ซันโทรี่ เป๊ปซี่โค ประเทศไทย เป็นหนึ่งใน ‘50 องค์กรที่คนรุ่นใหม่อยากทำงานด้วยมากที่สุด ประจำปี 2568’ (Top 50 Companies in Thailand 2025) จัดลำดับโดย WorkVenture โดยได้รับการโหวตติดต่อกันถึง 2 ปี (2567 – 2568) อะไรเป็นสิ่งที่ทำให้คนรุ่นใหม่อยากร่วมงานด้วย “ผู้จัดการ 360 องศา” จะพาไปหาคำตอบกับ “ยศยุต สหวัชรินทร์” ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายทรัพยากรมนุษย์และบรรษัทสัมพันธ์ บริษัท ซันโทรี่ เป๊ปซี่โค เบเวอเรจ (ประเทศไทย) จำกัด
ตลอด 7 ปีที่ผ่านมาบริษัท ซันโทรี่ เป๊ปซี่โค เบเวอเรจ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายเครื่องดื่มภายใต้แบรนด์สินค้าของซันโทรี่และเป๊ปซี่โคในประเทศไทย มีการเติบโตอย่างต่อเนื่องเฉลี่ย 8.2% โตกว่าภาพรวมของตลาดเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ 2 เท่า โดยมีกลยุทธ์ ‘Must Win’ เป็นกุญแจสำคัญสู่ความสำเร็จดังกล่าว ซึ่งประกอบด้วย
1. เสริมความแข็งแกร่งธุรกิจเครื่องดื่มน้ำอัดลม (Strengthen Core) โดยการส่งผลิตภัณฑ์รสชาติใหม่ออกสู่ตลาด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มน้ำตาลน้อยและไม่มีน้ำตาล ส่งผลให้เครื่องดื่มเป๊ปซี่ไม่มีน้ำตาลเติบโตเฉลี่ยสูงถึง 16.1%
2. ขยายกลุ่มนวัตกรรมเครื่องดื่ม (Portfolio Transformation) นำเสนอผลิตภัณฑ์ที่ใส่ใจทั้งสุขภาพและ
ความอร่อย อย่างชาอู่หลงพร้อมดื่มทีพลัส และกาแฟพร้อมดื่มบอส คอฟฟี่ รวมทั้งสร้างประสบการณ์ที่แตกต่าง ด้วยเครื่องดื่มให้พลังงานแนวใหม่อย่างสติงค์
3. สร้างความสำเร็จร่วมกับคู่ค้า (Win With Customers) ขยายฐานคู่ค้าทั่วประเทศ พร้อมนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมกับแต่ละช่องทางการจำหน่าย เน้นการใช้เทคโนโลยี AI เสริมศักยภาพการขาย
4. ส่งเสริมการเติบโตระยะยาวด้วยการผลิตที่มีประสิทธิภาพและมุ่งสู่ความยั่งยืน (Insulated Long Term) สามารถตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคด้วยสายการผลิตที่มีประสิทธิภาพสูง โดยมีปริมาณเครื่องดื่มที่ผลิตได้เฉลี่ย 1,300 ล้านลิตรต่อปี ควบคู่ไปกับการบริหารจัดการน้ำอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้สามารถใช้น้ำเพียง 1.40 ลิตร จากทุกขั้นตอนของกระบวนการผลิต เพื่อผลิตเครื่องดื่ม 1 ลิตร รวมถึงส่งเสริมการอนุรักษ์ทรัพยากรน้ำผ่านโครงการ ‘มิซุอิกุ’ (Mizuiku) ตั้งแต่ปี 2562 เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจถึงความสำคัญของทรัพยากรน้ำและสิ่งแวดล้อมให้กับเยาวชน
5. พัฒนาองค์กรพร้อมดูแลพนักงาน ส่งเสริมการพัฒนาศักยภาพของพนักงาน เพื่อการเติบโตไปพร้อมกับองค์กร สร้างวัฒนธรรมองค์กรที่ให้ความสำคัญกับพนักงานอย่างแท้จริง
