Home > Vanida Toonpirom

อรวรรณ เกลียวปฏินนท์ กับกลยุทธ์สร้างการเติบโตของ ฟิตเนส เฟิร์ส

“ฟิตเนส เฟิร์ส อยู่ในเมืองไทยมานานกว่า 20 ปี ตั้งแต่ปี 2545 เป็นต้นมา รายได้เราโตประมาณ 5-7% ทุกปี แต่ต้องบอกว่าหลังจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 มันมีการเปลี่ยนแปลงมหาศาล เราต้อง set standard ใหม่กันทั้งหมด ลืมไปเลยว่าก่อนหน้านี้เราเป็นอย่างไร แต่หลังจากนี้ต้องเปลี่ยน” อรวรรณ เกลียวปฏินนท์ หัวหน้าทีมการตลาด บริษัท อีโวลูชั่น เวลล์เนสส์ (ประเทศไทย) จำกัด บริษัทแม่ของ ฟิตเนส เฟิร์ส (Fitness First) และเซเลบริตี้ ฟิตเนส (Celebrity Fitness) กล่าวกับ “ผู้จัดการ 360 องศา” ก่อนการแพร่ระบาดของโควิด-19 เทรนด์รักสุขภาพเติบโตอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ธุรกิจฟิตเนสในประเทศไทยเติบโตและแข่งขันกันอย่างดุเดือด มีทั้งผู้เล่นรายใหญ่ที่อยู่ในตลาดมานาน และผู้เล่นรายใหม่ๆ เกิดขึ้นมาชิงส่วนแบ่งการตลาดเป็นจำนวนไม่น้อย แต่การแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้ธุรกิจต้องหงุดชะงัก ผู้เล่นหลายรายต้องปิดตัวลง ก่อนที่ปัจจุบันจะกลับมาคึกคักและแข่งขันดุเดือดอีกครั้งหลังสถานการณ์คลี่คลาย ซึ่งก็ต้องมีการปรับตัวกันขนานใหญ่ตามพฤติกรรมของผู้คนที่เปลี่ยนไป เช่นเดียวกับ

Read More

อาณาจักรหมื่นล้าน “มิลเลนเนียม กรุ๊ป”  จากดีลเลอร์ BMW สู่เครื่องบินเจ็ตส่วนตัว

ปี 2568 เป็นปีที่ บริษัท มิลเลนเนียม กรุ๊ป คอร์ปอเรชั่น (เอเชีย) จำกัด (มหาชน) หรือ MGC-ASIA ก้าวสู่ปีที่ 25 ของการดำเนินธุรกิจ และเป็นเวลากว่า 2 ทศวรรษที่ ดร.สัณหวุฒิ ธรรมชวนวิริยะ ในฐานะแม่ทัพใหญ่ ปลุกปั้นสร้างความแข็งแกร่งให้กับองค์กร จากดีลเลอร์รถบีเอ็มดับเบิลยู (BMW) สู่การเป็น Lifestyle Mobility ที่ไปไกลถึงการให้เช่าเครื่องบินเจ็ตส่วนตัว กับรายได้หลักหมื่นล้านบาทต่อปี และบริษัทในเครือมากกว่า 10 บริษัท หลักไมล์ของมิลเลนเนียม กรุ๊ป เริ่มต้นขึ้นในปี 2542 เมื่อครอบครัวธรรมชวนวิริยะได้ก่อตั้งบริษัทเพื่อประกอบธุรกิจในอุตสาหกรรมยานยนต์  โดยในตอนเริ่มจัดตั้งใช้ชื่อ บริษัท วีอาร์ที เอ็นเทอร์ไพรส์ จำกัด (จากนั้นได้มีการเปลี่ยนชื่อครั้งที่ 1 ในปี 2554 เป็น บริษัท มาสเตอร์ กรุ๊ป คอร์ปอเรชั่น

Read More

เรดบูล รุกหนักตลาดพรีเมียมเอเนอร์จี้ดริงก์ เปิดตัว “แบมแบม กันต์พิมุกต์” เสริมพลังแบรนด์ระดับโลก

