Home > ไวรัสโคโรนา 2019

รับมือข่าวลวง! สังคมออนไลน์ทำคนลังเลฉีดวัคซีน เร่งเสริมความรู้ ป้องกันภัยข้อมูลเท็จ

โควิด-19 ทำให้เกิดข่าวลวงและข้อมูลที่บิดเบือนมากที่สุดเป็นประวัติการณ์ โดยเฉพาะเรื่องวัคซีน ทำให้คนลังเลในการรับวัคซีน เกิดอัตราการฉีดวัคซีนต่ำ ส่งผลให้โรคที่สามารถป้องกันได้กลับมาระบาด แพทย์และผู้เชี่ยวชาญด้านการสื่อสารแนะนำให้หน่วยงานสาธารณสุขเร่งจัดการข้อมูลบิดเบือน เสริมสร้างความเข้าใจที่ถูกต้อง พร้อมฟื้นฟูความเชื่อมั่นของประชาชนอย่างเร่งด่วน ในการประชุมวิชาการวัคซีนแห่งชาติ ครั้งที่ 11 ภายใต้แนวคิด “วัคซีนภายใต้บริบทโลกไร้พรมแดน” ของสถาบันวัคซีนแห่งชาติ ได้มีการจัดเสวนา หัวข้อ “ข้อมูลบิดเบือนบนสังคมออนไลน์ ส่งผลต่อการตัดสินใจรับวัคซีนอย่างไร” โดยได้เชิญผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์ สื่อสารมวลชน และอินฟลูเอนเซอร์ด้านสุขภาพ มาร่วมอภิปรายถึงสถานการณ์การรับข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับวัคซีนในสังคมไทย ซึ่งปัจจุบันประชาชนสามารถเข้าถึงข้อมูลผ่านแพลตฟอร์มที่หลากหลาย เพื่อหาแนวทางการจัดการหรือการให้ข้อมูลเกี่ยวกับการรับวัคซีนที่ถูกต้องแก่ประชาชน นายพีรพล อนุตรโสตถิ์ ผู้จัดการศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์ บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงที่มาของความเข้าใจผิดและการรับข่าวสารข้อมูลที่บิดเบือนเกี่ยวกับวัคซีนที่ปรากฏตามสื่อและโซเชียลมีเดียต่างๆ ว่า “ก่อนที่จะเกิดโรคระบาดครั้งใหญ่อย่างโควิด-19 ขึ้น ข้อมูลข่าวสารที่มีการบิดเบือนมักเป็นประเด็นสังคม เช่น ความเชื่อด้านการเมืองหรือศาสนา จนกระทั่งเกิดสถานการณ์โควิด-19 ขึ้นทั่วโลก ทำให้เราพบว่า โควิด-19 ทำให้เกิดข่าวลวงและข้อมูลที่บิดเบือนมากที่สุดเป็นประวัติการณ์ โดยเฉพาะข้อมูลข่าวสารด้านสุขภาพและวัคซีน คำว่าบิดเบือนก็คือ การทำให้สิ่งที่เป็นจริงกลายเป็นเรื่องผิดและทำให้คนมองผิดจุด ซึ่งหลักการในการสร้างข้อมูลเท็จและข่าวลวงหรือ fake news ที่ทำให้ผู้รับสารปฏิเสธหลักการทางวิทยาศาสตร์ ด้วยการสร้างผู้เชี่ยวชาญปลอมขึ้น

Read More

“คนไทยไม่เคยทิ้งกัน” ซีพี ออลล์ พร้อมฝ่าวิกฤตไปด้วยกัน เร่งส่งมอบครุภัณฑ์ทางการแพทย์ ให้รพ.สนาม-วัด-กลุ่มเปราะบาง ป้องกันโควิด-19 ต่อเนื่อง

