Home > 2019 > ตุลาคม (Page 3)

คอนวีเนียนคาเฟ่ เดือด “แฟมิลี่มาร์ท-ลอว์สัน” เร่งผุด

สงครามกาแฟในกลุ่มคอนวีเนียนสโตร์ร้อนเดือดขึ้นหลายเท่า เมื่อเทสโก้โลตัสประกาศบุกธุรกิจกาแฟสดชงในร้านเทสโก้ โลตัส เอ็กซ์เพรส โฉมใหม่ 44 สาขา และตั้งเป้าปูพรมขยายอีก 1,000 สาขาทั่วประเทศภายใน 3 ปี ชนิดที่ว่า ทั้ง “ออลคาเฟ่” ของค่ายเซเว่นอีเลฟเว่น “อาริกาโตะ” ของแฟมิลี่มาร์ท และ “ลอว์สันคาเฟ่” ในร้านลอว์สัน 108 ต้องเร่งปรับกลยุทธ์อัดโปรโมชั่น เพื่อยึดฐานลูกค้าอย่างเหนียวแน่น ขณะเดียวกัน ประมาณการกันว่า ตลาดกาแฟทั้งประเทศไทยมีมูลค่ากว่า 64,700 ล้านบาท เป็นตลาดที่บริโภคนอกบ้าน (Out of Home) ราว 26,000 ล้านบาท และในจำนวนนี้เป็นตลาดร้านกาแฟสูงถึง 17,000 ล้านบาท อัตราเติบโต 15-16% โดยมีแนวโน้มขยายตัวทั้งในแง่กลุ่มลูกค้าและผู้เล่นในตลาดเพิ่มขึ้นทุกปี ที่สำคัญ เคาน์เตอร์กาแฟในคอนวีเนียนสโตร์กลายเป็นตลาดที่มีศักยภาพการเติบโตสูง เนื่องจากสามารถเจาะขยายฐานจากกลุ่มลูกค้าประจำของร้านและราคาจับต้องได้มากกว่าร้านระดับพรีเมียม เป็นเกมบุกกินรวบตลาดระดับกลาง โดยเฉพาะในยุคเศรษฐกิจที่ยังไม่ฟื้นตัว ลูกค้าหลายรายปรับพฤติกรรมจากการดื่มกาแฟแก้วละร้อยกว่าบาทมาเป็นกาแฟคุณภาพราคากลางๆ เพิ่มขึ้น หากเปรียบเทียบแต่ละค่าย ผู้นำตลาดอย่าง “ออลคาเฟ่ (ALL

Read More

คีรี กาญจนพาสน์ เปิดฉาก “ยูซิตี้” รุกโค้งน้ำเจ้าพระยา

ระยะเวลาเพียงเดือนเศษๆ คีรี กาญจนพาสน์ ในฐานะประธานคณะกรรมการ บริษัท ยู ซิตี้ จำกัด (มหาชน) เปิดฉากผุดบิ๊กโปรเจกต์รุกขยายอาณาจักรธุรกิจอสังหาริมทรัพย์อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการเริ่มต้นคิกออฟโครงการพัฒนาที่ราชพัสดุแปลงที่ตั้งโรงภาษีร้อยชักสาม ย่านเจริญกรุง เพราะถือเป็นการเจาะแนวรบใหม่ริมฝั่งน้ำเจ้าพระยาที่มีกลุ่มทุนรายใหญ่ยึดครองพื้นที่รอบด้าน ไม่ว่าจะเป็น “เอเชียทีค” ของกลุ่มทีซีซีกรุ๊ป “ไอคอนสยาม” ที่กลุ่มสยามพิวรรธน์จับมือกับเครือซีพี และ “ล้ง 1919” ของตระกูลหวั่งหลี  ตามแผนเบื้องต้น ยู ซิตี้ และกรมศิลปากรจะเร่งลงพื้นที่สำรวจทางโบราณคดีและสเกตช์ภาพเพื่อบันทึกหลักฐานทางประวัติศาสตร์ รูปแบบโครงสร้างดั้งเดิมของตัวอาคารศุลกสถาน (The Custom House) หรือโรงภาษีร้อยชักสามอย่างละเอียด ซึ่งขั้นตอนการสำรวจจะเสร็จสิ้นในช่วงต้นปี 2563 จากนั้นนำข้อมูลทั้งหมดมาประกอบการบูรณะอาคารโบราณสถาน ก่อสร้างอาคารใหม่และพัฒนาอาคารประวัติศาสตร์อายุกว่า 130 ปี พร้อมพื้นที่โดยรอบ ประมาณ 5 ไร่ ในรูปแบบมิกซ์ยูส เพื่อสร้าง New Destination ด้านการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์แห่งใหม่ภายในปี 2568 ทั้งนี้ หากเปรียบเทียบกับเอเชียทีคและล้ง 1919 ต้องถือว่า โรงภาษีร้อยชักสาม มี