ตลาดพรีเมียมเอเนอร์จี้ดริงก์ (Premium Energy Drink) หรือเครื่องดื่มให้พลังงานระดับพรีเมียมกำลังแข่งขันกันอย่างดุเดือด เพื่อต่อยอดจากเครื่องดื่มชูกำลังแบบเดิม และสร้างฐานลูกค้ากลุ่มใหม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่ม Gen Z ซึ่งปัจจุบันมีผู้เล่นในตลาดราวๆ 7-8 แบรนด์ที่กำลังขับเคี่ยวกันอย่างดุเดือด ตัวเลขในปี 2567 พบว่าตลาดเครื่องดื่มให้พลังงานมีมูลค่าตลาดอยู่ราวๆ 22,000 ล้านบาท แบ่งเป็นเครื่องดื่มให้พลังงานแบบแมส (Mass Energy Drink) 20,000 ล้านบาท และตลาดเครื่องดื่มให้พลังงานแบบพรีเมียม (Premium Energy Drink) ที่มีการเพิ่มสารอาหาร รสชาติที่แตกต่างอีกราวๆ 10% หรือประมาณ 2,200 ล้านบาท ซึ่งภาพรวมของตลาดเครื่องดื่มให้พลังงานมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องเฉลี่ยราว 6% ต่อปี และคาดว่าในปี 2568 ก็ยังจะมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่ผู้เล่นรายใหญ่ในตลาดอย่างกลุ่มธุรกิจ TCP ส่ง 3 แบรนด์หลัก ทั้ง กระทิงแดง (เรดบูล) เรดดี้ โสมพลัส และวอริเออร์ เข้ามาชิงส่วนแบ่งในตลาด

Read More

“เคทีซี พี่เบิ้ม” ปรับโฟกัส รุกธุรกิจแฟรนไชส์ สร้างโอกาสแบบ Win-Win

“ความร่วมมือครั้งนี้เกิดมาจากการมีอุดมการณ์ร่วมกันของทั้งสองธุรกิจที่อยากช่วยเหลือ ‘คนตัวเล็ก’ ที่อาจยังไม่มีโอกาส แต่มีความฝันที่อยากมีธุรกิจเป็นของตัวเอง หรือคนที่มีรายได้ไม่เพียงพอและอยากมีอาชีพเสริมมาช่วยเหลือครอบครัว ให้เขาได้มีโอกาสเข้าถึงแหล่งเงินทุนที่รวดเร็ว ถูกต้อง และโปร่งใส เคทีซีมองว่าธุรกิจแฟรนไชส์เป็นโอกาสที่ดีสำหรับคนที่อยากเริ่มต้นธุรกิจของตัวเอง แต่ยังติดปัญหาด้านเงินทุน และการจับมือกับ “ไจแอ้น ลูกชิ้นระเบิด” จะเป็นก้าวสำคัญที่ช่วยให้คนที่มีรถสามารถใช้สินทรัพย์ของตัวเองเป็นหลักประกันเพื่อขอสินเชื่อและเริ่มต้นธุรกิจได้ง่ายขึ้น” เรือนแก้ว เกษมสวัสดิ์ศรี ผู้บริหารสูงสุด สายงานสินเชื่อรถยนต์ บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ เคทีซี กล่าวไว้ในการประกาศความร่วมมือระหว่าง “เคทีซี พี่เบิ้ม รถแลกเงิน” กับ “ไจแอ้น ลูกชิ้นระเบิด” แฟรนไชส์ลูกชิ้นทอดที่มีสาขามากกว่า 2,500 สาขาทั่วประเทศ ซึ่งนับเป็นอีกหนึ่งความเคลื่อนไหวที่น่าสนใจของ “เคทีซี พี่เบิ้ม” สินเชื่อทะเบียนรถจากค่ายเคทีซี ที่ตอนนี้ปรับโฟกัสหันมาเดินหน้ารุกธุรกิจแฟรนไชส์มากขึ้น เพื่อสร้างโอกาสในการเข้าถึงแหล่งเงินทุนให้กับผู้ที่ต้องการลงทุนในแฟรนไชส์ และเพื่อสร้างการเติบโตของพอร์ตสินเชื่อให้กับเคทีซี พี่เบิ้ม ท่ามกลางสถานการณ์หนี้ครัวเรือนที่ยังน่าเป็นห่วง ศูนย์วิจัยกสิกรไทยได้ประเมินสถานการณ์สินเชื่อรายย่อยในระบบธนาคารพาณิชย์ว่า สินเชื่อรายย่อยยังคงมีแนวโน้มที่จะหดตัวต่อเนื่องในปี 2568 โดยอาจหดตัวลงประมาณ 1.0% ส่วนปี 2567 หดตัวลงประมาณ

