วันเสาร์, มีนาคม 22, 2025
Home > Cover Story > “ปีแห่งการช่วยลูกหนี้” ภารกิจปี 2568 ของทีทีบี

“ปีแห่งการช่วยลูกหนี้” ภารกิจปี 2568 ของทีทีบี

เศรษฐกิจโลกยังคงเผชิญแรงกดดันจากหลายปัจจัย ทั้งความขัดแย้งทางการเมืองที่ทวีความรุนแรง สงครามการค้าระหว่างมหาอำนาจ ทำให้ทั้งภาคธุรกิจและประชาชนเผชิญภาระทางการเงินหนักขึ้น รวมถึงสินค้าจีนที่ทะลักเข้าสู่ตลาด ซึ่งส่งผลให้ธุรกิจ SME แข่งขันได้ยาก และตอนนี้ผลกระทบจากการทะลักของสินค้าจีนยังได้ลามไปถึงบริษัทใหญ่ที่ต้องแข่งกับจีนเช่นกัน เพราะ ณ ปัจจุบัน  1 ใน 3 ของสินค้าทั่วโลกมาจากจีน

ไทยป่วยเรื้อรัง

สำหรับประเทศไทยปัญหาเชิงโครงสร้างยังคงเรื้อรัง คนไทยเผชิญภาวะแก่แต่ยังเป็นหนี้รายได้ไม่เพิ่มแต่ค่าครองชีพสูงขึ้น ทำให้ปัจจุบันหนี้ครัวเรือนอยู่ที่ 16.3 ล้านล้านบาท หรือ 89% ของ GDP ธุรกิจ SME ถูกดิสรัป เข้าถึงแหล่งทุนได้ยากขึ้น และธุรกิจต้องปิดตัวลงมากขึ้น

ข้อมูลข้างต้นคือสิ่งที่ “ปิติ ตัณฑเกษม” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ทีเอ็มบีธนชาต ฉายภาพไว้ในการประกาศกลยุทธ์ของทีเอ็มบีธนชาต หรือ ทีทีบี ประจำปี 2568 เพื่อให้เห็นถึงสถานการณ์ทางเศรษฐกิจทั้งภาพรวมของโลกและเศรษฐกิจไทยในปัจจุบัน

ซึ่งสถานการณ์เหล่านี้สะท้อนถึงความจำเป็นเร่งด่วนในการมีมาตรการช่วยเหลือที่เป็นรูปธรรม เพื่อให้ประชาชนและภาคธุรกิจสามารถกลับมาตั้งหลักทางการเงินได้อีกครั้ง

ท่ามกลางสถานการณ์เศรษฐกิจโลกที่ยังเต็มไปด้วยความผันผวนดังกล่าว ทีเอ็มบีธนชาต หรือ ทีทีบี ประกาศแผนกลยุทธ์ ปี 2568 ภายใต้แนวคิด “The MEANINGFUL Change” ปีแห่งการช่วยลูกหนี้ทุกกลุ่มปลดหนี้ได้ไวขึ้น

ผ่านโปรแกรมช่วยเหลือลูกค้าสินเชื่อ ทั้งลูกค้าบุคคลและลูกค้าธุรกิจให้สามารถปลดหนี้และฟื้นตัวได้ พร้อมเติบโตได้อย่างมั่นคง อีกทั้งเดินหน้ายกระดับดิจิทัลโซลูชันเพื่อให้บริการทางการเงินที่เข้าถึงง่าย สะดวก คุ้มค่าและเป็นมากกว่าการทำธุรกรรม

ปิติ ตัณฑเกษม หัวเรือใหญ่ของทีทีบี เปิดเผยว่า ธนาคารตระหนักถึงปัญหาหนี้สินของคนไทยมาโดยตลอด และมุ่งมั่นให้ความสำคัญกับการช่วยแก้ปัญหาหนี้อย่างจริงจัง ผ่านมาตรการที่เป็นรูปธรรมและต่อเนื่อง ตั้งแต่ปี 2563 ผ่านมาตรการตั้งหลักเพื่อช่วยลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 และภัยพิบัติ เพราะเป็นช่วงที่เศรษฐกิจไทยได้รับผลกระทบอย่างหนักจากโควิด-19