เป็นที่รับทราบกันดีว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 หรือ โควิด-19 ระลอกใหม่ที่กำลังเกิดขึ้นในปัจจุบันนี้ ส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตและสุขภาพของคนไทย การติดเชื้อเกิดขึ้นได้กับทุกคนและในทุกสถานการณ์ โดยเฉพาะบุคลากรทางการแพทย์ ตลอดจนเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติหน้าที่ดูแลผู้ป่วยตลอด 24 ชั่วโมงทำให้มีความเสี่ยงสูงตลอดเวลา หรือแม้กระทั่งวัดที่เป็นสถานที่สำคัญทางศาสนา สถานที่ที่เป็นศูนย์รวมจิตใจของคนไทยอยู่คู่กับชุมชนและสังคมมาช้านาน ต่างก็ได้รับผลกระทบและต้องปรับตัวเพื่อยกระดับมาตรการในการระวังป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ทั้งสิ้น ซีพี ออลล์ เล็งเห็นถึงความจำเป็นเร่งด่วนเพื่อลดความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้น จึงได้เดินหน้าสานต่อโครงการ “คนไทยไม่ทิ้งกัน” ส่งมอบครุภัณฑ์ทางการแพทย์พร้อมด้วยเครื่องอุปโภค บริโภค ให้กับบุคลากรทางการแพทย์ในโรงพยาบาลสนามที่เป็นพื้นที่ควบคุมใน 18 จังหวัด พร้อมถวายเครื่องวัดอุณหภูมิและแอลกอฮอล์ให้กับวัด พระสงฆ์ สามเณร และทยอยมอบของใช้ที่จำเป็นในการดำรงชีวิตให้กับผู้พิการ ผู้ด้อยโอกาส กลุ่มเปราะบางที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ตามโครงการซีพีร้อยเรียงใจ สู้ภัยโควิด-19 อย่างเร่งด่วน นายวิชัย จันทร์จริยากุล กรรมการผู้จัดการ (ร่วม) บมจ.ซีพี ออลล์ กล่าวว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคไวรัสโควิด-19 ระลอกใหม่ที่เกิดขึ้น ซีพี ออลล์ เห็นถึงความจำเป็นเร่งด่วน จึงได้เดินหน้าสานต่อโครงการ “คนไทยไม่ทิ้งกัน” ตามปณิธาน “ร่วมสร้างสรรค์และแบ่งปันโอกาสให้กับทุกคน” โดยในช่วงเวลาที่ผ่านมา ซีพี

Read More

เรียนออนไลน์ สะท้อนความเหลื่อมล้ำ หรือโอกาสของการศึกษาไทย?