Read More

สำรวจความคืบหน้าด้านความยั่งยืนของเนสท์เล่ กับหมุดหมายสู่ Net Zero 2050

ปี 2021 เนสท์เล่ ประเทศไทย ได้เปิดเแผนการดำเนินงานด้านความยั่งยืนสู่เป้าหมายลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิจนเหลือศูนย์ภายในปี 2050 (Nestlé Thailand Net Zero 2050 Roadmap) ผ่านมาแล้ว 4 ปี ตอนนี้ความคืบหน้าของแผนสู่ความยั่งยืนดังกล่าวไปถึงไหน เราจะไปสำรวจพร้อมๆ กัน โดยเนสท์เล่ ประเทศไทย ได้ดำเนินงานตาม 2 กลยุทธ์หลัก คือ ขับเคลื่อนสิ่งดี ๆ เพื่อผู้บริโภค (Good for You) และขับเคลื่อนสิ่งดี ๆ เพื่อโลก (Good for the Planet) ที่มุ่งสู่ Net Zero หรือการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี 2050 ความคืบหน้าภายใต้กลยุทธ์ “Good for You” ปี 2024 เนสท์เล่ ประเทศไทย ประสบความสำเร็จในการส่งมอบผลิตภัณฑ์ที่ได้รับสัญลักษณ์ "ทางเลือกสุขภาพ" ในปริมาณมากกว่า

Read More

“ไจแอ้น ลูกชิ้นระเบิด” เส้นทาง 16 ปี จากตลาดนัด สู่แฟรนไชส์อันดับ 4 ของประเทศ

“อนพ วัฒนกูล” เริ่มต้นธุรกิจลูกชิ้นทอด “ไจแอ้น ลูกชิ้นระเบิด” จากร้านลูกชิ้นทอดเล็กๆ ในตลาดท่าอิฐ ด้วยเงินทุนจากการเออร์ลี่รีไทร์ เมื่อ 16 ปีที่แล้ว ปัจจุบันไจแอ้น ลูกชิ้นระเบิด ขยายสาขาไปมากถึง 2,500 สาขาทั่วประเทศ และครองตำแหน่งแฟรนไชส์อันดับ 4 ของเมืองไทย จุดเริ่มต้นของความสำเร็จและการเดินทางตลอด 16 ปี ของแบรนด์ไจแอ้น ลูกชิ้นระเบิด เป็นอย่างไร “ผู้จัดการ 360 องศา” จะพาไปทำความรู้จัก แบรนด์ไจแอ้น ลูกชิ้นระเบิด ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 9 กันยายน 2552 โดย “อนพ วัฒนกูล” ที่มีความคิดอยากมีธุรกิจเป็นของตนเอง หลังจากที่เริ่มรู้สึกอิ่มตัวกับการเป็นพนักงานออฟฟิศ ที่ทำงานด้านการขายและการตลาดมานานกว่า 20 ปี เขาใช้ช่วงปีสุดท้ายที่ทำงานให้กับบริษัทเริ่มศึกษาและสำรวจตลาดตามที่ต่างๆ เพื่อหาโอกาสในการทำธุรกิจ โดยยึดหลัก “การตลาดต้องอยู่ในตลาด ไม่ใช่ที่โต๊ะทำงาน” สิ่งที่เขาทำในช่วงนั้นคือการเดินตลาดในทุกจังหวัดที่มีโอกาสไปทำงาน เพื่อหาสิ่งที่ทุกตลาดมีขายเหมือนกันและสิ่งที่ทุกตลาดขาดไปคล้ายกัน ในตอนแรกเขาเลือกสินค้าขึ้นมาหลายตัวเพื่อจะนำมาขายและสร้างแบรนด์ เช่น กล้วยทอด