ปี 2564 เดินหน้าพัฒนาโซลูชันทางการเงินที่ช่วยให้ลูกค้าจัดการภาระหนี้ได้อย่างเป็นระบบและยั่งยืนอย่างต่อเนื่อง ผ่านบริการรวบหนี้ที่ช่วยลดภาระดอกเบี้ยให้ลูกค้าไปแล้วกว่า 2,240 ล้านบาท

ปี 2566 พัฒนาโซลูชันช่วยเหลือมนุษย์เงินเดือน ด้วยสินเชื่อสวัสดิการอเนกประสงค์ที่ให้พนักงานเงินเดือนองค์กรเข้าถึงสินเชื่อในอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำกว่า โดยปล่อยสินเชื่อช่วยเหลือแล้วกว่า 8,800 ล้านบาท อีกทั้งยังมีโปรแกรม Financial Literacy ที่ประกอบด้วยแพลตฟอร์มตรวจสุขภาพการเงินออนไลน์ที่มีลูกค้าเข้าร่วมวัดระดับหนี้กว่า 96,000 ครั้ง คอร์สให้ความรู้ทางการเงินออนไลน์และบริการให้คำปรึกษาโค้ชปลดหนี้ โดยทั้งหมดนี้ให้บริการฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย

และล่าสุดในปี 2567 กับโครงการคุณสู้ เราช่วยที่ช่วยปรับโครงสร้างหนี้ให้ลูกค้าสามารถตั้งหลักใหม่ได้

เพื่อเดินหน้าช่วยลูกค้าทุกกลุ่มปลดหนี้และสร้างเสถียรภาพทางการเงิน ทีทีบีเชื่อว่าการช่วยลูกค้าต้องเริ่มจากความเข้าใจพฤติกรรมทางการเงินของแต่ละกลุ่ม โดยพบว่าลูกค้าสินเชื่อสามารถแบ่งออกเป็น 3 กลุ่มหลัก ซึ่งมีปัญหาและความต้องการที่แตกต่างกัน ทีทีบีจึงออกแบบโปรแกรมช่วยเหลือที่ตอบโจทย์เฉพาะกลุ่ม ได้แก่

· กลุ่มแรก คือ ลูกหนี้ต้องการความช่วยเหลือ ซึ่งเริ่มค้างชำระหรือสะสมหนี้จนไม่สามารถชำระได้ตามปกติ ทีทีบี ร่วมกับธนาคารแห่งประเทศไทยช่วยเหลืออย่างเต็มที่ผ่านโครงการคุณสู้ เราช่วยที่ช่วยปรับโครงสร้างหนี้ ยกเว้นการเก็บดอกเบี้ย พร้อมกับลดค่างวดให้ตลอด 3 ปี เพื่อให้โอกาสลูกค้าที่ต้องการสู้กลับมาฟื้นตัวได้อีกครั้ง ซึ่งปัจจุบันมีลูกค้าทีทีบีกว่า 21% จากลูกค้าเป้าหมายลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการ

· กลุ่มที่สอง คือ ลูกหนี้ที่ผ่อนชำระดี ซึ่งให้ความสำคัญกับเครดิตของตนเองและพยายามชำระหนี้ตรงเวลาอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งกลุ่มนี้กลับเป็นกลุ่มที่ไม่ค่อยได้รับความช่วยเหลือและถูกลืม ในปีนี้ทีทีบีจึงต้องการเข้าไปช่วยเหลือดูแลกลุ่มนี้เป็นพิเศษ ด้วยการเปิดตัวโปรแกรมผ่อนดีมีรางวัลที่มอบสิทธิพิเศษให้กับลูกค้าสินเชื่อกลุ่มคนมีรถ คนมีบ้าน พนักงานเงินเดือน เช่น หากลูกค้ามีประวัติผ่อนดีจะได้รับข้อเสนอรีไฟแนนซ์ที่ดอกเบี้ยต่ำกว่า และยังได้รับรางวัลเป็นส่วนลดดอกเบี้ย หรือสิทธิพิเศษต่าง และยังรวมถึงลูกค้าเอสเอ็มอี และผู้ประกอบธุรกิจขนาดกลาง