Read More

“กระทิงแดง” อัดฉีดยกกลุ่ม เดินหน้าชนเป้าแสนล้าน

ระยะเวลากว่า 2 ปี หลัง สราวุฒิ อยู่วิทยา ประกาศยกเครื่องโครงสร้างองค์กรครั้งใหญ่ ตั้งกลุ่มธุรกิจ TCP เดินหน้าแผนการลงทุน 5 ปี (ปี 2561-2565) เม็ดเงินกว่า 10,000 ล้านบาท โดยเฉพาะปีนี้ กลุ่มธุรกิจ TCP เปิดเกมรุกสมรภูมิเครื่องดื่มทุกแบรนด์ เร่งขยายพอร์ตโฟลิโอกว้างขวางและหลากหลาย เพื่อกวาดกลุ่มเป้าหมายทุกเพศทุกวัยและคนรุ่นใหม่อย่างต่อเนื่อง ทั้งหมดเพื่อผลักดันรายได้แตะ 100,000 ล้านบาท ทำให้กลุ่มธุรกิจ TCP เป็น House of Brand ผลิตสินค้าและสร้างแบรนด์ที่ทรงพลังมากที่สุด จะว่าไปแล้ว ธุรกิจกลุ่มกระทิงแดงจากยุคนายเฉลียว อยู่วิทยา สู่ยุคเจเนอเรชันใหม่ มีความพยายามขยายไลน์สินค้าตั้งแต่ปี 2552 เริ่มจากการเปิดตัวเครื่องดื่มให้พลังงาน “เรดดี้” เจาะตลาดพรีเมียมมากขึ้น โดยชูจุดขายส่วนผสมเสริมสร้างบุคลิกภาพ ทั้งรูปแบบขวด สี และมีหลากหลายรสชาติ พร้อมๆ กับชิมลางรุกธุรกิจอาหาร ส่ง “ซันสแนค” เมล็ดทานตะวันเคลือบธัญพืช อบกรอบ

Read More

ซีพีเอ็น’ ตอกย้ำ ‘เบอร์หนึ่งอสังหาริมทรัพย์ไทย’ มั่นใจภาครัฐ ลงทุนไม่หยุดยั้ง เดินหน้าทุ่มเงินกว่า 22,000 ล้านบาท ‘สร้างงาน สร้างเมือง สร้างประเทศ เป็น Center of Life ของทุกจังหวัด’

ซีพีเอ็น’ ตอกย้ำ ‘เบอร์หนึ่งอสังหาริมทรัพย์ไทย’ มั่นใจภาครัฐ ลงทุนไม่หยุดยั้ง เดินหน้าทุ่มเงินกว่า 22,000 ล้านบาท ‘สร้างงาน สร้างเมือง สร้างประเทศ เป็น Center of Life ของทุกจังหวัด’ พัฒนา 5 ไฮไลท์โปรเจ็กต์ และปรับโฉมทั่วประเทศ ภายในปี 2565 บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอ็น ผู้นำเบอร์หนึ่งในการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ของไทย นำโดยวัลยา จิราธิวัฒน์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และชนวัฒน์ เอื้อวัฒนะสกุล รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานพัฒนาธุรกิจและโครงการ ประกาศแผน ‘สร้างงาน สร้างเมือง สร้างประเทศ เป็น Center of Life ของทุกจังหวัด’ ลงทุนต่อเนื่องไม่หยุดยั้ง ทุ่มงบ 22,000 ล้านบาท ภายในปี พ.ศ. 2565 ตั้งเป้าเสริมภาครัฐบุกเบิกเมืองเศรษฐกิจใหม่ และปลุกปั้นย่าน

Read More

ภาวะเศรษฐกิจไทย เมื่อถึงคราวเครื่องยนต์ดับ!