นอกจากการเติบโตทางธุรกิจแล้ว ซันโทรี่ เป๊ปซี่โค ประเทศไทย ยังให้ความสำคัญกับการสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่แข็งแกร่ง ตามแนวคิด People-First มุ่งพัฒนาและดูแลบุคลากร เพื่อให้พนักงานเติบโตไปพร้อมกับความสำเร็จขององค์กร โดยเปิดโอกาสให้พนักงานได้พัฒนาศักยภาพ และวางแผนเส้นทางอาชีพที่เหมาะสมตามแต่ละสายงาน รวมถึงนำเสนอโอกาสที่หลากหลายและประสบการณ์การทำงานทั้งในระดับภูมิภาคและระดับโลกให้กับพนักงานที่มีความสามารถ อีกทั้งยังสนับสนุนให้พนักงานได้มีส่วนร่วมกับองค์กร สร้างบรรยากาศในการทำงานที่ปลอดภัยและเป็นมิตร เพื่อให้ทุกคนกล้าที่จะพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและรู้สึกว่าตนเองเป็นส่วนหนึ่งของบริษัทฯ
“องค์กรมีกลยุทธ์ที่ดีแล้ว มีแบรนด์ที่แข็งแรง ก็ต้องมีคนที่มีศักยภาพและมีวัฒนธรรมองค์กรที่ดี เราเริ่มจากสิ่งที่เรียกว่า People First ดูว่าผู้บริโภคต้องการอะไร เช่นเดียวกัน เราก็ต้องเข้าใจว่าพนักงานในองค์กรของเราเขาต้องการอะไร” ยศยุต สหวัชรินทร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายทรัพยากรมนุษย์และบรรษัทสัมพันธ์ บริษัท ซันโทรี่ เป๊ปซี่โค เบเวอเรจ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผย
โดยกลยุทธ์ People First นั้น ประกอบด้วย
“Employee Engagement” ถ้าในมุมของธุรกิจมี Social Listening เพื่อทำความเข้าใจผู้บริโภค ในมุมของพนักงาน ก็มี Employee Listening เช่นกัน เพื่อทำความเข้าใจว่าพนักงานต้องการอะไร แนะนำอะไร เพื่อให้องค์กรปรับปรุงและปรับเปลี่ยนกระบวนการทำงานให้มีประสิทธิภาพ โดยฟังจากเสียงของพนักงาน
“Enhancing Capability” พัฒนาศักยภาพของพนักงาน
“เราต้องการพัฒนาศักยภาพของคนไทย ไม่ใช่แค่เพื่อบริษัทซันโทรี่ในไทยเท่านั้น แต่เราต้องการส่งออกคนไทยไปต่างประเทศ ซันโทรี่ เป๊ปซี่โค มีบริษัทแม่ 2 สัญชาติ ทั้งญี่ปุ่นและสหรัฐอเมริกา อันนี้เป็นจุดเด่นมากๆ ที่ไม่มีบริษัทไหนในไทยก็ว่าได้ที่มีบริษัทแม่ 2 สัญชาติเหมือนเรา พนักงานที่อยู่ในองค์กรจึงสามารถเรียนรู้การทำงานที่ดีได้จากทั้งญี่ปุ่นและอเมริกา ถือเป็นจุดแข็งมากๆ”
“Career Growth” มีการสร้างการเจริญเติบโตและโปรโมตพนักงานอย่างต่อเนื่องตลอด 7 ปีที่ผ่านมา พัฒนาทักษะในการทำงานให้กับพนักงาน และใส่ใจทุกกลุ่มพนักงาน
“การเปิดโอกาสให้พัฒนาพนักงานที่อยู่ในไลน์การผลิตให้มี multi skill ในการทำงาน คนนึงสามารถคุมได้ตั้งแต่เครื่องจักรการผลิตจนถึงท้ายเครื่อง เรามีการสอน อัพสกิล ให้พนักงานสมัครเข้าร่วมโครงการพัฒนาทักษะเหล่านี้ได้ ซันโทรี่ เป๊ปซี่โค มีโรงงาน 2 ที่ คือระยองและสระบุรี เราเปิดโอกาสให้พนักงานที่เคยทำงานที่ระยองย้ายมาทำงานที่สระบุรีได้ และได้รับการโปรโมตในตำแหน่งงานที่ดีขึ้น ค่าตอบแทนและสวัสดิการดีขึ้นด้วยเช่นกัน”
“Inclusive Culture” สร้างวัฒนธรรมองค์กรแบบมีส่วนร่วม
“เราต้องการให้พนักงานทุกคนสามารถเป็นตัวเองได้อย่างชัดเจน bring your best self to work และช่วยจัดหาเครื่องไม้เครื่องมือในการทำงานให้เขา ต้องการสร้างความภาคภูมิใจให้กับพนักงานที่ทำงานในองค์กร ให้เขาได้ปลดปล่อยศักยภาพของตัวเองออกมา ทั้งพนักงานในโรงงาน ในออฟฟิศ และพนักงานขายที่อยู่ front line นอกจากนี้ยังสนับสนุนให้พนักงานสละเวลาในการทำงานมาช่วยเหลือสังคม มีการเปิดตลาดขายของในออฟฟิศให้พนักงานทำอาหารหรือนำสินค้ามาขายได้ เงินที่ได้เอามาช่วยเหลือสังคม ทำกิจกรรมกับโรงเรียน ปลูกผัก ทาสี”