· กลุ่มที่สาม คือ ลูกหนี้ที่อยากเข้าระบบ ได้แก่ ลูกค้าเจ้าของกิจการขนาดเล็กที่อาจจะถูกกันออกจากระบบ อันเนื่องมาจากข้อจำกัดต่าง และต้องการที่จะเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของระบบการเงิน โดยทีทีบีพร้อมช่วยเหลือผ่าน โซลูชันทางการเงินสำหรับลูกค้าผู้ประกอบการกลุ่มนี้เพื่อให้เกิด Financial Inclusion

ปิติ กล่าวเสริมว่าปี 2568 เป็นปีที่ทีทีบีจะสร้าง ‘The MEANINGFUL Change’ ให้กับลูกค้าทุกกลุ่ม เราไม่ได้เป็นเพียงธนาคารที่ปล่อยสินเชื่อ แต่ต้องการสร้างเครื่องมือที่ช่วยให้ลูกค้ามีชีวิตทางการเงินที่ดีขึ้นอย่างแท้จริง และพร้อมดูแลและช่วยเหลือให้ลูกค้าสามารถเดินหน้าต่อไปได้อย่างมั่นคง

และในปีนี้ทีทีบียังมุ่งที่จะส่งมอบประสบการณ์ทางการเงินและดิจิทัลโซลูชันที่สะดวกกว่า ประหยัดกว่า คุ้มค่ากว่า และให้สิทธิประโยชน์มากกว่าเพื่อรองรับพฤติกรรมของลูกค้ายุคใหม่ที่เน้นการทำธุรกรรมด้วยตนเองผ่านช่องทางออนไลน์ ซึ่งมีจำนวนธุรกรรมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดย 92% ของธุรกรรมวันนี้เกิดขึ้นบนช่องทางแอป ttb touch ซึ่งลูกค้าจะได้รับประสบการณ์ที่เรียกว่าทำเอง ได้มากกว่าเช่น

· สะดวกกว่า ลูกค้าสามารถประเมินวงเงินสินเชื่อได้ภายใน 2 นาที ผ่านฟีเจอร์ My Credit และสมัครสินเชื่อได้ทันทีบนแอป ttb touch นอกจากนี้ ยังสามารถสอบถามข้อมูลต่าง ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ผ่านยินดี” Chatbot AI อัจฉริยะ บนแอป ttb touch ไม่ต้องเสียเวลารอสายกับ Contact Center

· ประหยัดกว่า ลูกค้าสามารถขอ E-statement สำหรับยื่นขอวีซ่าผ่านแอป ttb touch ได้ฟรี ไม่มีค่าธรรมเนียม หรือเลือกใช้บัตร ttb all free digital ที่ไม่มีค่าธรรมเนียมรายปี แต่ยังสามารถใช้ช้อปปิ้งออนไลน์และถอนเงินแบบไร้บัตรผ่านตู้ ATM

· คุ้มค่ากว่า รับดอกเบี้ยที่สูงขึ้นกับบัญชีดิจิทัล ttb ME Save หรือ บัญชีดิจิทัลเพื่อธุรกิจที่ออกแบบมาโดยเฉพาะสำหรับลูกค้ากลุ่มธุรกิจ

· สิทธิประโยชน์ที่มากกว่า โดยปิติเน้นว่า ทีทีบีจะเป็นธนาคารแรกที่มอบสิทธิพิเศษให้กับลูกค้าทุกกลุ่ม ไม่ใช่แค่ลูกค้าที่มีวินัยทางการเงิน แต่รวมถึงลูกค้าที่ใช้บริการและทำธุรกรรมผ่านช่องทางออนไลน์ โดยจะได้รับสิทธิพิเศษเพิ่มเติมผ่าน Loyalty Program ตัวใหม่ ซึ่งจะเปิดตัวในเดือนเมษายนนี้