Read More

Extra Chromosome : Just Like You แค่หนึ่งโครโมโซมที่เกินมา นอกนั้นไม่แตกต่าง

Extra Chromosome : Just Like You แค่หนึ่งโครโมโซมที่เกินมา นอกนั้นไม่แตกต่าง ชวนสร้างคุณค่า สัมผัสศักยภาพของผู้มีภาวะดาวน์ซินโดรม วันที่ 21 มีนาคมของทุกปี ถูกกำหนดให้เป็น “วันดาวน์ซินโดรมโลก” (World Down Syndrome Day - WDSD) เป็นวันที่องค์กรดาวน์ซินโดรมทั่วโลกจะจัดกิจกรรมเพื่อสร้างการตระหนักรู้ถึงศักยภาพและคุณค่าของบุคคลที่มีภาวะดาวน์ซินโดรม และเพื่อสร้างความเท่าเทียมให้เกิดขึ้นในสังคม ดาวน์ซินโดรม (Down Syndrome) เป็นชื่อที่เราเคยได้ยินและคุ้นหูกันอยู่แล้ว ซึ่งพบว่ามีเด็กจำนวนไม่น้อยที่เกิดมาพร้อมกับภาวะดาวน์ซินโดรม โดยภาวะดาวน์ซินโดรมเกิดจากความผิดปกติของแท่งพันธุกรรมหรือโครโมโซมคู่ที่ 21 ซึ่งสารพันธุกรรมมีหน้าที่ควบคุมลักษณะเฉพาะของแต่ละบุคคล เช่น สีของดวงตา สีผิว สีผม เพศ รวมถึงระบบการทำงานของอวัยวะต่างๆ ของร่างกาย โดยทั่วไปสารพันธุกรรมจะจัดเรียงตัวกันอยู่ในรูปแบบของโครโมโซม โดยมีโครโมโซม 46 แท่ง อยู่เป็นคู่ เรียงตัวกัน 23 คู่ โดยพบว่าผู้ที่เป็นดาวน์ซินโดรมจะมีโครโมโซมคู่ที่ 21 เกินมา 1 แท่ง หรือที่เรียกว่า Extra

Read More

“ปีแห่งการช่วยลูกหนี้” ภารกิจปี 2568 ของทีทีบี

เศรษฐกิจโลกยังคงเผชิญแรงกดดันจากหลายปัจจัย ทั้งความขัดแย้งทางการเมืองที่ทวีความรุนแรง สงครามการค้าระหว่างมหาอำนาจ ทำให้ทั้งภาคธุรกิจและประชาชนเผชิญภาระทางการเงินหนักขึ้น รวมถึงสินค้าจีนที่ทะลักเข้าสู่ตลาด ซึ่งส่งผลให้ธุรกิจ SME แข่งขันได้ยาก และตอนนี้ผลกระทบจากการทะลักของสินค้าจีนยังได้ลามไปถึงบริษัทใหญ่ที่ต้องแข่งกับจีนเช่นกัน เพราะ ณ ปัจจุบัน  1 ใน 3 ของสินค้าทั่วโลกมาจากจีน ไทย...ป่วยเรื้อรัง สำหรับประเทศไทยปัญหาเชิงโครงสร้างยังคงเรื้อรัง คนไทยเผชิญภาวะ "แก่แต่ยังเป็นหนี้" รายได้ไม่เพิ่มแต่ค่าครองชีพสูงขึ้น ทำให้ปัจจุบันหนี้ครัวเรือนอยู่ที่ 16.3 ล้านล้านบาท หรือ 89% ของ GDP ธุรกิจ SME ถูกดิสรัป เข้าถึงแหล่งทุนได้ยากขึ้น และธุรกิจต้องปิดตัวลงมากขึ้น ข้อมูลข้างต้นคือสิ่งที่ “ปิติ ตัณฑเกษม” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ทีเอ็มบีธนชาต ฉายภาพไว้ในการประกาศกลยุทธ์ของทีเอ็มบีธนชาต หรือ ทีทีบี ประจำปี 2568 เพื่อให้เห็นถึงสถานการณ์ทางเศรษฐกิจทั้งภาพรวมของโลกและเศรษฐกิจไทยในปัจจุบัน ซึ่งสถานการณ์เหล่านี้สะท้อนถึงความจำเป็นเร่งด่วนในการมีมาตรการช่วยเหลือที่เป็นรูปธรรม เพื่อให้ประชาชนและภาคธุรกิจสามารถกลับมาตั้งหลักทางการเงินได้อีกครั้ง ท่ามกลางสถานการณ์เศรษฐกิจโลกที่ยังเต็มไปด้วยความผันผวนดังกล่าว ทีเอ็มบีธนชาต หรือ ทีทีบี ประกาศแผนกลยุทธ์ ปี 2568 ภายใต้แนวคิด "The