โดยล่าสุด ซันโทรี่ เป๊ปซี่โค ประเทศไทย ยังเป็นหนึ่งใน ‘50 องค์กรที่คนรุ่นใหม่อยากทำงานด้วยมากที่สุด ประจำปี 2568’ (Top 50 Companies in Thailand 2025) ที่จัดลำดับโดย WorkVenture โดยได้รับการโหวดติดต่อกันถึง 2 ปี (2567 – 2568)
“สิ่งที่คนรุ่นใหม่ชอบใน ซันโทรี่ เป๊ปซี่โค ประเทศไทย คือ brand และ culture โดยตัวสินค้าของเราเป็นสิ่งที่กลุ่มคนรุ่นใหม่และคนทั่วไปให้ความสนใจ เป็นเรื่องของ Brand Attraction ส่วน culture หรือวัฒนธรรมองค์กรก็เป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้คนรุ่นใหม่ให้ความสนใจ เรามุ่งเน้นการสร้าง engagement ให้กับพนักงาน ทำ employee listening จริงๆ พนักงานคอยให้ฟีดแบคเราว่าจะปรับปรุงวิธีการทำงานได้ยังไงบ้าง อยากมี benefit อะไร และเรานำสิ่งเหล่านั้นมาปรับปรุงเพื่อให้การทำงานมีประสิทธิภาพและการทำงานของพนักงานมีความสุข”
“ในขณะที่เราเก็บข้อมูลลูกค้า พฤติกรรมเขา ชอบอะไร ไม่ชอบอะไร ในขณะเดียวกันเราก็เก็บอินไซต์ของพนักงานด้วยเช่นกัน และนำข้อมูลเหล่านั้นมานำเสนอสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อพนักงาน อีกสิ่งหนึ่งคือเราพยายามพัฒนาหัวหน้างานให้มีคุณภาพสูงสุด เพราะคนที่ใช้เวลาอยู่กับพนักงานคือหัวหน้างาน ถ้าเขามีศักยภาพที่ดี เขาก็จะสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่ดีได้ เป็นหัวใจหลักสำคัญที่เรากำลังทำ ซึ่งเป็นสิ่งที่ได้มาจาก employee listening”
นอกจากนี้ยศยุตยังได้เผยอีกว่า ทันทีที่กฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผลบังคับใช้ ทาง ซันโทรี่ เป๊ปซี่โค ประเทศไทย ก็มีนโยบาย same sex partner ให้กับพนักงานเช่นกัน
“เรา unlock ให้พนักงานเลย สำหรับคู่รักเพศเดียวกัน ไม่จำเป็นต้องไปจดทะเบียน แค่มาแจ้งว่าเป็นเราก็ให้สวัสดิการต่างๆ ทั้ง OPD, ประกันสุขภาพ เดิมพนักงานปกติจะได้หรือครอบครัวได้ครบนอกเหนือพ่อแม่ในคู่ทั่วไป คราวนี้รัฐปลดล็อก เราก็รีบให้โอกาสนี้กับพนักงาน”
อีกหนึ่งสิ่งที่ ซันโทรี่ เป๊ปซี่โค ประเทศไทย ให้ความสำคัญ คือการฝึกอบรมและพัฒนาพนักงานในทุกกลุ่ม ด้วยการลงทุนมากกว่า 1,000 ล้านบาท ในการนำเทคโนโลยีใหม่ๆ มาใช้ในการทำงาน และพัฒนาบุคลากร
ปัจจุบันอัตรา turnover rate ของซันโทรี่ เป๊ปซี่โค ประเทศไทย ต่ำกว่าในธุรกิจ FMCG ประมาณ 2 เท่า
“รางวัลที่ได้มันสะท้อนความฝันที่เราอยากเป็นคือ The Most beloved beverage company in Thailand การเป็นบริษัทเครื่องดื่มที่เป็นที่รักของคน ซึ่งแน่นอนว่าต้องเริ่มจากพนักงานก่อน ต่อให้มีแบรนด์ที่ดี กลยุทธ์ที่ดี แต่ถ้าไม่มีพนักงานที่ดีมาช่วยกันทำงาน ก็ไม่สามารถไปสู่ความฝันในการเป็นองค์กรที่เป็นที่รักของคนได้ เราต้องการเจริญเติบโตอย่างยั่งยืน โดยเริ่มจากพนักงาน คู่ค้า ผู้บริโภค สังคม และบริษัท” ยศยุต กล่าวทิ้งท้าย