ปีแห่งการช่วยเหลือลูกหนี้ ควบคู่กับส่งเสริมวินัยทางการเงิน

ในส่วนของสินเชื่อรายย่อย ฐากร ปิยะพันธ์ ผู้จัดการใหญ่ ทีเอ็มบีธนชาต ได้ฉายภาพสถานการณ์สินเชื่อที่ผ่านมาว่า

สินเชื่อบ้าน – ต้องพบกับสภาวะอสังหาฯ ที่หดตัว คุณภาพหนี้ถดถอย ยอดโอนบ้านใหม่ติดลบ ยูนิตสะสมเหลือเยอะ กลุ่มบ้านต่ำกว่า 3 ล้าน หนี้เสียสูง ผู้พัฒนาอสังหาฯ ลดการเปิดโครงการใหม่ ในขณะที่ผู้บริโภคก็ลดการก่อหนี้ก้อนใหญ่

สินเชื่อรถ – เจอแรงกดดันหนัก วิกฤตรถกระบะ หนี้เสียพุ่งโดยเฉพาะกลุ่มรถมือสอง รถถูกยึดเข้าลานประมูลเป็นจำนวนมาก ราคารถมือสองดิ่งหนัก รายได้ลูกค้าหดตัว โดยเฉพาะกลุ่มอาชีพอิสระ

บัตรเครดิต – ภัยเงียบที่ต้องเร่งจับตา เพราะผู้ประกอบการใช้บัตรเป็น Working Capital หนี้เร่งตัวจากการปรับการชำระขั้นต่ำเป็น 8% อีกทั้งยังพบว่าอัตราการกดเงินสดสูงขึ้น

โดยทีทีบีได้วิเคราะห์ถึงเพนพอยท์ของผู้บริโภคในสินเชื่อต่างๆ ซึ่งพบข้อมูลที่น่าสนใจดังนี้

สินเชื่อบ้าน – เข้าปีที่ 4 ดอกเบี้ยโดดขึ้นสูง ตัดเงินต้นได้น้อย, งานยุ่งจนลืมว่าต้องรีไฟแนนซ์จนต้องจ่ายแพงโดยไม่รู้ตัว, ต้องเทียบหลายธนาคารในการรีไฟแนนซ์ เอกสารเยอะ ต้องลางานไปกรมที่ดิน

สินเชื่อรถแลกเงิน – รู้ว่าจำนำรถปัจจุบันดอกเบี้ยแพงแต่พอรีบใช้เงินก็ต้อมยอม, อยากกู้กับธนาคารแต่พอไม่มีสลิปเงินเดือนก็กู้ไม่ได้

สินเชื่อบุคคล – จ่ายหนี้หลายที่ ดอกเบี้ยแพง ผ่อนต่อเดือนสูง, ไม่มีเวลา ไม่ค่อยมีความรู้เรื่องจัดการหนี้ ไม่มีใครมาแนะนำ ไม่กล้าปรึกษาใคร เลยต้องจ่ายแบบเดิมไปเรื่อยๆ, ไม่เคยรู้ว่ารีไฟแนนซ์เพื่อลดดอกเบี้ยได้, อยากลดภาระ อยากผ่อนสบายขึ้น, อยากปิดหนี้ให้ได้ในอนาคต และอยากเก็บเงินเพื่อความมั่นคง

นั่นทำให้ในปีนี้ทีทีบีจึงมุ่งให้ความช่วยเหลือลูกหนี้ ควบคู่ไปกับการส่งเสริมความมีวินัยทางการเงินอย่างจริงจัง ซึ่งที่ผ่านมาลูกค้ากลุ่มนี้อาจจะยังไม่ได้รับการช่วยเหลือ ทั้งที่มีประวัติผ่อนดี ไม่เคยผิดนัดชำระหนี้ หรือค้างชำระหนี้ ซึ่งทีทีบีมองเห็นความสำคัญของคนกลุ่มนี้จึงวางแนวทางการให้ที่มากกว่าผ่านโปรแกรมผ่อนดีมีรางวัลสำหรับกลุ่มลูกค้าที่ผ่อนดีจะได้รับสิทธิประโยชน์และความคุ้มค่าที่มากกว่า ได้แก่