Read More

LINE ดัน SME ไทย ก้าวข้ามความท้าทาย ด้วยกลยุทธ์การสร้างแบรนด์

มีการคาดการณ์ว่าในปี 2568 GDP ของไทยจะเติบโตขึ้น 2.9% ซึ่งถือเป็นแนวโน้มที่ดีขึ้นจากปีก่อนหน้า แต่เมื่อมองในภาคธุรกิจหลายส่วนยังคงเผชิญความท้าทายอย่างหนัก จากอัตราการปิดตัวลงของนิติบุคคลที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยพบว่าปี 2564 ปิดตัวเพิ่มขึ้น 4.8%, ปี 2565 ปิดตัวเพิ่มขึ้น 9.1% และปี 2566 ปิดตัวเพิ่มขึ้น 4.2% ประกอบกับสภาพเศรษฐกิจของปี 2567 ที่ฟื้นตัวแต่ยังไม่ชัดเจนมากนัก ทำให้ปี 2568 ยังคงเป็นปีแห่งความท้าทายของผู้ประกอบการ SME ไทยไม่น้อยเลยทีเดียว ล่าสุด LINE for Business ตอกย้ำกลยุทธ์สร้างแบรนด์ ดัน SME ไทย ก้าวข้ามความท้าทาย เพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน จัดงาน BOOTCAMP DAY ภายใต้แนวคิด “อัพสกิล สร้างแบรนด์ ปั้นยอดขายด้วย LINE” มุ่งสนับสนุนให้ผู้ประกอบการไทยปรับตัวและเติบโตอย่างแข็งแกร่งในยุคดิจิทัล พร้อมเปิดกลยุทธ์ด้านการสร้างแบรนด์สำหรับ SME ยุคใหม่ ใช้เครื่องมือดิจิทัลเพื่อเพิ่มยอดขาย

Read More

ตลาดสุขภาพผู้หญิงทั่วโลกเติบโต โอลิคประกาศรุกธุรกิจสุขภาพผู้หญิงเต็มสูบ

ข้อมูลจาก Global Women’s Healthcare Market รวบรวมโดย Research and Markets.com ระบุว่า ตลาดสุขภาพผู้หญิงทั่วโลกกําลังเติบโตอย่างมีนัยสําคัญ โดยคาดว่าจะมีมูลค่า 66,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2576  ทั้งนี้ ตลาดที่มีสัดส่วนสูงสุด คือตลาดที่เกี่ยวข้องกับโรคทางนรีเวช หรือโรคที่เกี่ยวข้องกับระบบสืบพันธุ์ของผู้หญิง ซึ่งการเติบโตนี้เป็นผลมาจากความตระหนักเกี่ยวกับปัญหาสุขภาพของผู้หญิงที่เพิ่มขึ้น โดยมีปัจจัยต่างๆ ที่ขับเคลื่อน ประกอบด้วย ค่าใช้จ่ายด้านการดูแลสุขภาพที่เพิ่มขึ้น ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีการแพทย์ และการให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพเชิงป้องกัน นอกจากนี้ ผู้หญิงทั่วโลกยังมีความต้องการผลิตภัณฑ์และบริการที่ตอบสนองความต้องการด้านสุขภาพเฉพาะด้านเพิ่มมากขึ้น ซึ่งรวมถึงสุขภาพการเจริญพันธุ์ สุขภาพมารดาและทารก สุขภาพเต้านม การจัดการภาวะวัยหมดประจำเดือน และสุขภาพทางเพศ ในขณะที่ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีข้อมูลที่น่าสนใจ โดยพบว่า ตลาดยาคุมกำเนิด (Contraceptive) ในภูมิภาคนี้ มีมูลค่าสูงถึง 6,000 ล้านบาท และที่สำคัญประเทศไทยครองส่วนแบ่งตลาดถึง 50% โดยกระทรวงสาธารณสุขได้เปิดเผยข้อมูลใน Health Data Center เมื่อปี 2566  ไว้ว่า ผู้หญิงไทยมีอัตราการป่วยด้วยโรคที่สูงกว่าผู้ชาย โดยผู้หญิงอยู่ที่ 17

Read More