สถานการณ์ทางเศรษฐกิจไทยช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2562 นอกจากจะปราศจากสัญญาณเชิงบวกที่จะช่วยผลักดันให้เกิดความหวังว่าด้วยการฟื้นตัวอย่างที่หลายฝ่ายเฝ้าติดตามแล้ว ดูเหมือนว่าผลกระทบว่าด้วยการชะลอตัวลงของเศรษฐกิจทั้งภายในประเทศและระดับนานาชาติ ยังมีผลให้ภาคการผลิตของไทยได้รับผลกระทบต่อเนื่องจนอาจจะเป็นเหตุให้เกิดการจ้างงานในอนาคตอันใกล้นี้ด้วย การส่งออกของไทยที่ตกต่ำลงจะอยู่ในภาวะติดลบต่อเนื่องในระดับร้อยละ 1.5-2.0 ส่งผลให้เกิดภาวะชะลอตัวในการจ้างแรงงานในภาคการผลิต โดยเฉพาะการผลิตเพื่อการส่งออก โลจิสติกส์ ค้าปลีกและค้าส่ง ที่ส่งสัญญาณชะลอตัวจากช่วงเดียวกันของปีก่อนอย่างมาก สัญญาณการจ้างงานที่ลดต่ำลง ในด้านหนึ่งเป็นผลมาจากการที่ผู้ประกอบการบางส่วนปรับเปลี่ยนเทคโนโลยีการผลิต ไปสู่กระบวนการผลิตที่มีวิทยาการสูงขึ้น รวมถึงการใช้หุ่นยนต์หรือ AI เข้ามาประกอบส่วน ซึ่งกรณีเช่นว่านี้กลายเป็นความเสี่ยงต่อตลาดแรงงานโดยเฉพาะนักศึกษาจบใหม่ที่กำลังจะเข้าสู่ระบบในช่วงเดือนมีนาคมถึงเมษายน 2563 อีกประมาณ 5.24 แสนคน ซึ่งกำลังจะกลายเป็นอีกหนึ่งในมิติของปัญหาทางเศรษฐกิจสังคมที่สังคมไทยจะต้องเผชิญ เพราะจะทำให้สังคมไทยต้องแบกหนักและประสบปัญหาภาวะว่างงานสูงขึ้น ขณะที่กลไกรัฐจำเป็นต้องออกมาตรการประคับประคองสถานการณ์และกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อให้เกิดการบริโภคภายในก่อนที่จะทรุดหนักไปมากกว่านี้ ความหนักหน่วงของสถานการณ์การเลิกจ้างแรงงานสามารถประเมินได้จากสัญญาณจากมาตรการขึ้นต้นว่าด้วยการเริ่มไม่รับพนักงานใหม่เพิ่มเข้าสู่กระบวนการผลิตแทนตำแหน่งที่ว่าง การใช้หุ่นยนต์หรือเครื่องจักรอัตโนมัติในกระบวนการผลิตมากขึ้น ไปสู่การเลิกจ้างบริษัทภายนอกเกี่ยวกับแรงงาน การลดค่าล่วงเวลา การลดชั่วโมงการทำงาน ไปจนสู่การปิดไลน์การผลิต และการปิดสาขาหรือโรงงานการผลิตที่ไม่จำเป็น จนถึงการปลดออกแรงงานในที่สุด ข้อเท็จจริงที่น่าสนใจเกี่ยวกับตลาดแรงงานไทยในห้วงเวลาปัจจุบันอยู่ที่แรงงานไทยในทุกภาคการผลิตมีอยู่ประมาณ 37.6 ล้านคน หรือคิดเป็นร้อยละ 56.5 ของประชากรทั้งหมด ขณะที่กลไกการขับเคลื่อนเศรษฐกิจหลักทั้งการส่งออก การลงทุน การบริโภคลดลง มีเพียงภาคการท่องเที่ยวที่เติบโตในปี 2562 ซึ่งกลายเป็นปัจจัยกดดันการจ้างงานปีนี้และต่อเนื่องถึงปี 2563 โดยเฉพาะช่วงไตรมาสแรกถึงไตรมาสสองของปีหน้าอีกด้วย ปัจจัยลบที่จะมีผลต่อตลาดแรงงานในระยะต่อไป นอกเหนือจากการเริ่มเข้าสู่ยุคดิจิทัลที่เน้นเทคโนโลยีแทนคนเพิ่มขึ้นแล้ว เงื่อนไขการส่งเสริมการลงทุนที่เน้นอุตสาหกรรมเป้าหมายที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูง รวมถึงเศรษฐกิจโลกที่อยู่ในวัฏจักรชะลอตัว กำลังจะส่งผลให้เกิดการว่างงานอย่างกว้างขวาง แต่ด้วยเหตุที่แรงงานไทยจำนวนไม่น้อยเป็นแรงงานนอกระบบ ทำให้ดูเหมือนว่าประเทศไทยมีอัตราการว่างงานอยู่ในเกณฑ์ต่ำ