· สินเชื่อบ้าน ลูกค้ารีไฟแนนซ์ ผ่อนดีดอกเบี้ยคงที่ตลอดสัญญา No Step Up Rate 3.39% ต่อปี* (*MRR-4.215% ต่อปี) ดอกเบี้ยปีที่ 4 ไม่มีกระโดด โดยไม่ต้องไปรีไฟแนนซ์ทุก 3 ปี และหากผ่อนดีต่อเนื่อง มีดอกเบี้ยพิเศษ 5.45% ต่อปี* (*MRR-2.155% ต่อปี) เมื่อต้องการวงเงิน Top Up หรือเลือก Undo ค่าโปะได้ เมื่อต้องการเงินฉุกเฉิน ถอนเงินที่โปะมาใช้ได้ทันที ผ่านบัตรกดเงินสด พร้อมฟรีค่าประเมิน และค่าเบี้ยประกันอัคคีภัย

· สินเชื่อจำนำทะเบียนรถ ลูกค้าที่ผ่อนดี รีไฟแนนซ์มาที่ทีทีบี ลดดอกเบี้ยทันที เริ่มต้นเพียง13% ต่อปี พร้อมรับเงินคืน 5% ของดอกเบี้ยปีแรก เมื่อผ่อนดีต่อเนื่องครบ 12 เดือน

· สินเชื่อบุคคล เมื่อรีไฟแนนซ์ผ่านบัตรกดเงินสด ทีทีบี แฟลช ลดภาระดอกเบี้ยทันที เริ่มต้นเพียง 17% ต่อปี (จากปกติสูงสุด 25% ต่อปี) พร้อมส่วนลดดอกเบี้ยผ่อนดี สูงสุด 2% ทุกปี (เหลือต่ำสุด 13% ต่อปี) และหากผ่อนตามแผนที่แนะนำการันตีปิดหนี้ได้ใน 3 ปี

ซึ่งโปรแกรมผ่อนดีมีรางวัลนี้จะเปิดให้เข้าร่วมตั้งแต่วันที่ 17 เมษายน – 31 สิงหาคม 2568โดยลูกค้าทีทีบีปัจจุบันที่เป็นกลุ่มผ่อนดีก็จะได้รับสิทธิประโยชน์เช่นกัน โดยธนาคารจะมีแผนการสื่อสารรายละเอียดของโปรแกรมอีกครั้ง

นอกจากนี้ ทีทีบียังส่งเสริมให้ลูกค้าทุกคนมีชีวิตทางการเงินที่ดีขึ้นได้ในทุกมิติอย่างแท้จริง ด้วยการเปิดตัวโปรแกรม “ttb loyalty program” ครั้งแรกของวงการธนาคารไทยผ่านแอป ttb touch ที่มีการกำหนด Status Tier ให้กับลูกค้า ttb touch 5.5 ล้านราย ได้ร่วมสนุกกับการพิชิตภารกิจที่ได้รับมอบหมายจนสำเร็จ เพื่อรับสิทธิประโยชน์ที่จะตอบโจทย์ด้านไลฟ์สไตล์และด้านการเงิน และรับสิทธิสุดพิเศษเพิ่มขึ้นอีกในแต่ละช่วงเวลาสำคัญของชีวิต ลูกค้าสามารถติดตามข้อมูลเพิ่มเติมและร่วมสนุกกันได้ทางแอป ttb touch

ช่วยลูกค้า SME ให้ไปต่อได้

ศรัณย์ ภู่พัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารลูกค้าธุรกิจ ทีเอ็มบีธนชาต กล่าวว่า ปีนี้ผู้ประกอบการธุรกิจไทยต้องเผชิญกับความท้าทายมากมาย ไม่ว่าเศรษฐกิจที่เติบโตต่ำและผันผวน มีความเสี่ยงผิดนัดชำระหนี้มากขึ้น ในขณะที่ SME เติบโตยาก มีข้อจำกัดในการแข่งขันและต้นทุนที่สูงขึ้น ปัจจัยจากความขัดแย้งทางการเมืองระหว่างประเทศที่นำไปสู่ De-globalization รวมถึงพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลง และแนวโน้มด้านธุรกิจสีเขียวและความยั่งยืนที่กลายมาเป็นมาตรฐานใหม่ของการดำเนินธุรกิจในปัจจุบัน

