ราคาทองคำกลายเป็นประเด็นร้อนแรงหลังพุ่งทะลุระดับบาทละ 30,000 บาท และมีการประกาศราคาหลายรอบ บางวันเปลี่ยนแปลงมากกว่า 40 ครั้ง ทุบสถิติเป็นประวัติการณ์ เกิดการเก็งกำไร ผู้คนแห่เข้าคิวขายเป็นแถวยาวเหยียดหนาแน่น แต่หลังจากนี้ต้องจับสัญญาณความเสี่ยงและปัจจัยต่างๆ โดยเฉพาะกลุ่มกองทุนต่างชาติเพราะจะเป็นตัวการทำให้ราคาทองผันผวนและพลิกร่วงลงได้
ขณะเดียวกัน หากพิจารณาข้อมูลต่างๆ เริ่มจากภาพรวมความต้องการซื้อทองคำของทั้งโลกยังเพิ่มขึ้น แม้เจอภาวะวิกฤตเศรษฐกิจและผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ทั้งในแง่ความต้องการเพื่อการสวมใส่เครื่องประดับ ทองคำเพื่อการลงทุน ซึ่งประเทศไทยถือเป็นประเทศผู้นำเข้าทองคำแท่งมากเป็นอันดับต้นๆ เช่นกัน และความต้องการของธนาคารกลางประเทศต่างๆ
ว่ากันว่า ธนาคารกลางที่ถือครองทองคำเป็นเงินสำรองมากที่สุดในโลก คือ ธนาคารกลางสหรัฐฯ มากกว่า 8,000-9,000 ตัน ตามด้วยเยอรมนี 3,369 ตัน และอิตาลี 2,451 ตัน แต่ประเทศที่ถูกจับตามากกลับเป็นจีนและรัสเซีย เนื่องจากทั้งสองประเทศพยายามถือครองทองคำในเงินทุนสำรองมากขึ้น เพื่อลดการถือครองเงินดอลลาร์สหรัฐและลดบทบาทเงินดอลลาร์สหรัฐ
นายจิตติ ตั้งสิทธิ์ภักดี นายกสมาคมค้าทองคำ กล่าวว่า ราคาทองคำผันผวนมากจนไม่สามารถคาดการณ์ตัวเลขเป้าหมายชัดเจนได้ แต่หากประเมินราคาทองคำมีโอกาสขยับขึ้นในระยะสั้น เพราะเหตุการณ์ต่างประเทศยังมีปัญหาหลายอย่าง และอยู่ในจุดรุนแรงทั้งสิ้น
ไม่ว่าจะเป็นเหตุระเบิดร้ายแรงในกรุงเบรุตจนจุดกระแสประท้วงต่อต้านรัฐบาล กรณีความขัดแย้งยืดเยื้อระหว่างสหรัฐอเมริกากับจีน รวมถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 โดยเฉพาะในประเทศสหรัฐอเมริกา บราซิล และประเทศแถบยุโรปยังมีการระบาดต่อเนื่อง
อย่างกรณีเลบานอน แม้ล่าสุด นายกรัฐมนตรีฮัสซัน ดิอับ
ทองราคาทองราคาทองคำ Read More