ปฏิเสธไม่ได้ว่าการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในช่วงที่ผ่านมา ได้สร้างแรงสั่นสะเทือนต่อชีวิตผู้คนเป็นวงกว้าง อีกทั้งยังฉายภาพความเหลื่อมล้ำในมิติต่างๆ ที่ซ่อนอยู่ในสังคมให้เห็นอย่างเด่นชัด ทั้งในแง่ของคุณภาพชีวิต เศรษฐกิจ รวมไปถึงการศึกษาอันเป็นฐานรากที่สำคัญของสังคม แต่อีกนัยหนึ่งก็เป็นตัวกระตุ้นให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในบริบทของการศึกษาของไทยด้วยเช่นกัน การระบาดของไวรัสโคโรนา 2019 ส่งผลให้รัฐบาลในหลายประเทศประกาศปิดสถานศึกษาเพื่อป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อ มีผู้เรียนได้รับผลกระทบกว่า 1.5 พันล้านคน หรือมากกว่าร้อยละ 90 ของผู้เรียนทั้งหมด สำหรับประเทศไทยคณะรัฐมนตรีมีมติเลื่อนการเปิดเทอมออกไปเป็นวันที่ 1 กรกฎาคม 2563 พร้อมปรับการเรียนการสอนจากออฟไลน์มาเป็นออนไลน์ในช่วงที่นักเรียนยังไม่สามารถไปเรียนที่โรงเรียนได้ตามปกติ เพื่อให้การเรียนรู้ไม่เกิดการชะงักงัน แต่ภาพการเรียนออนไลน์ที่เกิดขึ้น กลับเป็นไปบนความไม่พร้อมของทั้งบุคลากรทางการศึกษา ผู้เรียน เทคโนโลยี ตลอดจนอุปกรณ์เครื่องมือต่างๆ ที่จำเป็น อีกทั้งยังสะท้อนภาพความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจ และโอกาสในการเข้าถึงทรัพยากรให้เห็นเด่นชัด มีนักเรียนจำนวนไม่น้อยที่ไม่สามารถเข้าถึงการเรียนการสอนรูปแบบใหม่นี้ได้ ข้อมูลที่น่าสนใจจากสหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศ ระบุว่า ประเทศไทยมีข้อจำกัดในการเรียนทางไกลค่อนข้างสูง สัดส่วนของครัวเรือนที่มีคอมพิวเตอร์และการเข้าถึงอุปกรณ์ดิจิทัลอยู่ในระดับต่ำ ยิ่งไปกว่านั้นนักเรียนกว่า 8 หมื่นคน ยังอยู่ในพื้นที่ที่ไฟฟ้าเข้าไม่ถึง เมื่อผนวกกับผลกระทบทางเศรษฐกิจจากการระบาดของไวรัส การจัดหาอุปกรณ์สื่อสารเพื่อให้ลูกหลานเข้าถึงการเรียนออนไลน์ได้จึงดูจะเป็นไปได้ยากยิ่ง มีข้อเรียกร้องให้รัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้การช่วยเหลือในการจัดหาอุปกรณ์สื่อสารที่จำเป็นและอินเทอร์เน็ตที่เพียงพอสำหรับนักเรียน รวมไปถึงการเร่งปรับปรุงการจัดการเรียนการสอนออนไลน์ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น แม้ว่าโควิด-19 จะส่งผลกระทบต่อการศึกษาชนิดที่ต้องเร่งแก้ปัญหาเฉพาะหน้าแล้ว แต่อีกนัยหนึ่งยังถือเป็นการเปิดโอกาสในการปรับตัวและพัฒนาระบบการศึกษาของไทยในอนาคตอีกด้วย การเรียนออนไลน์ซึ่งเป็นมาตรการที่ถูกนำมาใช้แก้ปัญหาในครั้งนี้ ได้กลายมาเป็นรูปแบบทางการศึกษาที่หลายฝ่ายเล็งเห็นความสำคัญและพยายามพัฒนานวัตกรรมขึ้นมารองรับ โดยที่จริงแล้วการเรียนออนไลน์นั้นไม่ใช่เรื่องใหม่เสียทีเดียว ที่ผ่านมาประเทศที่มีการศึกษาชั้นนำอย่างสหรัฐอเมริกา สิงคโปร์ ยุโรป ต่างมีการพัฒนาการเรียนการสอนออนไลน์ เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้มีโอกาสเข้าถึงทรัพยากรทางการศึกษา

Read More

“ซีอาร์จี” รีเซ็ตธุรกิจรับ New Normal มั่นใจตลาด 4.4 แสนล้านพลิกฟื้น

“ซีอาร์จี” (CRG) พร้อมเดินหน้าธุรกิจหลังรัฐคลายล็อก รีเซ็ตกลยุทธ์ขนานใหญ่รับบรรทัดฐานรูปแบบใหม่ในการใช้ชีวิต หรือ New Normal ดันรูปแบบธุรกิจใหม่ (New Business) เร่งขยาย “คลาวด์ คิทเช่น” (Cloud Kitchen) เป็นตัวหลักกระตุ้นรายได้ เตรียมจับมือพันธมิตรผุดเพิ่ม 3 - 4 แห่ง รุกช่องทางเดลิเวอรี่ (Delivery) เต็มสูบ คุมเข้มมาตรฐาน “ความสะอาด” สุขอนามัยเป็นอันดับ 1 ทุกขั้นตอน ปลุกความมั่นใจลูกค้า เน้นระบบไร้สัมผัส (Contactless) ด้วยดิจิตอล เมนู (Digital Menu) พร้อมปรับเมนูอาหารรับเศรษฐกิจยุคโควิด ผูกปิ่นโต ข้าวกล่อง เผยสัดส่วนรายได้ช่องทางเดลิเวอรี่แนวโน้มพุ่ง 30% ย้ำแนวคิด “Greater Together Stronger Together” เน้นผลิตภัณฑ์ในท้องถิ่นเดินหน้าผนึกพันธมิตรฝ่ามรสุม มั่นใจตลาด 4.4 แสนล้านพลิกฟื้น