อย่างไรก็ตามท่ามกลางเศรษฐกิจดังกล่าวยังมีธุรกิจบางกลุ่มที่เติบโตได้ดี ซึ่งหากได้รับการสนับสนุนที่ดีก็จะเป็นเครื่องจักรสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยให้เติบโตได้มากขึ้น ทั้งกลุ่มโรงแรมและการบริการ, กลุ่มเฮลท์แคร์, อาหารและเครื่องดื่ม, กลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค, กลุ่มขนส่งและโลจิสติก และกลุ่มค้าปลีก

โดยทีทีบีพร้อมช่วยให้ลูกค้าเอสเอ็มอีและธุรกิจขนาดกลางก้าวผ่านความท้าทายนี้และเติบโตได้มากกว่า ด้วยโซลูชันที่ตอบโจทย์อุตสาหกรรมและสนับสนุนเครื่องมือการเงินที่ไม่ใช่แค่เรื่องของเงินทุน แต่ช่วยแก้ปัญหาที่เผชิญอยู่เพื่อให้ธุรกิจเติบโตได้อย่างยั่งยืน

นอกจากนี้ ทีทีบียังพัฒนาซัพพลายเชนโซลูชันที่ช่วยเอสเอ็มอีเพิ่มประสิทธิภาพ และความสามารถในการแข่งขันของธุรกิจ รวมทั้งช่วยติดอาวุธให้ผู้ประกอบการสามารถวางแผนทางธุรกิจได้เหมือนธุรกิจรายใหญ่ ผ่านโซลูชันสำหรับร้านค้าอย่าง ttb smart shop ที่เป็นมากกว่าเครื่องมือรับเงินเพราะจะมาพร้อมกับรายงานเชิงลึกที่ช่วยต่อยอดและวางแผนการขายในอนาคต

ยิ่งไปกว่านั้นยังเสริมศักยภาพผู้ประกอบการธุรกิจขนาดกลางและเอสเอ็มอี ด้วยดิจิทัลแพลตฟอร์มการเงินครบวงจรอย่าง ttb business one ที่มาพร้อมกับฟีเจอร์ใหม่ที่ผู้ประกอบการสามารถสมัครและเปิดบัญชีได้ด้วยตนเอง โดยในช่วงไตรมาส 3 ของปีนี้จะมีการเปิดตัวบัญชีดิจิทัลรูปแบบใหม่ที่ออกแบบเพื่อให้สิทธิประโยชน์ที่คุ้มค่าสำหรับเอสเอ็มอีโดยเฉพาะ พร้อมกันนั้นทีทีบียังให้ความสำคัญด้านการสนับสนุนลูกค้าธุรกิจให้ก้าวผ่านสู่มาตรฐานการทำธุรกิจใหม่ที่ต้องรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมและสังคมผ่าน Green Transition Solution และ ปันบุญ โดย ทีทีบี

สำหรับทีทีบีการสร้างชีวิตทางการเงินที่ดีขึ้นให้กับลูกค้าเป็นพันธกิจที่เรายึดมั่นมาโดยตลอด เราต้องการสร้างการเปลี่ยนแปลงที่มีความหมายให้กับชีวิตลูกค้าอย่างแท้จริง ซึ่งการเปลี่ยนแปลงนั้นจะมีความหมายก็ต่อเมื่อมันสามารถตอบโจทย์และช่วยแก้ไขปัญหาลูกค้าที่กำลังเผชิญ และเราเชื่อว่าสิ่งที่เราตั้งใจทำในปีนี้จะเป็นการสร้าง MEANINGFUL Change ให้กับลูกค้าและพร้อมเคียงข้างคนไทย จนทำให้มีชีวิตทางการเงินที่ดีขึ้นได้ผ่านโซลูชัน รางวัล และสิทธิประโยชน์ต่าง ที่ทีทีบีตั้งใจส่งมอบให้ตลอดทั้งปีปิติ ตัณฑเกษม กล่าวทิ้งท้าย