Home > ตลาดทองคำ

GCAP GOLD จับตา “ทรัมป์” รีดภาษีรอบใหม่ ลุ้นราคาทองสร้าง New High ที่ระดับราคา 51,200 บาท

นางสาวอารีรัตน์ มุราชัย นักวิเคราะห์ บริษัท จีแคป จำกัด หรือ GCAP GOLD ประเมินว่าทิศทางตลาดทองคำในสัปดาห์นี้ ยังคงเผชิญกับความผันผวน พร้อมแนะนำให้จับตาทิศทางทองคำหลังประกาศภาษีใหม่จาก “ทรัมป์” ในวันที่ 2 เมษายน นี้ ซึ่งส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อราคาทองคำ ทั้งนี้หากมีการประกาศภาษีที่รุนแรง ราคาทองคำอาจพุ่งสูงขึ้น นักลงทุนอาจหันมาถือทองคำมากขึ้นเพื่อลดความเสี่ยงจากความผันผวนของตลาด ดังนั้นประเมินว่า ราคาทองคำมีทิศทางเป็นขาขึ้นจากความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจและแรงซื้อในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย โดย GCAP GOLD ได้ประเมินเป้าหมายของการปรับตัวขึ้นระยะสั้นเบื้องต้นไว้ที่ $3,150 / $3,200 และราคาทองคำไทยอาจทำ New High อยู่ที่ประมาณ 50,800 บาท และหากเงินบาทอ่อนค่าขึ้นเพิ่มเติมอาจจะเห็น 51,200 บาท นอกจากนี้ ทั่วโลกยังเฝ้าจับตาการเคลื่อนไหวครั้งสำคัญของสหรัฐฯ ในวันที่ 2 เมษายน ที่จะถึงนี้ ซึ่งทางประธานาธิบดีทรัมป์ จะประกาศบังคับใช้ภาษีตอบโต้รอบใหม่ ซึ่งส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลกเพราะเป็นช่วงเวลาที่มีความตึงเครียดทางการค้าอยู่ในระดับสูงอยู่แล้ว ยิ่งทำให้ตลาดมีความกังวลเกี่ยวกับการ ขึ้นภาษีและการตอบโต้จากประเทศอื่นๆ ตามมา สิ่งที่ต้องจับตามองในมาตรการทางภาษีรอบใหม่ครั้งนี้ คือ

Read More

ช่างทอง 2 แสนคน อ่วม พิษตลาดป่วนขึ้นลงแรง

จิตติ ตั้งสิทธิ์ภักดี นายกสมาคมค้าทองคำ ออกมาย้ำเตือนถึงสถานการณ์ตลาดทองคำที่กำลังปั่นป่วนผันผวนอย่างหนัก เปลี่ยนราคากันทุกชั่วโมง ขึ้นแรงและร่วงลงแรง เพราะไม่ใช่แค่อาการเจ็บหนักของกลุ่มนักเก็งกำไรรายย่อย รายกลาง แต่กำลังส่งผลกระทบต่อช่างทำทองในอุตสาหกรรม จำนวนกว่า 200,000 คน มีสิทธิ์ตกงานสูงถึง 60-70% เหตุผลสำคัญ คือ เมื่อตลาดทองคำไม่นิ่ง กลุ่มลูกค้าผู้ซื้อส่วนใหญ่จะรอ เพื่อซื้อหรือขาย โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าทองรูปพรรณหายไปเกือบทั้งหมด ร้านทองปลีกหยุดสั่งซื้อ ร้านทองค้าส่งหยุดออร์เดอร์และกระทบเป็นลูกโซ่ต่อกลุ่มช่างทำทองทันที ขณะเดียวกันสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ภาครัฐประกาศล็อกดาวน์ ปิดให้บริการห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า ผู้คนงดการเดินทาง ทำให้ช่วงครึ่งปีแรกโรงงานผลิตทองรูปพรรณหยุดการผลิตไปจำนวนมาก และหยุดการจ้างกว่า 50% นายจิตติกล่าวว่า หากดูข้อมูลการซื้อขายทองคำช่วงเดือนกรกฎาคม ลูกค้าส่วนใหญ่นำทองแท่งมาขาย เพื่อกินส่วนต่างราคาที่เพิ่มสูงขึ้นและเริ่มนำทองรูปพรรณมาขายในช่วงเดือนสิงหาคม ขณะที่ด้านการส่งออกไปต่างประเทศมีปัญหา ปริมาณและมูลค่าเริ่มน้อยลง เนื่องจากประเทศแถบยุโรปยังเจอปัญหาโควิด-19 แพร่ระบาด อย่างไรก็ตาม ภาพรวมของผู้ประกอบการร้านทองยังมีทุนหมุนเวียนอยู่ ร้านรายใหญ่สามารถสั่งจ่ายเช็คให้ลูกค้า ส่วนร้านรายย่อยจ่ายเงินสด “ร้านทองยังอยู่ได้ แต่เป็นห่วงกลุ่มช่างทอง เพราะทองรูปพรรณขายไม่ได้เลย โดยขายไม่ดีตั้งแต่เกิดโควิด-19 เรื่อยมาจนเกิดสถานการณ์ตลาดทองคำผันผวน ยิ่งไม่มีลูกค้าซื้อ มีแต่นำมาขาย ช่างทองมีปัญหา โรงงานเล็กๆ ปิดไปเยอะ ต่างประเทศไม่สั่งก็เดือดร้อนหมด ผมคาดช่างทำทองในระบบรวมกับกลุ่มจิวเวลรี่

Read More