Read More

โรงหนังลุ้นปลดล็อกรอบ 3 แอนดรอยด์ทีวี-สตรีมมิ่ง คึกคัก

กลุ่มธุรกิจโรงภาพยนตร์ต้องรอลุ้นมาตรการคลายล็อกดาวน์รอบใหม่ เนื่องจากศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา-2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. ยังยกเว้นไว้ในการผ่อนปรนรอบที่ 2 ซึ่งตามเป้าหมายไทม์ไลน์ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ในฐานะผู้อำนวยการ ศบค. คาดว่าจะผ่อนปรนรอบที่ 3 ประมาณต้นเดือนมิถุนายน และรอบที่ 4 กลางเดือนมิถุนายน หรืออย่างช้าที่สุดในเดือนกรกฎาคม หากไม่เกิดการระบาดรอบใหม่ อย่างไรก็ตาม กลุ่มโรงภาพยนตร์ โดยเฉพาะเบอร์ 1 ค่ายเมเจอร์ซีนีเพล็กซ์ พยายามสื่อสารข้อมูลการซักซ้อมมาตรการ Safety & Hygiene Measures ผ่านเฟซบุ๊กแฟนเพจ เริ่มตั้งแต่การคัดกรองอย่างเข้มงวด (Screening) เมื่อก้าวเข้าสู่พื้นที่ มีการวัดไข้ หยดเจลล้างมือลูกค้า และกำหนดให้เดินเข้าคิวเว้นระยะห่าง 1-2 เมตรต่อคน รวมทั้งเว้นระยะห่างการชมภาพยนตร์ในโรงหนัง (Distancing) โดยผู้ชม 1 คน เว้นที่นั่งว่าง 2-3 ที่ สลับกับผู้ชมคนถัดไปต่อเนื่อง การจองตั๋ว หากจองผ่านตู้

Read More

สงครามยุค New Normal บุฟเฟต์-ปิ้งย่าง ทุ่มแหลก

ธุรกิจร้านอาหารหลังมาตรการคลายล็อกดาวน์กำลังระเบิดสงครามช่วงชิงกลุ่มลูกค้าขนานใหญ่ตามวิถี New Normal ชนิดที่ต้อง Reset กระบวนการทั้งหมดตามเงื่อนไขของภาครัฐ เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 รอบใหม่ โดยเฉพาะกลุ่มบุฟเฟต์-หมูกระทะ พลิกกลยุทธ์หนีตาย ห้ำหั่นแจกหม้อ แจกกระทะ เปิดศึกอย่างดุเดือด ขณะเดียวกัน ข้อมูลจากศูนย์วิจัยธนาคารออมสินคาดการณ์ว่า หากประเทศไทยสามารถควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสได้อย่างดี ภายใน 3 เดือน ธุรกิจร้านอาหารและเครื่องดื่มในประเทศจะสูญเสียรายได้ประมาณ 16,000 ล้านบาท แต่หากสถานการณ์การแพร่ระบาดลากยาวไปจนถึง 6 เดือน อาจสูญเสียรายได้มากถึง 34,000 ล้านบาท ที่ผ่านมา ภาครัฐ โดยศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. เริ่มทยอยคลายล็อกดาวน์ ประเดิมอนุญาต 6 กลุ่มกิจกรรมและกิจการเสี่ยงน้อยเมื่อวันที่ 3 พ.ค. ซึ่งรอบแรกมีกลุ่มร้านจำหน่ายอาหาร เครื่องดื่ม นอกห้างสรรพสินค้า ร้านริมทาง หาบแร่แผงลอย ตามด้วยมาตรการผ่อนปรนรอบที่ 2 อีก 3 กลุ่มกิจการ ซึ่งกลุ่มธุรกิจร้านอาหารขยายเพิ่มเติมร้านจำหน่ายอาหาร หรือเครื่องดื่มในภัตตาคาร