Read More

สัญญาณติดเชื้อสเตฟที่พึงระวัง

Column: Well – Being เป็นไปได้ว่า ณ เวลานี้ มีโอกาสที่แบคทีเรียกลุ่มสเตฟฟิโลคอคคัสปักหลักอาศัยอยู่ในรูจมูกของคุณราวร้อยละ 30 เลยทีเดียว แต่นั่นไม่ใช่สิ่งที่คุณจะหงุดหงิดใจ สเตฟฟิโลคอคคัสเป็นกลุ่มแบคทีเรียที่มีมากกว่า 30 ชนิด นอกจากนี้ ยังเป็นที่รู้จักกันว่า เป็นสิ่งมีชีวิตขนาดจิ๋วที่ “อยู่แบบพึ่งพาอาศัยกัน” เพราะมันมีความเป็นมิตรมากพอที่จะอาศัยอยู่ในร่างกายของเราโดยไม่ก่อให้เกิดปัญหาใดๆ ทั้งนี้เป็นคำอธิบายของ ดร.พอล เฟย์ ผู้อำนวยการฝ่ายการแพทย์ แผนกพยาธิวิทยาและจุลชีววิทยาของศูนย์การแพทย์มหาวิทยาลัยเนบราสกา “ คุณสามารถพบเชื้อสเตฟในจมูก บนผิวหนัง และบางครั้งก็ในเยื่อเมือกของอวัยวะอื่นๆ เช่น ที่ทวารหนัก” ขณะที่เบคทีเรียสเตฟเป็นเหมือนแขกที่ปักหลักเฉพาะที่อยู่ในร่างกายของเรา มันสามารถเป็นสาเหตุของการติดเชื้อและความเจ็บป่วยได้ ถ้ามันเข้าสู่อวัยวะส่วนอื่นๆ ของร่างกายที่มันไม่สมควรเข้าไปอยู่ ดร.เฟย์กล่าวว่า การติดเชื้อสเตฟมีหลายชนิดและแสดงอาการแตกต่างกัน “การติดเชื้อสเตฟที่พบมากที่สุดคือ เมื่อมีรอยแผลที่ผิวหนัง ทำให้เชื้อสเตฟมีทางเข้าไปจนเกิดการติดเชื้อได้” นพ.โจชัว ซีคเนอร์ ผู้อำนวยการด้านการวิจัยเครื่องสำอางและทางคลินิก สาขาวิชาโรคผิวหนังแห่งโรงพยาบาลเมาต์ ไซนาย อธิบาย “ภาวะนี้อาจเกิดขึ้นหลังจากถูกมีดบาด และเกิดรอยขีดข่วน เป็นแผลหลังโกนหนวด หรือแม้แต่เมื่อผิวหนังเปิดเพราะโรคน้ำกัดเท้า” นอกเหนือจากภาวะติดเชื้อเฉพาะที่เล็กๆ น้อยๆ แล้ว เชื้อสเตฟยังเป็นสาเหตุของการเกิดปฏิกิริยาในระบบภูมิคุ้มกันขั้นรุนแรง ไปจนถึงการติดเชื้อที่รู้จักกันว่า “ภาวะติดเชื้อ”

Read More

เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ ส่งตรงการแสดงคอนเสิร์ตจากประเทศเกาหลี “BTS WORLD TOUR `LOVE YOURSELF : SPEAK YOURSELF` FINAL IN SEOUL” ชมสดพร้อมกัน 7 ประเทศ

เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป ส่งตรงการแสดงคอนเสิร์ตจากประเทศเกาหลี “BTS WORLD TOUR `LOVE YOURSELF : SPEAK YOURSELF` FINAL IN SEOUL” ชมสดพร้อมกัน 7 ประเทศ เปิดจองบัตร 14 ตุลาคมนี้!! บริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป จำกัด (มหาชน) ส่งตรงการแสดงสดคอนเสิร์ต “BTS WORLD TOUR `LOVE YOURSELF: SPEAK YOURSELF` FINAL IN SEOUL” จากประเทศเกาหลีสู่สาวกเคป๊อป ในไทยให้สัมผัสความสนุกความมันส์แบบสะใจ ด้วยการชมสดพร้อมกันบนจอขนาดใหญ่ในโรงภาพยนตร์ เหล่าสาวกเคป๊อปของ BTS ทั้งใน สหรัฐอเมริกา, ไต้หวัน, ฮ่องกง, สิงคโปร์, เกาหลีใต้, ญี่ปุ่น และประเทศไทย

Read More

“กรุงไทย ต้นกล้าสีขาว” เข้าสู่ปีที่ 13 ประกวดแผนการตลาด ด้วยแนวคิด “ไอเดียเป๊ะ ชุมชนปัง” ชิงถ้วยพระราชทาน

โครงการกรุงไทยต้นกล้าสีขาว ปีที่ 13 จัดประกวดแผนการตลาด Digital Marketing โปรโมทชุมชน ชิงถ้วยพระราชทาน และเงินรางวัลรวม 1.4 ล้านบาท ธนาคารกรุงไทย จัดโครงการ “กรุงไทย ต้นกล้าสีขาว” ปีที่ 13 เชิญชวนนักเรียน นิสิต นักศึกษา ระดับไม่เกินปริญญาตรีเข้าร่วมโครงการ โดยน้อมนำพระราชดำริหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร มาประยุกต์ใช้ในการพัฒนาชุมชน เพื่อส่งเสริมเยาวชนร่วมขับเคลื่อนและส่งต่อความยั่งยืนสู่ชุมชนและสังคม โดยส่งแผนการตลาดในรูปแบบ Digital Marketing ประชาสัมพันธ์ชุมชนให้โลกรู้ ด้วยแนวคิด “ไอเดียเป๊ะ ชุมชนปัง” ชิงถ้วยพระราชทานจากสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พร้อมเงินรางวัลรวม 1,400,000 บาท ผู้สนใจรวมตัวเพื่อนๆ ทีมละไม่เกิน 3 คน จัดทำแผนการตลาดเพื่อโปรโมทชุมชน ด้วยงบประมาณ 50,000 บาท โดยกรอกแบบสมัครออนไลน์พร้อมแนบไฟล์แผนการตลาดที่ www.ktb.co.th/content/tonkla ระหว่างวันที่ 15 ตุลาคม

Read More

“เนสกาแฟ” ผนึกกำลัง “สามย่าน มิตรทาวน์” เปิด “เนสกาแฟ ฮับ” ป๊อปอัพ สโตร์ ขยายช่องทางดื่มกาแฟสดคุณภาพ ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่

“เนสกาแฟ” ผนึกกำลัง “สามย่าน มิตรทาวน์” เปิด “เนสกาแฟ ฮับ” ป๊อปอัพ สโตร์ ขยายช่องทางดื่มกาแฟสดคุณภาพ ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ นายศุภวัฒน์ คามีเยาน์ ผู้จัดการฝ่ายพัฒนากลุ่มธุรกิจกาแฟ บริษัท เนสท์เล่ (ไทย) จำกัด จับมือสามย่าน มิตรทาวน์ นำโดย นางสาวจารุวรรณ งาพานิชวัฒน์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการ ฝ่ายการตลาด ศูนย์การค้าสามย่าน มิตรทาวน์ นำร้านกาแฟสดสุดฮิตบนบีทีเอส มาสู่คนเมืองด้วยการเปิด “เนสกาแฟ ฮับ” ป๊อปอัพ คาเฟ่ ร้านกาแฟสดสุดชิคแห่งใหม่ เพื่อมอบประสบการณ์ที่เหนือกว่าให้กับคนรักกาแฟสด ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ที่เข้ามาช้อป ชิม ชิว ภายในโครงการสามย่าน มิตรทาวน์ มิกซ์ยูสแห่งใหม่ใจกลางกรุงเทพฯ โดยถือเป็นเนสกาแฟ ฮับ แห่งนี้ถือเป็นสาขาที่ 6 จากแผนกลยุทธ์ของเนสกาแฟที่ตั้งเป้าขยายจำนวนของเนสกาแฟ ฮับ ให้ครบ 15 สาขาภายในกลางปี 2563 ร่วมดื่มด่ำกับความหอมอร่อยของกาแฟสด

