั้งคนไทยและนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ด้วยอาหารจีนสไตล์ฮ่องกงที่มีความแตกต่างของเนื้อแป้งและรสชาติของไส้ตามสูตรต้นตำรับ ซึ่งครอบคลุมทั้งเมนูคาวหวาน อาทิ ซาลาเปาไส้หมูนุ่มไข่เค็ม ซาลาเปาไส้หมูสับ ซาลาเปาไส้หมูแดง รวมทั้งเมนูตามฤดูกาล ได้แก่ ซาลาเปาไส้ลาวา ลายน้องมะม่วงที่ออกจำหน่ายตั้งแต่เดือน พฤษภาคม และได้รับกระแสตอบรับดีมากจากกลุ่มลูกค้า รวมทั้งซาลาเปาไส้ทุเรียนแท้มาพร้อมกับรูปทรงที่เป็นเอกลักษณ์สร้างความชื่นชอบให้สาวกทุเรียนและลูกค้าแฟมิลี่มาร์ทเป็นอย่างมาก สำหรับจากการปรับเมนูครั้งนี้เราคาดว่าทำให้สินค้าในกลุ่มอาหารติ่มซ่ำเติบโตขึ้นกว่าเดิม 100 %

Read More

มิชลินสตาร์ บนวัฒนธรรมอาหารไทย

ข่าวการประกาศผลและมอบรางวัลมิชลินสตาร์ ให้กับร้านอาหารไทยเมื่อไม่นานมานี้ ดูจะก่อให้เกิดความตื่นตัว และกระแสวิพากษ์อย่างกว้างขวางพอสมควร ทั้งในประเด็นที่มาที่ไปของการมอบรางวัล และมาตรฐานความเป็นไปของอาหารไทยที่ครั้งหนึ่งเคยได้รับการผลักดันให้เป็นครัวของโลก ในระดับนานาชาติไม่น้อยเลย ประเด็นที่น่าสนใจมากประการหนึ่งจากปรากฏการณ์ มิชลินสตาร์ รอบล่าสุดอยู่ที่การกำหนดนิยามความหมายของคำว่า สตรีทฟู้ด หรือร้านอาหารริมทาง ที่ดูจะเลื่อนไหลไปจากความหมายทั่วไปจากเดิมที่สังคมไทยคุ้นชิน ไปสู่มาตรฐานใหม่ และอาจนำไปสู่การบริหารจัดการในอนาคต ก่อนหน้านี้ในปี 2559 ที่ผ่านมา สำนักข่าว CNN เคยจัดอันดับเมืองที่มีอาหารริมทาง หรือสตรีทฟู้ด ที่ดีที่สุดในโลก จาก 23 เมืองของโลก ก่อนที่จะระบุให้กรุงเทพมหานคร เป็นอันดับหนึ่งของเมืองสตรีทฟู้ด ซึ่งทำให้กิจกรรมของร้านอาหารริมทางในสังคมไทยตื่นตัวขึ้นมาระยะหนึ่ง ควบคู่กับความพยายามที่จะจัดระเบียบและวางหลักเกณฑ์ด้านสุขอนามัยควบคู่ไปด้วย ขณะที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ก็พยายามหยิบยกกรณีดังกล่าวขึ้นเป็นส่วนหนึ่งในการโฆษณาประชาสัมพันธ์กิจกรรมการท่องเที่ยวไทย เพื่อเพิ่มสีสันและความหลากหลาย ที่ทำให้แหล่งท่องเที่ยวอื่นๆ ของไทยเป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวทั่วทุกมุมโลกมากยิ่งขึ้น และเป็นการตอกย้ำให้เห็นว่าเมืองไทยอุดมด้วยอาหารการกินตลอด 24 ชั่วโมง สิ่งที่สำคัญยิ่งไปกว่านั้นก็คือการยอมรับสถานภาพของอาหารริมทาง ในฐานะที่เป็นมากกว่าส่วนหนึ่งในวัฒนธรรมการบริโภค หากแต่ยังเป็นส่วนหนึ่งของวิถีชีวิตที่หนุนนำความเติบโตทางเศรษฐกิจ ที่แวดล้อมไปด้วยแรงงานนอกระบบจำนวนมหาศาล เป็นการค้าและเป็นอาชีพอิสระประเภทหนึ่งในฐานะที่เป็น informal sector ขนาดเล็กที่บางครั้งเรียกว่า “ธุรกิจขนาดจิ๋ว” หรือ Micro-enterprise ที่ช่วยหนุนนำและขับเคลื่อนองคาพยพของกลไกเศรษฐกิจหลักมานานก่อนที่จะเกิดคำศัพท์ยอดฮิตไม่ว่าจะเป็น start-up หรือไทยแลนด์ 4.0 ในปัจจุบัน ข้อเท็จจริงที่น่าสนใจประการหนึ่งก็คือ

Read More

ซีพี แตกแบรนด์พรึ่บ เจาะแฟรนไชส์แสนล้าน

คาดการณ์กันว่า ธุรกิจแฟรนไชส์ไทยล่าสุดมีเครือข่ายมากกว่า 90,000-100,000 ราย เกิดใหม่วันละ 20 แห่ง มีจำนวนผู้ประกอบการธุรกิจแฟรนไชส์ไม่ต่ำกว่า 850-900 บริษัท และปี 2560 มีมูลค่าเม็ดเงินสูงถึง 200,000 ล้านบาท ที่สำคัญ ธุรกิจอาหารถือเป็นธุรกิจแฟรนไชส์ยอดนิยมสูงสุด ซึ่งดูเหมือนว่า เครือเจริญโภคภัณฑ์ หรือ “ซีพี” ถือเป็นเจ้าของแฟรนไชส์ยักษ์ใหญ่ที่มีเครือข่ายร้านอาหารมากที่สุด ไม่นับรวมเครือข่ายแฟรนไชส์ร้านสะดวกซื้อ “เซเว่นอีเลฟเว่น” อีกหลายพันแห่ง ทั้งนี้ หากเจาะเฉพาะธุรกิจร้านอาหาร ซึ่งเครือซีพีกำลังเร่งรุกขยายช่องทางอย่างหนัก เพื่อต่อยอดธุรกิจปลายน้ำนำผลิตภัณฑ์อาหารสำเร็จรูปสู่มือผู้บริโภคครอบคลุมทุกพื้นที่ทั่วประเทศ จะอยู่ภายใต้การบริหารงานของบริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือซีพีเอฟ โดยมี 2 แบรนด์หลัก คือ กลุ่มห้าดาวและเชสเตอร์ ในกลุ่มห้าดาวนั้น ซีพีเอฟประกาศนโยบายและแผนลุยตลาดแฟรนไชส์อย่างชัดเจนตั้งแต่ต้นปี 2560 เพราะถือเป็นธุรกิจแรกที่เปิดให้ประชาชนทั่วไปร่วมเป็นเจ้าของธุรกิจผ่านโครงการ “เถ้าแก่เล็กธุรกิจห้าดาว” ตั้งแต่ปี 2543 ในรูปแบบแฟรนไชส์แบบ 100% ด้วยการร่วมทุนกับบริษัทในธุรกิจไมโครแฟรนไชส์ หรือธุรกิจเล็กที่เหมาะกับผู้ลงทุนที่มีเงินลงทุนไม่สูงมากนัก ประมาณ 15,000

Read More