Read More

แลคตาซอย เปิดตลาดออนไลน์เต็มรูปแบบ ชูระบบโลจิสติกส์เข้มแข็ง

แลคตาซอย เปิดตลาดออนไลน์เต็มรูปแบบ ชูระบบโลจิสติกส์เข้มแข็ง พนักงานพร้อมส่งสินค้าถึงมือผู้บริโภค “แลคตาซอย” พร้อมลุยตลาดออนไลน์เต็มรูปแบบ ชูระบบโลจิสติกส์บริหารจัดการส่งสินค้าเองอย่างเข้มแข็ง พนักงานส่งสินค้ามีมาตรฐานความสะอาด ใส่อุปกรณ์ป้องกันครบชุด ไม่ว่าจะเป็น หน้ากากอนามัย และหน้ากาก Face Shield มั่นใจส่งสินค้าตรงถึงมือผู้บริโภคทั่วประเทศ พร้อมลุยจัดโปรโมชั่นส่งเสริมการขาย “ช้อปสุดคุ้ม ส่งฟรี! ทั่วประเทศ” พร้อมรับของสมนาคุณถึง 30 พ.ค. นี้ นางสาวมัลลิกา จิรพัฒนกุล ผู้จัดการใหญ่ฝ่ายขาย บริษัท แลคตาซอย จำกัด เปิดเผยว่า “แลคตาซอย” ขอมีส่วนร่วมสนับสนุนให้ประชาชนลดระยะห่างระหว่างกัน เพื่อป้องกันความเสี่ยงการติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ COVID-19 จึงนำผลิตภัณฑ์ที่มีอยู่ทุกรายการ ไม่ว่าจะเป็นแลคตาซอยสูตรดั้งเดิมทุกรสชาติ และแลคตาซอยโกลด์ซีรีย์ 4 รสชาติ นมถั่วเหลืองคั้นสด “ซังซัง” และนมถั่วเหลืองยูเอชที “เบนิฟิตต์ ซอย บาริสต้า” ทำตลาดผ่านช่องทางออนไลน์เต็มรูปแบบ ซึ่งทางบริษัทมีความมั่นใจในระบบโลจิสติกส์ที่มีการบริหารจัดการด้วยตนเองอย่างเข้มแข็ง สามารถส่งตรงผลิตภัณฑ์ถึงมือผู้บริโภคได้ทั่วประเทศ “การเปิดตลาดออนไลน์อย่างเต็มรูปแบบนี้ เป็นการช่วยลดช่องว่างระหว่างกัน ผู้บริโภคจะได้ไม่เสี่ยงต่อการติดเชื้อโควิด-19

Read More

ชาวบุรีรัมย์ปรับวิธีเก็บน้ำผึ้งเดือน 5 สืบสานประเพณีตีผึ้งร้อยรังช่วงโควิด

ชาวบุรีรัมย์สืบสานประเพณีตีผึ้งร้อยรัง ปรับวิธีเก็บน้ำผึ้งเดือน 5 ในช่วงโควิด-19 ตั้งแต่หัวค่ำจนถึงก่อนเคอร์ฟิวเพื่อให้เหมาะสมและถูกต้องตามกฎหมาย โดยไม่สูญเสียรายได้ของชุมชน พร้อมจัดเวรยามดูแลและทำงาน อ.สำราญ ธุระตา อาจารย์ประจำคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์ หัวหน้าโครงการ “การเพิ่มคุณค่าและมูลค่าผลิตภัณฑ์ผ่านอัตลักษณ์ประเพณีตีผึ้งชุมชนสายตรีพัฒนา 3 ตำบลบึงเจริญ อำเภอบ้านกรวด จังหวัดบุรีรัมย์” โดยการสนับสนุนทุนวิจัยจากฝ่ายวิจัยเพื่อท้องถิ่น สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.) ภายใต้กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม เปิดเผยว่า น้ำผึ้งเดือน 5 เป็นน้ำผึ้งคุณภาพดีที่หลายคนเฝ้ารอจับจองที่จะได้น้ำผึ้งแท้จากรวง ชาวชุมชนได้ช่วยกันอนุรักษ์ที่เน้นคุณค่ามากกว่าปริมาณ โดยจะปลูกจิตสำนึกด้านการอนุรักษ์ให้เห็นค่าของดีในชุมชนร่วมสืบสานต่อกันมา มีกฎระเบียบของหมู่บ้านที่หารือกันไว้ว่าจะเก็บน้ำผึ้งเพียงปีละครั้งเพื่อเป็นการอนุรักษ์ไว้เพื่อความยั่งยืน ชุมชนเล็กๆ แห่งนี้มี "ประเพณีตีผึ้งร้อยรัง" ซึ่งเป็นประเพณีประจำท้องถิ่นจังหวัดบุรีรัมย์ และถือเป็นหนึ่งใน OTOP ท่องเที่ยว นวัตวิถี ที่น่าสนใจที่สุดแห่งหนึ่ง มีการนำเที่ยวชมผึ้งร้อยรังเพื่อชิมความหวานน้ำผึ้งเดือนห้า โดยทุกปีทางชุมชนจะร่วมกันตกแต่งสถานที่ให้สะอาดงดงามและเป็นระเบียบ มาท่องเที่ยวกัน ในทุกๆ ปี เมื่อถึงวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 5 ชุมชนสายตรีพัฒนา 3