Read More

งานวิจัยระบุ “กรอบการคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญาที่เข้มแข็ง มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการพัฒนาเศรษฐกิจของไทย”

งานวิจัยระบุ “กรอบการคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญาที่เข้มแข็ง มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการพัฒนาเศรษฐกิจของไทย” ประเทศไทยจำเป็นต้องยกระดับการคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญาเพื่อก้าวสู่ระบบเศรษฐกิจบนฐานความรู้ ผลการวิจัยของเจนีวา เน็ตเวิร์ค พบว่า ประเทศไทยเป็นหนึ่งในประเทศกลุ่มอาเซียนที่จำต้องยกระดับกรอบการคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญา (Intellectual property rights - IPR) รวมถึงกลไกการบังคับใช้กฏหมายให้สอดคล้องกับมาตรฐานโลกเพื่อให้ประเทศสามารถก้าวสู่กลุ่มประเทศที่มีรายได้สูง การวิจัยดังกล่าวชื่อ “ความสำคัญของทรัพย์สินทางปัญญาเพื่อการพัฒนา: สาระสำหรับการปฏิรูปของประเทศในกลุ่มอาเซียน” ระบุว่า ประเทศไทยจำเป็นต้องปรับปรุงในหลายๆ ด้าน อาทิ การตรวจสอบสิทธิบัตรและการปกป้องสิทธิบัตรเพื่อผลักดันการเติบโตทางเศรษฐกิจ และเพื่อไม่ให้ติดกับดักรายได้ปานกลาง รวมทั้งสามารถก้าวสู่เศรษฐกิจที่มีรายได้สูงขึ้น เจนีวา เน็ตเวิร์ค ซึ่งเป็นองค์กรวิจัยและสนับสนุนนโยบายรัฐจากประเทศอังกฤษกล่าวว่า ประเด็นการพัฒนานวัตกรรม การค้าและการพัฒนา รวมถึงกรอบการคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญาที่เข้มแข็งเป็นตัวผลักดันที่สำคัญให้ประเทศก้าวสู่เศรษฐกิจบนฐานความรู้ และยังมีความสำคัญมากต่อการดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ สร้างงานที่มีมูลค่าสูง และขยายธุรกิจในประเทศ กฏหมายคุ้มครองสิทธิบัตรและเครื่องหมายการค้าที่เข้มแข็งขึ้นเป็นสิ่งที่ส่งผลดีต่อระบบเศรษฐกิจ ยกตัวอย่างเช่น อุตสาหกรรมที่ให้ความสำคัญกับเครื่องหมายทางการค้ามีส่วนสำคัญต่อ GDP ของประเทศถึงร้อยละ 22 ในขณะที่อุตสาหกรรมที่เน้นความคิดสร้างสรรค์จำต้องอาศัยการปกป้องลิขสิทธิ์เพื่อให้อยู่รอด กราฟแสดงการจัดอันดับประเทศตามคะแนนด้านการคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญา   รายงานดังกล่าวยังระบุว่า ประเทศไทยสามารถปรับปรุงอันดับในดัชนีกรรมสิทธิ์ทางทรัพย์สิน (ซึ่งปัจจุบันอยู่ต่ำกว่ามาตรฐานทั่วไปของโลก) ด้วยการบังคับใช้มาตรการคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญาให้เข้มแข็งขึ้น เร่งระยะเวลาที่ใช้ในการตรวจสอบสิทธิบัตรให้เร็วขึ้น และลดช่องว่างในการปกป้องลิขสิทธิ์และกฏหมายด้านเครื่องหมายการค้าให้น้อยลง การสำรวจยังพบว่า ประเทศไทยใช้เวลา 14 ปีโดยเฉลี่ยในการตรวจสอบสิทธิบัตรที่เกี่ยวกับชีววิทยาศาสตร์ และสิทธิบัตรมักจะผ่านการอนุมัติเพียงไม่กี่เดือนหรือไม่กี่สัปดาห์ก่อนที่สิทธิบัตรนั้นจะหมดอายุ อย่างไรก็ตาม รัฐบาลไทยได้สนับสนุนให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในส่วนสำคัญๆ หลายส่วนเช่น การจัดการกับการโจรกรรมข้อมูลออนไลน์ และการปลอมแปลง

Read More