Read More

กรมอนามัย จับมือ ลอรีอัล ประเทศไทย ให้ความรู้ร้านเสริมสวย รับมาตรการสุขอนามัยป้องกันโควิด-19

กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข เตรียมร่วมกับ ลอรีอัล ประเทศไทย แผนกผลิตภัณฑ์ช่างผมมืออาชีพ จัดบรรยายให้ความรู้ในรายละเอียดมาตรการด้านสุขอนามัยสำหรับร้านเสริมสวย เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 ตามแนวทางที่ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. ได้ประกาศข้อกำหนดและมาตรการผ่อนปรนสำหรับร้านตัดผมเสริมสวย การให้ความรู้ด้านมาตรการดังกล่าว จะเป็นการบรรยายออนไลน์ผ่านทางเฟสบุ๊คไลฟ์ ของ ลอรีอัล ประเทศไทย โดยเปิดให้เจ้าของร้านเสริมสวย รวมถึงช่างผม เจ้าหน้าที่ในร้านเสริมสวย และประชาชนผู้สนใจทั่วประเทศ สามารถร่วมฟังการให้ข้อมูล เพื่อทำความเข้าใจในรายละเอียดมาตรการด้านสุขอนามัยสำหรับร้านเสริมสวยและผู้เข้ารับการบริการ เพื่อความปลอดภัยของช่างผม เจ้าหน้าที่ผู้ให้บริการ และลูกค้าผู้รับบริการ ข้อมูลจากการบรรยายนี้นอกจากจะช่วยป้องกันการแพร่ระบาดเชื้อโควิด-19 แล้ว ยกจะช่วยระดับมาตรฐานสุขอนามัยร้านเสริมสวย ยังช่วยสร้างความมั่นใจให้ลูกค้าผู้ต้องการเข้าใช้บริการร้านเสริมสวยด้วย การบรรยายมาตรการด้านสุขอนามัยสำหรับร้านเสริมสวย บรรยายโดย พญ.พรรณพิมล วิปุลากร อธิบดีกรมอนามัย และ นพ. สราวุฒิ บุญสุข รองอธิบดีกรมอนามัย จะจัดขึ้นวันพฤหัสบดีที่ 7 พฤษภาคม นี้ เวลา 13.00-14.00 น. เจ้าของร้านเสริมสวย ช่างผม หรือผู้สนใจ

Read More

“IMH” รุกหนักเปิดบริการตรวจภูมิคุ้มกัน COVID-19 แบบ Drive-Thru – บริการถึงบ้าน ราคาแพคเกจ 850 บาท

บมจ.โรงพยาบาลอินเตอร์เมดิคัล แคร์ แอนด์ แล็บ หรือ IMH ผู้ให้บริการด้านการ ตรวจสุขภาพใน - นอกสถานที่ เปิดให้บริการตรวจภูมิคุ้มกัน COVID-19 ทั้งแบบ Drive-Thru และแบบการให้บริการถึงบ้าน ราคาแพคเกจ 850 บาท เพื่อลดความเสี่ยงการเผยแพร่เชื้อสู่บุคลากรการแพทย์ และย่นเวลาการรู้ผล ดร.สิทธิวัตน์ กำกัดวงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โรงพยาบาลอินเตอร์เมดิคัล แคร์ แอนด์ แล็บ จำกัด (มหาชน) หรือ IMH ผู้ดำเนินธุรกิจโรงพยาบาลเอกชนเฉพาะทางด้านอาชีวเวชศาสตร์ มุ่งเน้นด้านบริการทางการแพทย์แบบเชิงรุกนอกสถานที่ (Mobile Checkup) ด้านการตรวจสุขภาพ ที่มีประสบการณ์มากกว่า 20 ปี เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของ “ไวรัสโคโรนา 2019” หรือ “COVID-19” ที่แพร่ระบาดในช่วงที่ผ่านมา และมีแนวโน้มผู้ป่วยเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ดังนั้น IMH ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการให้บริการตรวจสุขภาพทั้งใน และนอกสถานที่

Read More